“พี่วัว เ้าหมอนี่พูดอะไรของมันอยู่น่ะ?”
อันธพาลผมทองถามเ้าอ้วนเบาๆ เ้าอ้วนนี่อยู่ในวงการมานาน มีเขาอยู่ข้างๆ ทำให้อันธพาลผมทองมีความกล้ามากขึ้น
“ในเมื่อไม่รู้ว่ามันพูดอะไร จะสนใจไปทำไม!” เ้าอ้วนสบถเย็นเยือก เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เข้าใจความหมายของฉินหลาง แต่เขาไม่คิดที่จะทิ้งจ๊อบนี้เพราะ ‘คำพูดที่ฟังไม่รู้เื่’ ของฉินหลางหรอกนะ เขาหยิบไฟแช็กสีเงินออกมา แล้วใช้มันเคาะโต๊ะเล็กๆ ข้างหน้าเบาๆ “เ้าหนู นายกล้าแย่งที่นั่งของสหายฉันเหรอ นายตั้งใจจะหาเื่ใช่ไหม?”
“นายบอกว่าเขานั่งที่ของนาย เอาตั๋วออกมาให้ดูหน่อยสิ?” รั่วปินที่นั่งอยู่ข้างฉินหลางพูดขึ้น เธอไม่ได้เป็ผู้หญิงที่สวยใสไร้สมอง ที่พูดไปอย่างนี้เพราะ้าถ่วงเวลาเท่านั้น
เ้าอ้วนไม่สนใจคำพูดของรั่วปิน ยังคงจ้องเพียงฉินหลาง พร้อมกับเล่มไฟแช็กที่อยู่ในมือ ั์ตาเย็นเยือก “เ้าหนู แกคิดยังไง? อยากจะเป็วีรบุรุษช่วยสาวงามเหรอ เจียมตัวแล้วไสหัวไปไกลๆ ดีกว่า?”
“ฉันกำลังคิดว่า พวกนายสองคนไม่ใช่ชาวยุทธ์ แต่กลับกล้ามาหาเื่ชาวยุทธ์” น้ำเสียงของฉินหลางบ่งบอกว่าทั้งคู่ทำให้เขาไม่สบอารมณ์มาก เพราะขนาดภาษาชาวยุทธ์ที่เข้าใจง่ายที่สุดยังฟังไม่รู้เื่เลย เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เป็ชาวยุทธ์ที่แท้จริง สำหรับชาวยุทธ์ที่แท้จริง ทั้งคู่ไม่ได้อยู่ในสายตาด้วยซ้ำ
ภาษาชาวยุทธ์พวกนี้ แน่นอนว่าตาเฒ่าพิษเป็คนสอนฉินหลาง เพราะเดินทางสายนี้ ถ้าหากไม่จำเป็ ก็ไม่มีใครอยากมีเื่บาดหมางกับชาวยุทธ์ด้วยกันหรอก ดังนั้นสามารถใช้ภาษาชาวยุทธ์ บอกให้ทั้งสองฝ่ายรู้ที่มาของกันและกัน รวมถึงผู้คนรอบข้างที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้อง ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน
เพียงแต่ปัจจุบันยุทธ์เลิกวุ่นวายตั้งนานได้ อันธพาลที่ไม่รู้ประสีประสาจำนวนมากหากินตามแบบชาวยุทธ์ นอกจากจะทำให้ยุทธ์ภพหม่นหมองแล้ว อันธพาลพวกนี้ยังไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ กล้ามาหาเื่ชาวยุทธ์ที่แท้จริง
“อยู่ต่อหน้าพี่วัว แม่ม แกยังกล้าทำเป็เล่นลิ้น!” มีเ้าอ้วนให้ท้ายแล้วดูเหมือนอันธพาลผมทองจะใจกล้าขึ้นมาก “เ้าหนู! จะให้โอกาสแกเป็ครั้งสุดท้าย ถ้าไม่อยากให้อวัยวะในร่างกายน้อยลงส่วนสองส่วนละก็ ไสหัวไปไกลๆ เท้าบิดา!”
ฉินหลางจะกลัวคำขู่ของพวกที่ยังไม่ใช่มืออาชีพได้ยังไง เขายิ้มด้วยปาก ถากด้วยตาพลางสบถ “แค่พวกนายสองคนเนี่ยนะ? หัวทอง แกไม่คันมือเหรอ”
ฉินหลางตัดสินใจแล้ว ถ้าเ้าสองคนนี้ยังไม่หยุดคิดไม่ซื่ออีก เขาจะสั่งสอนให้ทั้งคู่รู้ว่า นอกกะลากว้างมากแค่ไหน อีกอย่าง ก่อนหน้านี้อันธพาลผมทองตบหัวฉินหลาง เขาคิดว่าหัวของฉินหลางตบง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง!
อันธพาลผมทองไม่รู้ว่าที่ฉินหลางพูดนั้นหมายความว่าอะไร แต่ฟังคำพูดของฉินหลางพูด เขารู้สึกว่ามือขวาของตัวเองเริ่มคันแล้ว แล้วที่สำคัญยังคันมากขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย ไม่ว่าเขาจะเกายังไงก็ไม่ทุเลาเลย เหมือนกับมีมดเป็ร้อยเป็พันตัวกำลังเดินอยู่ใต้ิับริเวณฝ่ามือของเขา
“เ้าคุน แม่ม แกจะดิ้นหาพระแสงอะไร!” เห็นได้ชัดว่าเ้าอ้วนเริ่มไม่สบอารมณ์ที่อันธพาลผมทองเกายิกๆ อยู่ตรงหน้าเขา
“ไม่ใช่…พี่วัว! มือของผม…มัน…แม่ม…คัน!” อันธพาลผมทองอธิบาย
“คันแกก็อดทนก่อนไม่ได้หรือไง?” เ้าอ้วนสบถอย่างไม่สบอารมณ์
“คงทนไม่ได้หรอก” สายตาของฉินหลางจับจ้องอยู่ที่เ้าอ้วน เขาค่อยๆพูดช้าๆ ราวกับคนที่อยู่ในวงการมานาน “คนที่มีสามมือ ส่วนมากมักจะคันจนทนไม่ได้ ฉันรู้ว่าแกก็เริ่มคันมือบ้างแล้ว แต่ทางที่ดีแกอย่าควงไฟแช็กของแกเล่นต่อหน้าฉันอีก ระวังจะเผาตัวเอง!”
ั์ตาเ้าอ้วนเริ่มดูซีเรียสมากขึ้น เพราะว่าฉินหลางมองเขาทะลุปรุโปร่ง ในไฟแช็กของเ้าอ้วนมียาที่มีฤทธิ์หลอนประสาทซ่อนอยู่ หากจะหากิน “บนรถไฟ” นี่เป็อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม ขอแค่ไปนั่งข้างๆเป้าหมาย แกล้งจุดบุหรี่ หรือจุดไฟสักครั้ง ก็ทำให้เป้าหมายหมดสติได้แล้ว ทำให้พวกเขาทำสำเร็จได้อย่างง่ายดาย
คนที่ไม่เคยัักับวิธีต่ำช้าพวกนี้ โดนคนขโมยเงินบนรถไฟแล้ว ยังเข้าใจว่าตัวเอง ‘ถูกผีเข้า’ แล้ว ถูกขโมยกวาดทรัพย์สินมีค่าไปหมดอย่างมึนๆ งงๆ
ด้วยเหตุนี้ ก่อนหน้านี้อันธพาลผมทองถึงอยากจะแย่งที่นั่งฉินหลาง เพราะที่ตรงนี้เป็ที่ที่เหมาะจะลงมือมากที่สุด
แต่ฉินหลางรู้แล้วว่าเ้าอ้วนจะใช้วิธีการอะไร นั่นแสดงว่าเขาไม่มีทางทำสำเร็จได้ง่ายๆ แน่
ติ๊ดๆ!~
จู่ๆ โทรศัพท์ในมือรั่วปินก็ดังขึ้น นี่เป็เสียงเตือนเวลามีข้อความเข้า
เหมือนว่าฉินหลางและรั่วปินล้วนใจลอยไปครู่หนึ่ง
สำหรับเ้าอ้วนแล้ว นี่ถือเป็โอกาสจากพระเ้า เขายื่นไฟแช็กไปตรงหน้าฉินหลางกับรั่วปินด้วยความคล่องแคล่ว ในจังหวะที่ไฟแช็กกำลังจะเกิดประกายไฟ กลับเป็เปลวไฟสีฟ้า
ฉินหลางรีบเอามือปิดจมูกและปากของรั่วปิน ตอนที่ฝ่ามือของเขาััโดนริมฝีปากที่อวบอิ่มของรั่วปิน เขารู้สึกเหมือนฝ่ามือของเขาเมาแล้ว ความรู้สึกอ่อนนุ่มทว่ากลับอวบอิ่มและชุ่มชื้น เป็ความรู้สึกดีที่สุดที่มือของเขาเคยััมาก่อนแน่นอน!
อาจจะเป็เพราะัันี้ทำให้รู้สึกดีเกินไป จนทำให้ฉินหลางลืมปิดจมูกและปากของตัวเอง
เ้าอ้วนคิดว่าตัวเองทำสำเร็จแล้ว จึงเก็บไฟแช็ก พลางพูดอย่างได้ใจ “ไอ้หนุ่ม แกยังอ่อนหัดเกินไป!”
เ้าอ้วนใช้วิธีนี้จนช่ำชองแล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าเ้าเด็กที่อยู่ตรงหน้าจะต้องหมดสติภายใน 10 วินาทีแน่นอน ไม่มีเ้าหมอนี่มาคอยก่อกวนแล้ว พระหยกบนคอของผู้หญิงคนนั้นก็กลายเป็ของของเขาแล้ว
“ใช่เหรอ?”
เ้าอ้วนคิดไม่ถึงว่า ฉินหลางไม่ได้หมดสติ และยังฉวยโอกาสตอนเ้าอ้วนเหม่อลอยคว้ามือเขาเอาไว้ เขาจับมือเ้าอ้วนด้วยความรวดเร็ว หัวเราะเสียงเย็นะเื “เ้าอ้วน แกเลือกเป้าหมายผิดแล้ว!”
พูดแล้ว ฉินหลางก็เอามือที่ปิดจมูกและปากของรั่วปินออก แม้ว่ายาที่ซ่อนในไฟแช็กของเ้าอ้วนมีคุณภาพดี แต่ตอนที่มันฟุ้งกระจาย ฉินหลางปิดจมูกและปากของรั่วปินไว้ได้ทัน จึงไม่มีผลอะไรกับเธอ แต่เพราะขาดอากาศหายใจทำให้ใบหน้าของรั่วปินแดงก่ำ ทำให้ตอนนี้เธอดูเย้ายวน ชวนหลงใหลมากขึ้น ทำเอาฉินหลางตะลึงทันทีที่เห็น
เ้าอ้วนยังคงรอคอย เขากำลังรอคอยให้ฉินหลางหมดสติอยู่ เพราะเขาเห็นเต็มสองตาว่าฉินหลางสูดดมเข้าไปแล้ว
เ้าอ้วนมั่นใจในประสิทธิภาพของยาที่ซ่อนอยู่ในไฟแช็กของเขามาก
“อีกไม่กี่วินาที มากสุดสิบวินาที! เ้าเด็กนี่จะต้องหมดสติ นอนหลับเป็ตายแน่นอน!” เ้าอ้วนพูดในใจ
ดังนั้นเ้าอ้วนจึงหัวเราะอย่างได้ใจ ทว่าเพียงไม่นานรอยยิ้มนั้นก็หายไป เปลี่ยนไปเป็ความใและกระวนกระวาย เพราะว่าฉินหลางไม่ได้หมดสติ ตรงกันข้ามยังยิ้มด้วยปาก ถากด้วยตา มองเ้าอ้วนด้วยสายตาเยาะเย้ย
“พี่วัว…มือของพี่—”
อันธพาลผมทองร้องลั่นด้วยความใ เพราะเขาสังเกตเห็นว่ามือของเ้าอ้วนที่ฉินหลางเคยจับ บวมแดงขึ้นมา และยังบวมมากจนน่ากลัวด้วย ดูเหมือนโดนผึ้งต่อยมายังไงยังงั้น แต่ถ้าโดนผึ้งต่อยมันต้องเจ็บมาก แต่เ้าอ้วนกลับไม่เจ็บ เขาเพียงรู้สึกชาเล็กน้อยเท่านั้น
เ้าอ้วนจึงยื่นมือไปเกาอย่างอดไม่ได้
ตอนไม่เกาก็ยังดี แต่พอเกาเท่านั้นแหละ ปัญหาก็เกิดเลย ทันใดนั้นเ้าอ้วนรู้สึกว่ามือของตัวเองยิ่งอยู่ก็ยิ่งคัน แต่กลับอดใจไม่ได้ อยากยื่นมือไปเกามันต่อเรื่อยๆ แต่สุดท้ายยิ่งเกาก็ยิ่งคัน
เช่นเดียวกับ อันธพาลผมทองที่กำลังเกาอย่างเอาเป็เอาตาย ทั้งคู่เริ่มรู้สึกว่าเื่มันทะแม่งๆ ดังนั้นเ้าอ้วนจึงรีบพาเ้าผมทองหนีไปอย่างรวดเร็ว เพราะไม่ว่ายังไง ต้องรีบหาที่ทำความสะอาดมือฆ่าเชื้อโรคก่อน เลิกคันแล้วค่อยมาจัดการฉินหลางกับนังเด็กนี่ทีหลัง
ยังไงซะตอนนี้ก็อยู่บนรถไฟ เ้าเด็กสองคนนั้นไม่มีทางติดปีกบินหนีไปไหนได้แน่!
“เดี๋ยวค่อยมาจัดการแก!”
ตอนนี้เ้าอ้วนยังหันกลับไปขู่ฉินหลางอีกคำ
ฉินหลางกระตุกยิ้มเบาๆ สำหรับคนที่ไม่ใช่มืออาชีพอย่างเ้าอ้วน เขาไม่เคยเอาไว้ในสายตาด้วยซ้ำ สบถเย็นเยือก “ไอ้หลานชาย เฮียจะรอแกอยู่ตรงนี้!”
ได้ฟังคำนี้แล้ว เ้าอ้วนอยากจะลงไม้ลงมือกับฉินหลางซะจริงๆ แต่มือกลับคันจนสุดทน จำต้องจากไปก่อน ตั้งใจไว้ว่าเดี๋ยวค่อยกลับมาคิดบัญชีกับฉินหลาง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้