บทที่ 10 สายลมแห่งาครั้งใหม่
ไป๋ฟางซินเห็นความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ในแววตาของเขา แต่นางก็ไม่สนใจ นางหันไปมองหลิวซูซูที่กำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ "ส่วนเ้า หลิวซูซู"
น้ำเสียงของนางเปลี่ยนไป ไม่ได้เ็า แต่ก็ไม่ได้อบอุ่น มันเป็น้ำเสียงของคนที่กำลังพูดกับคนแปลกหน้าโดยสิ้นเชิง
"เ้าอยากจะเข้ามาลองชิมชาไข่มุกของข้ามิใช่รึ?" นางถามตรงๆ
หลิวซูซูสะดุ้งเล็กน้อยที่ถูกถามเช่นนั้น นางพยักหน้าอย่างงกๆ เงิ่นๆ
"เช่นนั้นก็เข้ามาสิ" ไป๋ฟางซินกล่าวเรียบๆ "ลูกค้าทุกคนที่มาที่นี่ ข้าย่อมต้อนรับเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็ขอทานข้างถนน หรือองค์ชายรัชทายาท" ประโยคหลังนางจงใจเน้นเสียงให้ดังเป็พิเศษ
มันคือการประกาศอย่างชัดเจนว่า ในสายตาของนาง บัดนี้หลี่เจิ้งไม่ได้มีความพิเศษเหนือกว่าคนอื่นอีกต่อไป!
นางพูดจบก็ไม่รอฟังคำตอบ นางหมุนตัวเดินเข้าโรงน้ำชาไปอย่างสง่างาม ทิ้งะเิลูกใหญ่ไว้เื้ัให้หลี่เจิ้งและหลิวซูซูยืนเผชิญกับสายตาอยากรู้อยากเห็นของผู้คนนับสิบคู่
หลี่เจิ้งรู้สึกเหมือนถูกทิ้งไว้กลางเวทีงิ้วโดยที่ไม่มีบทจะเล่น! เขาอับอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี!
"ฝ่าา..." หลิวซูซูเรียกเสียงแ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความลำบากใจ
"เ้าเข้าไปเถิด!" หลี่เจิ้งกล่าวเสียงห้วน "ข้าจะรอเ้าอยู่ตรงนี้! ข้าอยากจะเห็นว่านางจะกลั่นแกล้งอะไรเ้าอีก!"
ที่จริงแล้ว เขาไม่ได้อยากจะปกป้องนางเพียงอย่างเดียว แต่เขาอยากจะตามเข้าไปดูให้เห็นกับตา! อยากจะรู้ให้แน่ชัดว่าสตรีที่เคยอยู่ในกำมือของเขามาตลอด มันเปลี่ยนไปได้อย่างไรกันแน่!
ภายในโรงน้ำชาสดับวสันต์
ทันทีที่ไป๋ฟางซินก้าวเข้ามา พนักงานทุกคนก็รีบค้อมกายคำนับด้วยความเคารพ "คารวะเถ้าแก่เนี้ย!"
ผู้จัดการซุนปรี่เข้ามาหา "เถ้าแก่เนี้ย! เกิดเื่อะไรขึ้นที่หน้าร้านหรือขอรับ? บ่าวเห็นองค์ชายรัชทายาท"
"ไม่มีอะไร" นางตัดบท "แค่มีสุนัขบ้ามาเห่าอยู่หน้าบ้านนิดหน่อย เดี๋ยวก็คงไปเอง"
คำเปรียบเปรยที่ร้ายกาจนั้นทำให้ผู้จัดการซุนถึงกับสำลักน้ำลาย! '์! เถ้าแก่เนี้ยของข้าช่างกล้าหาญชาญชัยเสียจริง! แม้แต่องค์ชายรัชทายาทยังกล้าด่าว่าเป็สุนัข! ข้านับถือ! นับถือจากใจจริง!'
ในตอนนั้นเอง หลิวซูซูก็เดินเข้ามาในร้านอย่างกล้าๆ กลัวๆ ตามมาด้วยองค์ชายรัชทายาทที่มีใบหน้าบึ้งตึง และกงกงหลิวที่ทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ด้านหลัง
ลูกค้าที่ยังคงนั่งอยู่ในร้านต่างหันมามองเป็ตาเดียวกัน บรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง
ไป๋ฟางซินทำราวกับไม่เห็นการมาของพวกเขา นางหันไปสั่งอาซื่อ "อาซื่อ พาคุณหนูรองไปนั่งที่โต๊ะริมหน้าต่าง แล้วรับรายการเครื่องดื่มด้วย" จากนั้นนางก็เดินตรงไปยังห้องทำงานด้านหลัง ไม่แม้แต่จะชายตามองหลี่เจิ้งอีกเลยแม้แต่น้อย
การกระทำที่เมินเฉยโดยสิ้นเชิงนี้ เ็ปยิ่งกว่าการด่าทอเสียอีก!
หลี่เจิ้งกัดฟันกรอด! เขารู้สึกเหมือนเป็ตัวตลก! เขาเดินตามหลิวซูซูไปนั่งที่โต๊ะด้วยความขุ่นมัว
อาซื่อเดินมารับรายการด้วยท่าทีนอบน้อมที่ฝึกมาอย่างดี "ไม่ทราบว่าคุณหนูและคุณชายจะรับอะไรดีขอรับ?" เขาเรียกหลี่เจิ้งว่าคุณชายตามคำสั่งของไป๋ฟางซินที่เคยบอกไว้ว่า "ในร้านของข้า ทุกคนคือลูกค้าเท่าเทียมกัน ไม่มีองค์ชาย ไม่มีท่านอ๋อง"
"เอาชาไข่มุกมาสองถ้วย" หลิวซูซูสั่งเสียงเบา
ไม่นานนัก ชาไข่มุกสองถ้วยก็ถูกนำมาเสิร์ฟ หลิวซูซูลองดื่มเข้าไปคำแรก ดวงตาของนางก็เบิกกว้างขึ้นทันที!
'อร่อย! อร่อยอย่างที่เขาลือกันจริงๆ! รสชาติหอมหวานสดชื่น ส่วนเม็ดกลมๆ นี่ก็นุ่มหนึบเคี้ยวเพลิน ท่านพี่ ท่านพี่คิดค้นของวิเศษเช่นนี้ขึ้นมาได้อย่างไรกัน?' นางอดไม่ได้ที่จะมองไปยังทิศทางของห้องทำงานด้านหลังด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน
ส่วนหลี่เจิ้ง เขาก็ดื่มมันเข้าไปเช่นกัน ตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะติเพื่อทำลายชื่อเสียง แต่เมื่อได้ลิ้มรส เขาก็ถึงกับพูดไม่ออก!
'นี่มัน...รสชาติอะไรกัน! ข้าดื่มชาชั้นเลิศมานับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยเจออะไรที่แปลกใหม่และลงตัวเช่นนี้มาก่อน!' ความอร่อยของมันทำให้ความโกรธของเขาลดลงไปเล็กน้อย แต่กลับถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนยิ่งกว่า ความรู้สึกเหมือนกำลังสูญเสียอะไรบางอย่างไป อะไรบางอย่างที่เคยเป็ของเขา
ขณะที่บรรยากาศกำลังกระอักกระอ่วนอยู่นั้น
"โอ๊ย! ช่วยด้วย! ท้องข้า! ข้าปวดท้อง!"
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นจากโต๊ะอีกมุมหนึ่ง! ชายฉกรรจ์ร่างกำยำคนหนึ่งกำลังนอนบิดตัวไปมาอยู่บนพื้น ใบหน้าของเขาเขียวคล้ำและมีน้ำลายฟูมปาก!
"เกิดอะไรขึ้น!" ผู้จัดการซุนรีบวิ่งเข้าไปดู
"ข้า ข้ากินชาไข่มุกของร้านนี้เข้าไป แล้วก็ อ๊ากกก!" ชายคนนั้นร้องลั่น
"เป็ไปไม่ได้! ชาของเราสะอาด!"
"เ้าจะบอกว่าข้าใส่ร้ายรึ!" ชายอีกคนที่นั่งโต๊ะเดียวกันลุกขึ้นชี้หน้า "พวกเราเห็นอยู่เต็มสองตาว่าเขากินชาของพวกเ้าเข้าไปแล้วก็เป็แบบนี้! ชาของพวกเ้าต้องมีพิษแน่ๆ! พวกเ้าวางยาพิษลูกค้า!"
คำว่ายาพิษทำให้ทั้งร้านเกิดความโกลาหลขึ้นทันที! ลูกค้าคนอื่นๆ ที่กำลังดื่มชาอยู่ต่างรีบวางถ้วยลงด้วยความใและหวาดกลัว!
หลี่เจิ้งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขาลอบยิ้มที่มุมปากอย่างเ็า! 'ฮึ! ในที่สุดก็เผยธาตุแท้ออกมาแล้วสินะ ไป๋ฟางซิน! ทำธุรกิจได้ไม่กี่วันก็เกิดเื่เสียแล้ว! ข้าจะรอดูว่าเ้าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร!'
กงกงหลิวรีบเข้าไปกระซิบข้างหูเขา "ฝ่าา นี่เป็โอกาสดีที่จะทำลายชื่อเสียงของนางนะพ่ะย่ะค่ะ"
ในตอนนั้นเอง ไป๋ฟางซินก็เดินออกมาจากห้องทำงาน ใบหน้าของนางเรียบเฉยจนน่ากลัว นางเดินตรงเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ แหวกทางฝูงชนที่มุงดูอยู่
นางไม่ได้เข้าไปดูอาการของคนที่นอนอยู่บนพื้น แต่กลับจ้องมองไปยังชายอีกคนที่กำลังโวยวายอยู่ด้วยสายตาคมกริบ
"เ้า" นางกล่าวเสียงเย็น "บอกว่าเพื่อนของเ้ากินชาของข้าแล้วเป็พิษ เช่นนั้นแล้วเหตุใดเ้าถึงไม่เป็อะไรเลย ทั้งๆ ที่เ้าก็นั่งดื่มชาอยู่โต๊ะเดียวกันกับเขา?"
คำถามนี้ เหมือนสายฟ้าที่ฟาดลงกลางวง!
ชายคนนั้นชะงักไปทันที! ใบหน้ามีแววเลิ่กลั่ก "ขะ ข้า ข้าแค่จิบไปนิดเดียว! แต่เขาดื่มไปเกือบหมดถ้วย!"
"อย่างนั้นรึ?" ไป๋ฟางซินแค่นเสียง "ข้าว่า ที่เ้าไม่เป็อะไรเลย คงเป็เพราะว่าคนที่ เป็พิษจริงๆ คือเ้ามากกว่ากระมัง"
ยังไม่ทันที่ใครจะเข้าใจความหมาย...
"ฟุ่บ!"
นางสะบัดแขนเสื้ออย่างรวดเร็ว! เข็มเงินเล็กๆ สองเล่มที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อพุ่งแหวกอากาศออกไปปักลงบนจุดชีพจรที่แขนของชายคนนั้นอย่างแม่นยำ!
"อ๊ะ!" ชายคนนั้นร้องออกมาด้วยความใ เขารู้สึกแขนชาไปทั้งแถบ!
"เ้า เ้าทำอะไรข้า!"
"ไม่ได้ทำอะไรมากหรอก" ไป๋ฟางซินยิ้มเย็น "แค่กระตุ้นพิษที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของเ้าออกมาให้ทุกคนได้เห็นเท่านั้นเอง"
สิ้นเสียงของนาง เื่น่าเหลือเชื่อก็เกิดขึ้น!
ใบหน้าของชายที่ยืนอยู่เริ่มเปลี่ยนเป็สีเขียวคล้ำอย่างรวดเร็ว! ริมฝีปากของเขากลายเป็สีม่วง! และเขาก็เริ่มไอออกมาเป็เืสีดำ!
"อ่อก แค่กๆ พิษ พิษกำเริบ!" เขาล้มลงไปนอนชักดิ้นชักงออยู่ข้างๆ เพื่อนของเขา!
ภาพเหตุการณ์ที่พลิกผันอย่างรวดเร็วทำให้ทุกคนในร้านตกตะลึงจนอ้าปากค้าง!
ไป๋ฟางซินกวาดสายตามองไปทั่วร้าน ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงดังฟังชัด "ทุกคนเห็นแล้วใช่หรือไม่! คนพวกนี้ไม่ใช่ลูกค้า! แต่เป็นักต้มตุ๋นที่คิดจะมาทำลายชื่อเสียงร้านของข้า! พวกมันกินยาพิษชนิดที่ออกฤทธิ์ช้ามาก่อน แล้วแกล้งทำเป็ล้มป่วยเพื่อใส่ร้ายป้ายสีพวกเรา!"
นางเดินเข้าไปใกล้ชายสองคนที่นอนอยู่บนพื้น "แต่โชคร้ายของพวกเ้า ที่ข้าพอจะมีความรู้เื่การแพทย์อยู่บ้าง! ยาพิษที่พวกเ้ากินเข้าไปเรียกว่าพิษหนอนไหมน้ำแข็ง แม้จะออกฤทธิ์ช้า แต่เมื่อถูกกระตุ้นด้วยเข็มเงินที่จุดชีพจร ชวีฉือ มันจะกำเริบขึ้นมาทันที!"
นางหันไปหาผู้จัดการซุน "ท่านผู้จัดการ! ไปแจ้งทางการมาจับกุมคนชั่วสองคนนี้! แล้วไปตามหมอหลวงมารักษาพวกเขาด้วย ข้ายังไม่อยากให้ร้านของข้าต้องมีคนตายให้เป็เสนียด!"
ผู้จัดการซุนที่เพิ่งจะดึงสติกลับมาได้รีบวิ่งออกไปทันที!
บัดนี้ ไม่มีใครสงสัยในความบริสุทธิ์ของโรงน้ำชาอีกแล้ว! ตรงกันข้าม ทุกคนต่างมองไป๋ฟางซินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความทึ่งและยำเกรง!
'์! นางไม่เพียงแค่เป็อัจฉริยะด้านการค้า! แต่นางยังเชี่ยวชาญด้านการแพทย์และวรยุทธ์อีกด้วยรึนี่! นางเป็ปีศาจจำแลงกายมาหรืออย่างไรกัน!'
หลี่เจิ้งนั่งตัวแข็งทื่ออยู่ที่โต๊ะ! แผนการที่จะได้เห็นไป๋ฟางซินล้มเหลวพังทลายลงต่อหน้าต่อตา! ไม่สิ มันยิ่งกว่าพังทลาย! นางกลับใช้วิกฤตครั้งนี้ สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองโด่งดังยิ่งกว่าเดิมเสียอีก! เขารู้สึกเหมือนถูกนางตบหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนชาไปหมด!
ส่วนหลิวซูซู นางมองแผ่นหลังที่ดูสง่างามและเด็ดเดี่ยวของพี่สาวด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย มีทั้งความหวาดกลัว ความทึ่ง และความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอย่างประหลาด
ไป๋ฟางซินเดินกลับมาที่โต๊ะของพวกเขาอีกครั้ง นางมองเลยหลี่เจิ้งไปราวกับเขาเป็อากาศธาตุ แล้วพูดกับหลิวซูซูเพียงคนเดียว
"ข้าไม่รู้ว่าเ้ามาที่นี่ด้วยเหตุผลใด และข้าก็ไม่สนใจ" นางกล่าวเสียงเรียบ "แต่จำไว้ชีวิตของเ้าเป็ของเ้า อย่าให้ใครมาชี้นำ หรือใช้เ้าเป็เครื่องมือเพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเอง"
คำพูดนั้น แทงใจดำของคนสองคนในเวลาเดียวกัน
นางพูดจบก็หันหลังเดินกลับไปยังห้องทำงาน ทิ้งให้หลี่เจิ้งและหลิวซูซูนั่งจมอยู่กับความคิดของตนเอง
าระลอกแรกอาจจะจบลงด้วยชัยชนะของนาง แต่ไป๋ฟางซินรู้ดี นี่เป็เพียงแค่การหยั่งเชิงเท่านั้น
ในเงามืดต้องมีผู้ที่ชักใยอยู่เื้ัคนชั่วสองคนนี้อย่างแน่นอนอาจจะเป็ตระกูลหวังหรืออาจจะเป็ใครบางคนที่นางคาดไม่ถึง
สายลมแห่งาครั้งใหม่ กำลังจะพัดโหมกระหน่ำเข้ามาในไม่ช้า
