“ฮูหยินผู้เฒ่าเ้าคะ ข้ามิได้คบชู้จริงๆ ซีเออร์เป็ลูกของนายท่านนะเ้าคะ!”
ในสวนหลังของจวนตระกูลเวิน เวินอี๋เหนียง [1] อยู่ในชุดเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ทั้งเนื้อทั้งตัวถูกตีจนมีาแเหวอะหวะเต็มไปหมด นางกอดบุตรสาวที่หายใจรวยรินไว้ในอ้อมแขนแน่น พร้อมทั้งร้องไห้เสียงดังอย่างแหบแห้ง
ไม่ไกลนักมีหญิงชราแห่งตระกูลเวินนั่งเก้าอี้ไท่ซือ [2] ด้วยสีหน้าขึงขัง นางตะคอกออกมาอย่างดูถูกเหยียดหยาม “มีกางเกงในสกปรกของบุรุษอื่นอยู่ในห้องของเ้า เ้ายังจะกล้าทำไขสืออีกหรือ?”
หญิงชราพูดพลางส่งสายตารังเกียจไปยังบุตรสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของเวินอี๋เหนียง
“ไอ้เด็กนอกคอกที่เ้าคลอดออกมา ข้าก็สงสัยอยู่นานแล้วว่ามิใช่ลูกหลานของตระกูลเวิน! ดูรูปร่างอัปลักษณ์ที่ทั้งอ้วนต้วมเตี้ยมของนางสิ มีส่วนใดที่เหมือนกับนายท่านบ้าง!”
นางยิ่งเอ่ยก็ยิ่งโมโหมากขึ้น
“ตีมันต่อ! ใช้ไม้ตีแม่ลูกคู่นี้ให้ตายไปเสีย จะได้มิต้องอยู่รกหูรกตาข้า”
สิ้นเสียงนั้น สองแม่ลูกที่เพิ่งถูกทรมานมาอย่างหนักก็ถูกท่อนไม้ตีลงบนร่างอีกครา
เวินอี๋เหนียงมีรูปร่างผอมบาง นางมิอาจปกป้องบุตรสาวในอ้อมกอดได้เลย ท้ายที่สุดมือของนางก็ร่วงหล่น หยาดน้ำตาและหยดเืบนหน้าไหลรินลงบนใบหน้าของบุตรสาว
“โยนพวกมันไปไว้ที่สุสานร้างให้เป็อาหารของหมาป่า เห็นแล้วเกะกะสายตาเสียจริง”
หญิงชราเอ่ยปากอย่างเฉยเมย มิได้สังเกตเห็นนิ้วที่ขยับเบาๆ ของเด็กสาวอ้วนท้วนที่อยู่ในอ้อมแขนของเวินอี๋เหนียง
เจ็บ
เ็ปไปทั้งกาย
เวินซีเริ่มรู้สึกตัวและทนมิไหวอีกต่อไป นางปรือตาขึ้นเล็กน้อย จากนั้นใบหน้าก็พลันััได้ถึงของเหลวเย็นๆ ที่ดูเหมือนจะเป็เื แต่ก็คล้ายกับหยดน้ำตา ทันใดนั้น ภาพความทรงจำที่ไม่คุ้นเคยก็พลันไหลทะลักเข้ามาอย่างบ้าคลั่งสู่สมองของนาง ยังไม่ทันที่ตนเองจะนึกถึงความทรงจำเ่าั้ ฉับพลันก็ได้ยินเสียงเกรี้ยวกราดของหญิงชราที่แว่วเข้ามา “เหตุใดยังมิตีนางเด็กนอกคอกให้ตายอีก?!”
สิ้นเสียงนั้น ท่อนไม้หนาราวกับข้อมือก็พุ่งตรงเข้ามา หมายจะกระแทกเข้าที่ใบหน้าของเวินซี
เพียงพริบตาเดียว
เวินซีสามารถคว้าท่อนไม้ไว้ทันที ด้วยสัญชาตญาณของการเป็นักฆ่ารับจ้างที่ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางอันตรายมาโดยตลอด เมื่อมองไปยังกลุ่มชายหญิงที่อยู่ในชุดโบราณ รวมเข้ากับความทรงจำแปลกๆ ในหัว นางจึงตระหนักได้อย่างรวดเร็ว
ที่แท้ นางได้ตายไปแล้วนี่เอง
นางตายไปในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดขณะที่กำลังปฏิบัติภารกิจ ไม่คิดเลยว่านักฆ่าที่ได้รับการฝึกฝนสุดโหดอย่างลับๆ เช่นนาง เมื่อตายไปแล้วจะไม่ได้ลงนรก แต่กลับย้อนเวลาโผล่มาในสมัยโบราณเสียได้
แถมเ้าของร่างเดิมยังเป็เด็กสาวที่มีชีวิตน่าเศร้า ถูกทำร้าย โดนตีให้ตายทั้งเป็อีก
“นางเด็กบ้า กล้าขัดขืนอย่างนั้นหรือ!”
เวินซีกำลังตกอยู่ในภวังค์ แต่เสียงโกรธเคืองของหญิงชราก็ขัดจังหวะ
“เพียงแค่กางเกงในที่มิมีที่มา ก็จะฆ่าเราให้ตายโดยมิถามความอันใด”
นางยืนขึ้นช้าๆ วางศพอี๋เหนียงที่กอดตนเองไว้แน่นจนตัวตายไว้ข้างๆ น้ำเสียงของนางเ็าราวกับปีศาจ “ฮูหยิน ท่านร้อนรนอยากจะฆ่าปิดปากเราขนาดนั้นเชียวหรือเ้าคะ?”
ความคิดของหญิงชราถูกมองออก ใบหน้าพลันตึงเครียดขึ้น “ตลกยิ่งนัก ข้ามีเหตุผลอันใดต้องปิดปากพวกเ้า? เวินอี๋เหนียงไม่สงวนตนเองแท้ๆ นางทำให้ตระกูลเวินของเราต้องอับอาย!”
เวินซียิ้มเยาะ
ร่างที่เคยมีแต่ความอ้วนท้วนและอัปลักษณ์ บัดนี้ได้เปลี่ยนไปราวกับคนละคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเยือกเย็นในแววตา มันทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงอันตราย
“แม้มารดาของข้าจะเป็เพียงอนุ แต่เครื่องหอมที่นางทำนั้นกลับพิเศษยิ่ง ขณะนั้นผู้คนต่างเรียกนางว่าสตรีผู้เปี่ยมพร์มากความสามารถ ด้วยสูตรลับเครื่องหอมของนาง ถึงทำให้ตระกูลเวินร่ำรวยขึ้นมาได้”
เวินซีเอ่ยกับหญิงชราอย่างถากถาง “ตอนนี้พวกท่านได้สูตรลับเครื่องหอมไปแล้วใช่หรือไม่? ถึงได้คิดอยากจะกำจัดพวกเรานัก”
ทุกประโยคล้วนทิ่มแทงใจ เพราะเป็เื่จริง
ไม่สงวนตนอันใดกัน พูดไปก็เพราะ่นี้เวินอี๋เหนียงทะเลาะกับนายท่านบ่อยเสียมากกว่า เพื่อป้องกันมิให้นางนำสูตรลับเครื่องหอมไปบอกผู้อื่น ฮูหยินผู้เฒ่าเวินจึงหาทางปิดปากพวกนาง
“พูดบ้าอันใด ไร้สาระเสียจริง!”
แม้ความคิดจะถูกเปิดโปง แต่หญิงชรายังคงไม่ยอมรับ นางสั่งคนดูแลเรือนด้วยท่าทีบึ้งตึง “นางเด็กนอกคอกนี่เอาแต่พล่ามเื่ไร้สาระ พวกเ้ายังมิรีบตีมันให้ตายอีก”
สิ้นเสียงนั้น ท่อนไม้ก็เข้ามาทักทายร่างของเวินซีอีกครา
ทว่าเวินซีเลี่ยงได้ทุกครั้ง แม้ว่าร่างอ้วนท้วนนี้จะทำให้นางเคลื่อนไหวได้ไม่คล่องแคล่วเหมือนชาติก่อน แต่ชีวิตที่อยู่แต่กับคมดาบเปื้อนเืทำให้นางมีสัญชาตญาณติดตัว
แต่ไม่นานนักนางก็รู้สึกหมดแรง
ไม่ได้การ นางต้องหาวิธีพยุงร่างที่อ่อนแอนี้ไว้
นางสังเกตว่ามีดอกอวี้หลิงอยู่ทั่วบ้าน มันเป็ดอกไม้ที่ฮูหยินผู้เฒ่าเวินโปรดปรานที่สุด
ดอกอวี้หลิงมิเพียงแต่หายาก แต่ยังเป็วัตถุดิบเครื่องหอมที่สำคัญอีกด้วย เมื่อประกอบกับโต๊ะเก้าอี้ไม้จันทน์ที่มีอยู่ทั่วเรือน มันจะเกิดสรรพคุณเป็อากาศพิษที่ทำให้คนคลุ้มคลั่งมิใช่หรือ!
รอก่อนเถิด ข้าจะให้ของขวัญชิ้นใหญ่แก่พวกเ้า!
เวินซีมองไปรอบๆ ด้วยสายตาเฉียบคม นางฉีกชายเสื้อออกพลันใช้มันปิดปากและจมูกไว้ แล้วคว้าดอกอวี้หลิงที่อยู่ใกล้มาสองสามดอก ก่อนจะใช้แรงทั้งหมดบีบคั้นออกมาเป็น้ำแล้วถูลงบนโต๊ะไม้จันทน์
ฉับพลันนั้น เื่แปลกประหลาดพลันบังเกิดขึ้นแล้ว
โต๊ะไม้จันทน์ชั้นดีถูกกัดกร่อนอย่างช้าๆ และส่งกลิ่นแปลกประหลาดออกมาอย่างรุนแรง กลิ่นนั้นทำให้คนดูแลเรือนต่างพากันเดินโซเซ ไร้เรี่ยวแรงที่จะถืออาวุธในมือ ตามด้วยน้ำลายที่ฟูมปาก และใบหน้ากระตุกรัว
ไม่นานนัก พวกเขาก็ดิ้นทุรนทุรายไปทั่วพื้น ร้องโหยหวนด้วยความเ็ป
เวินซีเลียริมฝีปากและเงยหน้าขึ้นมองฮูหยินผู้เฒ่า สายตาที่เยือกเย็นของนางทำให้สีหน้าของหญิงชราเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“จับนางไว้! เร็ว... เร็วเข้า จับนางมาให้ข้า...” หญิงชราก็ถูกพิษด้วยเช่นกัน นางะโเสียงดังไม่ได้ศัพท์ทันที
“ตาท่านแล้ว”
เวินซีแสยะยิ้ม รอยยิ้มนั้นมีความเยือกเย็นที่ทำให้หญิงชราใ
เวินซีดึงถุงเครื่องหอมจื่อหนิงของเวินอี๋เหนียงออกมา แล้วหยดเืของตนลงไป จากนั้นก็บีบคางของฮูหยินเพื่อเทเครื่องหอมลงไปในปาก
“ข้าได้เปลี่ยนคุณสมบัติของเครื่องหอมนี้ให้กลายเป็ยา ฮูหยินผู้เฒ่า ท่านใส่ความว่ามารดาข้ามิสงวนตน เช่นนั้นท่านก็ลิ้มรสชาติของการไม่สงวนตนจริงๆ เองเถิดเ้าค่ะ!”
เมื่อชาติที่แล้ว ภายหลังจากที่บิดามารดาเสียชีวิต เวินซีก็ถูกลุงที่เห็นแก่ตัวส่งตัวไปให้องค์กรนักฆ่าลับ นางที่ยังเป็เด็กเล็กต้องผ่านการฝึกฝนการเป็นักฆ่าอย่างหนัก ด้วยเหตุนี้จึงมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมไว้ช่วยเหลือตนเอง นอกจากนี้ก็เพื่อสังหารศัตรูด้วย หากฆ่าไม่ตายก็ต้องวางยาพิษ เื่พวกนี้นางฝึกฝนจนเป็ความสามารถติดตัว
ในตอนที่เป็นักฆ่า เวินซีได้สูดอากาศพิษเข้าไป ทำให้ร่างกายเย็นเฉียบและเ็ปทรมาน แต่เมื่อได้ล้างพิษแล้วนางก็กลับมาหายดี ยกเว้นแต่อุณหภูมิร่างกายที่สูงกว่าคนปกติ ซึ่งรวมถึงเืในกายด้วย
ที่น่าใก็คือ นางที่กลับมามีชีวิตในชาตินี้ เืในกายยังคงเป็ดั่งในชาติที่แล้ว
ยาที่เวินซีเพิ่งจะผสมกับเืของตนนั้นมีอานุภาพที่รุนแรงยิ่งนัก เมื่อผสมเข้ากับเครื่องหอมจื่อหนิงที่มีความร้อนอยู่แล้ว หลังจากที่ดูดซึมเข้าไป ร่างกายของฮูหยินเฒ่าจะร้อนราวกับถูกเปลวเพลิงเผาไหม้ ทำให้เกิดความเ็ปเหลือทน การถอนพิษมีเพียงวิธีเดียวคือจะต้องหลับนอนกับบุรุษเท่านั้น มิฉะนั้นจะต้องทรมานจนตาย
เวินซีได้ปรับเปลี่ยนยาให้ฤทธิ์นั้นมีประสิทธิภาพสูงสุด แม้ฮูหยินผู้เฒ่าจะหาบุรุษมาช่วยถอนพิษได้ แต่บุรุษเพียงคนเดียวกลับไม่อาจเติมเต็มพอ พิษในร่างกายจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ฮูหยินเฒ่าจะต้องใช้บุรุษมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสนองความ้าพร้อมๆ กัน
นี่ต่างหากคือรสชาติของการไม่สงวนตนของจริง นางมองหญิงชราที่มีใบหน้าเปลี่ยนเป็สีแดงหลังจากได้รับพิษ รอยยิ้มก็ยิ่งโเี้และชั่วร้ายเป็เท่าทวี
มันคือการแก้แค้นสุดโหดที่ทำให้ศัตรูตายทั้งเป็
ภายใต้ความหวาดกลัวและตื่นตระหนกของคนในเรือน เวินซีหันกลับมา พยุงร่างที่ผอมบางของเวินอี๋เหนียงขึ้นจากพื้น
ยามนี้นางได้ร่างนี้แล้ว
เช่นนั้นเวินอี๋เหนียงก็เป็มารดาของนาง
เื่ที่ตระกูลเวินติดค้างเวินอี๋เหนียง นางจะทำให้พวกมันต้องชดใช้เป็ร้อยเท่าพันเท่า!
ประตูเรือนของตระกูลเวินถูกเปิดออก มิมีผู้ใดกล้าขัดขวางผู้ที่เป็มือสังหารตัวจริง
เวินซีกอดศพของเวินอี๋เหนียง แล้วอุ้มศพนั้นเดินออกจากเมืองไปโดยไม่สนใจสายตาที่ตกตะลึงของผู้คนที่สัญจรไปมา จนกระทั่งเดินมาถึงที่ราบเขาตอนใต้ที่รกร้าง นางจึงได้วางเวินอี๋เหนียงลง
“ท่านแม่ชอบความสงบ เช่นนั้นก็นอนหลับให้สบายอยู่ที่นี่เถิดเ้าค่ะ ต่อไปจะมิมีผู้ใดมารบกวนท่านได้อีก”
นางขุดหลุมแล้วฝังเวินอี๋เหนียงไว้ตรงนั้น
หลังจากที่ทำทุกอย่างเสร็จสิ้น ในที่สุดร่างกายที่ถูกทำร้ายและฝืนทนมาได้ถึงตอนนี้ก็ทนต่อไปไม่ไหว ร่างของเวินซีหนักขึ้น ขาทั้งสองข้างไร้เรี่ยวแรง สายตาเริ่มพร่ามัว
และเป็ในตอนที่นางล้มลงกับพื้น สายตาของนางพลันเห็นใครบางคนกำลังเดินตรงเข้ามาหา
เชิงอรรถ
[1] อี๋เหนียง 姨娘 หมายถึง สรรพนามที่ลูกหลานในเรือนใช้เรียกสตรีที่เป็อนุภรรยา
[2] เก้าอี้ไท่ซือ 太师椅 หมายถึง เก้าอี้ไม้ของจีน ด้านหลังมีพนักพิง ด้านข้างมีที่วางมือ เป็เก้าอี้ตำแหน่งของผู้ปกครองเรือนนั้นๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้