ณ ที่ตั้งกรมปราบปราม ควันสีเทาทะลุผ่านอากาศเข้ามาในห้องปฏิบัติการใหญ่ ก่อนจะคลี่ตัวออกเป็ข้อความที่ลอยอยู่กลางอากาศ อักษรเรืองแสงสีแดงเข้ม
"พบผู้ทำพันธสัญญากับตัวตนลำดับมหาชีวิต ้าความช่วยเหลือจากหน่วยปราบปรามด่วน อันตรายสูงสุด"
มาดามเอสเธอร์ หญิงชราผมขาวโพลนที่สวมชุดคลุมยาวสีดำ และสร้อยคอวงล้อทรงกลม หัวหน้าหน่วยปราบปราม ลุกพรวดขึ้นจากโต๊ะทำงานทันที ใบหน้าเคร่งขรึมฉายแววกังวล
"เรียกประชุมฉุกเฉินทันที!" เธอะโสั่งการ "แจ้งทุกหน่วยให้เตรียมพร้อมปฏิบัติการ!"
ภายในไม่ถึงห้านาที ห้องประชุมใหญ่ก็เต็มไปด้วยเ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยปราบปราม ทุกคนมีสีหน้าเคร่งเครียด
มาดามเอสเธอร์ยืนอยู่หน้าห้อง มือเท้าโต๊ะไม้โอ๊คหนัก "สถานการณ์ฉุกเฉินระดับสูงสุด เราได้รับรายงานว่าพบผู้ทำพันธสัญญากับตัวตนลำดับมหาชีวิต"
เสียงฮือฮาดังขึ้นในห้องประชุม บางคนสบถเบาๆ ด้วยความใ
"หน่วยปราบปรามพิเศษต้องพร้อมออกปฏิบัติการภายในสิบห้านาที" มาดามเอสเธอร์สั่งการ "เตรียมอุปกรณ์วิเศษทั้งหมดที่เรามี และแจ้งหน่วยสนับสนุนให้พร้อม เราไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง"
ขณะที่ทุกคนกำลังจดบันทึกคำสั่งอย่างเร่งรีบ ผู้ช่วยคนหนึ่งยกมือขึ้น "แล้วหน่วยของหัวหน้าเอ็ดเวิร์ดล่ะครับ? พวกเขายังอยู่ในพื้นที่หรือเปล่า?"
มาดามเอสเธอร์ส่ายหน้า "เราไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม แต่ต้องถือว่าพวกเขาอยู่ในอันตราย"
ทันใดนั้น ประตูห้องประชุมก็เปิดออก เ้าหน้าที่หนุ่มวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน "ขออภัยครับ มาดาม! รถม้าของหน่วยสืบสวนพิเศษเพิ่งมาครับ พวกเขาาเ็หนัก ้าความช่วยเหลือด่วน!"
มาดามเอสเธอร์หันไปสั่งการทันที "ส่งหน่วยแพทย์ไปดูแลพวกเขา! และนำตัวคนที่พอจะให้ข้อมูลได้มาที่นี่โดยด่วน เราต้องรู้ทุกรายละเอียดของสิ่งที่พวกเขาเผชิญมา"
เ้าหน้าที่หลายคนรีบออกจากห้องประชุมเพื่อไปปฏิบัติตามคำสั่ง ไม่นานนัก ประตูก็เปิดออกอีกครั้ง เ้าหน้าที่หนุ่มกลับมาพร้อมกับแอนดรูว์ที่ดูอิดโรยและาเ็เล็กน้อย
"มาดามเอสเธอร์" เ้าหน้าที่รายงาน "นี่คือแอนดรูว์ หนึ่งในสมาชิกของหน่วยสืบสวน เขาาเ็น้อยที่สุดและสามารถให้ข้อมูลได้"
มาดามเอสเธอร์พยักหน้า สายตาคมกริบจับจ้องไปที่แอนดรูว์ "เล่ามาซิ ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่"
แอนดรูว์กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก สายตากวาดมองไปรอบห้องที่เต็มไปด้วยเ้าหน้าที่ระดับสูง ก่อนจะเริ่มเล่า "พวกเรา... พวกเราเจอผู้ทำพันธสัญญากับตัวตนลำดับมหาชีวิต มันน่ากลัวมาก... เป็หญิงสาวคนหนึ่ง แต่เธอควบคุมเส้นเอ็นสีเืได้ และมีศพที่เคลื่อนไหวได้อยู่กับเธอ"
แอนดรูว์พยายามตั้งสติอีกครั้งเรียบเรียงข้อมูล เล่าเหตุการณ์ทุกอย่างั้แ่ต้นจนจบ เสียงฮือฮาดังขึ้นในห้องประชุม มาดามเอสเธอร์ยกมือขึ้นให้ทุกคนเงียบ ก่อนจะหันไปทางศาสตราจารย์ลอเรนซ์ หัวหน้าหน่วยวิทยาการ
"ศาสตราจารย์" เธอเอ่ยถาม "คุณคิดว่านี่เป็พลังของผู้ยกระดับตัวตนประเภทไหน?"
ศาสตราจารย์ลอเรนซ์ลูบเคราสีเทาอย่างครุ่นคิด "ฟังดูเหมือนพลังควบคุม และมีเส้นเส้นเอ็นสีเืเสริมมาด้วย ถ้าเป็อย่างที่ผมคิด นี่อาจเป็ผู้ยกระดับตัวตนประเภทหุ่นเชิด จากที่ฟังมาคงเป็ลำดับมหาชีวิตจริงๆ"
มาดามเอสเธอร์หันกลับไปหาแอนดรูว์ "แล้วเอ็ดเวิร์ดล่ะ? เขาเป็ยังไงบ้าง?"
แอนดรูว์ตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "เขา... เขาพยายามแทรกเข้าไปในจิตใจของหญิงสาวคนนั้น เพื่อเปลี่ยนความทรงจำของเธอ แต่มันทำให้เขาาเ็สาหัส"
หัวหน้าหน่วยปราบปรามถอนหายใจยาว มือเหี่ยวย่นของเธอกำสร้อยคอวงกลมแน่น "เราไม่มีเวลาให้เสียแล้ว หน่วยปราบปราม ออกเดินทางทันที"
"และติดต่อผู้บัญชาการสูงสุด" เธอหันไปทางเ้าหน้าที่การสื่อสาร "ส่งสารด่วนถึงท่านผู้บัญชาการ บอกว่าเรา้าความช่วยเหลือ อีกฝ่ายเป็ตัวตนลำดับมหาชีวิต"
ห้องประชุมพลันวุ่นวายขึ้นมาอีกครั้ง ทุกคนรีบแยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ของตน มาดามเอสเธอร์ยืนนิ่ง มองออกไปนอกหน้าต่าง สีหน้าเคร่งเครียด
สายฝนยามค่ำสาดกระทบหน้าต่าง ภายในห้องพักฟื้นของหน่วยปราบปรามและป้องกันภัยเหนือธรรมชาติแห่งไฮเดลิน ชาร์ลส์นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเซียว เหงื่อกาฬผุดพราย ร่างกายสั่นเทิ้มเป็ระยะ ภาพเหตุการณ์อันน่าสยดสยองยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขา ราวกับฝันร้ายที่ไม่มีวันตื่น
ร่างของหญิงสาวในชุดขาวเปื้อนเื เส้นเอ็นสีแดงที่พวยพุ่งดุจหนวดปลาหมึก ใบหน้าไร้ชีวิตของเหล่าศพที่เคลื่อนไหว และที่สำคัญที่สุดคือ ร่างของตัวตนลำดับมหาชีวิตที่เขาได้เห็นแวบหนึ่งก่อนจะหมดสติไป
มันเป็ภาพที่เกินกว่าที่มนุษย์ธรรมดาจะรับไหว สมองของเขาพยายามที่จะลบเลือนภาพนั้น แต่ยิ่งพยายาม มันก็ยิ่งชัดเจนขึ้น ความเ็ปแล่นริ้วไปทั่วร่าง ราวกับมีหนอนนับพันกำลังกัดกินเขาจากภายใน
แพทย์ประจำห้องพักฟื้น ตรวจอาการของชาร์ลส์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ชีพจรเต้นอ่อนและไม่สม่ำเสมอ การหายใจติดขัด บางครั้งก็หยุดไปชั่วขณะ
ในห้องเดียวกัน เอ็ดเวิร์ดนอนหลับใหลอยู่บนเตียงข้างๆ ใบหน้าของเขาซีดเซียว แต่ดูสงบกว่าชาร์ลส์มาก ร่างกายของเขาได้รับาเ็สาหัสจากการใช้พลังต่อต้านตัวตนสูงส่ง แต่ด้วยลำดับตัวตนที่แข็งแกร่ง ทำให้เขาสามารถทนรับความเสียหายจากการ์ดจ้องมองนั้นได้มากกว่าชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างๆ
โจเซฟนั่งอยู่ข้างเตียงคั่นกลางระหว่างทั้งสอง มือข้างหนึ่งกุมศีรษะตัวเองไว้แน่น ดวงตาของเขาแดงก่ำ ใบหน้าซีดเผือด แม้จะไม่ได้รับาเ็รุนแรงเท่าชาร์ลส์และเอ็ดเวิร์ด แต่การใช้พลังขัดขวางหญิงสาวในชุดขาวยังคงส่งผลกระทบต่อเขาอยู่ดี
แอนดรูว์นั่งอยู่ข้างๆ ตบบ่าโจเซฟเบาๆ "นายพักผ่อนบ้างเถอะ ดูท่าทางนายไม่ค่อยดีเลย"
โจเซฟส่ายหน้า "ฉันไม่เป็ไร ฉันแค่อยากอยู่ดูอาการของทั้งสอง"
แอนดรูว์ถอนหายใจ "ฉันก็เป็ห่วงพวกเขาทั้งคู่ แต่เราทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้แล้ว ตอนนี้เราได้แต่รอ และภาวนาให้พวกเขาปลอดภัย"
……
บ้านหลังเดิมที่พวกชาร์ลส์เพิ่งหนีตายออกมา บัดนี้ถูกปกคลุมด้วยบรรยากาศอึมครึม สายฝนยังคงโปรยปรายลงมาไม่หยุด แต่กลับไม่สามารถชะล้างความรู้สึกน่าสะพรึงกลัวที่ยังคงอบอวลอยู่ในอากาศได้
รอบบ้าน เหล่าเ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามในชุดดำ ยืนล้อม ใบหน้าของทุกคนเคร่งเครียด สายตาจับจ้องไปที่ประตูบ้านอย่างไม่วางตา ราวกับกำลังระวังบางสิ่งที่จะปรากฏออกมา
หน้าประตูบ้าน หญิงชราผู้หนึ่งยืนตระหง่านอยู่ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งวัย แต่แววตากลับคมกริบ บ่งบอกถึงความเฉียบแหลมและเด็ดขาด เธอคือมาดามเอสเธอร์ หัวหน้าหน่วยปราบปรามพิเศษแห่งไฮเดลิน
หัวหน้าหน่วยปราบปรามสวมชุดบุรุษสีดำคล่องตัว ตัดเย็บด้วยผ้าเนื้อดี ที่คอของเธอมีสร้อยคอทองคำรูปวงล้อห้อยอยู่ มือข้างหนึ่งกำสร้อยคอวงล้อสีทองแน่น ดวงตาคมกริบจ้องมองไปยังความมืดภายในบ้าน
ข้างกายเธอ มีชายหนุ่มผู้หนึ่งยืนนิ่ง ใบหน้าอ่อนเยาว์ของเขาซีดเผือด ดวงตาสีฟ้าขุ่นมัว ราวกับคนหมดอาลัยตายอยาก แต่กลับแผ่รังสีแห่งอำนาจ เขาคือผู้บัญชาการสูงสุดแห่งกรมปราบปรามและป้องกันภัยเหนือธรรมชาติ
"กางเขตแดน!" ผู้บัญชาการสูงสุดเอ่ยเสียงเรียบ
ทันทีที่สิ้นเสียง เหล่าเ้าหน้าที่หน่วยปราบปราม ปักเสาโลหะลงบนพื้น ก่อตัวเป็กำแพงโปร่งใส กั้นอาณาเขตรอบบ้านหลังนั้น
"สิ่งใดก็ตามที่ออกมาจากบ้านหลังนี้ หากมิได้รับอนุญาต จงอย่ามอง อย่าฟัง อย่าัั เป็อันขาด" ผู้บัญชาการสูงสุดกล่าวต่อ น้ำเสียงหนักแน่น
เหล่าเ้าหน้าที่ ต่างพยักหน้ารับคำสั่ง ดวงตาของทุกคน เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น แต่ก็แฝงไว้ด้วยความมุ่งมั่น
มาดามเอสเธอร์หยุดยืนอยู่หน้าประตูบ้าน หลับตาลง มือข้างที่กำสร้อยคอวงล้อสีทอง ยกขึ้นแนบอก พึมพำสวดอธิษฐาน เสียงแหบพร่าของเธอดังก้องท่ามกลางสายฝน
"ข้าแต่พระผู้ทรงเป็เ้าแห่งลิขิต ผู้กำหนดชะตาชีวิต ขอพระองค์ทรงลิขิตชัยชนะให้ผองเรา คุ้มครองแด่เรา ขออำนาจวงล้อแห่งกาล ให้ตัวตนอันชั่วร้าย จงถูกทำลาย และขอให้สันติสุข จงกลับคืนสู่มาตุภูมิ"
สิ้นคำสวด มาดามเอสเธอร์ลืมตาขึ้น แววตาเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น หันไปพยักหน้าให้ผู้บัญชาการสูงสุด เป็สัญญาณว่าพร้อมแล้ว
ทั้งสองก้าวข้ามธรณีประตู เข้าไปในบ้านหลังนั้น
ทันทีที่ก้าวเข้าไป เสียงฝนที่เคยดังกระหน่ำอยู่ภายนอก บัดนี้เงียบหายไป ราวกับโลกภายนอกถูกตัดขาดออกจากสถานที่แห่งนี้โดยสิ้นเชิง ภายในบ้าน อากาศเย็นเยียบ ความรู้สึกอึดอัด กดดัน แผ่ซ่านไปทั่วทุกอณู
ทั้งสองก้าวเดินอย่างระมัดระวัง สำรวจไปทีละห้อง ดวงตาคมกริบของมาดามเอสเธอร์กวาดมองไปรอบๆ ไม่ปล่อยให้รายละเอียดใดหลุดรอดสายตา
ผู้บัญชาการสูงสุดจ้องมองไปทั่ว ใช้พลังของเขามองย้อนไปในอดีต ภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ปรากฏขึ้นราวกับเหตุการณ์ที่กำลังฉายซ้ำ
เขาเห็นพวกเอ็ดเวิร์ดกำลังวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ใบหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาเห็น่เวลาที่พวกชาร์ลส์เข้ามาในบ้านหลังนี้ครั้งแรก แต่กลับต้องพบกับความสิ้นหวัง ฉายชัดอยู่ในแววตาของพวกเขา
แต่แค่นี้ยังไม่พอ ผู้บัญชาการสูงสุด้าที่จะหาต้นตอของเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เขา้ารู้ว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้บ้านหลังนี้กลายเป็สถานที่แห่งความสยดสยอง
เขามองย้อนกลับไปไกลขึ้นอีก ผ่านวันเวลา ผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ จนกระทั่ง... เขาพบ สิ่งที่้า
ภาพในอดีตฉายชัดขึ้น เผยให้เห็นเหตุการณ์ที่เป็จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมทั้งหมด ราวกับผู้บัญชาการสูงสุดยืนอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้