สิ่งที่ได้ยิน ทำให้ไอศูรย์ใ ถ้าเป็แบบนี้ก็แสดงว่าเขาเข้าใจผิดมาโดยตลอด ว่าใบเตยหนีกลับมาใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัดซึ่งเป็บ้านเกิด
“ค่ะ… อย่างที่คุณได้ยิน ใบเตยไม่ได้กลับมาอยู่ที่นี่”
ชลดาครุ่นคิดลำดับเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อครึ่งปีก่อนที่หล่อนยังจำได้ไม่ลืมถึงวันนั้น วันที่ใบเตยขอร้องให้ช่วยปกปิดความลับของหล่น
“ผมขออนุญาตเรียกคุณว่า ‘แม่’ ก็แล้วกัน ในฐานะที่คุณเป็แม่ของชลดา และผมก็มีศักดิ์เป็ลูกเขยคุณ”
เจอแม่ยายทั้งสาวทั้งสวยขนาดนี้ เขยหนุ่มจึงรีบนับญาติ
“ตามสบายค่ะ… จะเรียกยังไงก็ได้”
ชลดากล่าวเสียงเรียบ หล่อนเป็คนง่ายๆ ไม่ชอบพิธีรีตอง
“นี่แสดงว่าใบเตยคงทิ้งผัวเก่าแล้วไปอยู่กับผัวใหม่แล้วกระมัง”
ไอศูรย์สันนิษฐานเอาจากสิ่งที่ได้รู้
“เื่นี้… เอ่อ ฉันไม่รู้จริงๆ”
ชลดาส่ายหน้า รู้สึกอึดอัดที่ต้องเก็บความลับตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับใบเตย
“แล้วที่ผ่านมา… คุณไปอยู่ไหนมาคะ?”
ชลดาจำเป็ต้องถามด้วยความสงสัย
“ผมเป็วิศวกรรับ มี่หนึ่งที่ผมจำเป็ต้องเดินทางไปทำงานรับเหมาก่อสร้างที่เวียดนามหลายเดือน… ระหว่างนั้นใบเตยก็ไม่ติดต่อผม พอผมกลับมาที่คอนโดก็พบว่าเธอไม่อยู่แล้ว”
ไอศูรย์บอกเล่าไปตามความจริง
“เสียใจด้วยนะคะ”
ชลดากล่าวเสียงเศร้า
“ครับ… ผมนึกว่าแม่ดารู้ว่าใบเตยไปอยู่ไหน”
“ไม่รู้ค่ะ… ”
ชลดารีบส่ายหน้าอีกครั้ง ด้วยไม่อยากให้เขาซักไซ้อะไรมากไปกว่านี้
“ถ้างั้นผมคงต้องขอตัวกลับ… ขอบคุณสำหรับน้ำแก้วนี้ ผมลานะครับ”
ไอศูรย์กล่าวแล้วเดินออกมาจากห้องรับแขก ทว่าไม่ทันจะก้าวออกมาพ้นประตู จู่ๆ ฝนเ้ากรรมที่ตั้งเค้ามาตลอดบ่ายก็ตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็สีดำทะมึน มีเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าแทรกสลับกันเป็ระยะ
“คุณคะ… เข้ามาหลบฝนในบ้านก่อนดีกว่า รอให้ฝนหยุดแล้วค่อยกลับ”
ชลดาเดินตามมาเรียก ทำให้คนที่กำลังจะไปต้องหันหลังกลับ
ทั้งสองหันมาสบตากันเข้าอย่างจัง ไอศูรย์รับรู้ได้ถึงประกายความเร่าร้อนอันประหลาดที่วูบไหวอยู่เื้ัดวงตาคมประกายของสาวใหญ่ คล้ายกับมีมนต์สะกด ทำให้ไอศูรย์จำต้องเดินตามกลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง
อีกชั่วโมงต่อมา
ฝนยังตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาราวกับฟ้ารั่ว และในระหว่างที่ชลดากำลังนั่งคุยกับไอศูรย์ทำความรู้จักกันไปพลางๆ จู่ๆ ก็มีเสียงดังเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของชลดา หล่อนรีบกดรีบ ยกขึ้นมาแนบหู
“อะไรนะ… ”
