ครั้งนีู้เี่อันพยายามเลือกสั่งอาหารอย่างระมัดระวัง
จากครั้งที่แล้วเธอเจอลู่เป๋าเหยียนที่จุยเยว่เจวี้ยโดยบังเอิญความทรงจำที่เธอสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะจนกินไม่หมดนั้นยังคงฝังใจเธอสาบานกับตัวเองไว้แล้วว่า จะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำสองอีก
เธอพิถีพิถันกับการสั่งอาหารั้แ่ประเภทเนื้อผัก จนถึงอาหารเจ ตอนที่ส่งลิสต์อาหารไปให้พนักงานน้ำซุปก็เข้ามาเสิร์ฟก่อนเป็อย่างแรก
น้ำซุปกระดูกที่เคี่ยวจนได้รสชาติสีขาวใสส่งกลิ่นหอมโชยแตะจมูกเมล็ดเก๋ากี้สีแดงที่ลอยอยู่้าราวกับดอกไม้สีสดใสที่อยู่ท่ามกลางหิมะสีขาวทำให้หม้อไฟยิ่งดูน่าทาน
ูเี่อันเร่งไฟให้ร้อนขึ้นอย่างคล่องแคล่วไม่นานน้ำซุปก็เริ่มเดือดในขณะเดียวกันที่เวทีตอนนี้ก็ถึงฉากที่พระนางต้องจากลากันพอดีเสียงเพลงเศร้าสร้อยที่บรรเลงขึ้นดึงดูดความสนใจของูเี่อันให้หันไปมองจนเธอไม่ทันสังเกตว่าลู่เป๋าเหยียนกำลังมองเธออยู่
ลู่เป๋าเหยียนมองเธอผ่านไออุ่นที่ลอยล่องจากหม้อไฟด้วยสายตาลึกล้ำเกินคาดเดา
เขานึกไม่ถึงว่าตนเองจะสูญเสียการควบคุมในเื่ทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง
ตอนที่เขาตกลงแต่งงานกับเธอเขาเตรียมพร้อมสำหรับการหย่าเอาไว้แล้ว
คำพูดเ็าไร้ความรู้สึกทั้งหมดที่พูดกับเธอล้วนแต่เป็คำพูดเตือนใจตัวเองทั้งนั้น เขานึกว่าเมื่อถึงเวลาเขาจะสามารถปล่อยมือจากเธอไปได้อย่างไม่ต้องลังเลเหมือนกับ่เวลาหลายปีที่ผ่านมา ที่เขาพยายามไม่หันไปมองเธอ ไม่สนใจเธอทำตัวราวกับเป็คนแปลกหน้าที่เคยรู้จักกัน
แต่เื่ทั้งหมดเริ่มผิดแผนยิ่งใกล้เธอมากขึ้นเท่าไร เขาก็ยิ่งอยากผูกมัดเธอเอาไว้ข้างกายไปตลอดชีวิตผู้ชายทุกคนที่คิดเกินเลยกับเธอ เปรียบเสมือนศัตรูที่คอยขวางทางเขา โดยเฉพาะชายคนนั้นคนที่เธอชอบ
ตอนที่เขาเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองกำลังสูญเสียการควบคุมมันก็สายเกินไปแล้วไม่อย่างนั้นคงไม่ลังเลว่าจะปล่อยมือจากเธอไปดีหรือไม่อยู่นานสองนานแถมวันรุ่งขึ้นก็คงไม่จูบเธออย่างป่าเถื่อนเพื่อลงโทษแบบนั้น
เขาประเมินตัวเองไว้สูงไปในขณะเดียวกันก็ประเมินอิทธิพลของูเี่อันที่มีต่อเขาไว้ต่ำไปเช่นเดียวกัน
แต่เขาไม่คิดจะหาทางแก้ปัญหาเื่นี้อีกต่อไปเขาเลือกแล้วที่จะพาเธอเข้าสู่อีกโลกหนึ่งของเขา
โลกที่ไม่มีใครเคยรู้โลกที่เธอไม่อาจจินตนาการ...
อีกสองปีข้างหน้าจะอยู่หรือจะไปเขาขอจะมอบอำนาจในการเลือกให้กับูเี่อัน
“เนื้อวัวติดมันผักกาดขาว และเห็ดหอมมาแล้วค่ะ”
เนื้อวัวติดมันสดใหม่ถูกสไลด์ม้วนเป็แผ่นบางและจัดเรียงบนจานอย่างสวยงามผักสดที่ถูกส่งมาจากฟาร์มออร์แกนิคที่นอกเมืองนั้น ถูกล้างมาอย่างสะอาดจนได้กลิ่นอายน้ำบริสุทธิ์ลอยออกมา
ความสนใจของูเี่อันถูกกลิ่นน้ำซุปหอมๆดึงกลับมา ท้องเธอเริ่มส่งเสียงร้องจ๊อกๆ โดยอัตโนมัติ
เธอมองหน้าลู่เป๋าเหยียนที่กำลังยิ้มบางพลางเบ้ปาก
“ฉันไม่ค่อยได้กินอะไรมาทั้งวันนี่นาท้องจะร้องประท้วงขึ้นมาก็ไม่แปลกนี่...”
ลู่เป๋าเหยียนไม่ได้พูดอะไรอีกเขาคีบเนื้อวัวติดมันที่ลวกสุกแล้วให้กับเธอ
ูเี่อันเองก็ไม่เกรงใจเธอจิ้มซอสและส่งมันเข้าปากในทันที รสชาตินุ่มของเนื้อ กลิ่นหอมของซุป และน้ำจิ้มซาฉาเผ็ดๆ หวานๆ ที่ชุ่มฉ่ำอยู่ในปากนี่มันงานเลี้ยงสุดหรูสำหรับเธอชัดๆ
เธอกินด้วยสีหน้าพอใจพลางคิดเรียบเรียงคำพูดว่าจะอธิบายความอร่อยที่เพิ่งได้รับเมื่อครู่ให้กับลู่เป๋าเหยียนฟังอย่างไรดีแต่ลู่เป๋าเหยียนกลับคีบผักให้กับเธอด้วยรอยยิ้มน้อยๆ และพูดว่า
“ค่อยๆ กิน ถ้าไม่พอค่อยสั่งอีกก็ได้”
ูเี่อันนิ่งไป
ไม่รู้ว่าเป็เพราะควันหอมฟุ้งที่ลอยอยู่ตรงหน้าทำให้ตาฝาดหรือเปล่าแต่เธอไม่เห็นร่องรอยของความเ็าในสายตาของเขาสักนิดใบหน้าหล่อเหลาของเขาในตอนนี้ทำเอาใจของเธอเต้นแรง
ว่าแล้วจึงรีบก้มหน้าก้มหน้ากินอาหารต่อไป
เธอคาดหวังไว้ต่ำไปหรือเปล่าเนี่ยแค่นี้เธอก็คิดว่าลู่เป๋าเหยียนอ่อนโยนแล้วเหรอ...
เมื่อการแสดงชุดเดิมจบลงูเี่อันก็กินอิ่มพอดี เธอเงยหน้าขึ้นมาแล้วจึงเห็นจานของลู่เป๋าเหยียนที่เลอะน้ำซุปอยู่เพียงเล็กน้อยไม่เหมือนจานของเธอที่เลอะเทอะจากการกินไปหมด ดูท่าเขาจะกินไปไม่มาก
“ทำไมนายไม่กินล่ะ”เธอถามอย่างสงสัย “อาหารออกจะอร่อย”
ลู่เป๋าเหยียนไม่ตอบแถมถามย้อนกลับ“เธออิ่มแล้วเหรอ”
เขารอให้เธอกินอิ่มแล้วค่อยกินงั้นเหรอ?
ูเี่อันรู้สึกซาบซึ้งขึ้นมาเธอพยักหน้าอย่างแรง
“อืม! ฉันอิ่มแล้วตาฉันลวกให้นายบ้างนะ!”
ที่ลู่เป๋าเหยียนไม่กินก็เพราะว่าปกติเขาไม่ชอบกินหม้อไฟเวลาเห็นตะเกียบหลายคู่ที่ถูกจุ่มลงไปในหม้อเดียวกัน เขามักหมดความอยากอาหารทุกทีแต่ยังไม่ทันที่ปฏิเสธออกไป ูเี่อันก็จัดการลวกเนื้อวัวให้เขาพลางยิ้มอย่างพอใจ
“จิ้มน้ำจิ้มสักหน่อยอร่อยสุดๆเลยนะ ไม่เชื่อนายลองกินดูสิ!”
เขาสามารถปฏิเสธเนื้อวัวได้ก็จริงแต่เขาไม่อาจปฏิเสธรอยยิ้มของเธอได้ จึงลองชิมดูตามทีู่เี่อันบอกรสชาติก็ไม่ได้แย่อะไร
“อร่อยใช่หรือเปล่า”ูเี่อันยังคงลวกต่อไป “น่าเสียดายที่เมือง A ไม่มีร้านแบบนี้”
“เธอชอบ?” ลู่เป๋าเหยียนถาม
“ชอบสิ!”ูเี่อันจัดการวางผักกาดที่ลวกแล้วลงบนจานของลู่เป๋าเหยียน
“การกินหม้อไฟเป็อะไรที่สนุกนะหลายๆ คนนั่งล้อมอยู่ด้วยกันอย่างสนิสนม เฮ้อ...ฉันเริ่มอยากกินอีกแล้วสิ”
ว่าแล้วเธอก็คีบผักกาดขาวที่อยู่บนจานของลู่เป๋าเหยียนขึ้นมาจิ้มน้ำจิ้มและส่งเข้าปาก
เธอเป็คนแรกที่กล้าทำแบบนี้แต่ลู่เป๋าเหยียนกลับไม่รู้สึกรังเกียจอะไร ตอนนี้เขายังคงคิดถึงคำพูดเมื่อครู่สนิทสนมอย่างนั้นเหรอ
เขายิ้มมุมปาก“มู่ซือเจวี๋ยกำลังคิดจะเปิดสาขาที่เมือง A พอดี”
“เอ๋?” ูเี่อันพูดด้วยสีหน้าแปลกใจ“จริงเหรอ เขาทำธุรกิจร้านอาหารงั้นเหรอ?”
“อืม...”
ูเี่อันพูดอย่างตื่นเต้น“งั้นรอเขาเปิดร้านสาขาเมื่อไร ฉันจะต้องไปชิมให้ได้เลย”
คุณชายเจ็ดตระกูลมู่ของเมือง G คนที่สามารถเรียกลมเรียกฝนได้อย่างมู่ซือเจวี๋ยกลับกลายเป็เถ้าแก่ประจำร้านหม้อไฟไปเสียแล้วขนาดเ้าตัวยังไม่เคยรู้เลยว่าตนจะไปเปิดร้านสาขาที่เมือง A
กว่าูเี่อันกับลู่เป๋าเหยียนออกจากร้านก็สองทุ่มกว่าแล้วอากาศตอนกลางคืนเริ่มเย็นลงกว่าเดิม ลู่เป๋าเหยียนจูงมือูเี่อันพลางกล่าว
“ดึกแล้วเรากลับโรงแรมไปพักผ่อนกันเถอะ”
ูเี่อันชี้ไปยังสวนสาธารณะด้านหน้า“ฉันอยากเดินเล่น”
ลู่เป๋าเหยียนถามอย่างสงสัย“เธอไหว?”
“แล้วทำไมจะไม่ไหว?”
เธอก็นับว่าเป็ตำรวจเหมือนกันนะ!ผ่านการฝึกมาก็เยอะ!
ูเี่อันะโขึ้นลงสองทีเพื่อแสดงความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างไม่ยอมแพ้
“ดูสิ ฉัน...”
จู่ๆ รอยยิ้มของเธอก็ชะงักค้าง
ลู่เป๋าเหยียนขมวดคิ้วมุ่น“เป็อะไรหรือเปล่า”
“ปะ เปล่า”ูเี่อันหน้าแดงเป็ลูกตำลึง “ฉันกลับไปร้านอาหารแป๊บหนึ่งนะ”
ว่าแล้วเธอก็หมุนตัววิ่งกลับไปลู่เป๋าเหยียนคิดจะรั้งเธอไว้ถามให้หายสงสัยแต่ทว่าสายตากลับมองไปเห็นรอยเปื้อนสีแดงบนกางเกงของเธอโดยไม่ตั้งใจเขาเข้าใจในทันที หูของเขาเริ่มร้อนขึ้นมาพลางเดินกลับร้านอาหารตามหลังเธอไป
ูเี่อันขอความช่วยเหลือจากพนักงานซึ่วจำได้ว่าเธอคือคุณนายลู่จึงบอกว่า
“คุณเข้าไปรอที่ห้องน้ำก่อนนะคะเดี๋ยวฉันไปหยิบมาให้”
“ขอบคุณค่ะ”
ูเี่อันซาบซึ้งสุดหัวใจเมื่อเธอออกมาจากห้องน้ำ ก็เจอลู่เป๋าเหยียนที่กำลังยืนรออยู่พอดี
เขาต้องรู้แล้วแน่ๆูเี่อันคิดแล้วได้แต่ก้มหน้าแดงๆ ของเธอพลางพูด
“ไปกันเถอะ”
ลู่เป๋าเหยียนไม่ขยับเขายื่นเสื้อคลุมให้เธอ
“ใส่ไว้”
ูเี่อันนิ่งไป
“ฉันไม่หนาว”
ลู่เป๋าเหยียนตอบด้วยสีหน้าแปลกๆ
“กางเกงเธอ”
ูเี่อันรีบหันไปส่องกระจกด้านหลังในทันทีหรือว่า...
เธออยากจะเป็ลมูเี่อันหน้าแดงจนร้อนไปหมดเธอรับเสื้อคลุมของลู่เป๋าเหยียนเอาไว้และรีบใส่ทับในทันที จากนั้นจึงวิ่งหนีไป
นอกจากเื่ที่แม่จากเธอไปชีวิตของเธอก็ราบรื่นมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเื่เรียนหรือเื่งานแต่ดูท่า์คงเห็นว่าเธอได้ใจมากเกินไป จึงลงโทษให้เธอทำแต่เื่ขายหน้าต่อหน้าลู่เป๋าเหยียนไม่หยุดหย่อน
เขาคือคนสุดท้ายที่เธออยากให้เห็นเื่น่าอายพวกนี้
ูเี่อันคิดพลางถอนหายใจเงาดำพาดผ่านเข้ามาพร้อมกับมืออุ่นอันคุ้นเคยที่เข้ามากุมมือเธอไว้
เธอหันกลับไปมองคนที่จูงมือเธอสีหน้าเขาดูปกติ สายตาเข้มดูสงบนิ่ง แสงไฟที่สะท้อนบนร่างสูง ถึงจะไม่ชัดเจนแต่ก็เห็นได้ถึงโครงหน้าเด่นชัดอันหล่อเหลาของเขา
“คนขับจอดรถไว้ที่ด้านหน้าประตูใหญ่ของสวนสาธารณะพวกเราเดินไปแล้วกัน”
เสียงของเขาดั่งมีเวทมนตร์เมื่อได้ยินดังนั้น เธอจึงเดินตามเขาไปอย่างไม่รู้ตัว
สวนสาธารณะแห่งนี้ใหญ่มากประตูใหญ่ด้านหน้าอยู่ใกล้กับทิศใต้ของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินจากร้านอาหารจะใช้เวลาเดินประมาณสิบกว่านาที ระหว่างทางสามารถเดินเล่นริมแม่น้ำเพื่อชมวิวทิวทัศน์และเรือท่องเที่ยวที่ติดไฟหลากสี
ที่นี่เงียบสงบเสียจนูเี่อันได้ยินเสียงหัวใจเต้นของตัวเอง
เธอไม่เคยเดินเล่นกับเขาแบบนี้เธอััได้ถึงมืออุ่นที่กำลังกุมมือเธออย่างชัดเจนูเี่อันลอบมองซีกหน้าด้านข้างของเขาเพียงแค่เสี้ยวเดียวของใบหน้าก็ทำให้หัวใจเธอเริ่มเต้นแรง
หลังจากที่ะโขึ้นลงเมื่อกี้ท้องน้อยของเธอก็เริ่มปวดอีกครั้ง แต่ถึงจะอย่างนั้นเธอก็อยากให้ทางเดินแห่งนี้ทอดยาวออกไปสักนิด เธอยอมเดินอยู่อย่างนี้ตลอดไป
ลู่เป๋าเหยียนรู้สึกได้ว่ามือน้อยที่เขากุมอยู่เริ่มเกร็งจึงหันไปมองและสบตากับเ้าตัวพอดี
ูเี่อันมีดวงตากลมโตคู่งามั์ตาของเธอไร้ซึ่งมารยาใดๆ และมักทอประกายสดใสบริสุทธิ์อย่างไม่มีสิ่งเจือปน
ต่อให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนจะมืดแค่ไหนก็ไม่อาจกลบความสว่างสดใสในั์ตาเธอได้
ดวงตาคู่นี้คือคู่ที่มองผ่านเข้าไปในหัวใจของเขาั้แ่เมื่อสิบปีก่อน
ูเี่อันไม่นึกว่าเขาจะหันมาสบตากับเธอดวงตาของลู่เป๋าเหยียนดำสนิทเสียยิ่งกว่าท้องฟ้ายามค่ำคืน ทุกครั้งที่สบตาเขาเธอมักจะรู้สึกเหมือนโดนดึงดูดเข้าไปอย่างไม่อาจต้านทาน
เธอหลุบตาลงพลางถาม
“มีอะไรเหรอ”
“เธอหนาวมากงั้นเหรอ”ลู่เป๋าเหยียนถาม
“เปล่านะ”ูเี่อันเงยหน้าขึ้นมา “ทำไมถึงถามแบบนั้น”
ลู่เป๋าเหยียนลูบมือน้อยที่เกร็งขึ้นเมื่อครู่พลางกระชับมือให้แน่นขึ้น
“ไม่หนาวก็ดีแล้วไปกันเถอะ”
“อืม”
ูเี่อันเดินตามลู่เป๋าเหยียนไปอย่างว่าง่ายโดยไม่กล้าแอบมองเขาอีกเลยตลอดทาง
หลังจากเดินไปได้ประมาณสิบกว่านาทีพวกเธอก็มาถึงที่หมาย รถ S 600 จอดรอพวกเธออยู่ที่ด้านหน้า ูเี่อันถอนหายใจพลางขึ้นรถไปลู่เป๋าเหยียนสั่งให้คนขับตรงไปที่โรงแรมทันที
เมื่อกลับมาถึงห้องูเี่อันก็เตรียมตัวอาบน้ำ แต่เมื่อเดินเข้าห้องน้ำมาก็นึกขึ้นได้ถึงเื่ชุดนอนของตน
ชุดนอนสองชุดที่เลขาสาวซื้อมาให้เมื่อวานอีกชุดหนึ่งโป๊ยิ่งกว่าชุดเดิมเสียอีก ตอนแรกเธอตั้งใจจะไปซื้อใหม่วันนี้แต่ดูท่าคงไม่ทันแล้ว
สุดท้ายคงต้องใส่ชุดเดิมสินะว่าแล้วเธอก็อดย้อนคิดไปถึงภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานไม่ได้จนหน้านวลเริ่มแดงก่ำขึ้นมาทีละนิด...
