พอตัวก่อเื่จากไปแล้วบรรยากาศในห้องก็เย็นเยียบขึ้น เป็ผลมาจากชายหนุ่มในชุดเกราะที่นั่งทำหน้าเหมือนอยากสังหารใครสักคน บัณฑิตเฉินมองลูกชายหน้าตายอย่างไม่ใส่ใจ มือลูบฝากล่องหนอนไหมน้ำแข็งอย่างแสนรัก ภรรยาข้ามีทางรอดแล้ว แลกกับลูกชายไม่ได้ความคนนี้ถือว่าคุ้มค่า คุ้มค่า
“ท่านพ่อ”
บัณฑิตเฉินสะดุ้งใจนเกือบทำกล่องหลุดมือ
“ใหมดเ้าลูกบ้า อะไร ไม่ต้องมามองข้าไปถามปู่เ้านู่น ข้าไปล่ะเดินทางไปรบดีๆ ล่ะขอให้รบชนะ”เฉินเต๋อฟังน้ำเสียงของลูกชายก็รู้ว่าอยู่ต่อไม่ได้แล้ว จึงรีบหนีทันทีก่อนไปก็ไม่ลืมพาทหารทั้งสองกลับไปด้วย มีของล้ำค่าอยู่กับตัวอย่างนี้เขารู้สึกไม่ปลอดภัย
ตึก ตึก ตึก
เสียงเคาะนิ้วกับโต๊ะอย่างเป็จังหวะ ในสมองก็รวบรวมข้อมูลความเป็ไปได้ทุกอย่างมาคิดวิเคราะห์ เขาเป็ทายาทผู้สืบทอดตระกูลต่อจากท่านปู่ ประวัติความเป็มาของตระกูลก็ผ่านตาเขามาไม่น้อย พลาดตรงที่ใด ถึงให้เด็กหญิงคนหนึ่งมาปั่นหัวเล่นได้
ตระกูลซ่างกวน
ทายาทหญิง
คำสั่งของบรรพบุรุษ
หึ…
…
“ไปพวกเราไปกินอาหารรสเลิศที่ภัตตาคารกันเถิด”ข้าออกคำสั่งอย่างอารมณ์ดีสุดๆ
“ขาหมู/น่องไก่”สองแฝดประสานเสียงกันอย่างพร้อมเพรียง
“วันนี้ซีเอ๋อ เยี่ยนเอ๋อทำได้ดีมาก สร้างผลงานครั้งใหญ่พี่สาวให้เ้ากินจนพุงกางไปเลย”
“คุณหนูตงเอ๋อก็มีผลงานนะเ้าคะ เ้าน้ำแข็งนั่นขโมยยากที่สุด”สาวน้อยตงเอ๋อร์ก็ร้องขอความดีความชอบอย่างนึกสนุก
“วันนี้ทุกคนอยากกินสิ่งใดก็สั่งได้เต็มที่”ทุกคนต่างร้องอย่างยินดีแม้แต่สององครักษ์หน้านิ่งยังอดยกมุมปากตามไม่ได้ เด็กสาวก็ต้องมีมุมสดใสเช่นนี้
พวกเขาไม่สามารถนำภาพที่เห็นในวันนี้ไปเปรียบเทียบกับท่านทายาทที่วางค่ายกลกักขังทหารสามหมื่นนายให้ตกอยู่ในวงล้อมได้ ยังมีตอนประลองยุทธ์กับเหล่าทหาร เด็กสาวอายุสิบกว่าปีหลานสาวท่านผู้นำเอาชนะเหล่าชายฉกรรจ์ที่มาท้าประลองได้อย่างราบคาบ
พวกเขายังจำกระบวนท่าการใช้ง้าวจันทร์เสี้ยวหนักห้าสิบกว่าชั่งนั้นได้ต้องฝึกร่างกายขนาดไหนกันถึงใช้อาวุธที่ขึ้นชื่อว่าควบคุมยากที่สุด ท่วงท่ามิได้สวยงามแต่ต้านทานการโจมตีของทหารนับสิบได้ ไม่มีผู้ใดแคลงใจในความสามรถของท่านทายาทแม้แต่น้อย
วุ่นวายกันมาั้แ่เช้าสองวันมานี้หลายสิ่งเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย ข่าวลือหนาหูในแวดวงขุนนางท้องถิ่น จากอำเภอเล็กๆ แห่งหนึ่งว่ากันว่าองค์ชายเสด็จมา หา... เป็องค์ชายท่านใดกันสถานที่ห่างไกลความเจริญเช่นนี้จะเสด็จมาด้วยเหตุใด
ข่าวบอกว่าเป็องค์ชายลำดับที่สี่ที่พึ่งได้รับแต่งตั้งเป็ ฉินอ๋อง ข่าวจากเมืองหลวงเขาก็เล่ากันว่าแต่เล็กจนโตฉินอ๋องผู้นี้มิได้แสดงตนว่ามีความสามารถโดดเด่นอันใด แต่เมื่อปีที่แล้วเกิดมหาอุทกภัยครั้งใหญ่เป็เหตุให้เขื่อนปัวชงแตก ประชาชนได้รับผลกระทบอย่าใหญ่หลวง ผู้คนาเ็ล้มตายเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ ท่ามกลางเหตุการณ์คับขันเช่นนี้ฉินอ๋องกับเสนอตัวเองไปจัดการปัญหา
เหตุการณ์ครั้งนั้นก็จบลงไปด้วยดีผู้คนสรรเสริญ ฉินอ๋องเปี่ยมไปด้วยปรีชาจัดการอุทกภัยและโรคระบาดได้อย่างดี ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ฉินอ๋องเป็องค์ชายที่ถูกจับตามอง แม้ราชวงศ์จะมีไท่จื่อแล้วแต่อนาคตกลับไม่แน่นอนเสมอไป
กลับมาที่เื่ฉินอ๋องมาปรากฏตัวที่อำเภอเล็กแห่งนี้ ได้ข่าวมาว่ามีชาวบ้านขึ้นเขาไปหาของป่าเจอชายหนุ่มรูปงามนอนจมกองเือยู่ในโพรงหญ้า ด้วยกลัวว่าคนจะสิ้นใจชาวบ้านคนนั้นก็ใช้เกวียนขนผู้าเ็มาส่งให้ทางการ พอท่านนายอำเภอเห็นหน้าผู้าเ็เท่านั้นถึงกับเข่าอ่อน โอรสที่กำลังเป็ที่โปรดปราณเหตุใดถึงมานอนจมกองเือยู่ในดินแดนอันห่างไกลความเจริญเช่นนี้
นายอำเภอมิกล้ารอช้ารีบตามหมอแล้วแจ้งข่าวไปยังราชสำนักทันที จนฉินอ๋องได้สติขึ้นมาก็รับรู้ว่าแผนการที่วางไว้ไม่เป็ดังหวังซ้ำข่าวยังแพร่ไปทั่วราชสำนักแล้ว อ๋องผู้หนึ่งมิมีงานราชการอันใดแต่กลับมาปรากฏตัวบนูเาอันห่างไกลที่ไม่ใช่เมืองในการปกครองของตน คนไม่คิดมากอาจจะบอกว่าเขามาท่องเที่ยวแล้วเจอโจรป่า แต่ศัตรูทางการเมืองคงใส่สีตีไข่ว่าเขาไปแอบซ่องสุมกองกำลังคิดการไม่ซื่อ
บัดซบ น่าตายนัก
หากคาดการณผลลัพธ์จะออกมาเป็เช่นนี้ เมื่อวานข้าคงมิต้องเสียเวลาทำในสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์
เส้นทางบนเขาสายนั้นก็มิใช่จะไร้ผู้คนชาวบ้านที่หาของป่าล่าสัตว์เป็อาชีพมีให้เห็นอยู่เนืองๆ ความคิดชาวบ้านเหล่านี้มิได้ซับซ้อน เจอคนไม่คิดปล้นชิงกลับช่วยเหลืออย่างสุดกำลังยอมสละเวลาทำมาหากินลากจูงคนแปลกหน้าไปหาทางการ สุดท้ายผลลัพธ์ก็เป็เช่นนี้ กำลังเป็ที่โปรดปราณแท้ๆ จุ จุ ไม่ทันไรก็สร้างความระแวงเสียแล้ว
หมากกระดานนี้เพิ่งเริ่ม หลี่หยวนเฮ่า มาเล่นกับข้าสักหน่อย
กว่าจะเดินทางกลับมาถึงจวนฟ้าก็มืดแล้ว เป็วันที่สนุกอีกวันหนึ่งเห็นได้ชัดจากเ้าก้อนแป้งทั้งสองทีเล่นสนุกจนหลับไประหว่างทาง เป็เด็กก็ดีเช่นนี้กินอิ่มแล้วก็นอนหลับอย่างสบายใจ รถม้าแล่นมาถึงหน้าจวนซ่างกวนอย่างนุ่มนวล แสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ขององครักษ์ทั้งสอง
ข้าอุ้มเ้าซีส่งให้ตงเอ๋อแล้วตัวเองอุ้มเ้าเยี่ยนตามออกไป ออกมาจากรถม้าก็เห็นคนมารออยู่หน้าประตูไม่น้อยทั้งท่านพ่อท่านแม่ ท่านปู่ ท่านปู่รองและก็ท่านปู่น้อยก็มากันครบ นี่เป็วันรวมญาติหรืออย่างไร ข้าและตงเอ๋อส่งน้องชายทั้งสองให้กับท่านพ่อท่านแม่อย่างรู้งาน ด้วยท่านทั้งสองไม่ยุ่งเกี่ยวเื่ภายในตระกูลเท่าใดนักจึงปลีกตัวออกไปก่อน จึงเหลือแต่ตาเฒ่าพวกนี้ที่กำลังจ้องนางตาเขม็ง
“เมื่อวานก็เล่นละครเสียใหญ่โต วันนี้เ้ากลับลงเขาไปเที่ยวเล่น ซ่างกวนจือหลิน เ้าเห็นเหล่าผู้าุโเป็เพื่อนเล่นหรือ”ซ่างกวนอู๋จี๋ถลึงตาด่าทอหลานสาวตัวดี เขาก็รอั้แ่เช้าจรดเย็น ทั้งยังส่งจดหมายไปตามน้องชายทั้งสองมาร่วมหารือ แต่เ้าหลานสาวตัวดีกลับหายหัวไปั้แ่เช้าจนกลับมาเอายามนี้
“หลานคงมีสิ่งที่ต้องทำพี่ใหญ่ท่านจะโมโหให้ได้สิ่งใด พูดจากันด้วยเหตุผลสิขอรับ”ซ่างกวนอู๋ิที่แต่งกายเป็บัณฑิตผู้ทรงภูมิลูบเคราขาวเอ่ยปรามพี่ใหญ่ของตน หมีโง่ตนนี้ดีแต่ใช้กำลังตัดสินปัญหา ไม่ได้ดั่งใจก็ด่าทอหนักหน่อยก็ใช้กระบองไล่หวดคน
“พี่รองพูดมีเหตุผลๆ พี่ใหญ่ท่านมีสิ่งใดก็ไปพูดกันในเรือน มาด่าหลานสาวแสนดีของข้าหน้าจวนเช่นนี้ วันหน้าหาสามีไม่ได้คงต้องโทษท่านแล้ว”ผู้ที่กล่าวสนับสนุนขึ้นมามิใช่ใครอื่นเป็ท่านปู่น้อยของเหล่าหลานๆ แม้จะเรียกขานเป็ท่านปู่แต่ด้วยเป็ลูกหลงของครอบครัวจึงมีอายุห่างจากพี่ๆ มากนัก แลดูไม่คล้ายพี่น้องเหมือนพ่อลูกมากกว่า
ซ่างกวนอู๋ิ่ยิ้มตาหยีให้เ้าหนูหลินหลินสุดที่รัก ดูสิเดี๋ยวนี้หัดแต่งตัวดังเช่นสาวน้อยตระกูลใหญ่แล้ว แต่ก่อนวันๆ เอาแต่ใส่ชุดฝึกยุทธ์ของบุรุษ ชายหนุ่มที่ไหนจะมาชอบ
“เพ้ย! เ้าเล็กหลานข้ายังเด็กขนาดนี้เ้าอย่ามาพูดจาอัปมงคลสามงสามีอันใด”เสียงะโด่านี้ดังขึ้นพร้อมกัน เห็นได้ชัดว่าพี่ใหญ่กับพี่รองของเขานั้นเป็เอามาก เกินเยียวยาแล้ว
“ท่านปู่อย่าถียงกันอีกเลยเ้าค่ะ เราเข้าไปหารือในเรือนกันเถิด”
“ไป!”ท่านปู่กับท่านปู่รองของข้าสะบัดแขนเสื้อเดินนำหน้าอย่ามิค่อยพอใจนัก
“เ้าหนูหลินหลิน หารือเื่อันใดกันเ้าบอกปู่น้อยมา”
“ท่านปู่น้อยก็ ถามแบบนี้หลานก็อายจะบอกนะเ้าคะ”ข้ามองตาเฒ่าทั้งสองที่จงใจชะลอฝีเท้าเพื่อแอบฟัง
“บอกปู่น้อยมา อย่าทำตัวมีความลับ”ท่านปู่น้อยส่งเสียง จิ จิ จิอย่างขัดใจ
“ก็...ก็เื่ว่าที่สามีในอนาคตอันใกล้นี้ของข้าอย่างไรเล่า”
ฮ่า ฮ่า ฮ่าข้ามองตาเฒ่าทั้งสามที่หยุดเดินโดยพร้อมเพรียง จู่โจมโดยมิทันได้ตั้งตัว เสร็จแล้วก็จากไปอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งไว้เพียงความเสียหายทางจิตใจที่คนแก่ทั้งสามได้รับ กว่าจะได้สติตัวก่อเื่ก็เดินหายไปแล้ว
ซ่าง กวน จือ หลิน
ผู้าุโทั้งสามมุ่งมายังห้องประชุมด้วยโทสะเทียมฟ้า ในหัวขบคิดเป็หมื่นตลบ มันเป็ใคร ไอ้หนุ่มสารเลวที่มาล่อล่วงหลานสาวของเขา มันต้องไม่ตายดี
เห็นๆ กันอยู่ว่าโทสะทำให้สติปัญญาของคนลดลงไป ยิ่งเป็ตาเฒ่าที่หวงหลานสาวดุจจงอางหวงไข่ แล้วมิต้องพูดถึงเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งสามเดินหน้าบึ้งตึงเข้ามาในห้องประชุม เมื่อผู้นำมาถึงแล้วเหล่าผู้าุโรวมถึงท่านทายาทที่มาถึงก่อนหน้าต่างก็ลุกขึ้นยืนทำความเคารพอย่างพร้อมเพรียง
ซ่างกวนอู๋จี๋กวาดตามองไปทั่วห้องทำสัญญาณให้ทุกคนนั่งลงได้
ก่อนที่จะมีผู้ใดเปิดประเด็นหลักของเื่ท่านผู้นำตระกูลกลับเป็ฝ่ายเอ่ยปากขึ้นมาก่อน“ในฐานะผู้สืบทอดเ้าควรต้องรู้ว่า สิ่งที่พูดออกมาไม่ว่าจะจริงหรือเท็จ เ้าก็ควรต้องอธิบายมันให้ชัดเจน พูด!”
เอ่อ...ท่านผู้นำกำลังพูดถึงเื่อันใด มาถึงก็คาดโทษท่านทายาทเช่นนี้ มันต่างกับท่าทีว่าต้องหารือกันจากเมื่อวานลิบลับ หรือว่ามีเื่อะไรอีก
“เรียนถามท่านผู้นำ ไม่ทราบว่าท่าน้าให้ข้าชี้แจงเื่ใด”ท่านทายาทลุกขึ้นประสานมือสอบถามอย่างมีมารยาท ทุกคนในห้องต่างมองปู่หลานสนทนากันอย่างเงียบๆ
“ยังจะมาทำไขสือ หากวันนี้เ้าไม่อธิบายสิ่งที่พูดออกมาเมื่อครู่เื่อื่นก็ไม่ต้องพูดถึงมันแล้ว”ท่านผู้นำตระกูลพูดออกมาอย่างหนักแน่น พร้อมกับท่านผู้าุโรองและท่านผู้าุโสามพยักหน้าสนับสนุนอย่างเต็มที่ คนที่อยู่ในห้องที่เหลือต่างยืดตัวตรงรอฟังวาระสำคัญที่มิอาจปล่อยผ่านนี้
“อ้อ...ท่านผู้นำคงจะหมายถึงเื่ว่าที่สามีในอนาคตอันใกล้ของข้ากระมัง ก็ไม่มีสิ่งใดต้องชี้แจ้ง ว่าที่สามีคือคือว่าที่สามี”ข้าตอบอย่างหน้าตายไม่ได้สนใจสีหน้าตกตะลึงของคนทั้งห้องแม้แต่น้อย
“บัดซบยังจะเล่นลิ้น วันนี้ข้าจะตีเ้าให้ตาย”ซ่างกวนอู๋จี๋ลุกขึ้นไปหยิบกระบองมาจะหวดหลานสาวให้ขาหัก
“พี่ใหญ่ท่านไปนั่งสงบใจก่อน คุยกันเช่นนี้อีกสามวันก็ไม่ได้ความ น้องสามเ้าเฝ้าพี่ใหญ่ไว้อย่าให้อาละวาทได้”ปู่รองสั่งน้องชายคนเล็กให้ไปควบคุมพี่ชายสมองน้อยของตนไม่ให้อาละวาท พอเห็นว่าควบคุมคนแก่หัวรั้นได้แล้วเขาก็หันไปยิ้มให้หลานสาวอย่างอบอุ่น ทำสัญญาณมือให้เ้าตัวเล็กนั่งลง
“เอาล่ะ ปู่รองได้ฟังเื่มามากพอแล้ว หลานสาว ปู่มีคำถามไม่กี่ข้อที่ทุกคนในห้องนี้้าจะทราบ”
“ท่านปู่รองเชิญถาม”ข้ายืดตัวตรงรอฟังอย่างตั้งใจ
“เป็ผู้ใด วงศ์ตระกูลเป็เช่นไร มีความสามารถอะไร”คำถามที่รวบรัดเอาทุกประเด็นที่ทุกคนอยากรู้ หากมีข้อบกพร่องเพียงนิดพวกเขาในที่นี้จะคัดค้านอย่างสุดชีวิต
“ตอบท่านปู่และผู้าุโทุกท่าน คนผู้นี้แซ่เฉิน นามว่าอี้ ตระกูลเฉินแห่งเปี้ยนจิง ปู่คืออิงกั๋วกงเฉินปิน บิดาเฉินเต๋อเป็บัณฑิตทั่นฮวา มารดาคือสตรีสูงศักดิ์จากตระกูลหลิน”
“…”
“เฉินอี้ผู้นี้ปัจจุบันอายุยี่สิบสี่ ดำรงตำแหน่งรองแม่ทัพ ทั้งยังเป็ทายาทผู้สืบทอดบรรดาศักดิ์ต่อจากผู้เป็ปู่ ด้วยมุ่งมุ่นสร้างผลงานเฉินอี้ผู้นี้จึงยังไม่แต่งภรรยาไร้คู่หมั้นหรือคู่หมาย ท่านปู่คงทราบหลานจะเข้าราชสำนัก การเกี่ยวดองกับตระกูลเฉินเป็ทางเลือกที่ดีนะเ้าคะ”
“เฉินอี้เ้าหนุ่มคนนี้ตอนท่านปู่รองอยู่ข้างนอกก็พอได้ยินเชื่อเสียงมาบ้าง”ซ่างกวนอู๋ิแทบจะควบคุมสีหน้าสงบนิ่งเอาไว้ไม่ได้ แม่หมูบ้านตนช่างเลือกหัวผักกาดที่หญิงสาวทั่วเปี้ยนจิงต่างหมายปอง
“ดีกับผีสิ เ้ารองอย่าพูดจาเลอะเลือน”ท่านผู้นำอย่างเขาปวดใจยิ่งนักจะหาข้อคัดค้านก็ไม่ได้ เ้าหนุ่มนี่มันหาที่ติไม่เจอจริงๆ หลานชายของตาเฒ่าเฉินปินหากบอกว่าเป็คนไร้ความสามารถ ทั่วทั้งใต้หล้านี้คงหาคนมีความสามารถไม่ได้อีกแล้ว
“ท่านปู่...ท่านไม่คิดเผื่อวันข้างหน้าของหลานสักนิดเลยหรือ พลาดจากเฉินอี้ไปจะไปหาคนที่หน่วยก้านดีอย่างนี้จากที่ไหน ข้าได้ข่าวมาว่าองค์หญิงในวังยังสนใจเขาเลย รบเร้าให้ฝ่าาประทานสมรสให้ หากเราชักช้าผักกาดขาวหัวนี้คงต้องให้หมูพวกนั้นกินเสียเปล่า”ข้ามองสีหน้าของผู้เฒ่าทั้งสามที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างคนที่หาจุดหมายของชีวิตไม่เจอ หวงหลานสาวก็หวงแต่กล้าพันธุ์ชั้นดีเช่นนั้นจะปล่อยให้ผู้อื่นได้ไปก็ไม่ได้
เ้าสิเป็หมู ทั้งบ้านเ้าล้วนเป็หมู ท่านปู่ทั้งสามถลึงตาใส่คำพูดจาของหลานสาว เพ้ย
“ท่านปู่...นี่คือชะตาลิขิตนะเ้าคะ กว่าที่ทางเราจะมีทายาทหญิงเกิดมาสักคนแล้วให้เหมาะเจาะกับทางฝั่งตระกูลเฉินทายาทของพวกเขายังไม่มีพันธะ ข้าว่าถึงเวลาที่ต้องทำให้ความฝันของท่านบรรพบุรุษเป็จริงแล้ว”ข้าปล่อยหมัดเด็ดออกไปอย่างต่อเนื่อง เล่นเอาตาเฒ่าทั้งสามที่มีทาทีคัดค้านหลงเหลืออยู่จำต้องยอมรับอย่างเสียมิได้
“เอาล่ะๆ ปู่รองและทุกคนล้วนทราบถึงข้อตกลงระหว่างสองตระกูล คราแรกกะจะรอให้เ้าปักปิ่นก่อนค่อยบอกแต่เ้าเอ่ยขึ้นมาก่อนก็เป็อันรับรู้โดยทั่วกัน พี่ใหญ่ท่านว่าเช่นนี้ดีหรือไม่”
“ข้าจะพูดอะไรได้อีก หึ”ท่านผู้เฒ่าแค่นเสียงอย่างอัดอั้น
“หลานขอบพระคุณท่านปู่ที่อนุญาต ขอบพระคุณเหล่าผู้าุโที่เห็นชอบ”ร่างอรชรในชุดสีกลีบบัวย่อกายคารวะอย่างอ่อนช้อย
“ทำเป็ดีใจจนออกนอกหน้า ตกลงเ้าจะแต่งงานหรือจะเป็แม่ทัพ ทำสิ่งใดอย่าให้เหมือนเด็กเล่น สุดท้ายแล้วเ้าจะไม่ได้สิ่งใด”ซ่างกวนอู๋จี๋ตีขรึมสั่งสอนหลานสาว มันน่าน้อยใจนักจะแต่งงานกับคนในหุบเขานี่เขาจะไม่คัดค้านแม้แต่น้อย นี่อะไรอยากจะวิ่งไปเสี่ยงภัยยังเมืองใหญ่ เ้าหนูน้อยที่วิ่งตามเขาต้อยๆ ไปทั่วหุบเขาบัดนี้จะไปเป็ของผู้อื่นแล้ว
“หลานทราบแล้ว”
“ทุกท่าน วาระเร่งด่วนในวันนี้คือแผนการรบกับแคว้นเหลียว”ข้าเอ่ยเข้าหัวข้อที่จะหารือกันในวันนี้อย่างไม่อ้อมค้อม
“ท่านทายาทพวกเราก็ได้ปรึกษาเื่นี้กันมาบ้างแล้ว มติในการประชุมครั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับยุทธวิธีที่ท่านวาง หากท่านทายาทสามารถทำให้พวกเราเชื่อว่าาจะประทุขึ้นและมีแนวโน้มที่สถานการณ์จะเลวร้าย ขอให้ท่านทายาทเปิดมุมมองของคนรุ่นใหม่ให้เหล่าผู้เฒ่าได้ประจัก”
ผู้ที่ลุกขึ้นกล่าวเป็ผู้าุโแซ่เจิ้ง ท่านเป็อดีตแม่ทัพที่เคยไปรับใช้ราชสำนักอยู่่เวลาหนึ่ง ต่อมาท่านก็ออกจากกองทัพกลับมารับ่ฝึกฝนเหล่าทหารกล้าของตระกูลซ่างกวน ความคิดเห็นของผู้าุโเจิ้งในตระกูลล้วนมีน้ำหนักอยู่หลายส่วน ท่านผู้เฒ่าเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันทรงพลังทุกคนในห้องต่างก็ส่งเสียงอย่างเห็นชอบ
“ผู้าุโทุกท่าน...จือหลินทราบถึงความร้ายแรงของเื่นี้ดี
ประการแรก ข้าวิเคราะห์จากสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังระส่ำระส่าย เหตุน้อยใหญ่ในราชสำนักจะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่แต่ก็มิได้เล็กจนมิอาจก่อคลื่นลมใดๆ ประกอบกับอ๋องจากดินแดนทางใต้ที่ไร้อำนาจผู้หนึ่งยกธงฏ ฝ่าารับสั่งให้อิงกั๋วกงยกทัพไปปราบด้วยตัวเอง เื่ราวน้อยใหญ่เหล่านี้หากมองผิวเผินย่อมไม่เกี่ยวข้องกัน แต่เมื่อนำเื่ราวมาประกอบกันก็จะพบความเชื่อมโยง
เริ่มด้วยความวุ่นวายในราชสำนักที่เกิดขึ้นสร้างความวิตกให้ฮ่องเต้ แม้ไม่มากแต่ก็ได้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความหวั่นเกรงเอาไว้ ไม่มีผู้ปกครองคนไหนชื่นชอบสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม เมื่ออ๋องทางใต้ยกธงฏก็ยิ่งเพิ่มพูนความหวาดหวั่นให้ฮ่องเต้ การตัดสินใจส่งแม่ทัพใหญ่ไปปราบฏที่ไม่ทราบที่มาอย่างชัดเจนเห็นได้ชัดว่าเป็การใช้มีดฆ่าวัวมาฆ่าไก่
ข้าครุ่นคิดถึงความเป็ไปได้ หากมีผู้จงใจก่อกวนชักใยอยู่เื้ัเล่า จะเป็ผู้ใดกัน อ๋องอะไรนั่นต้องมีกองทัพที่แข็งแกร่งเพียงใดถึงจะสามารถเอาชนะกองทัพของอิงกั๋วกงได้ ยิ่งคิดข้าก็ยิ่งเห็นความไม่ชอบมาพากลของเื่ ใครกันที่จะได้ประโยชน์จากเื่พวกนี้เมื่อกองทัพใหญ่ยกทัพลงไปทางใต้อันห่างไกล จะเป็เหล่าองค์ชายที่อ่อนหัดพวกนั้นรึ ข้าตัดความเป็ไปได้นั้นไปทันที
ประการที่สอง ข้ามองสถานการณ์โดยรวมของแคว้นใน่ครึ่งปีมานี้จนมาสะดุดอยู่ตรงข่าวสถานการณ์ชายแดนเหนือใน่นี้ ย้อนไปั้แ่ราชสำนักเกิดเื่วุ่นวายอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงเหตุการณ์ก่อฏนั้น ชายแดนเหนือเงียบสงบอย่างแปลกประหลาด
คนทั่วไปอาจจะคิดว่าเป็เื่ดีที่ไม่เกิดทั้งศึกในศึกนอก แต่ฟ้าจะเมตตาเพียงนั้นหรือ อิงกั๋วกงคงเห็นถึงความเป็ไปได้นี้แต่ราชโองการยากจัดขัด คิดว่าหากแคว้นเหลียวบุกมาจริงพวกเขาคงกลับไปทัน
ทว่าฟ้าลิขิตมิอาจเทียบมนุษย์ที่ลงมือทำ เย่ว์ลู่ ทัวปาจี๋เป็ผู้ใดกัน เขาจ้องจะรุกรานแคว้นซ่งมาั้แ่หัดขี่ม้ายิงธนูเป็ มีความเป็ไปได้ว่าเื่ราวที่เกิดขึ้นเป็ฝีมือของเขาร่วมมือกับคนใน เราส่งสายลับออกไปสอดแนมยังแคว้นต่างๆ ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ส่งมาเช่นกัน เย่ว์ลู่ ทัวปาจี๋ยกทัพมาแน่ เป็ทัพใหญ่ของแคว้นเหลียว มิใช่กองทัพที่ถูกส่งมาหยั่งเชิงอย่างที่เคย ข้าคาดการณ์ว่าในยี่สิบวันนี้ข้าศึกต้องบุกมาแน่”
“ท่านทายาทใช้สิ่งใดมาคาดการณ์ว่าในยี่สิบวันนี้ทัพเหลียวจะบุกมา”ผู้าุโเจิ้งลูบเคราเรียวยาวใช้สายตาอันล้ำลึกมองท่านทายาทแววตาเผยแววแห่งความภูมิใจออกมา
“ในยี่สิบวันนี้ทัพใหญ่ของอิงกั๋วกงคงเดินทางไปถึงทางใต้แล้ว หากข้าเป็เย่ว์ลู่ ทัวปาจี๋ เวลาที่อิงกั๋วกงใช้เดินทางกลับมารับศึกหลังจากทราบข่าว ข้าคงยึดหัวเมืองสำคัญทางเหนือของแคว้นซ่งไว้ได้ ด้วยชัยภูมิที่เป็ต่อ ฝีมือการทำศึกที่สูสีกับเฉินปินโอกาสที่ข้าจะบุกเปี้ยนจิงก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม”ข้าบอกสิ่งที่ตนเองคิด ไม่สิ จะเรียกว่าคิดขึ้นมาคงจะไม่ถูกนัก ต้องบอกว่าข้าเล่าเื่ราวที่จะเกิดขึ้นออกมาอย่างเยือกเย็น
“ท่าน้ากำลังพลเท่าใด”เสียงผู้เฒ่าเจิ้งดังขึ้นอีกครั้ง ทุกคนต่างมองท่านทายาทอย่างพร้อมเพรียง ระเบียบทางทหารที่ผึกฝนมาอย่างเข้มงวดแม้การประชุมจะสำคัญเพียงใดหากไม่มีข้อโต้แย้งที่สมเหตุสมผลกว่าก็ได้แต่ฟังและทำตาม
“ทหารม้าหนึ่งแสนนาย
พลธนูหนึ่งแสนนาย
ทหารราบสามแสนนาย
เสบียงอาหารและยุทโธปกรณ์ที่พร้อมใช้เป็เวลาหนึ่งเดือน และสำรองไว้สำหรับการรบที่ยืดเยื้ออีกแปดเดือนเป็อย่างต่ำ”
“ซ่างกวนจือหลิน...หากสิ่งที่เ้าพูดมาไม่เกิดขึ้นเ้ารู้ถึงสิ่งที่จะตามมาหรือไม่”ซ่างกวนอู๋จี๋ในฐานะผู้นำตระกูลไม่ได้ะเืกับสิ่งที่หลานสาว้า แต่หน้าที่ของเขาคือทำให้ตระกูลตำรงอยู่ต่อไปอย่างปลอดภัย การทำสิ่งที่เสี่ยงอันตรายจึงไม่เคยอยู่ในความคิดของเขา
“ท่านผู้นำตระกูล หากเื่มิได้เป็ดั่งที่ข้าคาดการณ์ ผลที่ตามมาคือกองทัพของตระกูลซ่างกวนถูกเปิดเผย ตัวตนของพวกเราอาจจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในทางเสียหาย อาจรุนแรงถึงข้อหาฏ
วันนี้ข้า...ซ่างกวนจือหลิน ทายาทผู้สืบทอดลำดับที่53 ขอใช้มติในวันนี้เป็สิ่งตัดสินในเส้นทางของตระกูลในอนาคต หากทุกท่านไม่เห็นชอบตระกูลของเราก็จะอยู่ในหุบเขาแห่งนี้ตลอดไป คุณงามความดีที่บรรพชนส่งสมมาก็จะถูกลืมเลือนไปในที่สุด
หากทุกท่านเห็นชอบ ข้าก็จะทุ่มเทความสามรถทั้งหมดที่ได้รับการสืบทอดจากบรรพบุรุษ ประทับซ้ำความสามารถและเกียรติยศให้เป็ที่ประจักษ์ หากยามที่ตระกูลอ่อนแอก็จะมิมีผู้ใดกล้ามาท้ามายหรือคิดร้าย”
“หากทุกท่านเห็นชอบโปรดยกมือขึ้น”เมื่อสิ้นเสียงของท่านผู้นำไม่มีการหันซ้ายขวาหรือส่งสายตาปรึกษากันแม้แต่นิด เหล่าผู้าุโต่างมีความคิดเห็นที่ตรงกันทุกคนต่างยกมือลงมติเห็นชอบ
หลายร้อยปีที่ฝึกฝนกองทัพเพื่อเตรียมตัวออกศึกในยามคับขัน มาถึงรุ่นของพวกเขาเหตุผลชัดเจนข่าวสารน่าเชื่อถือจะให้พวกเขาทำตัวเป็เต่าจำศีลต่อไป เกียรติของตระกูลนักรบคงรักษาเอาไว้ไม่ได้แล้ว
“เมื่อทุกท่านเห็นชอบ ข้าซ่างกวนอู๋จี๋ขอใช้ฐานะผู้นำตระกูลแต่งตั้ง ซ่างกวนจือหลิน ทายาทแห่งข้า ให้ดำรงตำแหน่งแม่ทัพิญญาพยัคฆ์ มอบป้ายคำสั่งทางการทหาร และดาบเขี้ยวพยัคฆ์ดาบคู่กายของท่านบรรพบุรุษ
พร้อมทหารกล้าของตระกูลซ่างกวนติดตามออกศึกห้าแสนนาย
ทำความเคารพท่านแม่ทัพ!”ท่านผู้นำลุกขึ้นทำความเคารพแม่ทัพคนใหม่
“ทำความเคารพท่านแม่ทัพ!”
ทุกคนลุกขึ้นประสานมือทำความเคารพกันอย่างพร้อมเพรียง ข้าลุกขึ้นทำความเคารพตอบอย่างหนักแน่น ในใจพลุ่งพล่านไปด้วยความปิติ ความรู้สึกของการเป็ที่ยอมรับของคนในครอบครัวเป็เช่นนี้ หนทางแห่งการพิสูจน์ตนเองพึ่งจะเริ่มเท่านั้น ข้าจะทำให้ผู้ที่เคยใช้ข้าเป็บันได้เหยียบย่ำไปสู่ความสำเร็จได้รู้ซึ้งถึงพลังที่แท้จริงของตระกูลซ่างกวน
หนี้เืต้องล้างด้วยเื
ชาติที่แล้วติดหนี้ไม่ใช้คืน ชาตินี้ข้าจะเก็บทบต้นทบดอกอย่างสาสม