พอเห็นว่าอวี๋ถงที่เมื่อครู่ยังแข็งแกร่งที่สุดในตอนนี้กลับสลบไปแล้ว ลูกศิษย์ของสำนักภูตผีและสำนักโลหิตจึงหมดสิ้นซึ่งปณิธานใดการต่อสู้
พวกเขาะโเสียงดังบอกโม่ซี ให้โม่ซีรีบกลับมาโดยเร็วที่สุด
โม่ซีที่ถูกพวกอันอิ่งโอบล้อม รอบกายมีเงาผีมากมายลอยวนเวียน เงาผีเ่าั้ดุร้ายสยองขวัญ พุ่งเข้าโจมตีพวกอันอิ่งอย่างต่อเนื่อง
เดิมทีโม่ซีคิดจะฝ่าแนวป้องกันของพวกอันอิ่งเพื่อไปสังหารเนี่ยเทียน แต่ไม่นานก็ค้นพบว่าด้วยพละกำลังของเขาเพียงคนเดียวมิอาจทำให้ความปรารถนาของเขาเป็จริงได้เลยแม้แต่นิด
รอจนเขาได้ยินเสียงร้องเรียกด้วยความร้อนรนจากด้านหลังจึงตระหนักได้ทันทีว่าอวี๋ถงถูกพลังโจมตีกลับ ยากที่จะช่วยพวกเขาได้อีก
อันที่จริงเขาก็เข้าใจั้แ่แรกแล้วว่าอวี๋ถงที่กินยาโลหิตทรงพลังเข้าไปห้าเม็ด ไม่พูดถึงข้อที่ว่าจะสามารถฆ่าเนี่ยเทียนได้หรือไม่ อย่างไรตัวนางเองก็ต้องทรุดลงอย่างไม่มีวันฟื้นขึ้นมา หลังจากนั้นก็มีแต่จะกลายมาเป็ภาระ
“คราวหน้า ข้าต้องฆ่าพวกเ้าทุกคนให้ได้!”
โม่ซีคำรามเสียงต่ำหนึ่งครั้ง ผีร้ายโเี้มากมายพลันขยายขนาดใหญ่ แยกตัวกันออกไปกัดกระชากพวกเจิ้งปิน
ส่วนร่างของเขาเองก็แปลงออกมาเป็ปีศาจร้ายตนหนึ่งที่ล่องลอยราวกับไร้น้ำหนัก แล้วพลันแล่นฉิวออกไปทางด้านหลังของเขา
เมื่อเขากลับมาก็มองเห็นว่าลูกศิษย์สำนักโลหิตได้แบกอวี๋ถงไว้บนหลังเรียบร้อยแล้ว
“ไป!”
ไร้ซึ่งความลังเลใด เขาออกคำสั่งทันที นำลูกศิษย์สำนักภูตผีและสำนักโลหิตที่เหลือห้อตะบึงไปทางเขตเกาะน้ำแข็ง
หลังจากที่เขาหนีไปได้ไม่นาน ผีร้ายที่คำรามกร้าวเข้ามาฉีกทึ้งทุกคนก็ค่อยๆ พร่าเลือน ชั่วขณะเดียวก็หายวับไปไม่เหลือร่องรอย
“ตามไปฆ่าพวกเขา!” เจิ้งปินกัดฟัน
อันอิ่งเองก็ะโก้อง “ต้องเกิดเื่กับนางมารผู้นั้นของสำนักโลหิตแน่ มิฉะนั้นโม่ซีไม่มีทางถอยร่นเด็ดขาด! ฉวยโอกาสที่อวี๋ถงไม่สามารถร่วมรบได้ พยายามสังหารพวกเขาให้สิ้น แก้แค้นให้กับสหายร่วมสำนัก!”
“ตาม!”
ทุกคนเห็นพ้องต้องกันอย่างรวดเร็ว ไล่กวดไปยังทิศทางที่พวกโม่ซีหายไป หมายสังหารลูกศิษย์ของสำนักภูตผีและสำนักโลหิตให้หมดสิ้นไปจากโลกมายามรกต
เื้ัของพวกเขามีเพียงเจียงเหมียวเท่านั้นที่ยังยืนอยู่ข้างกายของเนี่ยเทียน มองเขาอย่างลึกล้ำด้วยสายตาสับสน
เนี่ยเทียนที่นั่งเงียบๆ อยู่ที่เดิมทีดวงตาทั้งคู่ปิดสนิท บนร่างมีคลื่นเืลมพุ่งกรากทะลักทลาย
แสงสีเืรุบรู่ถูกปลดปล่อยออกมาจากิัของเนี่ยเทียนอย่างต่อเนื่อง แสงสีเืเ่าั้ดุจดั่งหมอกควันหนาทึบที่ปกคลุมเรือนกายของเขา ทำให้เนี่ยเทียนในเวลานี้มองดูลึกลับสุดจะหยั่ง
เนี่ยเทียนที่ถูกล้อมรอบด้วยหมอกหนาคล้ายถูกเติมเต็มลมเข้าไปในร่างอย่างต่อเนื่อง ทั้งคล้ายลูกโป่งที่เหี่ยว บางครั้งร่างก็พองขยาย บางครั้งก็ผอมซูบ
นางไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นบนร่างของเนี่ยเทียนกันแน่ แต่กลับรู้ว่าแม้แต่ตาข่ายปฐีของนางมารอวี๋ถงผู้นั้นก็ยังมิสามารถฆ่าเนี่ยเทียนได้
เนี่ยเทียนที่พวกอันอิ่ง เจียงหลิงจูคิดว่าต้องตายอย่างแน่นอน ตอนนี้ลมหายใจมั่นคง หัวใจเต้นอย่างหนักแน่นมีพลัง
พลังชีวิตและปราณเืเข้มข้นที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของเนี่ยเทียน แข็งแกร่งยิ่งกว่าตอนที่เขายังไม่ถูกตาข่ายปฐีกักขังเสียอีก!
“ช่างเป็คนที่แปลกประหลาดยิ่งนัก...” เจียงเหมียวพึมพำเสียงเบา
เนี่ยเทียนร้อนระอุไปทั้งร่าง รู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็เตาหลอม หลอดเืและเส้นเอ็นทุกเส้นต่างก็พองขยายและหดตัวอย่างต่อเนื่อง
แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขารู้แค่ว่าตอนที่เืสดทั่วร่างของเขาถูกเส้นเืแดงมากมายเ่าั้ดึงออกไปจนแห้งเหือด หัวใจของเขาก็พลันเต้นรัวแรงขึ้นมา
วินาทีนั้นเขารู้สึกไม่ยินยอมถึงขีดสุด ้าพลิกเปลี่ยนสถานการณ์ ฝืนขัดขวางการลอยออกของกระแสเื
แล้วเขาก็ทำได้จริงๆ!
ขณะที่หัวใจของเขาเต้นกระหน่ำด้วยวิธีการที่ยากจะอธิบายอย่างหนึ่ง เขาก็ััได้ว่าท่ามกลางหัวใจของเขาดวงนั้น พลันมีพละกำลังลึกลับอย่างหนึ่งพวยพุ่งขึ้นมา!
เมื่อพละกำลังนั้นเกิดขึ้น พริบตาเดียวก็ส่งผลกระทบกับเืสดทั่วร่างเขาทันที แม้แต่เืที่ถูกดึงออกไปจากหลอดเืก็ยังตอบสนองกับหัวใจของเขาขึ้นมากะทันหัน
และเวลานั้นเอง เืทั้งหมดที่ถูกสูบออกไป ล้วนถูกหัวใจของเขาดึงรั้งกลับเข้ามาในหลอดเืตามเดิม
ไม่เพียงเท่านี้ แม้แต่เส้นเืแดงสดเ่าั้ก็ยังถูกฉุดกระชากให้เข้ามาหลอมรวมในร่างกายของเขาด้วย
เขาไม่รู้ว่าเส้นเืแดงสดพวกนั้นล้วนเป็เืของสัตว์วิเศษระดับสองที่อวี๋ถงใช้เวทหลอมเือันเป็วิชาเฉพาะของสำนักโลหิตมาหลอมข้ามวันข้ามคืนจนกลายมาเป็อาวุธร้ายกาจที่ซุกซ่อนในปราณเืเข้มข้น
เขารู้แค่ว่า เส้นเืแดงสดมากมายต่างก็แฝงเร้นไว้ด้วยปราณเืพรั่งพร้อมสมบูรณ์
อีกทั้งสารที่จำเป็สำหรับเืเนื้อเ่าั้ ตอนนี้พอถูกรับเข้ามาในหลอดเืก็ได้ปะปนเข้าเป็หนึ่งเดียวกันกับเืสดของเขา!
การสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า การพองขยายทุกครั้งของหลอดเืและเส้นเอ็น การเติมลมให้กับเรือนกาย คล้ายทำให้เืสดของเขาสูดเอาสารจำเป็ต่อเืเนื้อที่ซุกซ่อนอยู่ในเส้นเืแดงสดเ่าั้มาอย่างละโมบ
ปราณเืจำนวนมากที่แฝงเร้นอยู่ในเืของสัตว์วิเศษระดับสอง หลังจากถูกร่างกายที่เป็ดั่งเตาหลอมขนาดใหญ่ของเขากลั่นหลอมครั้งแล้วครั้งเล่า จึงกลายมาเป็สารอาหารของเืสดอย่างสมบูรณ์แบบ และได้เริ่มบำรุงเืของเขา
ท่ามกลางขั้นตอนนี้เขาใช้กระแสจิตไปััจึงพบว่าท่ามกลางเืสดของเขาคล้ายจะมีสัญลักษณ์ลึกลับบางอย่างปรากฏวาบขึ้น
เขาแอบััได้ว่าเืสดในร่างของเขาแตกต่างไปจากคนปกติ!
เพียงแต่ว่าความลับที่อยู่ในเืของเขานั้น ดูเหมือนจะถูกซุกซ่อนไว้อย่างลึกล้ำ หากไม่ถึง่เวลาที่สำคัญ หากเขาไม่ตกอยู่ในสภาวะจนตรอกอย่างถึงที่สุด จะไม่มีทางปรากฏขึ้นมาเด็ดขาด
และเนื่องจากขอบเขตของเขาไม่เพียงพอ เรือนกายนี้ยังอยู่ไกลกับคำว่าแข็งแกร่งทรงพลังมากนัก ทำให้เขามิอาจค้นเจอความลึกลับในเืของตัวเอง
การที่เืสดในร่างเขาดูดเอาเส้นเืมากมายเข้ามา กลั่นหลอมปราณเืที่อยู่ในเส้นเืพวกนั้น คล้ายว่าเป็เพียงวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการเปิดเผยความลับของกระแสเือย่างหนึ่งเท่านั้น
แม้ว่าในใจจะมีข้อกังขามากมาย แต่เขากลับไม่เข้าไปก้าวก่ายความผิดปกติในร่าง แต่ปล่อยวางจิตใจ ปล่อยให้เรือนกายนี้ดำเนินการไปตามวิธีที่พิเศษ
ตัวเขาเองกลับกลายมาเป็เหมือนผู้ชมคนหนึ่งที่อาศัยเพียงแค่กระแสจิตคอยสังเกตการณ์อยู่เงียบๆ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เขาค่อยๆ ค้นพบว่าปราณเืที่มาจากเส้นเืแดงสดเ่าั้ได้หายไปอยู่ในเืของเขาหมดแล้ว
เสียงหัวใจที่เต้นดังผิดปกติของเขาก็กลับคืนสู่สภาพปกติ บนร่างของเขาไม่ปลดปล่อยแสงสีเืขมุกขมัวออกมาอีก
เขาแอบััได้ด้วยว่า เืที่ไหลเวียนอยู่ในร่างของเขาเริ่มค่อยๆ สงบลง ทำให้เขาไม่รู้สึกถึงความผิดปกติและความมหัศจรรย์ใดๆ อีก
มหาสมุทริญญาจุดตันเถียนของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเพราะการดูดรับเส้นเืแดงสดเ่าั้แม้แต่นิด
ดูเหมือนว่าร่างกายของเขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งขึ้นเพราะเหตุนี้ แต่เขากลับรู้สึกว่า เืในกายของเขา... มีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
เพียงแต่ว่าหลังจากที่หัวใจของเขากลับมาเต้นดังเดิม เขากลับััไม่ได้ถึงจุดพิเศษใดๆ ในเืของตัวเอง
หลังจากสังเกตอย่างละเอียดหนึ่งรอบ แน่ใจแล้วว่าทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอยตามเดิม เขาจึงเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง
“ฟื้นแล้วหรือ?” เจียงเหมียวมองเขา ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยและใคร่รู้ คล้ายกำลังรอคอยให้เขามอบคำอธิบายที่สมเหตุสมผล
“ขอบคุณเ้ามากที่คอยอยู่เป็ผู้พิทักษ์ให้แก่ข้า” เนี่ยเทียนยิ้มน้อยๆ
“ก็สมควรแล้วนี่นา” เจียงเหมียวรู้สึกเขินอายเล็กน้อย “เ้าช่วยข้าถึงสองครั้ง แต่ข้ากลับไม่มีความสามารถที่จะช่วยเ้าได้ สิ่งเดียวที่ข้าพอทำได้ก็คือนั่งมองเ้าอยู่ข้างกาย เดิมนึกว่า...”
นางอยากบอกว่าเดิมนึกว่าเ้าต้องตายแน่ๆ อยู่แล้ว จึงอยากมองเ้าก่อนที่เ้าจะตายให้นานอีกหน่อย แต่พอเห็นว่าตอนนี้เนี่ยเทียนไม่เป็อะไรสักอย่าง ด้วยความเบิกบานใจจนเกือบเผลอพูดออกไป นางจึงรีบหุบปากฉับ
เนี่ยเทียนมองประเมินเจียงเหมียวอย่างจริงจังเป็ครั้งแรก
เจียงเหมียวที่มีใบหน้าราวกับตุ๊กตา สวมชุดคลุมยาวสีเขียวเข้ม ดวงตากลมโต เวลาพูดจามักจะดูขลาดเขินเสมอ คล้ายกระต่ายน้อยที่อาจตื่นใจนวิ่งหนีไปได้ทุกเมื่อ
รูปโฉมของเจียงเหมียวแค่อยู่ในระดับกลางค่อนไปทางสูงเท่านั้น ไม่ได้โดดเด่นอย่างอันอิ่งและเจียงหลิงจู ทว่านางจิตใจดีงามอย่างมาก ไม่เหมือนอันอิ่งและเจียงหลิงจูที่เต็มไปด้วยความเ้าเล่ห์แสนกล
แม้ว่าอายุแท้จริงของเจียงเหมียวอาจจะแก่กว่าเขาหนึ่งปี ทว่าในสายตาของเขา เจียงเหมียวก็คือน้องเล็กของบ้านที่ใสซื่อบริสุทธิ์ไร้เดียงสาคนหนึ่ง
“สุดท้ายก็ยังเป็เพราะสภาพแวดล้อมในชีวิตไม่เหมือนกัน...” เนี่ยเทียนพูดกับตัวเอง
นับั้แ่ที่เขาเริ่มรู้ความ ก็รู้ว่าเนี่ยตงไห่สูญเสียอำนาจไปแล้ว รู้ว่าท่านป้าใหญ่ที่รักและเอ็นดูเขาเคยเผชิญกับเื่อะไรมาบ้าง บวกกับความขัดแย้งกับคนในตระกูลเนี่ยอย่างเนี่ยหง เนี่ยหย่วน เขาจึงมีชีวิตอยู่ท่ามกลางการแก่งแย่งชิงดีของคนในตระกูลมาโดยตลอด
เมื่อเทียบกับคนวัยเดียวกัน เขาจึงโตกว่าวัยเยอะกว่ามาก ก่อนหน้านี้เขาก็เข้าใจมานานแล้วว่าเนี่ยตงไห่และเนี่ยเฉี่ยนต่างก็ฝากความหวังสูงส่งไว้ที่ตัวเขา
เขาจึงพยายามอยู่เสมอมา หวังว่าวันใดวันหนึ่งในอนาคตจะสามารถทำให้อาการาเ็ของท่านตาหายดี สามารถช่วยทวงคืนความยุติธรรมให้แก่ท่านป้าใหญ่ของเขาได้
แต่เห็นได้ชัดว่าเจียงเหมียวคือบุปผาในเรือนกระจก ถูกประคบประหงมอยู่บนฝ่ามือมาั้แ่เล็ก ไม่เคยได้เผชิญกับความเ็าหรือความมีน้ำใจของคน
การประลองในโลกมายามรกต สำหรับเจียงเหมียวแล้วก็คือการโจมตีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต
ความอบอุ่นของสภาพแวดล้อมทำให้เจียงเหมียวกลายมาเป็ลูกแกะน้อยตัวหนึ่ง บางทีหลังจากที่การประลองในโลกมายามรกตสิ้นสุดลง เจียงเหมียวอาจจะค่อยๆ เปลี่ยนไป เริ่มรู้ถึงความอันตรายและชั่วร้ายบนโลกใบนี้
“ข้าไม่เป็ไรแล้ว ใน่เวลาคับขันนางมารผู้นั้นคล้ายจะมีพละกำลังไม่เพียงพอ จึงถูกพลังโจมตีกลับ” เนี่ยเทียนตรึกตรองอยู่ครู่หนึ่งก็กล่าวขึ้นด้วยความสงบ “หลังจากที่นางถูกพลังตีกลับ เืสดของข้าที่ถูกดึงออกไปจึงกลับเข้ามาในร่างอีกครั้ง ข้าใช้วิธีการของข้าค่อยๆ ชักจูงเืพวกนั้นกลับเข้ามาในร่างกาย ตอนนี้จึงเป็ปกติแล้ว”
“อ้อ ไม่เป็ไรก็ดีแล้ว” เจียงเหมียวพยักหน้า
นางย่อมรู้ว่าคำอธิบายที่เนี่ยเทียนมอบให้ ไม่มีทางเป็เื่จริงอย่างแน่นอน
นางรู้แน่ชัดดีว่าเนี่ยเทียนกำลังปิดบังอะไรบางอย่าง ทว่านางเลือกที่จะไม่ถามอย่างคนฉลาด---แม้ว่านางจะใคร่รู้อย่างถึงที่สุดก็ตาม
คนทั้งสองถามตอบกันไปมา แล้วก็เริ่มคุยสัพเพเหระกันอยู่ตรงนี้ รอพวกอันอิ่งและเจียงหลิงจูกลับมา
ผ่านไปพักใหญ่ พวกพันเทาและอันอิ่งค่อยๆ เผยกายจากจุดที่ห่างออกไปไกล
“เนี่ยเทียน! เ้ายังไม่ตายรึ?”
ห่างกันหลายร้อยเมตร พันเทาที่พอเห็นเขาก็ส่งเสียงร้องแปลกประหลาดด้วยความเหลือเชื่อทันที
-----