อวิ๋นจื่อไม่กล่าวอะไร นางเพียงเล่นเพลงระบำเฟิ่งหวง
ฮั่วฉีอวี่นั่งฟังเงียบๆ โดยไม่พูดอะไร
หลังจากเพลงจบ ฮั่วฉีอวี่ก็กล่าวออกมาด้วยความยากลำบาก “ข้าจะช่วยให้เ้าได้เป็ฮูหยินของเย่เช่อ เพราะไม่ว่าอย่างไรเ้าก็เป็ทายาทของท่านอ๋อง”
อวิ๋นจื่อใ “เ้าแน่ใจได้อย่างไร?”
นี่ย่อมไม่ใช่เื่จริงใช่หรือไม่? เสด็จแม่ไม่เคยบอกเื่นี้แก่นางเลย ยิ่งไปกว่านั้นเสด็จพ่อก็รักและเอ็นดูนางมากที่สุด
ฮั่วฉีอวี่รู้ว่านางไม่เชื่อ เขาจึงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “เดิมทีท่านอ๋องเป็ไท่จื่อ แต่เหตุการณ์บางอย่างทำให้เขาสูญเสียตำแหน่งนั้นไป ซูฮองเฮาเดิมเป็ไท่จือเฟยของไท่จื่อหวังอวิ๋นเซียวั้แ่ก่อนที่นางจะอภิเษกสมรสกับฮ่องเต้องค์ก่อน ส่วนเื่ของเด็กในครรภ์ถูกเก็บเป็ความลับ ฮ่องเต้องค์ก่อนจึงอาจไม่เคยรู้เื่นี้”
อวิ๋นจื่อกล่าวอย่างเ็า “ข้าไม่เชื่อ”
ฮั่วฉีอวี่ถอนหายใจ “ข้าพูดความจริง เย่เช่อเพิ่งส่งข่าวมาว่าในอดีตท่านอ๋องพยายามตามหาเ้า หลังเกิดการเปลี่ยนแปลงในอวิ๋นเมิ่งคนของท่านอ๋องก็ยังตามหาเ้าอยู่ น่าเสียดายที่พวกเขาคิดว่าเ้าถูกคนของโจวกุ้ยเฟยสังหารไปแล้ว คนที่รู้เื่ของเ้ามีเพียงซูฮองเฮาและท่านอ๋อง หลังจากที่ทั้งสองสิ้นพระชนม์ ก็มีเพียงผู้ติดตามไม่กี่คนของท่านอ๋องเท่านั้นที่รู้เื่นี้” ฮั่วฉีอวี่กล่าวเบาๆ และสังเกตปฏิกิริยาของนาง
อวิ๋นจื่อกระซิบ “คนพวกนั้นอยู่ที่ใด? ข้าพบพวกเขาได้หรือไม่?”
ฮั่วฉีอวี่ชะงัก “พวกเขาตายหมดแล้ว คนที่รู้เื่นี้ตอนนี้มีเพียงข้า เย่เช่อ และเ้า ส่วนคนที่รู้ว่าเ้าคือองค์หญิงเหวินฮวาดูเหมือนจะมีเพียงข้าเท่านั้น”
อวิ๋นจื่อกล่าวว่า “ข้าเปลี่ยนรูปลักษณ์แล้ว เ้ายังรู้ได้อย่างไรว่าเป็ข้า?”
ฮั่วฉีอวี่กล่าวว่า “ข้าเคยเห็นเ้าในรูปลักษณ์นี้มาก่อน เมื่อครั้งฮ่องเต้จัดงานเลี้ยงต้อนรับเซียวเหยียนในวังหลวง เ้าใช้รูปลักษณ์นี้เพื่อถวายสุราแก่ฝ่าา”
ทันใดนั้นอวิ๋นจื่อก็มองฮั่วฉีอวี่ด้วยความหวาดกลัว เหงื่อของนางไหลซึมออกมา นางไม่รู้จะกล่าวอะไร โชคดีที่นางเป็บุตรีของเสด็จอาและจวนแม่ทัพเจิ้นหนานอยู่ข้างเดียวกับนาง
อวิ๋นจื่อสงบสติอารมณ์อย่างรวดเร็ว “เ้าแน่ใจได้อย่างไรว่าคนที่เ้าเห็นคือข้า?”
ฮั่วฉีอวี่ยิ้มเยาะ “ตอนนั้นข้าส่งคนไปติดตามเ้า เดิมทีท่านปู่หมายจะสู่ขอเ้าเป็ภรรยาข้า”
‘ตระกูลแม่ทัพเจิ้นหนานอยากเชื่อมสัมพันธ์กับราชวงศ์หรือ? เหตุใดข้าไม่เคยได้ยินเสด็จพ่อกล่าวเื่นี้เลย?’
อวิ๋นจื่อครุ่นคิด จากนั้นก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเ็าว่า “แต่เสด็จพ่อไม่เคยกล่าวเื่นี้กับข้า”
ฮั่วฉีอวี่ถาม “แล้วสนมโจวล่ะ?”
อวิ๋นจื่อส่ายหน้า “ดูเหมือนนางจะ้าให้ข้าแต่งงานกับคนตระกูลโจว”
ฮั่วฉีอวี่กล่าวด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “ไม่แปลกที่นางจะ้าเช่นนั้น นางย่อมสนับสนุนหลานชายของตนเองอยู่แล้ว แต่ไม่ต้องกังวล ข้าจะเก็บความลับนี้ไว้กับตัวจนตาย เว้นแต่เ้าจะบอกเย่เช่อ”
อวิ๋นจื่อถอนหายใจด้วยความโล่งอก “แล้วตระกูลเย่คนอื่นๆ ล่ะ?”
ฮั่วฉีอวี่กล่าวว่า “ข้ารู้จักคนตระกูลเย่เพียงสองคนเท่านั้น คนหนึ่งคือเย่เช่อ ส่วนอีกคนคืออาหญิงของข้า”
อวิ๋นจื่อพยักหน้า “ข้าหวังว่าเ้าจะรักษาสัญญา องค์หญิงเหวินฮวาถูกโจวยี่สังหารแล้ว”
ฮั่วฉีอวี่กล่าวว่า “ข้ารู้แล้วแม่นางปี้เหยียน”
หลังจากฮั่วฉีอวี่พูดจบ เขาก็ส่งม้วนกระดาษให้อวิ๋นจื่อและกล่าวเบาๆ “เ้าควรอ่านสิ่งนี้ บางทีมันอาจเป็ประโยชน์กับเ้าและเย่เช่อ หลังจากอ่านจบก็เผามันเสีย อย่าเก็บไว้กับตัว”
อวิ๋นจื่อรับม้วนกระดาษมาและพยักหน้า
ในที่สุดฮั่วฉีอวี่ก็จากไป
เขาต้องรีบกลับไปที่เมืองอวิ๋นเมิ่งก่อนรุ่งสาง
…
ณ จวนแม่ทัพเจิ้นหนาน
เย่เช่อมองจดหมายบนโต๊ะ เขาไม่้าแม้แต่จะหยิบมันขึ้นมาอ่าน
เขารู้สึกว่าเขาทำบางอย่างผิดพลาดไป
อ๋องอวิ๋นเมิ่งเป็คนที่เขาเคารพนับถือมาก แต่เขาไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะได้สืบทอดตำแหน่งของอีกฝ่าย
น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถดูแลบุตรสาวคนเดียวของคนที่เขาเคารพนับถือให้อยู่รอดปลอดภัยได้
เมื่อนึกถึงองค์หญิงเหวินฮวาเขาก็รู้สึกอบอุ่นในใจ แต่เขาก็รู้สึกว่าได้ทรยศต่อคนที่เขาเคารพนับถือด้วย ความคิดที่ขัดแย้งกันเช่นนี้ทำให้เขายิ่งรู้สึกผิด
แม้แต่ตอนที่ฮั่วฉีอวี่เข้ามา เขาก็ยังไม่รู้ตัว
ฮั่วฉีอวี่กล่าวว่า “เ้ากำลังคิดอะไรอยู่?”
ทันใดนั้นเย่เช่อก็รู้สึกตัว “ไม่มีอะไร”
เย่เช่อถามขึ้นว่า “ิเจี๋ย บอกข้าทีว่าข้าทำอะไรผิดไปหรือไม่?”
ฮั่วฉีอวี่งุนงง “เหตุใดเ้าถึงพูดเช่นนี้?”
เย่เช่อกล่าวด้วยความผิดหวัง “ข้าเคยชอบองค์หญิงใหญ่มาก แต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่านางไม่มีชีวิตอยู่แล้วข้ากลับไม่รู้สึกโศกเศร้าเลย ถึงอย่างไรข้าก็ยังคงคิดถึงนางอยู่ตลอดเวลา ข้าเพิ่งรู้เมื่อไม่กี่วันก่อนว่านางเป็บุตรีของท่านอ๋อง นี่หมายความว่าข้าทำผิดต่อท่านอ๋อง ข้าไม่ควรหักหลังคนที่ข้าเคารพนับถือ ิเจี๋ยบอกข้าสิ ข้าทำผิดไปใช่หรือไม่?”
ฮั่วฉีอวี่ตกอยู่ในภวังค์ความคิด
เขารู้ว่าเย่เช่อไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของอวิ๋นจื่อและเขาก็ไม่สามารถบอกเื่นี้กับเย่เช่อได้ เขาต้องเก็บมันไว้กับตัวจนตาย
ถ้าดูจากสภาพของเย่เช่อในตอนนี้ หรือเขาจะตกหลุมรักอวิ๋นจื่อแล้วจริงๆ?
ช่างเถอะ เดิมทีสองคนนั้นก็เป็คู่ที่เหมาะสมกันอยู่แล้ว
ฮั่วฉีอวี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า “เย่เช่อ เ้าไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าองค์หญิงใหญ่ยังอยู่ ย่อมไม่มีทางที่ท่านปู่จะสู่ขอนางให้กับเ้า เ้าไม่ได้ทรยศต่อท่านอ๋องและไม่เคยทรยศด้วย เราไม่สามารถควบคุมสิ่งต่างๆ ได้ อย่าคิดมากไปเลย หลายสิ่งหลายอย่างกำลังเปลี่ยนไป เ้าเป็คนที่ยึดมั่นในหัวใจของเ้าเสมอ เพราะฉะนั้นอย่าลังเล พรุ่งนี้คือพิธีรับตำแหน่งของเ้า เ้าพร้อมแล้วหรือยัง?”
เย่เช่อพยักหน้า “ทุกอย่างถูกตระเตรียมโดยกรมพิธีการ น่าจะไม่มีเหตุขัดข้องอะไร”
ฮั่วฉีอวี่ถามว่า “รวมถึงเื่น้องชายต่างมารดาของเ้าด้วยหรือไม่?”
เย่เช่อตอบว่า “ผู้คนมากมายจับตามองอยู่ เขาย่อมไม่สามารถโจมตีข้าได้”
ฮั่วฉีอวี่กล่าวว่า “ไม่แน่ เ้าต้องรู้ว่าสถานะปัจจุบันของเ้าไม่ใช่แค่บุตรชายคนโตของตระกูลเย่อีกต่อไปแล้ว”
‘เ้าอาจต้องขึ้นเป็ฮ่องเต้ในอนาคต’
แต่ฮั่วฉีอวี่ไม่ได้กล่าวประโยคนั้นออกมา
เย่เช่อถามว่า “เราควรใช้เล่ห์เหลี่ยมบางอย่างเพื่อล่อให้เขาลงมือหรือไม่?”
ฮั่วฉีอวี่กล่าวว่า “ข้าได้เตรียมการไว้แล้ว เ้าไม่จำเป็ต้องลงมือ ตอนนี้เมืองอวิ๋นเมิ่งไม่เหมือนเมื่อหลายปีก่อน เ้าต้องระวังให้ดี”
เย่เช่อยิ้ม “ข้ารู้ แล้วเ้าจะไปร่วมพิธีหรือไม่?”
ฮั่วฉีอวี่ยิ้มตอบ “แน่นอน ข้าจะพลาดได้อย่างไร?”
ทั้งสองพูดคุยกันอยู่พักหนึ่งก็ใกล้เช้าแล้ว
ขุนนางจากกรมพิธีการมารอที่ประตูจวนั้แ่รุ่งสาง
เย่เช่อกระโจนขึ้นไปนั่งบนหลังม้าแล้วมองไปที่ต้นไม้เขียวชอุ่มข้างทาง เขารู้สึกคิดถึงเมืองหยงโจวเล็กน้อย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้