“แต่น่าเสียดาย ถ้าอัจฉริยะอย่างเ้าต้องมาตายเร็วเช่นนี้” ผู้นำกลุ่มโจรส่ายหัวขณะกล่าวกับหลินเฟิง
เนื่องจากหลินเฟิงอายุยังน้อย ถึงจะสามารถใช้อำนาจดาบได้ แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งมาก และมือทั้งสองข้างของพวกเขาในตอนนี้ต่างก็เปื้อนไปด้วยเื
พวกเขาทั้งหมดต้องทำให้แน่ใจว่าหลินเฟิงจะต้องตายจริงๆ
“อย่าได้กังวล ข้าจะไม่ตายอย่างแน่นอน”
หลินเฟิงกล่าวอย่างมั่นใจ แม้ว่าเมื่อครู่นี้เขาจะกังวลว่าผู้นำกลุ่มโจรจะใช้ความแข็งแกร่งของขอบเขตแห่งจิติญญาขั้นที่ 3 แต่เมื่ออีกฝ่ายเห็นลมปราณของหลินเฟิงที่ปลดปล่อยออกมา จู่ๆ เขาก็กลับรู้สึกกังวล
ตอนที่หลินเฟิงอยู่ขอบเขตแห่งจิติญญาขั้นที่ 2 เขากล้าที่จะเผชิญหน้ากับต้วนหานที่อยู่ขอบเขตแห่งจิติญญาขั้นที่ 4 ได้ ไม่มีความอ่อนแอเลยแม้แต่น้อย ความแข็งแกร่งของเขาในวันนี้ทรงพลังมากยิ่งขึ้น และเขาสามารถปกป้องคนเหล่านี้ได้แล้ว
“เ้ามั่นใจมากสินะ แต่ข้าจะบอกอะไรให้ว่าความมั่นใจของเ้ามันจะมีมากแค่ไหนกัน”
ผู้นำกลุ่มโจรนั้นยังคงนิ่งสงบ มันชูดาบยาวขึ้นสูง จากนั้นสมาชิกของกลุ่มโจรทั้งหมดต่างยกดาบยาวขึ้น ทันใดนั้นก็เกิดลมปราณที่แข็งแกร่งขึ้นในอากาศ
ขณะนั้นหลินเฟิงได้อยู่ใจกลางของกลุ่มโจร เขารู้สึกว่าตัวเองในเวลานี้ได้อยู่ท่ามกลางสนามรบ ราวกับกระดูกจะแตกหักจนจิติญญานั้นต้องสั่นสะท้าน และทหารที่สวมใส่ชุดโจรเหล่านี้แข็งแกร่งกว่ากลุ่มโจรเมื่อครู่นี้เป็อย่างมาก
“ตาย!”
เหล่าสมาชิกของกลุ่มโจรต่างะโขณะควบม้าไปด้วยจนฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว พวกเขาเผชิญหน้ากับอำนาจดาบอันทรงพลังอย่างไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
ดาบยาวได้เปล่งแสงออกมา พร้อมกับลมปราณที่หนาวะเืได้พุ่งไปกดทับร่างของหลินเฟิงไว้
“ไหนๆ ก็อยู่ที่นี่แล้ว จงตายเสียเถอะ”
หลินเฟิงนั้นไม่เพียงไม่มีความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย กระทั่งเขาได้ปิดตาลง และปลดปล่อยจิติญญาแห่ง์ออกมา ภาพที่ปรากฏในหัวของหลินเฟิงในตอนนี้เป็โลกที่เต็มไปด้วยสีเทา
ขณะที่เหล่าสมาชิกกลุ่มโจรควบม้าไปนั้นก็ได้กวัดแกร่งดาบยาวไปด้วย ภาพเหล่านี้ล้วนชัดเจนเป็อย่างมาก
ในขณะนั้นดาบอ่อนที่อยู่ในมือของหลินเฟิงเต็มไปด้วยกลิ่นอายสีเทา และมีกลิ่นอายของความตาย จากนั้นกลิ่นอายก็เริ่มแผ่กระจายไปทั่วอากาศ
“พึ่บ!” เหล่าสมาชิกกลุ่มโจรต่างพร้อมใจกันพุ่งโจมตีหลินเฟิง
หลินเฟิงขยับร่างเพียงเล็กน้อย ก่อนตวัดดาบฟันอย่างรวดเร็ว กลิ่นอายแห่งความตายลอยคลุ้งไปทั่วฟ้า
“ดาบแห่งความตาย”
หลินเฟิงกล่าวอย่างแ่เบา ในที่สุดร่างกายของเขาก็เคลื่อนไหว ดาบยาวที่สวยงามสมบูรณ์แบบได้แหวกว่ายผ่านอากาศ ด้วยลมปราณสีเทาและอำนาจดาบได้โจมตีอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่ง
กลุ่มโจรที่พุ่งมาหาหลินเฟิงต่างกระเด็นปลิวออกไป โดยที่ร่างกายของพวกเขาได้มีร่องรอยของดาบแห่งความตายหลงเหลือไว้
ขณะนั้นม้าที่เหล่ากลุ่มโจรควบมันมา ต่างพากันตื่นกลัวอย่างต่อเนื่อง และเมื่อผู้นำกลุ่มโจรเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็รู้สึกใ จู่ๆ ร่างกายก็สั่นสะท้านไปด้วยความกลัว
นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!
ลูกสมุนของเขาทั้งหมดต่างกระเด็นปลิวไปในอากาศ จากนั้นร่วงหล่นสู่พื้นอย่างแรง โดยไม่มีเสียงร้องออกมาเลยแม้แต่น้อย นั่นเป็เพราะเพียงการโจมตีแค่ดาบเดียว แต่กลับสังหารทั้งหมด
ผู้นำกลุ่มโจรนั้นมีหัวใจที่กล้าหาญ แต่ในเวลานี้มันกลับสั่นคลอนขึ้นมา เขารู้สึกเกรงกลัวต่อดาบแห่งความตายของหลินเฟิง
“ถึงตาเ้าแล้ว” หลินเฟิงกล่าว
ผู้นำกลุ่มโจรเห็นหลินเฟิงที่กำลังก้าวเท้าไปข้างหน้าขณะที่ดวงตาคู่นั้นปิดสนิท จู่ๆ ก็เปิดขึ้นมา นี่ได้ทำให้ผู้นำกลุ่มโจรรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาทันที
นี่เป็ั์ตาที่ทั้งโเี้และเ็า!
เมื่อครู่นี้แววตาของหลินเฟิงยังดูสงบนิ่งไร้พิษภัย แม้ว่าจะโกรธและเ็า แต่มันก็ไม่สอดคล้องด้วยเพียงอายุแค่นี้ และหลินเฟิงในตอนนี้กลับมีแววตาที่เ็าและโเี้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด รูม่านตานั่นราวกับเป็เหวลึกที่ทำให้ทุกคนจมดิ่งเข้าไปในนั้นเสียให้ได้
ผู้นำกลุ่มโจรในตอนนั้นยังมีจิตใจที่กล้าจะฆ่าหลินเฟิงอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับเกรงกลัวต่อดาบแห่งความตาย
ขณะที่ม้าส่งเสียงร้องดังสนั่น แต่ผู้นำกลุ่มโจรกลับไม่สนใจแม้แต่น้อย ทันใดนั้นเขาก็หันหัวม้าและ้าหนีออกไป มิหนำซ้ำดาบแห่งความตายนั้น มันไม่ใช่คนอย่างเขาที่จะสามารถต่อต้านได้
“คิดหนีเหรอ?” หลินเฟิงกล่าวอย่างเย้ยหยัน จากนั้นเขาใช้เคล็ดวิชาเคลื่อนไหวดั่งเงา ในชั่วพริบตาร่างกายของหลินเฟิงก็เคลื่อนไปกว่า 100 เมตรแล้ว
ดาบแห่งความตายส่องแสงออกมา และลมปราณก็ได้พุ่งตรงไปที่ร่างของผู้นำกลุ่มโจร เพื่อเอาชีวิตของอีกฝ่าย
ถ้าต่อสู้ บางทีเขาอาจจะสามารถต้านทานได้ แต่เขาไม่กล้าต่อสู้ ก็เลยต้องถูกฆ่าแทน!
หลินเฟิงหยุดปลดปล่อยจิติญญา และรูม่านตาก็กลับมาเป็ปกติ จากนั้นเขาก็หันหลังกลับเดินไปหาต้วนเฟิงและคนอื่นๆ
“พี่หลินเฟิง!”
แววตาของต้วนเฟิงเป็ประกายขณะมองไปที่หลินเฟิงด้วยความเคารพนับถือ นี่ช่างแข็งแกร่งเกินไปแล้ว ถ้าเขามีความแข็งแกร่งของหลินเฟิง เขาก็จะไม่ได้รับอันตรายใดๆ อีก
ในขณะนั้นลุงหวังก็ได้กล่าวกับหลินเฟิงพร้อมกับรอยยิ้มว่า “หลินเฟิง ถ้าก่อนหน้านี้ข้าได้ล่วงเกินเ้า ก็โปรดให้อภัยข้าด้วย”
หลินเฟิงหันไปมองลุงหวังด้วยแววตาเย็นะเื
“ท่านจะเสแสร้งไปถึงเมื่อไรกัน?” ปากของหลินเฟิงได้เปล่งเสียงออกมา และตอนนั้นแววตาของลุงหวังดูสงสัยเล็กน้อย
ต้วนเฟิงและจิ้งหยุนต่างยังคงตะลึงงัน พวกเขาไม่เข้าใจว่าหลินเฟิงพูดเื่อะไร
“หลินเฟิง เ้าหมายถึงอะไรหรือ?” น้ำเสียงของลุงหวังดูคับข้องใจเล็กน้อย ขณะจ้องมองไปที่หลินเฟิง
“กลุ่มโจรทั้งสองกลุ่มนั่น จริงๆ แล้วเป็ทหารใช่หรือไม่?”
“ใช่ ต้องเป็ทหารอย่างแน่นอน”
ต้วนเฟิงพยักหน้า “แต่เื่นี้เกี่ยวข้องกับลุงหวังงั้นหรือ?”
“ต้วนเฟิง เ้าจำที่ลุงหวังพูดกับข้าต่อหน้าผู้นำกลุ่มโจรนั่นได้หรือไม่?”
“ข้าจำได้” ต้วนเฟิงพยักหน้า
“พละกำลังของลุงหวัง ไม่มีทางที่จะแข็งแกร่งมากนัก สังเกตได้จากที่พวกเ้าระมัดระวัง แม้กระทั่งสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถที่จะคาดเดาได้ง่ายๆ”
“ข้าได้รับใช้ตระกูลต้วนมานานหลายสิบปีอย่างซื่อสัตย์ ครั้งนี้มีหน้าที่รับผิดชอบความปลอดภัยของนายน้อย แน่นอนว่าข้าต้องสังเกตทุกรายละเอียดอย่างรอบคอบ หลินเฟิง ข้ารู้ว่าเ้ามีอคติกับตาเฒ่าอย่างข้า แต่ทำไมถึงกับต้องพูดดูิ่เช่นนี้กัน”
“ดูิ่ท่าน?” หลินเฟิงยิ้มเยาะ “ข้าไม่ได้คิดเช่นเดียวกับท่าน”
“งั้นที่ผู้นำกลุ่มโจรได้กล่าวกับข้าว่าเื่นี้ไม่เกี่ยวกับข้า และให้ข้าออกไปให้พ้น ข้าคิดว่ากลุ่มโจรสองกลุ่มนี้ต่างมุ่งหมายมาที่ต้วนเฟิง มิหนำซ้ำพวกเ้าก็ไม่มีใครที่ต่อต้านเลยสักคนเดียว”
“หืม…” ลุงหวังพยักหน้า “ทุกคนที่นี่ต่างรู้กันดี”
“ถ้าเป็เช่นนั้นข้าจะแปลกใจมาก โจรกลุ่มแรกทั้งหมดถูกข้าสังหารไปหมด แล้วโจรกลุ่มที่สองจะรู้ได้อย่างไรว่าต้วนเฟิงยังไม่ตาย และกลับมุ่งหน้ามาที่นี่กันแทน?”
คำพูดของหลินเฟิงได้ทำให้หลายๆ คนต่างก็สงสัย เพราะโจรกลุ่มที่สองนั้นเห็นได้ชัดเลยว่าได้มีการเตรียมตัวมาเป็อย่างดี และยังรู้อีกว่าต้วนเฟิงยังไม่ตาย
“ในเมื่อพวกเขารู้ ก็แสดงว่ามีใครบางคนไปบอก นั่นหมายความว่ามีสายลับอยู่ในพวกเรา พวกเ้าคิดว่าอย่างไรบ้าง?” หลินเฟิงยิ้มเยาะขณะมองไปที่ลุงหวังว่าจะตอบกลับเช่นไร
“ที่เ้าพูดมาอาจจะจริงว่ามีคนไปบอกพวกโจร แต่เ้าอย่าลืมสิว่า เ้าได้เดินนำหน้าพวกข้า หลังจากนั้นกลุ่มโจรก็มา แล้วจะไปบอกข่าวตอนไหนกัน... ฮ่าๆๆ” ลุงหวังหัวเราะ แต่ความหมายของเขาที่พูดมาทุกคนต่างเข้าใจกันดี
“ตลกมากงั้นเหรอ?”
หลินเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เ็า เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของลุงหวัง ส่วนต้วนเฟิงและจิ้งหยุนก็มองไปที่ลุงหวังด้วยสายตาแปลกๆ นั่นทำให้ลุงหวังหยุดหัวเราะทันที
“ถ้าเป็คนที่มีสมองจะไม่มีทางพูดเช่นนี้ออกมาอย่างแน่นอน” ั์ตาของหลินเฟิงเต็มไปด้วยแววถากถาง “กลุ่มโจรทั้งสองกลุ่ม เห็นได้ชัดว่าเป็พวกเดียวกัน ถ้าข้ากับพวกเขาเป็พวกเดียวกัน ก็จะรู้ว่าความแข็งแกร่งของข้านั้นเป็อย่างไร ถ้าท่านยอมรับข้าเดินทางไปด้วย ข้าก็อาจสังหารผู้ที่เกี่ยวข้อง โจรกลุ่มแรกข้าได้สังหารไปแล้ว งั้นโจรกลุ่มที่สองล่ะ หรือท่านคิดว่าพวกเขาทั้งหมดเป็แค่คนหน้าโง่? หรือท่านคิดว่าตัวเองฉลาดมาก?”
สีหน้าของลุงหวังพลันแข็งทื่อ คำพูดของเขาแน่นอนว่ามันไม่สมเหตุสมผลและหลินเฟิงแค่อยากช่วยต้วนเฟิง หรืออีกฝ่ายจะเป็คนหน้าโง่จริงๆ ที่ส่งกลุ่มโจรทั้งสองกลุ่มนี้ก็มาให้หลินเฟิงฆ่า?
“ถ้าไม่ใช่เ้า แล้วเป็ใครกันล่ะ” ลุงหวังกล่าว
“คนอื่น?” หลินเฟิงยังคงยิ้มอย่างเย็นะเื “ท่านกำลังบอกว่าต้วนเฟิงส่งคนมาฆ่าตัวเขาเอง?”
“ยังมีจิ้งหยุน นางได้นั่งมากับต้วนเฟิงมาตลอดทาง ส่วนคนอื่นๆ ท่านสามารถมองเห็นหมด มิหนำซ้ำองครักษ์คนอื่นๆ ต่างตายหมด มีเพียงแค่ท่านลุงหวังที่ยังมีชีวิตอยู่ นอกจากนี้ยังนิ่งเงียบจนน่าแปลกใจ นั่นเป็เพราะว่าท่านรู้เื่ทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นนั่นเอง”
เมื่อต้วนเฟิงและจิ้งหยุนได้ยินคำพูดของหลินเฟิงแล้วต่างก็ใ ขณะมองไปที่หลินเฟิง
“พี่หลินเฟิง ลุงหวังรับใช้ตระกูลต้วนมานานหลายปี และดูแลข้ามาั้แ่เด็ก เขาไม่มีทางทำร้ายข้าอย่างแน่นอน หรือบางทีอาจเป็เื่บังเอิญก็ได้”
ต้วนเฟิงยังคงไม่กล้าที่จะเชื่อ เพราะลุงหวังนั้นได้ติดตามท่านปู่ของเขามานานจนถึงตอนนี้
“ต้วนเฟิง เ้าคิดว่าลักษณะนิสัยของเขาเป็อย่างไร?” จู่ๆ หลินเฟิงก็กล่าวถามต้วนเฟิงขึ้นมา
“อ่อนโยน มีเมตตา” ต้วนเฟิงกล่าวตอบ
“อ่อนโยน มีเมตตา? ต้วนเฟิง งั้นข้าจะถามเ้าว่า หลังจากที่ข้าเจอพวกเ้า ลุงหวังก็ไม่คัดค้านอะไร แต่หลังจากที่ข้าได้สังหารกลุ่มโจรเ่าั้แล้ว ทัศนคติของเขากลับเปลี่ยนไปเป็อย่างมาก และ้าให้ข้าจากไปโดยเร็วที่สุด แม้กระทั่งกล่าวหาข้าด้วยเหตุผลที่ไร้สาระ เ้าไม่คิดว่ามันแปลกๆ หรือ?”
หลินเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็า จนทำให้ใบหน้าของต้วนเฟิงแข็งทื่อ หลังจากที่ต้วนเฟิงครุ่นคิดสักครู่ มันก็ผิดปกติจริงๆ เพราะปกติลุงหวังไม่ใช่คนที่จะทำแบบนี้ได้
“นี่เป็เพียงการคาดเดาจากเ้า แล้วยังกล่าวหาตาเฒ่าอย่างข้าที่ได้ติดตามตระกูลต้วนมานานหลายปี ถ้าหากนายน้อยเชื่อในคำพูดของเ้า งั้นข้าก็อาสาที่จะตาย ถึงอย่างไรเ้าก็สามารถสังหารข้าได้อย่างง่ายดายอยู่แล้ว” ลุงหวังกล่าวอย่างเ็า จากนั้นได้หลับตาลง ดูเหมือนว่าเขาพร้อมที่จะตายแล้ว นี่ทำให้ต้วนเฟิงรู้สึกลำบากใจเป็อย่างยิ่ง
“ตาเฒ่าเ้าเล่ห์” หลินเฟิงถึงกับหมดคำพูดขณะจ้องมองไปที่ลุงหวัง เขาใช้วิธีนี้เพื่อที่จะได้รับความเห็นอกเห็นใจจากคนอื่นๆ
“หลินเฟิงทำไมเ้ายังไม่ลงมือ อย่างไรก็ตามข้าก็เป็แค่ตาเฒ่าคนหนึ่ง ไม่มีใครกล้ากล่าวหาว่าเ้าสังหารคนอย่างไม่เป็ธรรม”
สิ้นเสียงท้าทายของตาเฒ่าเ้าเล่ห์ ทำให้หลินเฟิงมองลุงหวังอย่างโกรธเกรี้ยว เมื่อได้ยินคำพูดของลุงหวังราวกับว่าเขาดูิ่ลุงหวัง และใช้กำลังบังคับให้ลุงหวังตาย
“พี่หลินเฟิง นี่…”
นานเข้าต้วนเฟิงก็ยิ่งรู้สึกลำบากใจ สำหรับหลินเฟิงนั้นเขาเคารพนับถือมากทั้งพละกำลังอันแข็งแกร่งและพร์ที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้หลินเฟิงได้ช่วยเขาถึงสองครั้ง ส่วนลุงหวังก็ดูแลเขามาั้แ่ยังเล็ก และลุงหวังก็เปรียบเสมือนกับญาติผู้ใหญ่ของเขาและเป็เหมือนผู้าุโที่เขาเคารพก็ว่าได้
“ข้าไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์ได้ ถ้าเ้าไม่เชื่อข้า ข้าก็คงไม่มีทางเลือก อันที่จริง เขาจะเป็คนทรยศหรือไม่ มันก็ไม่เกี่ยวข้องกับข้าอยู่แล้ว ข้าก็แค่เตือนเ้าเท่านั้น ส่วนจิ้งหยุน เ้าจะตามข้ามาหรือจะอยู่ที่นี่ต่อ?”
หลินเฟิงไม่้าเถียงต่อ เพราะเขากับต้วนเฟิงก็เพิ่งจะรู้จักกันในวันนี้ ถึงแม้จะรู้สึกว่าต้วนเฟิงเป็คนที่ดี แต่ถ้าเขาไม่เชื่อมั่นในตัวเอง หลินเฟิงก็ไม่จำเป็ต้องถ่อมตัวอีก นอกจากนี้เขาก็ยังเป็สหายกับจิ้งหยุน และเขาก็ไม่อยากจะทิ้งนางไว้ที่นี่อีกด้วย
“หลินเฟิง ข้าเคารพนับถือเ้ามาตลอด แต่วันนี้เ้ากลับรังแกคน ไม่เพียงกล่าวหาตาเฒ่าอย่างข้า อีกทั้งยังพยายามชักชวนจิ้งหยุนไปด้วย เ้ามันทำเกินไปแล้ว!”
ลุงหวังส่งเสียงเอะอะขึ้นมา และกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เ็าราวกับว่าเขาถูกหลินเฟิงใส่ร้าย
“หุบปาก!” หลินเฟิงคำรามออกมา ขณะปรายตามองไปที่ลุงหวัง
“เอาล่ะ เอาล่ะ... หลินเฟิง เ้าคนพาล” ลุงหวังกล่าวอย่างเดือดดาลเป็อย่างยิ่ง
“เ้าพูดจบหรือยัง?” ในขณะนั้นมีน้ำเสียงที่ไม่แยแสดังขึ้น ทำให้หลินเฟิงและคนอื่นๆ ต่างตกลึงงัน เพราะนั่นเป็เสียงของเมิ่งฉิง
เมิ่งฉิงจ้องมองไปยังลุงหวังด้วยแววตาอันเกลียดชัง และกล่าวว่า “นึกว่าเ้าจะออกไปด้วยตัวเอง แต่ตาเฒ่าที่ไร้ยางอายเช่นเ้า กลับหาเหตุผลมาใส่ร้ายหลินเฟิง”
