นี่มันสัตว์ประหลาดอะไรกัน?
หูเหยียนหลันรั่วเวลานี้คือผู้ควบคุมจิตอสูรระดับเงินสองดาวผู้หนึ่ง อาณาเขติญญาของนางหลอมรวมกับจิตอสูรต้นอิงเถาหิมะ นี่เป็พืชปีศาจที่แข็งแกร่งและหาได้ยากอย่างยิ่ง พบอยู่ลึกเข้าไปในเทือกเขาเซิ่งจู่ มีความสามารถในการมอมเมาให้เกิดความหลงใหลอย่างร้ายกาจ สิ่งมีชีวิตทุกชนิดจะถูกล่อลวงให้เผลอเข้าไปใกล้มัน จากนั้นจะถูกมันกลืนกิน หูเหยียนหลัวรั่วหลอมรวมกับจิตอสูรต้นอิงเถาหิมะ จึงง่ายที่จะร่ายมนตร์เสน่ห์ใส่ผู้ควบคุมจิตอสูรที่อยู่ในระดับเดียวกัน
หากหูเหยียนหลันรั่วใช้มารยาสักหน่อย ก็ย่อมต้องมีผู้ชายมากมายยินดีที่จะเป็ผู้ปกป้องบุปผางามผู้นี้ เคล็ดมนตร์เสน่ห์ของหูเหยียนหลันรั่วมักประสบความสำเร็จทุกครั้งที่ลงมือ คิดไม่ถึง วันนี้กลับล้มเหลวแล้ว!
ไม่เพียงถูกมองออกถึงเคล็ดวิชา ยังถูกมองเห็นถึงแม้กระทั่งจิตอสูรของนาง เ้าเด็กผู้ชายที่อยู่ตรงข้ามกับนางผู้นี้จะไม่ชั่วร้ายเกินไปหน่อยแล้วหรือ? จิตอสูรต้นอิงเถาหิมะเป็สิ่งที่ท่านปู่ของนางจับมาให้ มันเป็จิตอสูรที่หาได้ยากยิ่ง คนทั่วไปแทบไม่เคยได้ยินชื่อของมันมาก่อน อย่าว่าแต่จะรู้ถึงความสามารถและที่มาของต้นอิงเถาหิมะ
หูเหยียนหลันรั่วรู้สึกราวกับถูกสายฟ้าฟาด ครึ่งค่อนวันก็ยังพูดไม่ออก
ปัญหาสำคัญก็คือว่า ผู้ที่ถูกมนตร์เสน่ห์นี้กลับเป็เพียงเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ที่ยังไม่ถึงระดับทองแดงหนึ่งดาวด้วยซ้ำ!
มีคนสองจำพวกที่จะสามารถรอดพ้นจากมนตร์เสน่ห์นี้ได้ หนึ่งคือผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์ผุดผ่อง ตัวอย่างเช่นเด็กห้าขวบคนหนึ่ง และอีกหนึ่งก็คือยอดคนที่รู้จักเคล็ดวิชามนตร์เสน่ห์นี้เป็อย่างดี
เนี่ยหลีอายุสิบสามปีแล้ว สมควรที่จะมีความเข้าใจเกี่ยวกับเื่ระหว่างชายหญิง เป็ไปไม่ได้ที่จะมีจิตใจบริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนเด็กเล็กคนหนึ่ง ดังนั้นจึงเป็ได้แต่กรณีที่สองเท่านั้น
แต่ทว่า นี่จะเป็ไปได้หรือ?
เดาว่าหูเหยียนหลันรั่วคงไม่เคยคิดถึงมาก่อน เด็กผู้ชายที่อยู่ตรงข้ามนางนี้ ภายในมีจิติญญาของยอดคนที่ทรงอำนาจอย่างยิ่งผู้หนึ่งอาศัยอยู่ ยอดคนที่เคยก้าวข้ามระดับตำนานไปแล้ว
เห็นสีหน้าใของหูเหยียนหลันรั่ว เนี่ยหลียิ้มบางๆ ครั้งหนึ่งและเดินผ่านข้างกายของหูเหยียนหลันรั่วไป
“เนี่ยหลี หูเหยียนหลันรั่วไม่น่ารักหรือ?” เยี่ยจื่ออวิ๋นมองเนี่ยหลี กระพริบตาปริบๆ ด้วยท่าทางสงสัยราวเด็กทารกผู้หนึ่ง
ต่อหน้าความยั่วยวนใจปานนี้เนี่ยหลีกลับปฏิเสธ เนี่ยหลีคงไม่ได้มีความลับพิเศษอะไรที่พูดไม่ได้อยู่หรอกหนา?
เนี่ยหลียิ้มแย้มจ้องมองเยี่ยจื่ออวิ๋นและพูด “หูเหยียนหลันรั่วน่ารักมากจริงๆ แต่จะเทียบกับเ้าได้อย่างไร?”
ได้ยินคำพูดเลอะเทอะคล่องปากของเนี่ยหลีอีกครั้ง เยี่ยจื่ออวิ๋นกระทืบเท้าเร่าๆ แล้วพูดว่า “ข้าคงเทียบกับหูเหยียนหลันรั่วไม่ได้หรอก ผู้คนที่ชื่นชอบหูเหยียนหลันรั่วมีอยู่มากมาย!” เยี่ยจื่ออวิ๋นรู้ดี เพราะแม้แต่ในตระกูลวายุเหมันต์ก็ยังมีญาติหลายคนของนางชื่นชอบหูเหยียนหลันรั่ว
เนี่ยหลีเข้าใจดี ที่เยี่ยจื่ออวิ๋นหมายความถึงคือแง่ของร่างกาย นิสัยใจคอและความงามของเยี่ยจื่ออวิ๋นห่างชั้นกว่าหูเหยียนหลันรั่วมากมายนัก อย่างไรก็ตาม ในแง่ของสรีระ นางยังด้อยกว่าเล็กน้อยหากจะเทียบกับหูเหยียนหลันรั่ว เนี่ยหลีอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ เขายิ้มๆ และกวาดตามองเยี่ยจื่ออวิ๋นขึ้นๆ ลงๆ อีกไม่กี่ปีข้างหน้ารูปร่างของนางก็จะไม่ด้อยไปกว่าหูเหยียนหลันรั่วแล้ว และมีเพียงเนี่ยหลีเท่านั้นที่รู้ว่าเยี่ยจื่ออวิ๋นมีเสน่ห์น่าหลงใหลและงดงามเพียงใดเมื่อถึงเวลานั้น แต่ความงดงามสง่าเช่นนี้กลับมิใช่สิ่งที่หูเหยียนหลันรั่วจะเปรียบด้วยได้
เห็นสายตาประหลาดและไม่เหมาะสมของเนี่ยหลี เยี่ยจื่ออวิ๋นเบ้ปากไม่พอใจเล็กน้อย เนี่ยหลีผู้นี้ หากจะให้เป็เพื่อนกันก็ถือว่าใช้ได้ แต่หากจะขยับเข้ามาอีกก้าว นางไม่เคยคิดเลย เยี่ยจื่ออวิ๋นเวลานี้คิดถึงแต่การฝึกยุทธ์ นางอยากเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับตำนานเฉกเช่นเดียวกันกับท่านปู่ของนาง
เนี่ยหลีถ่ายทอดเคล็ดวิชาหงส์น้ำแข็งปิงหวงให้นาง ซึ่งช่วยให้นางก้าวเข้าใกล้ความฝันเข้าไปอีกก้าวหนึ่ง ดังนั้นในใจของนาง นางรู้สึกสำนึกในบุญคุณของเนี่ยหลีนัก หากมีเด็กผู้ชายคนอื่นมาพูดจาไม่รู้จักยั้งคิดกับนางอย่างไม่จริงจังเช่นนี้ เกรงว่านางคงหมุนตัววิ่งหนีไปนานแล้ว
ขณะที่หูเหยียนหลันรั่วจ้องมองแผ่นหลังของเนี่ยหลี นางพูดขึ้นอย่างโกรธเคือง “ข้าไม่เชื่อว่าจะไม่สามารถเอาชนะเด็กตัวเล็กๆ เช่นเ้าได้หรอก!” หูเหยียนหลันรั่วรู้สึกอับอายเล็กน้อยในใจ เสน่ห์ของนางแย่กว่าเยี่ยจื่ออวิ๋นมากนักหรือ?
หูเหยียนหลันรั่วหันไปชี้นิ้วใส่เนี่ยหลี พูดให้ทุกคนได้ยิน “เนี่ยหลี สักวันหนึ่งข้าจะทำให้เ้ากลายเป็ทาสรักใต้กระโปรงของข้าให้ได้! ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะไล่ตามเ้าเด็กคนนี้ ในอนาคตข้างหน้า เด็กคนนี้ต้องเป็ของข้า ทุกคนที่คิดจะแตะต้องเขาจะต้องมาถามก่อนว่าข้ายินยอมหรือไม่! ใครคิดแย่งไปจากข้า ข้าจะจัดการทุกคน!”
ได้ยินคำประกาศอันแข็งกร้าวของหูเหยียนหลันรั่ว ทุกคนก็ประหลาดใจยิ่งนัก
หูเหยียนหลันรั่ว้าไล่ตามเนี่ยหลีรึ? ทุกคนหันไปมองเนี่ยหลี จากนั้นก็หันกลับมามองหูเหยียนหลันรั่วใหม่อีกครั้ง
สตรีรูปโฉมงดงามเช่นหูเหยียนหลันรั่ว แค่กระดิกนิ้วทีเดียวก็มีชายหนุ่มมากมายเข้ามารุมล้อมราวกับแมลงวัน คิดไม่ถึงว่าหูเหยียนหลันรั่วกลับ้ามาไล่ตามเนี่ยหลี ออกจะประหลาดเกินไปแล้ว
ได้ยินคำพูดของหูเหยียนหลันรั่ว เนี่ยหลีอดหัวเราะออกมาไม่ได้
เยี่ยจื่ออวิ๋แสร้งทำเป็ยิ้วแล้วมองๆ เนี่ยหลี ดูเหมือนความโชคดีที่สวยงามของเนี่ยหลีนั้นจะมีไม่น้อย คนแรกก็เซียวหนิงเอ๋อร์ที่เป็ฝ่ายส่งอาหารเช้ามาให้ เวลานี้ยังมีหูเหยียนหลันรั่วประกาศว่าจะไล่ตามเขาอีก ดูไม่ออกจริงๆ ว่าเนี่ยหลีผู้นี้จะมีเสน่ห์ถึงเพียงนี้
คำประกาศของหูเหยียนหลัวรั่วสร้างข่าวลือคลื่นั์ไปนับพันชั้นแล้ว กลายเป็หัวข้อสนทนาของทุกคน แม้กระทั่งเฉินหลินเจี้ยนก็ยังอดแปลกใจไม่ได้
คณะเดินทางคืบหน้าต่อไป ผ่านูเาไปหลายลูก
“เนี่ยหลี นี่เป็ขนมดอกซิ่งฮวา (แอปริคอท) เ้าอยากกินหรือไม่?”
“เนี่ยหลี เ้าเหนื่อยหรือไม่ ข้าช่วยปูเบาะให้เ้าพักผ่อนสักครู่จะดีหรือไม่?”
หูเหยียนหลันรั่วเดี๋ยวๆ ก็โผล่มาอยู่ข้างๆ เนี่ยหลีราวกับภูตผี บางครั้งก็พรวดพราดมาเดินด้วย ทรวงอกอวบอิ่มเบียดใส่ต้นแขนของเนี่ยหลีเป็บางขณะ เจือกลิ่นกายหอมกรุ่นอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศโดยรอบ หากเป็เด็กผู้ชายคนอื่นๆ ถูกโฉมงามเปี่ยมเสน่ห์อวบอั๋นยั่วยวนถึงเพียงนี้เกรงว่าคงไม่อาจอดใจได้ คงจับหูเหยียนหลันรั่วกินไปนานแล้ว
อย่างไรก็ตาม มารยายั่วยวนของหูเหยียนหลันรั่วสำหรับเนี่ยหลีก็เป็เพียงเื่น่ารำคาญใจอย่างหนึ่งเท่านั้น
“ข้าว่า เ้าช่วยอย่าทำตัวน่ารำคาญนักจะได้หรือไม่ ไป ไป ไป มีอะไรก็ไปทำเถอะ! ไปไกลๆ หน่อย!” เนี่ยหลีโบกมือไล่และพูดอย่างหงุดหงิด
ดวงตางดงามของหูเหยียนหลันรั่วแดงรื้นขึ้นเล็กน้อย เหตุใดนางจึงต้องถูกปฏิบัติด้วยเช่นนี้? เนี่ยหลีตาบอดหรืออย่างไร? มืดบอดกับความงามของนางหรือไม่? ยิ่งนางครุ่นคิดก็ยิ่งไม่ยินยอม ยิ่งคิดก็ยิ่งเคืองใจ ปาเบาะรองนั่งลงพื้นและเดินจากไป
“ฮู้ว... ในที่สุดก็เงียบเสียที!” เนี่ยหลีผ่อนลมหายใจโล่งอกออกมาครั้งหนึ่ง สตรีน่ารำคาญเช่นนี้ในที่สุดก็ยอมไปแล้ว
แต่ยังไม่ทันเดินไปได้กี่ก้าว หูเหยียนหลันรั่วก็หันหน้ากลับมาพูด “เนี่ยหลี เ้าหิวน้ำหรือไม่? ข้ามีเหล้าองุ่นดอกซิ่งฮวารสเยี่ยมอยู่ขวดหนึ่ง”
เมื่อได้ยินคำพูดของหูเหยียนหลันรั่ว เนี่ยหลีก็แทบล้มทั้งยืนแล้ว สตรีผู้นี้เป็ยากอเอี๊ยะหนังวัวหรืออย่างไร? เหตุใดจึงสลัดไม่หลุดสักที?”
“ข้าพูดว่า เ้าอย่าได้มาทำตัวน่าเบื่อเช่นนี้ได้หรือไม่? ว่างมากนักหรืออย่างไร?” เนี่ยหลีกลอกตาปะหลับปะเหลือกใส่นางไปทีหนึ่ง
หูเหยียนหลันรั่วกระพริบตาปริบๆ ดวงตาฉายแววเ้าเล่ห์พูดขึ้น “ข้ารู้สึกว่าข้าจะเริ่มตกหลุมรักเ้าเข้าจริงๆ แล้ว แม้เ้ายังไม่ชอบข้าก็ไม่เป็ไร คนสวยเช่นข้ามีผู้ใดไม่ชอบบ้างเล่า? ข้าจะถือว่าตอนนี้เ้าตาบอดก็แล้วกัน อีกไม่นานเ้าก็จะเห็นเองว่าข้างดงามน่ารักเพียงใด!”
“มองเ้าต่างหากจะทำให้ข้าตาบอด!” เนี่ยหลีพ่นลมเย็นออกมาคำหนึ่งและรีบเดินจากไป
สตรีผู้นี้หมดทางเยียวยาแล้ว!
แน่นอน เนี่ยหลีไม่คิดว่าหูเหยียนหลันรั่วจะชอบเขาจริงๆ นางอาจจะแค่คิดว่าเป็เื่สนุกเท่านั้น อีกไม่นานเมื่อรู้สึกว่าไม่สนุกก็คงรามือไปเอง
เนี่ยหลีวิ่งไปข้างกายเยี่ยจื่ออวิ๋น ไม่ว่าจะเป็ชีวิตในหนก่อนหรือชาตินี้ เยี่ยจื่ออวิ๋นคือบุคคลที่เขารักที่สุด เด็กสาวหลายคนข้างเยี่ยจื่ออวิ๋นยิ้มมองเนี่ยหลีและหันไปกระซิบกันเบาๆ
“คนผู้นี้ก็คือคนที่หูเหยียนหลันรั่วไล่ตามหรือ?”
“เขาดูหน้าตาดีทีเดียว?”
“เหมาะสมกับหูเหยียนหลันรั่วดีนะ!”
ฟังคำกระซิบกระซาบของพวกนาง เนี่ยหลีก็ได้แต่เหงื่อแตกเต็มหัว ข้าควรทำอย่างไรดี?
เยี่ยจื่ออวิ๋นเงยหน้ามองเนี่ยหลีที่น่าสงสาร พูดขึ้นเบาๆ “เหตุใดเ้าไม่อยู่กับหูเหยียนหลันรั่วเล่า?”
“จื่ออวิ๋น เ้าก็รู้ ข้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับนาง!” เนี่ยหลียิ้มเจื่อนๆ หูเหยียนหลันรั่วน่ารำคาญนัก หากเยี่ยจื่ออวิ๋นเข้าใจเขาผิด เขาคงต้องเศร้าใจเป็แน่
“เกี่ยวอะไรกับข้ากัน?” เยี่ยจื่ออวิ๋นยักไหล่ หันไปทางอื่นและเดินจากไป มุมปากของนางยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยยิ้มหยอกล้อ นางพบว่าเป็เื่น่าสนใจไม่น้อยยามเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของเนี่ยหลี
เนี่ยหลีอ้าปากค้าง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาจ้องมองแผ่นหลังบอบบางของเยี่ยจื่ออวิ๋น ในใจรู้สึกเศร้าหมอง เมื่อไหร่จึงจะสามารถเป็เช่นชาติที่แล้วได้หนอ เมื่อไหร่ข้าจะได้โอบกอดแม่นางน้อยแสนน่ารักเข้าสู่อ้อมแขนของข้า? หนทางยังอีกยาวไกลนัก!
อย่างแรกต้องพัฒนาพลังของตนให้ก้าวหน้าเสียก่อน อีกไม่กี่ปีข้างหน้าเมืองกวงฮุยจะต้องเผชิญกับการคุกคามของสัตว์อสูร แม้แต่ท่านปู่ของเยี่ยจื่ออวิ๋น ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับตำนานเยี่ยโม่ ก็ยังต้องตายในการต่อสู้ ดังนั้นเนี่ยหลีต้องก้าวเข้าถึงระดับตำนานก่อนเวลานั้นให้จงได้ สำหรับเขาแล้ว นี่เป็เื่ที่ท้าทายใหญ่หลวงยิ่งนัก เพราะเวลาที่มีอยู่ช่างน้อยเหลือเกิน
เขาต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อบำรุงพลังของตน รวมถึงการเดินทางไปซากเมืองโบราณกู่หลันในครั้งนี้ด้วย! เขาต้องได้ตะเกียงิญญามาไว้ในมือให้จงได้!
ถัดไปอีกสองสามวัน เนี่ยหลียังคงหลอมพลังิญญาที่ได้จากฉู่หยวน อย่างไรก็ตาม หูเหยียนหลันรั่ว สตรีผู้นี้ช่างน่าเบื่อเสียเหลือเกิน แม้กระทั่งยามเนี่ยหลีฝึกยุทธ์ นางก็ยังมายืนเฝ้ายามอยู่ข้างเนี่ยหลี ไม่ขยับแม้แต่ก้าวเดียว ดังนั้นเนี่ยหลีจึงได้แต่เลือกที่จะเพิกเฉยต่อนาง
เดินผ่านูเาไปอีกสองวัน ผ่านหุบเขาลึกเส้นหนึ่งไป ที่ราบขนาดใหญ่ในหุบเขาผืนหนึ่งจึงปรากฏขึ้นสู่สายตา
นี่เป็ซากเมืองโบราณแห่งหนึ่ง มีรัศมีกว้างออกไปหลายร้อยหลี่ สถานที่มากมายถูกปกคลุมไปด้วยป่าไม้หนาทึบ เหลือกำแพงเมืองกระดำกระด่างเพียงบางส่วน บางครั้งบางคราได้ยินเสียงคำรามของสัตว์อสูร พวกสัตว์อสูรเหนือระดับทองขึ้นไปต่างทิ้งสถานที่รกร้างแห่งนี้ไปนานแล้ว พวกที่เหลืออยู่ในซากเมืองโบราณอย่างมากก็เป็เพียงสัตว์อสูรระดับเงินและระดับทองเท่านั้น
ซากเมืองโบราณที่เหลือมาจากยุคมืดแห่งนี้เป็ตัวแทนบ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองของมนุษยชาติในเวลานั้น
เห็นซากกำแพงเมืองกับเศษกระดูกที่นอนกองอยู่ตามพื้นเหล่านี้ ทุกคนอดรู้สึกหดหู่ใจมิได้ หากเมืองกวงฮุยถูกพวกสัตว์อสูรทำลายก็คงมีสภาพไม่ต่างกับซากเมืองโบราณแห่งนี้ เหลือทิ้งไว้เพียงกองกระดูกกับซากปรับหักพังทุกหนแห่ง
ใน่ยุคมืด หมู่สัตว์อสูรเกิดบ้าคลั่งและเข้าโจมตีอาณาจักรของมนุษย์ทุกหนแห่ง เหลือผู้โชคดีที่รอดตายเพียงบางส่วนซึ่งยังคงต้องต่อสู้กับพวกสัตว์อสูรมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ความรู้และอารายธรรมต่างๆ ถูกทำลายไปในความหายนะครั้งนั้น เช่นเมืองกวงฮุย เคล็ดวิชาลมปราณ ศิลปะยุทธ์ และรูปแบบยันต์ต่างๆ ล้วนไม่สมบูรณ์ ดังนั้นหากออกมาสำรวจอาณาจักรโบราณเหล่านี้ย่อมมีความเป็ไปได้สูงที่จะพบทรัพย์สมบัติและสิ่งของที่ถูกทิ้งไว้จากยุคมืด!
สิ่งที่เนี่ยหลี้าคือตะเกียงิญญา มันเป็ของทรงอานุภาพที่ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับตำนานจากยุคมืดผู้หนึ่งทิ้งไว้ให้!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้