หลังจากคัดเลือกผู้เข้ารอบสิบห้าคน ทุกคนมีเวลาพักผ่อนหนึ่งวัน พรุ่งนี้ต่อสู้ชิงชัยอย่างดุเดือดกว่านี้ สิบห้าคนดวลกันคัดเหลือสิบคน!
สำหรับพวกเขาแล้ว เื่นี้ทั้งกดดันและท้าทายอย่างมาก
สถานศึกษาทั้งห้ามีผู้เข้าร่วมประลองทั้งหมดสามสิบห้าคน รอบแรกคัดทิ้งยี่สิบคน ต้องบอกว่าการคัดเลือกเช่นนี้โหดร้ายอย่างยิ่ง ดังนั้น สิบห้าคนที่เหลืออยู่เรียกได้ว่าแต่ละคนล้วนเป็หัวกะทิของห้าสถานศึกษา
เป็บุคคลไร้เทียมทาน แต่ยังต้องคัดทิ้งห้าคนจากสิบห้าคน
เห็นได้ถึงความโหดหินของการประลองห้าสถานศึกษา
ดังนั้น คิดจะคว้าชัยชนะ มีเพียงต่อสู้ไปตลอดเส้นทาง
“เซียวเฉิน เ้าไม่เป็ไรนะ?” กลับถึงที่พักของสถานศึกษาชางหวง สายตาของทุกคนก็มองเซียวเฉิน เซียวเฉินยิ้มพลางส่ายศีรษะ
“ไม่เป็ไร มีอาจารย์ใหญ่อยู่ ข้าจะเป็อะไรได้” แม้เซียวเฉินกำลังยิ้ม แต่สายตากลับคมกริบดุจมีดที่ตัดได้ทุกสิ่งและสะบั้นได้ทุกอย่าง
เซียวเฉินในยามนี้ ดวงตาเต็มไปด้วยความอำมหิต
ดุจเทพสังหารสะท้านโลกา แม้เขามีความสามารถแค่ขั้นเสวียนฟ้าสี่ชั้นฟ้า แต่กลับทำให้คนสะท้านะเืและใจเต้นรัวอย่างบอกไม่ถูก
เซียวเฉินจดจำเื่ที่กู่อวี้รังแกเขาไว้แล้ว
หากผู้อื่นไม่ล่วงเกินเขา เขาจะไม่ไปทำร้ายผู้อื่นก่อน แต่หากมีคนมุ่งเป้ามาที่ตนเอง เขาก็จะไม่ทนเด็ดขาด นี่คือนิสัยของเซียวเฉิน ผู้เคารพข้า ข้าจะเคารพตอบสิบเท่า ผู้เหยียดหยามข้า ข้าจะเอาคืนเป็ร้อยเท่า
“ทุกคนเตรียมพร้อมประลองในวันพรุ่งนี้ นั่นเป็การเริ่มต้น หวังว่าพวกเราทุกคนจะได้เจอกันในรอบสิบคน” เซียวหวงส่งเสียงทำลายความเงียบงัน ทุกคนพยักหน้า แล้วพากันจากไป
เซียวหวงจากไปเป็คนสุดท้าย ก่อนไปเขาบอกเซียวเฉินว่า “ศิษย์น้องเล็ก บางครั้งจำเป็ต้องอดกลั้น ไม่เช่นนั้นจะสร้างเภทภัยไม่จบไม่สิ้น แม้เ้ามีศักยภาพ แต่เ้าก็รู้ ตอนนี้เ้ายังไม่เติบใหญ่ เ้าเข้าใจสิ่งที่ข้าพูดหรือไม่?”
เซียวเฉินพยักหน้า
“ขอบคุณพี่ใหญ่เซียว ข้ารู้จักความเหมาะสมดี”
หลังทุกคนจากไป เซียวเฉินก็จมอยู่ในความเงียบงันตามลำพัง ยามนี้ เขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาล เขาแบกความแค้นเอาไว้ หากยังไม่ได้สังหารเนี่ยอวิ๋นเหอ เขาจะตายได้อย่างไร เขาจะตายได้อย่างไรกัน?
ตอนนี้แรงกดดันของเขามาจากสามด้าน แต่ละด้านล้วนอันตรายทั้งสิ้น พร์ของเนี่ยอวิ๋นเหอโดดเด่นยิ่งกว่าหนึ่งปีก่อน ทำให้เขามองไม่ออก เขาถึงขั้นไม่แน่ใจว่า ตัวเขาในเวลานี้จะสังหารเนี่ยอวิ๋นเหอได้หรือไม่
อีกด้านหนึ่งคือฮ่องเต้ เขากับฮ่องเต้มีความแค้นเื่ที่เขาสังหารลั่วเฉินอวี่บุตรชายของฮ่องเต้ แม้ตอนนี้ฮ่องเต้ยังไม่รู้ แต่หากรู้เข้า เกรงว่าคงไม่มีใครปกป้องเขาได้ ถึงอย่างไร ความสามารถของลั่วเทียนอู่ก็เหนือกว่าขั้นเสวียนเต๋า
สุดท้ายคือกู่อวี้ ผู้เข้มแข็งขั้นเสวียนเต๋าระดับสูงสุดที่แค้นเขาเข้ากระดูก
แรงกดดันทั้งสามด้านดุจขุนเขาลูกใหญ่ที่กดทับเซียวเฉินจนเขาหายใจไม่ออก ความสามารถของเขาในตอนนี้ แค่คนใดคนหนึ่งในสองด้านหลังก็เพียงพอที่จะสังหารเขาได้ ดังนั้น หากเขาคิดจะปกป้องตนเอง มีเพียงต้องมีความสามารถเท่านั้น
ขอเพียงมีความสามารถ ก็จะปกป้องตนเองได้
และมีชีวิตอยู่ต่อไปได้
เซียวเฉินหลับตาเอ่ยพึมพำ “ท่านแม่...เฉินเอ๋อร์เหนื่อยมาก...เหนื่อยมากจริงๆ” เซียวเฉินรู้สึกได้ถึงความเชื่อมั่นอันไร้รูปร่างที่กำลังค้ำจุนเขาอยู่ มุมปากของเขาโค้งขึ้นเป็รอยยิ้มช้าๆ
จากนั้นสายตาเปล่งประกาย
เหมือนตอนเด็กๆ ที่ตนเองได้รับความอยุติธรรม เมื่อซบในอ้อมอกมารดาแล้วร่ำไห้ก็จะรู้สึกดีขึ้น ตอนนี้ท่านแม่ไม่อยู่แล้ว เขายิ่งสมควรเข้มแข็ง ต่อให้ไม่มีอ้อมกอดของท่านแม่ เขาก็ยังยืนหยัดได้ดังเดิม
เขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี
ราตรีเย็นเยียบดุจสายน้ำ จันทร์กระจ่างลอยกลางฟ้า
แต่ภายในห้องของเซียวเฉินกลับมีแสงสลัวที่ค่อยๆ สว่างขึ้น และเปลี่ยนเป็เจิดจรัส นั่นคือประกายไฟ ตรงหว่างคิ้วของเขากระตุกริกๆ ทว่าเขากลับหลับตาสนิท เพราะเขากำลังฝึกวิชา
เขาต้องได้เป็หนึ่งในสิบผู้เข้ารอบพรุ่งนี้
วิ้งวิ้ง!
ร่างของเซียวเฉินเจิดจรัสดุจดารา ระหว่างที่แสงไหลเวียน ไอสังหารที่ััได้แต่ไร้ลักษณ์ทำให้เขาสง่างามดุจเทพเคารพ
ตูม!
วินาทีที่เซียวเฉินลืมตาขึ้น แววตาก็มีประกายไฟสีสดเต้นระริก ท้ายสุดกลับคืนสู่ความสงบนิ่ง ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้ม
ขั้นเสวียนฟ้าสี่ชั้นฟ้าระดับสูงสุด!
ระดับขั้นสูงขึ้นทำให้เซียวเฉินยิ่งมั่นใจ
“ในสิบคนต้องมีข้า!”
วันรุ่งขึ้น ห้าคนในผู้เข้ารอบสิบห้าคนของสถานศึกษาชางหวงก็เตรียมตัวพร้อมออกเดินทาง กู้สิงเฉินและฉู่เฉินเฟิงยังพักรักษาตัวอยู่เนื่องจากได้รับาเ็สาหัส จึงไม่ได้ไปส่งพวกเขาออกเดินทาง
แต่พวกเขาไม่้าสิ่งฉาบฉวย พวกเขาคือคู่หูและทีมที่แท้จริง
ทางด้านเวทีประลอง วันนี้มีฝูงชนล้นหลาม
ครึกครื้นยิ่งกว่าเมื่อวาน
เนื่องจากวันนี้จะเป็การเริ่มต้นอันแสนวิเศษ สิบห้าคนเข้ารอบเพียงสิบคน!
แค่คิดก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว
บนเวที ไป๋เยี่ยมองทั้งสิบห้าคนพลางเอ่ยช้าๆ “พวกเ้าทั้งสิบห้าคนเลือกคู่ต่อสู้กันได้ตามสบายเพื่อจัดอันดับ ห้าอันดับรั้งท้ายถูกคัดทิ้ง แต่ละคนมีโอกาสท้าสู้ผู้อื่นหนึ่งครั้งและโอกาสถูกผู้อื่นท้าสู้หนึ่งครั้ง”
จากนั้น เขาก็มองทุกคน
“เมื่อจี้ถึงให้หยุดมือ ห้ามทำร้ายถึงแก่ชีวิต”
ยังเป็ประโยคเดิม แต่ใครรับรองได้ว่าจะไม่พลั้งมือ? ดังนั้น แม้ไป๋เยี่ยพูดเช่นนี้แต่ก็เหมือนไม่ได้พูด อย่างน้อยเขาในฐานะที่เป็ผู้ตัดสินชี้ขาดก็ยังต้องแสร้งวางท่าบ้าง
คนแรกที่ลงสนามคือฉินเหยาจากสถานศึกษาตี้ซิง สตรีที่เย่อหยิ่งเ็า รูปโฉมไม่ถือว่างามหยาดฟ้าแต่ก็โดดเด่น โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นเปี่ยมเสน่ห์เย้ายวน ทว่าเปลือกนอกที่เย่อหยิ่งเ็าของนางกลับแฝงความแหลมคม
ศึกแรก นางเลือกไป๋หลี่เถิงเซียวจากสถานศึกษาเทียนเฉิน
ไป๋หลี่เถิงเซียวรับคำท้า เขาในฐานะบุคคลผู้มีพร์ย่อมถอยไม่ได้ เขาทำให้คนผู้นั้นเสียหน้าไม่ได้ ยิ่งกว่านั้น เขายังมีความมั่นใจในตนเอง
ยกเวทีประลองให้ทั้งสองคน ชั่วขณะ มรสุมตั้งเค้า ทั้งสองเปิดฉากต่อสู้ ฉินเหยารวดเร็วถึงขีดสุด ส่วนไป๋หลี่เถิงเซียวกลับป้องกันเป็หลัก การต่อสู้ของทั้งสองคนดำเนินไปเป็เวลานาน เกิดเสียงดังไม่ขาดสาย สู้กันจนฝุ่นธุลีปลิวว่อนก็ยังไม่รู้แพ้รู้ชนะกัน สุดท้ายไป๋หลี่เถิงเซียวใช้พลังเสวียนหมดสิ้น พ่ายไปในรอบแรก
การต่อสู้รอบแรก จบลงด้วยสถานศึกษาตี้ซิงได้ชัย
การต่อสู้รอบแรก สถานศึกษาเทียนเฉินผิดหวัง
เื่นี้ทำให้กู่อวี้ยิ่งมีสีหน้าน่าเกลียด ตอนนี้สถานศึกษาเทียนเฉินของพวกเขาเหลือแค่หยางชางหลันคนเดียว สถานการณ์แบบนี้บอกได้ว่าถูกกำหนดเป็ที่แน่นอนแล้วว่าคราวนี้สถานศึกษาเทียนเฉินต้องไม่ได้อยู่สามอันดับแรก และเป็ไปได้มากว่าจะถูกจัดอยู่อันดับสี่
เพราะต่อให้ต่ำอย่างไรก็คงไม่ต่ำไปกว่าสถานศึกษาชางหลง
“เซียวเฉิน ข้าคิดจะสู้กับเ้าสักครั้ง ว่าอย่างไร?” ในเวลานี้เอง มีบุคคลผู้หนึ่งเดินออกมาจากกลุ่มของสถานศึกษาเซิ่งเต้า คนผู้นี้คือหลี่เทียนเกอ บุคคลผู้มีพร์ที่เอาชนะหวังเต้าิผู้มีพร์จากสถานศึกษาชางหลงในรอบแรก
เวลานี้ สายตาที่เขามองเซียวเฉินแฝงเจตนาต่อสู้
มุมปากโค้งขึ้นเป็รอยยิ้มนิดๆ โดยไม่มีใครสังเกตเห็น
แต่เซียวเฉินจับสังเกตได้ เซียวเฉินมองเนี่ยอวิ๋นเหอที่นิ่งเงียบไม่ส่งเสียงทางด้านข้าง จากนั้นก้าวขึ้นเวที
คิดจะหาคนมาหยั่งเชิงหรือ...
“ได้ดังที่เ้าปรารถนา”
เซียวเฉินมองหลี่เทียนเกอด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ในเวลานี้เอง ไอสังหารจางๆ ขุมหนึ่งแผ่ออกมาจากร่างของเซียวเฉินและปกคลุมทั่วเวทีประลอง
รังสีของเซียวเฉินแข็งแกร่งอย่างน่าประหลาด
“ไอสังหารอันแข็งแกร่ง!”
ทุกคนร้องอุทาน มองเซียวเฉินด้วยสีหน้าพรั่นพรึง เซียวเฉินมีไอสังหารแบบนี้แล้ว เพิ่งอายุเท่าไรเอง?
ส่วนสีหน้าของหลี่เทียนเกออัปลักษณ์อยู่บ้าง
แต่ยังเอ่ยว่า “ไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงด้วย ข้าเฝ้ารอจะต่อสู้กับเ้า”
เซียวเฉินยิ้ม “สิ่งที่เ้าเฝ้ารออยู่ด้านหลัง!”