เงินต้องหมดแน่!
เงินทั้งหมดของบ้านใหญ่ที่เก็บหอมรอมริบมาหลายปีก็เพื่อเขา เื่นี้เขาย่อมรู้!
ยิ่งหลินต้าหลางคิด ดวงตาก็ยิ่งเย็นเยียบ
เขาเป็บุตรคนโตของบ้านใหญ่ เป็หลานชายคนโตของสกุลหลิน ไม่ว่าอย่างไรทรัพย์สมบัติในบ้านส่วนมากย่อมต้องเป็ของเขา!
เื่นี้เขาไม่อายแม้แต่น้อย แค่คิดว่าน้องชายทั้งสองคนจะมาแบ่งสมบัติที่ควรจะเป็ของตัวเองในอนาคต หรือมาลากให้เขาต้องตกต่ำ เื่นี้อย่างไรก็ยอมไม่ได้!
ในตอนนี้ปู่หลินเองก็คิดได้ เขายกมือปิดปากบดบังรอยยิ้ม พอคิดจะพูด หลินต้าหลางก็เอ่ยก่อน
“ท่านปู่ ท่านพ่อ ในเมื่อซานหลางอยากเป็ลูกบุญธรรมบ้านสองก็ให้ไปเถอะ ยังไงอาสองก็ไม่มีลูกชาย ให้ซานหลางไปถูกต้องแล้ว!”
ลูกที่ถูกผู้อื่นรับเลี้ยงไปแล้วมาเรียกบิดามารดาผู้ให้กำเนิดว่าพ่อแม่เช่นนี้จริงๆ ไม่ค่อยเหมาะสมนัก แต่ตอนนี้ไม่มีคนอื่นอยู่ หลินต้าหลางเองก็ไม่ได้ใส่ใจ
ในใจเขายังลอบยินดีที่หลินซานหลางจะได้ไปเป็ลูกบุญธรรมคนอื่น เช่นนี้อีกหน่อยคนที่จะเข้ามาแบ่งสมบัติก็น้อยลงไปอีกรายไม่ใช่หรือ?
ปู่หลินอ้าปากแต่ไม่ได้พูดอะไร
ที่หลินต้าหลางความอดทนต่ำเช่นนี้ จะบอกว่าไม่ผิดหวังก็คงไม่ได้
แต่หลินต้าหลางคิดคำนวณอยู่ในใจ หากเ้ารองหลินเอ้อร์หลางที่ออกไปทำงานนอกบ้านทั้งปีออกไปจากบ้านใหญ่ด้วยย่อมดีที่สุด!
หากออกไปกันหมด เขาก็จะเป็บุตรชายเพียงคนเดียวในบ้านใหญ่สกุลหลิน ส่วนน้องสาวสองคน ขอเพียงเขาได้เป็บัณฑิต จะเลี้ยงคนก็ยังได้ พวกเศรษฐีบ้านรวยบางคนไม่มีลูกหลานที่โดดเด่น คนพวกนี้ไม่้าสินเดิมทั้งยังปล่อยให้ลูกชายแต่งงานได้ตามใจ ดังนั้นไม่น่ากังวล
หลินต้าซานย่อมรู้สึกว่าบุตรชายคนโตผู้นี้หัดอ่านสถานการณ์ทั้งยังเชื่อฟังบิดามาโดยตลอด จึงได้พยักหน้า “ได้ ท่านพ่อขอรับ ข้าคิดได้แล้ว ซานหลางเองก็อายุมากแล้ว จะตัดสินใจเองบ้างก็ไม่เป็ไร เื่ให้น้องรองรับเลี้ยงข้าไม่มีความเห็น แต่ถึงจะกลายเป็ลูกคนอื่น สุดท้ายทั้งเขา ต้าหลาง เอ้อร์หลางก็ยังคงเป็พี่น้อง เสี่ยวเถาเสี่ยวเหลียนยังคงเป็น้องสาว สายเืนี้ไม่ว่ายังไงก็ตัดไม่ขาด!”
เมื่อเห็นหลินต้าหลางและหลินต้าซานพยักหน้าตกลงทั้งคู่แล้ว บ้านสองต่างก็ยินดีกันมาก หลินต้าเหอดีใจจนเกาหัวไม่หยุด ตั้งใจก้าวออกมาจะพูดอะไรบางอย่างทันที
แต่หลินฟู่อินกลับห้ามเขาไว้ก่อน
คิ้วของเด็กสาวมุ่นเข้าน้อยๆ ดวงตาดั่งผลซิ่งทอประกายวาววับ ทว่ารอยยิ้มยังคงเปื้อนบนใบหน้า “ท่านลุงยังไม่มั่นใจอีกหรือเ้าคะ? สาเหตุที่พี่ซานหลางอาศัยจังหวะนี้เข้าเป็ลูกบุญธรรมท่านเพราะให้ค่ากับสายสัมพันธ์และสายเื หาไม่แล้วลูกใครบ้างเล่าจะอยากเป็ลูกบุญธรรมผู้อื่น?”
คำของหลินฟู่อินมีสองความหมาย หนึ่งคือยืนยันว่าหลินซานหลาง้าเป็ลูกบุญธรรมบ้านสองนี้หาใช่อกตัญญูต่อบิดามารดา แต่เป็เพราะความกตัญญูอันใหญ่หลวง
อย่างที่สอง นับเป็การด่าเสียดสีหลินต้าซานและภรรยาที่คิดอยากให้ซานหลางลูกตัวเองกลายไปเป็ลูกคนอื่นมานานแล้ว
หลินต้าเหอเหงื่อแตกพลั่ก ทว่าหลินฟู่อินหยุดเอาไว้ทันก่อนจะได้เอ่ยปาก
“ใช่แล้ว ฟู่อินพูดถูก” เมื่อโดนเฟิงซื่อหยิกแรงๆ เข้าทีหนึ่ง หลินต้าเหอก็พูดเออออเห็นด้วยทันที
เฟิงซื่อเองก็โล่งอก ต้องให้เขาเห็นด้วยกับฟู่อินจึงจะถูกต้อง
นางเริ่มรอคอยอย่างใจจดใจจ่อแล้ว เมื่อคิดว่าหลินซานหลางจะไปอยู่บ้านนางจริงๆ เช่นนี้ก็ต้องทำความสะอาดห้องที่ดีที่สุดให้อยู่ ตัดเสื้อและรองเท้าผ้าฝ้ายให้เขาใส่…
พอมองชุดของเด็กหนุ่มคร่าวๆ แล้ว โอย ทั้งหมดล้วนเล็กเกินไปแล้ว ชายเสื้อก็ขาดรุ่ย! แล้วดูรองเท้าเถอะ ขาดจนนิ้วโป้งโผล่ออกมาแล้ว…
เื่นี้เป็เพราะจ้าวซื่อเป็มารดาที่ี้เีเกินไป ขี้คร้านจะตัดเสื้อผ้าและรองเท้าใหม่ให้ลูกชายคนนี้ เกรงว่าเสื้อผ้าพวกนี้คงเป็ชุดเก่าของเอ้อร์หลางที่เหลืออยู่กระมัง!
ยิ่งมองหลินซานหลางเท่าไร เฟิงซื่อก็ยิ่งรู้สึกเสียใจแทน คิดอยากพาเขากลับบ้านเสียเดี๋ยวนี้
ใบหน้าหลินต้าซานดำคล้ำขึ้นอีกครั้ง ก่อนหน้านี้เขารีบร้อนเกินไป ตอนนี้จึงได้โดนหลินฟู่อินพูดกระทบเปรียบเปรยเข้าให้
แต่ตัวเขาพูดไม่เก่ง จึงได้แต่หน้าง้ำหน้างอมองนาง
“ท่านปู่ ท่านลุงใหญ่ ต่อให้พี่ซานหลางของข้าจะกลายเป็ลูกชายบ้านสองแล้ว ยังไงก็ยังคงเป็คนสกุลหลินด้วยกัน ย่อมไม่มีทางทิ้งพวกเราพี่ชายน้องสาว” หลินฟู่อินเห็นหลินต้าซานพยายามเก็บสีหน้าโกรธเคืองโมโห ความหงุดหงิดใจทั้งหลายนั่น ได้แต่ต้องเออออตามน้ำไปเช่นนี้ก็แอบสนุกขึ้นมา
เพราะประโยคที่นางกล่าวไม่ใช่คำสัญญา ทั้งยังเป็การหลบเลี่ยง
ไม่เพียงหลินต้าซานจะพูดอะไรไม่ได้ กระทั่งปู่หลินก็พูดไม่ออกเช่นกัน
ทว่าหลินต้าหลางกลับมีแววตาครุ่นคิด เขารู้ว่าหลินฟู่อินรับมือไม่ง่าย จึงทำเพียงมองน้องชายแล้วพูด “ซานหลาง เป็ลูกบุญธรรมบ้านอาสองนี่ไม่เลวเลย ดูบ้านใหม่สามส่วนของอาสองนั่นสิ บ้านอิฐหลังใหญ่ๆ เช่นนี้ อีกหน่อยเ้าย่อมมีอนาคตดีๆ แน่นอน ยังไงก็อย่าลืมข้าที่เป็พี่ใหญ่เสียเล่า!”
โอ้โห หลินซานหลางยังไม่ทันเป็คนของบ้านสองจริงๆ ตอนนี้หลินต้าหลางก็คิดหาผลประโยชน์จากเขาเสียแล้ว?
เหมือนจ้าวซื่อเสียจริง
หลินฟู่อินดูถูกอยู่ในใจ ทว่าใบหน้าไม่แสดงออก มีเพียงรอยยิ้ม “พี่ต้าหลาง ในบ้านสกุลหลินมีท่านโดดเด่นที่สุดแล้ว อีกหน่อยหากสอบผ่านเป็ซิ่วไฉ กลายเป็ใหญ่เป็โตเป็ขุนนางแล้วอย่าได้ลืมเสียเล่าว่าพวกเราเป็พี่น้องกัน”
โจมตีเพียงครั้งเดียว หัวช่างคิดของหลินต้าหลางก็แตกพ่าย
เห็นนางพูดดีเพียงนี้ จ้าวซื่อจึงอดรู้สึกรังเกียจนางน้อยลงไม่ได้ รีบหัวเราะกล่าว “แน่นอนสิ! มิใช่ต้าหลางของพวกเราเก่งกาจที่สุดในบ้านหลินนี้หรอกหรือ?”
เห็นมารดาตอบรับเช่นนี้ ใบหน้าหลินต้าหลางก็บิดเบี้ยวจนหลินฟู่อินขบขันไม่น้อย
“ในเมื่อซานหลาง้า เช่นนั้นพวกเราก็ไม่มีอะไรจะกล่าว หวังเพียงอีกหน่อยซานหลางจะไม่เสียใจในภายหลัง!” ปู่หลินคิดดูแล้ว เื่นี้ไม่ใช่เื่ใหญ่โตอะไร อย่างไรบ้านสามก็มีลูกชายหนึ่งคนแล้ว เ้าสามจะกลับมาได้หรือไม่ หลินซานหลางก็ไม่อาจถูกรับเลี้ยงเหมือนก่อนได้อีกแล้ว
ที่หลินต้าหลางกล่าวยังทำให้เขานึกได้ว่าหากหลินซานหลางไปอยู่บ้านสองที่ไม่มีลูกชายจะดีกว่า ยามนี้บ้านสองได้บ้านสามช่วยเหลือ เพียงเดือนสองเดือนก็สร้างบ้านหลังใหญ่จนเสร็จ เห็นแล้วว่าหลินฟู่อินดีต่อบ้านสองมากกว่าบ้านใหญ่เพียงใด
เช่นนี้ก็ดี!
หลินซานหลางพยักหน้าทันที “ท่านปู่ ข้าจะไม่เสียใจขอรับ”
ปู่หลินมองหลินต้าเหออีกครั้ง “ต้าเหอ เ้าอยากรับเลี้ยงซานหลางหรือไม่?”
ดวงตาหลินต้าเหอเปี่ยมไปด้วยความยินดี รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ท่านพ่อ ข้ายินดี ข้า้า! บ้านเราจะดูแลซานหลางเป็อย่างดีดั่งลูกแท้ๆ ขอรับ!”
เฟิงซื่อเองก็พยักหน้ารัวไม่หยุด สองพี่น้องหลินเฟินหลินฟางมองหน้ากันอย่างยินดี เรียบร้อยแล้ว ในที่สุดบ้านพวกนางก็มีบุตรชายจนได้!
อีกหน่อยท่านพ่อท่านแม่ก็สามารถยืดอกคุยในหมู่บ้านหูลู่ได้แล้ว!
“หากเป็เช่นนั้นก็หาวันดีๆ สักวันเพื่อรับซานหลางเถอะ” ปู่หลินกล่าว
หลินต้าเหอและเฟิงซื่อรีบพยักหน้าทันที ต่างคนต่างก็ยินดีจนทนไม่ไหว
มองตาจ้าวซื่อในตอนนี้ หัวใจนางรู้แต่ความรู้สึกเปรี้ยวฝาด นั่นเป็ลูกชายที่นางท้องสิบเดือนกว่าจะคลอดออกมา แต่กลับถูกพวกผียาจกรับไปเลี้ยงเช่นนี้หรือ?