ร่างของเิชงถูกลูกศรนับไม่ถ้วนตรึงไว้บนกำแพงเมือง ฉากนี้ได้สร้างความตกตะลึงให้แก่ฝูงชนจำนวนมาก
ฝูงชนที่อยู่บนกำแพงเมืองต่างพากันเบิกตากว้างอย่างใ ถึงแม้พวกเขาจะมองไม่ทัน แต่ก็จินตนาการได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เมื่อครู่มีห่าลูกศรยิงมาปักที่กำแพงเมือง ซึ่งความแรงของมันทำให้กำแพงสั่นไหวอยู่ครู่หนึ่ง ลูกศรระลอกนั้นมาจากทหารที่อยู่นอกเมืองหลวง ซึ่งเป็การสำเร็จโทษเิชงในข้อหาลอบปลงพระชนม์องค์หญิง!!!
เพราะเหตุผลที่สมเหตุสมผลเช่นนี้ ทำให้ไม่มีใครสามารถแย้งได้ แน่นอนว่าทุกคนล้วนเห็นเหตุการณ์ที่เิชงสั่งให้ทหารของตนยิงลูกศรใส่องค์หญิง
เิกู่เฟิงตัวสั่นเล็กน้อย ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างตกตะลึง ก่อนจะะโเสียงดังออกมา
“เิชง!!!”
เสียงะโอย่างโกรธเกรี้ยวดังก้องไปทั่วบริเวณ ก่อนที่เิกู่เฟิงจะพุ่งไปยังขอบกำแพงแล้วก้มหน้าลงมองลูกชายของตนด้วยแววตาแดงก่ำ ผู้ที่ถูกลูกศรจำนวนนับไม่ถ้วนตรึงร่างไว้บนกำแพงนั้น... เป็ลูกชายของเขา ลูกชายของเขาเอง!!!
“อ๊าก!!! หลินเฟิง!!!”
เิกู่เฟิงะโออกมาอย่างบ้าคลั่ง แล้วหันไปมองหลินเฟิงด้วยสายตาอาฆาต ขณะเดียวกันก็ปลดปล่อยจิตสังหารอันเย็นเยือกออกมา
“ไอ้สารเลว! เ้าสังหารลูกข้า!!!”
เิกู่เฟิงมองหลินเฟิงด้วยสายตาเคียดแค้นปนไม่อยากเชื่อ
“ท่านผู้บัญชาการกรุณาเปิดประตูด้วย ข้ากับองค์หญิงมีธุระด่วนที่ต้องจัดการ”
หลินเฟิงกล่าวเสียงเรียบ ในขณะที่ดวงตาไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ
“เปิดประตู?” ดวงตาของเิกู่เฟิงฉายแววยิ้มเยาะออกมา ก่อนกล่าวเสียงเหี้ยมว่า “หลินเฟิง เ้ากล้าละเมิดกฎหมายของอาณาจักรเสวี่ยเยว่ ที่เ้าสังหารบุตรชายของข้านั่นเท่ากับว่า เ้าไม่เห็นอาณาจักรเสวี่ยเยว่อยู่ในสายตา!”
“หือ?” หลินเฟิงชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนแสยะยิ้มเ็าออกมาน้อยๆ เิกู่เฟิงคนนี้ คิดจะยัดเยียดข้อกล่าวหาให้กับข้า?! ไอ้จิ้งจอกเฒ่านี่ดูเบาไม่ได้เลยจริงๆ แม้ใจเขาจะเคียดแค้นมากแค่ไหน แต่เิกู่เฟิงก็ยังประคองสติเอาไว้ได้ เห็นได้จากสิ่งที่เขาทำคือการกำหนดข้อกล่าวหาให้กับหลินเฟิงก่อน เพื่อเป็ข้ออ้างในการลงมือ
“ผู้บัญชาการเิ เิชง้าสังหารองค์หญิง ทุกคนที่นี่ล้วนเห็นด้วยตาของตัวเองทั้งนั้น ดังนั้นโทษทัณฑ์ที่เขาสมควรได้รับก็คือความตาย แน่นอนว่าทุกคนสามารถเป็พยานให้แก่ข้าได้ เอาล่ะท่านผู้บัญชาการ ข้าขอย้ำอีกรอบว่าข้ากับองค์หญิงมีธุระด่วนที่ต้องรีบไปจัดการ หวังว่าผู้บัญชาการเิจะเปิดประตูให้พวกเราเข้าเมือง”
หลินเฟิงยิ่งเพิ่มความเ็าลงไปน้ำเสียงขณะที่พูด บรรยากาศรอบตัวพลันเย็นะเืขึ้นมา
“มีธุระด่วนที่ต้องรีบไปจัดการ? หึ!!! คิดจะไปช่วยหลิ่วชั่งหลันล่ะสิ” เิกู่เฟิงมองหลินเฟิงด้วยสายตาเย้ยหยัน ก่อนจะพูดออกมาแค่สามคำว่า “ฝันไปเถอะ!!!”
“บูม!!!”
เมื่อเิกู่เฟิงพูดจบ หลินเฟิงก็ะเิจิตสังหารอันหนาวเหน็บออกมา ทำให้ดวงตาของเิกู่เฟิงเบิกกว้างก่อนพูดขึ้นว่า “เ้าคิดจะทำอะไร?”
ไม่มีคำพูดใดๆ ออกจากปากของหลินเฟิง ร่างของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ขณะที่ฝ่ามือของหลินเฟิงได้เปลี่ยนเป็คมดาบแล้วฟันลงมา
เิกู่เฟิงกรีดร้องออกมาอย่างตื่นตระหนก แล้วยกแขนของตัวเองขึ้นป้องกันการโจมตีของหลินเฟิง ก่อนที่แขนของเขาจะถูกฝ่ามือของหลินเฟิงฟันขาด จนกระเด็นตกลงไปที่พื้น
ฉากนี้ทำให้ฝูงชนที่ยืนอยู่บนกำแพงพากันตกตะลึงจนอ้าปากค้าง เหล่าทหารใต้บังคับบัญชาการของเิกู่เฟิงทำท่าจะเข้าไปช่วย แต่ก็ถูกเมิ่งฉิงกับเริ่นชิงขวังเข้ามาขวาง จึงไม่มีใครสามารถเข้าใกล้หลินเฟิงได้แม้แต่ครึ่งก้าว! พวกเขาทำได้แค่ดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าอย่างตื่นตระหนก
“เิชงคิดจะสังหารองค์หญิง และเพื่อปกป้ององค์หญิง หลินเฟิงผู้นี้จึงทำการสังหารเิชงเสีย แต่เิกู่เฟิงกลับไม่พอใจที่ข้าสังหารเิชง ดังนั้นจึงไม่ยอมปล่อยให้องค์หญิงกลับเข้าเมืองหลวง แสดงว่าเขาไม่เห็นองค์หญิงและราชวงศ์เสวี่ยเยว่อยู่ในสายตา ข้าหลินเฟิง ขอเป็ตัวแทนองค์หญิงในการสำเร็จโทษตายให้กับเ้า!!!”
หลินเฟิงที่ยืนอยู่ตรงนั้น เส้นผมของเขาปลิวไสวไปตามลม น้ำเสียงของเขาขณะป่าวประกาศเื่ราวทั้งหมดช่างดังกังวาน ทำให้จิตใจของฝูงชนเกิดยำเกรงขึ้นมา
หลินเฟิงไม่เพียงแต่ฆ่าเิชงเท่านั้น แม้แต่เิกู่เฟิงเขาก็คิดจะสังหารด้วย
คนที่ขวางทางเขาจะต้องตาย!!!
พูดจบหลินเฟิงก็ก้าวเท้าไปข้างหน้า ก่อนจะกระแทกฝ่ามือไปที่หน้าอกของเิกู่เฟิง ทันใดนั้นเิกู่เฟิงก็กระอักเืออกมา ขณะที่สีหน้าของเขาเริ่มขาวซีดจนน่ากลัว อย่างไรก็ตามสายตาที่จ้องมองหลินเฟิงก็ยังคงฉายแววชั่วร้ายอยู่เหมือนเดิม
ระดับการบ่มเพาะของเิกู่เฟิงอยู่ที่ขอบเขตแห่งจิติญญาขั้นที่ 8 เช่นเดียวกับหลินเฟิง แต่หลินเฟิงอยู่ในขอบเขตผสานกับเทวโลก ดังนั้นการเคลื่อนไหวของเขาจึงรวดเร็วและทรงพลังเป็อย่างมาก เพียงฝ่ามือเดียวก็สามารถตัดแขนของเิกู่เฟิงได้
“นี่เป็ทางที่เ้าเลือกเอง”
บนฝ่ามือของหลินเฟิงเต็มไปด้วยเจตจำนงแห่งดาบที่รุนแรง ก่อนแทงเข้าไปทำลายชีพจรในร่างของเิกู่เฟิง
จากนั้นร่างของเิกู่เฟิงก็ถูกโยนออกไปนอกกำแพงเมือง เหล่าทหารที่อยู่ด้านล่างต่างรู้ทันทีว่าพวกเขาควรทำเช่นไร ทันใดนั้นเสียงลูกศรแหวกอากาศก็ดังขึ้นมา ร่างของผู้บัญชาการทหารเิกู่เฟิงถูกลูกศรตรึงไว้บนกำแพงเช่นเดียวกับบุตรชายของเขา
นี่คือบทลงโทษที่หลินเฟิงได้กำหนดให้กับพวกเขา
ในโลกของผู้ฝึกยุทธ์นั้น ความแข็งแกร่งคือความยุติธรรม
หลินเฟิงกวาดสายตามองทหารคนอื่นๆ บนกำแพงเมือง ก่อนมาหยุดอยู่ที่ร่างของนายทหารคนหนึ่งที่สวมชุดเกราะระดับผู้บัญชาการ
“เ้าคือรองผู้บัญชาการ?”
หลินเฟิงถามด้วยน้ำเสียงเ็า ทำให้หัวใจของคนผู้นั้นเต้นโครมครามด้วยความหวาดกลัว เขาเห็นการตายของเิกู่เฟิงกับเิชงด้วยสายตาของตัวเอง ยามนี้เขาได้ตระหนักแล้วว่าหลินเฟิงนั้นน่ากลัวขนาดไหน!!! เขาก็เหมือนกับองค์รัชทายาท ที่ถ้าใครกล้าขวางทางเขา เขาจะลงมือสังหารทันที!
“ใช่” คนคนนั้นพยักหน้าเล็กน้อยด้วยท่าทางกระวนกระวาย
“ข้ากับองค์หญิงมีธุระต้องเข้าเมือง รีบเปิดประตูซะ” หลินเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ทำให้ดวงตาของคนคนนั้นสั่นไหวขึ้นมา
“ข้าให้เวลาเ้าพิจารณา 5 วินาที ถ้าไม่เปิดประตู ข้าจะถือว่าเ้าสมรู้ร่วมคิดในการปลงพระชนม์องค์หญิง และไม่เห็นราชวงศ์เสวี่ยเยว่อยู่ในสายตา”
หลินเฟิงพูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงหนักแน่น และเปี่ยมไปด้วยความน่าเกรงขาม จากนั้นเขาก็เริ่มนับเวลาทันที “1”
“2...”
“เปิดประตู!”
รองผู้บัญชาการะโสั่งเสียงดัง เขาจะกล้าให้หลินเฟิงนับถึง 5 ได้อย่างไร? ขนาดสองพ่อลูกตระกูลเิ หลินเฟิงยังสังหารลงได้ในพริบตา แล้วมีหรือที่หลินเฟิงจะไม่กล้าสังหารเขา?!
อนาคตจะเป็อย่างไรก็ช่าง ตอนนี้เขาต้องรอดไปให้ได้ก่อน
“เปิดประตู เปิดประตูเร็วเข้า...”
คำสั่งถูกส่งต่อไปเป็ทอดๆ หลังจากนั้นพลันเกิดเสียงครึ่กๆ ดังขึ้น แล้วบานประตูั์ก็ค่อยๆ เปิดออก
“ผู้บัญชาการเริ่น ท่านกับกองทัพของท่านจะต้องคุ้มครององค์หญิงเข้าไปในเมืองอย่างปลอดภัย”
หลังจากหลินเฟิงเปิดปากพูดขึ้น เริ่นชิงขวังก็พยักหน้าตอบรับอย่างยินดี “ตกลง”
กล่าวจบดังนั้น เริ่นชิงขวังก็ทะยานกลับไปนั่งบนหลังม้า แล้วะโออกมาว่า “คุ้มครององค์หญิงเข้าเมืองหลวง!!!”
กองทัพควบม้าเข้าสู่เมืองหลวงทันที ภาพที่เห็นทำให้ฝูงชนต่างพูดไม่ออก คุ้มครององค์หญิงเข้าเมืองหลวง?! เห็นได้ชัดว่ามันเป็ข้ออ้างสำหรับการนำกองทัพเข้าเมืองหลวง!
แต่องค์หญิงก็ไม่ได้กล่าวอะไร อีกทั้งหลินเฟิงก็ควบคุมสถานการณ์บนกำแพงได้อยู่หมัด แล้วใครจะกล้าปากมากพูดอะไรออกมาได้
เสียงสั่นะเืของแผ่นดินดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหล่าทหารพากันควบม้าเข้าเมืองหลวง หลินเฟิงรอจนทุกคนเข้าไปในเมืองจนหมด แล้วค่อยทะยานร่างตามไปพร้อมกับเมิ่งฉิง
บนกำแพงเมืองหลวง มีศพสองร่างที่ถูกลูกศรจำนวนนับไม่ถ้วนตรึงร่างไว้ ฉากนี้ยังคงสร้างความตกตะลึงและหวาดกลัวให้กับทุกคน
ชายหนุ่มผู้หล่อเหล่าคนนั้นช่างเป็คนเืร้อนและมีอารมณ์รุนแรง นอกจากนี้เขายังพลิกสถานการณ์เสียเปรียบให้กลายเป็ได้เปรียบอย่างง่ายดาย มิหนำซ้ำยังมีความกล้าหาญมากพอจะสังหารเิกู่เฟิงกับเิชงโดยไม่กะพริบตา
แน่นอนว่านอกจากความกล้าหาญแล้ว เขายังมีพลังที่แข็งแกร่งมากเช่นกัน
ที่หลินเฟิงสามารถจัดการเิกู่เฟิงที่อยู่ในขอบเขตแห่งจิติญญาขั้นที่ 8 ได้ นั้น แสดงให้เห็นว่าหลินเฟิงแข็งแกร่งมากขนาดไหน ฝูงชนรู้สึกราวกับว่าพวกเขาได้เป็พยานในการกำเนิดอัจฉริยะผู้แข็งแกร่งคนหนึ่ง
ถ้าหากคนคนนั้นไม่ด่วนจากไปล่ะก็ เขาจะได้เป็หนึ่งในแปดคุณชายแห่งเสวี่ยเยว่อย่างแน่นอน และบางทีเขาอาจแข็งแกร่งกว่าแปดคุณชายแห่งเสวี่ยเยว่ที่อยู่ในลำดับล่างๆ ก็เป็ได้!!!