“เ้ามานี่สิ”
ผู้าุโหลี่เรียกให้หนิงเทียนเข้ามาหา และเนื่องจากเสิ่นซินจู๋กังวลเื่ความปลอดภัยของหนิงเทียน นางจึงเดินไปพร้อมกับเขาด้วย
“เ้าสังหารเหลียนจิ้น โหราจารย์ และศิษย์หลักของสำนักั์พฤกษาจริงหรือ?”
ผู้าุโหลี่มองหนิงเทียน เ้าหนุ่มนี่เห็นได้ชัดว่าอยู่ในขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นสองเท่านั้น แล้วจะสามารถสังหารศิษย์หลักในขอบเขตผนึกดาราได้จริงหรือ?
“ขอรับ” หนิงเทียนตอบอย่างใจเย็น ขณะที่เสิ่นซินจู๋ผู้อยู่ด้านข้างช่วยเล่าเื่ราวทั้งหมดอย่างประหม่า
เมื่อฟังจนจบ ผู้าุโหลี่ก็ถามอย่างประหลาดใจว่า “แล้วเ้าสังหารหูเถี่ยซินกับเหลียนจิ้นได้อย่างไร?”
หนิงเทียนยิ้มก่อนกำหมัดขวาแน่น เส้นสีทองปกคลุมกำปั้น พร้อมะเิพลังอันน่าสยดสยองออกมา
“โอ้! กายเนื้อช่างน่าสะพรึงยิ่งนัก!”
ผู้าุโหลี่อุทาน พร้อมส่งสายตาแปลกประหลาด ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ดี! ทำได้ดีมาก!”
ในแง่ของความแข็งแกร่งนั้น พลังกายของจื๋อซิวค่อนข้างอ่อนแอและไม่สามารถเทียบกับหยวนซิวได้เลย การจะเอาชนะหยวนซิวในขอบเขตเดียวกันได้ล้วนต้องอาศัยกลเม็ดอันชาญฉลาด
ผู้าุโหลี่เป็ผู้บำเพ็ญมาหลายปี นี่เป็ครั้งแรกที่เขาได้พบลูกศิษย์ผู้มีพลังกายแข็งแกร่งเช่นหนิงเทียน ซึ่งไม่ต่างจากการพบขุมทรัพย์!
เสิ่นซินจู๋มองผู้าุโแล้วกระซิบเสียงค่อย “คะ...ความแค้นระหว่างศิษย์น้องหนิงกับสำนักั์พฤกษา...”
ผู้าุโหลี่กล่าว “ไม่ต้องกังวล สำนักั์พฤกษาไม่กล้าทำอะไรเขาหรอก มาเถิด บอกข้าหน่อยว่าเ้าได้อะไรมาบ้างจากการผจญภัยในแดนลับ”
หนิงเทียนลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพูดด้วยเสียงแ่เบา “เรียนผู้าุโ นอกจากหลานซานหู่ หูเถี่ยซิน และเหลียนจิ้นแล้ว เยี่ยชิงจากสำนักเชียนเฉ่ายังถูกข้าพลั้งมือสังหารเมื่อคราอีกฝ่ายไล่ตามข้า ยามนี้กระบี่ใบพฤกษาขจีของเขาก็อยู่ในมือข้าเช่นกัน”
ผู้าุโหลี่เผยรอยยิ้มประหลาดอีกครา ก่อนจะถามต่อ “เ้าขโมยอาวุธิญญามากี่ชิ้น?”
“เอ่อ ขะ...ข้าไม่ได้ขโมยมามากมาย คะ...แค่สองสามชิ้นเท่านั้น”
“เ้าคิดจะมอบมันให้กับสำนักหรือไม่?”
“ของเหล่านี้จะสามารถแลกปะ...เป็...เป็ทรัพยากรบางอย่างได้หรือไม่?”
ผู้าุโหลี่ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะและตบไหล่หนิงเทียน “เ้าจะได้รับรางวัลถ้าส่งมอบมันมา หากเ้าอยากแลกเปลี่ยนเป็ทรัพยากร เ้าย่อมรู้ดี”
หนิงเทียนมีเื่ค้างคาใจ เขานึกบางอย่างขึ้นได้แต่ไม่กล้าพูดมากกว่านี้ จึงเชิญผู้าุโหลี่ออกมาแล้วกล่าวเป็การส่วนตัว
“อะไรนะ! นี่เป็เื่จริงหรือ?”
“เื่เช่นนี้ข้าจะกล้าหลอกลวงผู้าุโได้อย่างไร? ข้าถูกเหลียนจิ้นและฟางจวิ้นบีบบังคับให้ต้องเข้าไป”
“เด็กดี! ช่างวิเศษยิ่งนัก ไปกันเถิด เราจะกลับกันตอนนี้เลย!”
การสำรวจแดนลับคราวนี้ จากศิษย์หนึ่งพันแปดร้อยคนของสี่สำนัก มีไม่ถึงหกร้อยคนที่ออกมาอย่างมีชีวิต และหายสาบสูญไปมากกว่าสองในสาม
แม้การสูญเสียจะมาก แต่การบ่มเพาะของศิษย์ที่รอดกลับมาได้ก็ล้วนเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลายคนได้รับรากบ่มเพาะ บ่อน้ำทิพย์ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ได้อาวุธิญญาจื๋อซิวอีกด้วย
หนิงเทียนและเสิ่นซินจู๋ติดตามข้างกายผู้าุโหลี่ จึงได้ทราบข้อมูลสถานการณ์ของทั้งสี่สำนัก
...
ณ จัตุรัสฝ่ายใน ฟางจวิ้นและสวี่ชุ่นซินถูกรายล้อมไปด้วยเหล่าศิษย์ในสำนัก ดวงตาริษยาจำนวนนับไม่ถ้วนจับจ้องมายังพวกเขา
หลังจากเข้าสู่ขอบเขตผนึกดารา ฟางจวิ้นก็ถือเป็ศิษย์หลักของสำนักแล้ว เพียงแต่ต้องรอให้การตรวจสอบสถานการณ์ในแดนลับสิ้นสุดลง เขาก็จะสามารถติดตามผู้าุโไปรายงานตัวได้
ในฐานะศิษย์เพียงคนเดียวที่ก้าวหน้าครั้งใหญ่ในแดนลับ ฟางจวิ้นรู้สึกภูมิใจเป็อย่างยิ่ง เขารู้สึกว่าตนจะกลายเป็เป้าหมายการฝึกอบรมหลัก และต่อจากนี้ไป เขาจะก้าวหน้าสู่ความรุ่งโรจน์อันไร้ขีดจำกัดอย่างรวดเร็ว
ทางด้านสวี่ชุ่นซินและศิษย์คนอื่นๆ ต่างก็คิดเช่นนั้น พวกเขาจึงพยายามประจบประแจงเพื่อผลประโยชน์
“ผู้าุโหลี่กลับมาแล้ว!”
ศิษย์ทุกคนที่เข้าสำรวจแดนลับต่างหยุดส่งเสียงดังโดยพลัน พร้อมจับจ้องไปยังทางเข้า
“ขะ...เขา...เขายังไม่ตาย?”
ใบหน้าของสวี่ชุ่นซินและฟางจวิ้นถอดสีอย่างรวดเร็ว พวกเขาสบตากันด้วยสีหน้าราวกับเห็นผี
หนิงเทียนยังมีชีวิตอยู่อีกหรือ? นี่เป็ไปได้อย่างไร?
“สวี่ชุ่นซินก้าวออกมา! เ้าแลกเปลี่ยนกับหนิงเทียน”
ผู้าุโหลี่สงสัยในความแข็งแกร่งของหนิงเทียนมาโดยตลอด เขาจึงอยากเห็นด้วยตาตนเอง
“ผู้าุโ! ท่านจะหะ...ให้ข้า...ที่อยู่ในขอบเขตนี้...แลกเปลี่ยนกับเขาหรือ? นี่จะไม่เกินไปหน่อยหรือ?”
สวี่ชุ่นซินลังเลเล็กน้อย ตอนนี้เขาอยู่จุดสูงสุดของขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นเก้าแล้ว หากต้องสู้กับคนที่อยู่ขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นสองต่อหน้าสาธารณชนเช่นนี้ จะไม่ใช่การลดคุณค่าของตนหรือ?
อีกทั้งการแลกเปลี่ยนในลักษณะนี้ หากชนะก็แล้วไปเถิด แต่ถ้าแพ้ขึ้นมา เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด?
“ข้าเรียกเ้ามาแลกเปลี่ยนก็จงออกมา เหตุใดถึงต้องเอ่ยเรื่อยเปื่อยมากมายเพียงนี้?”
เมื่อผู้าุโหลี่ดุ สวี่ชุ่นซินจึงไม่อาจปฏิเสธได้อีก แต่เขากลับโทษหนิงเทียนสำหรับความทุกข์ที่ตนต้องเผชิญ
“หนิงเทียน เ้าระวังตัวไว้เถอะ!”
สวี่ชุ่นซินะโเสียงดัง ดอกไม้เก้าดอกปรากฏขึ้นข้างกาย เขาเลือกใช้ความแข็งแกร่งของขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นเก้าที่ระดับสูงสุด เพราะเขาเองก็้าให้หนิงเทียนได้รับชมความแข็งแกร่งของตน
เหล่าศิษย์ฝ่ายในที่เฝ้าดูการต่อสู้ต่างประหลาดใจ
“ศิษย์พี่สวี่ทำอะไรเนี่ย? แค่ศิษย์ขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นสองจำเป็ต้องจริงจังเพียงนี้เลยหรือ?”
“อาจเป็เพราะศิษย์พี่สวี่ไม่พอใจ ก็เลย...”
ผู้าุโหลี่ไม่ได้สนใจปฏิกิริยาของสวี่ชุ่นซิน เขามุ่งความสนใจไปที่ท่าทีของหนิงเทียน
“ชิ!”
หนิงเทียนแสดงท่าทีเ็า เขารู้เจตนาของผู้าุโหลี่ และหากเขาอยากได้รับความสนใจอย่างจริงจัง ก็จำเป็ต้องแสดงให้เห็นถึงคุณค่าที่เหมาะสม
เขาฉีกห้วงอากาศออกด้วยหมัดเดียว ความแข็งแกร่งของหมัดทองคำเปรียบเสมือนมหาสมุทรเดือดพล่านที่มีกำลังมากกว่าห้าหมื่นจิน
กระแสลมดังกึกก้อง ห้วงอากาศปั่นป่วน ความกดดันหนักหน่วงจนยากจะหายใจถาโถมลงมา
สีหน้าของสวี่ชุ่นซินเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เขาคำรามพร้อมสูดลมหายใจ ก่อนจะเพิ่มความแข็งแกร่งไปสู่จุดสูงสุดทันที
ตูม!
เสียงสนั่นราวฟ้าคำรามมาพร้อมเสียงโอดครวญแห่งความเ็ป กลีบโลหิตบานสะพรั่งทั่วบริเวณ และเงาร่างลอยออกไป
หนิงเทียนยืนนิ่ง เขาเชิดหน้าเอามือไพล่หลังอย่างสงบราวก้อนศิลา ใบหน้าหล่อเหลา เ็า และเย่อหยิ่งของเขาราวใบมีดที่คมกริบ
สวี่ชุ่นซินกระเด็นไปไกลถึงสิบจั้ง หลังจากหยุดนิ่ง ปากและจมูกล้วนมีเืหลั่งริน แขนเสื้อขาดวิ่น และแขนขวาก็ห้อยลงอย่างอ่อนแรง กระดูกของเขาหักเสียแล้ว
ความเ็ปอย่างรุนแรงทำให้หน้าของเขาบิดเบี้ยว ใบหน้าดุร้ายเต็มไปด้วยความโกรธ และได้แต่ส่งเสียงคร่ำครวญอยู่ในลำคอ
“โอ้์! ศิษย์พี่สวี่เขา...”
“เหลือเชื่อ!”
ดวงตาของฟางจวิ้นเปล่งแสงเย็นเฉียบ เขามองหนิงเทียนอย่างเยือกเย็น ก่อนที่ในใจจะรู้สึกถึงภัยคุกคามที่อธิบายไม่ได้
ดวงตาของผู้าุโหลี่สว่างวาบแล้วหัวเราะอย่างมีความสุข
“ดี! หมัดนี้ช่างงดงาม เอาละ ทุกคนมารวมตัวกัน”
หนิงเทียนและเสิ่นซินจู๋ยืนเคียงข้างกันราวหนุ่มเนื้อทองเคียงสาวผิวหยก ซึ่งดึงดูดสายตาแห่งความอิจฉา
ฉินเสี่ยวเยวี่ยยืนอยู่ข้างหลัง นางมองแผ่นหลังของทั้งคู่ด้วยสีหน้าน่าเกลียด
“การสำรวจสิ้นสุดลงแล้ว ทุกคนสมควรได้รับรางวัล! ฟางจวิ้นผู้เข้าสู่ขอบเขตผนึกดาราได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็ศิษย์หลักของสำนักร้อยบุปผา พรุ่งนี้จงไปรายงานตัวด้วย ส่วนศิษย์คนอื่นๆ ผู้มีรากบ่มเพาะและน้ำทิพย์สามารถขอแลกเปลี่ยนเป็ทรัพยากรได้ เอาละ ทุกคนทยอยไปรับรางวัล ส่วนหนิงเทียนตามข้ามา”
ผู้าุโหลี่อธิบายสั้นๆ สองสามประโยค จากนั้นก็พาหนิงเทียนออกไป
ฟางจวิ้นซึ่งแต่เดิมได้รับความสนใจจากศิษย์ทั้งหลาย กลับถูกแสงของหนิงเทียนบดบัง จนหัวข้อสนทนาเปลี่ยนเป็เื่ของหนิงเทียนโดยสมบูรณ์
หลายคนรวมตัวรอบกายเสิ่นซินจู๋เพื่อสอบถาม เป็เหตุให้ฉินเสี่ยวเยวี่ยซึ่งเป็หนึ่งในสามสาวงามประจำสำนักถูกเพิกเฉย นางจึงได้แต่กัดฟันด้วยความโกรธแล้วจากไปอย่างเงียบๆ
หนิงเทียนเดินตามผู้าุโหลี่มายังลานเล็กๆ นี่คือลานของเหล่าผู้าุโฝ่ายใน ซึ่งปกติแล้วผู้าุโทั้งเจ็ดจะปักหลักอยู่ ณ ที่แห่งนี้
เขามองไปรอบๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น มีดอกไม้และต้นไม้มากมายในสวน ดอกไม้ิญญาบางตนกำลังวิ่งไปตามทางเดิน ที่แห่งนี้มีดอกไม้บานสะพรั่งอย่างน่าหลงใหล
“ระวังฝีก้าวของเ้าด้วย อย่าหลงกลพวกมันเชียว ที่นี่มีค่ายกลมนตราบุปผาจูงใจ”
ผู้าุโหลี่บอกว่า ดอกไม้และต้นไม้ในลานแห่งนี้ล้วนมาจากูเาไป่หลิงและสามารถปลูกฝังเป็ทหาริญญาได้ ซึ่งพวกมันเชี่ยวชาญด้านการก่อกวนให้ศัตรูเคลิบเคลิ้ม
“อสูริญญาระดับสาม?” หนิงเทียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ดอกไม้ิญญาระดับนี้ คงเป็เื่ยากสำหรับศิษย์ทั่วไปที่จะพิชิตได้
ผู้าุโหลี่กล่าวชม “เ้ามีวิสัยทัศน์ที่ดี กุญแจสำคัญในการปลูกฝังทหาริญญาคือความเข้ากันได้ ตราบใดที่รากบ่มเพาะและทหาริญญาสามารถสะท้อนตัวตนถึงกัน เมื่อนั้นย่อมสามารถปลูกฝังวิญาณได้สำเร็จและสามารถสร้างความร่วมมือกันได้ ส่วนพวกระดับสูงที่อาศัยขอบเขตบังคับให้ตกเป็ทาสย่อมสร้างความไม่เท่าเทียม ซึ่งมีอันตรายซ่อนอยู่มากมายในการทำสัญญา และข้าไม่แนะนำหนทางนี้สำหรับผู้บำเพ็ญสายรากพฤกษา”
หนิงเทียนมีความรู้น้อยมากเกี่ยวกับทหาริญญา เขาข้ามขอบเขตรวบรวมมาโดยตรง จึงขาดความเข้าใจเื่พื้นฐานสามัญอยู่หลายส่วน
หลังจากผ่านลานเล็กๆ แห่งนี้ไปแล้ว หนิงเทียนก็มาถึงห้องโถงด้านในและได้พบกับผู้าุโท่านอื่นๆ
“ผู้าุโหลี่ซาน นี่คือ?”
การมาถึงของหนิงเทียนทำให้ผู้าุโหลายคนประหลาดใจ เ้าตัวน้อยผู้นี้ไม่ได้อยู่ในระดับที่สูงนัก แล้วเขามาที่นี่ด้วยเหตุใด?
ผู้าุโหลี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่คืออัจฉริยะจากฝ่ายในของข้า เขาสังหารเหลียนจิ้น ศิษย์หลักของสำนักั์พฤกษา ทั้งยังสังหารโหราจารย์หูเถี่ยซินและขโมยอาวุธิญญาของพวกเขามาด้วย”
“อะไรนะ? นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เื่จริงหรือ?”
“เื่เช่นนี้จะเป็เท็จได้อย่างไร? ไปเชิญผู้ดูแลมาเร็วเข้า หนิงเทียนได้นำข้อมูลสำคัญกลับมาด้วย”
ในบรรดาผู้าุโทั้งเจ็ด มีผู้าุโหญิงท่านหนึ่งที่น่าจะอายุน้อยกว่าสามสิบปี นางมีรูปลักษณ์ที่งดงาม ซึ่งทำให้หนิงเทียนรู้สึกสนใจอย่างมาก
ส่วนผู้าุโท่านอื่นๆ ต่างก็อยู่ใน่วัยเจ็ดสิบถึงแปดสิบปี มีเพียงผู้าุโซิ่งที่ให้ความรู้สึกแปลกแยก
เมื่อซิ่งอวี่เจวียนจ้องมองหนิงเทียน รากบ่มเพาะในร่างของนางก็ปล่อยคลื่นผันผวนแปลกประหลาดออกมา ซึ่งทำให้นางอดไม่ได้ที่จะมองเขาอีกสองสามครั้ง
“เด็กน้อยเ้ามีนามว่าอะไร? อายุเท่าใดหรือ?” ซิ่งอวี่เจวียนแย้มยิ้มบาง ทว่ากลับมมีอารมณ์เศร้าลอยค้างอยู่ระหว่างคิ้วของนาง
บงกชสีมรกตปรากฏขึ้นข้างกายหนิงเทียนแล้วลอยเข้าหาซิ่งอวี่เจวียน ก่อนจะปล่อยคลื่นพลังประหลาดออกมา
“รากบ่มเพาะของเ้าเป็ดอกบัวหรือ?”
ดวงตาของซิ่งอวี่เจวียนเป็ประกาย นางแสดงท่าทีดีใจเล็กน้อย จากนั้นก็มีดอกบัวปรากฏอยู่ข้างกายนางเช่นกัน
ที่แท้รากบ่มเพาะของผู้าุโซิ่งก็เป็ดอกบัว ไม่แปลกใจเลยที่หนิงเทียนจะรู้สึกคุ้นเคยั้แ่แรกเห็น
“มา มาหาข้า” ซิ่งอวี่เจวียนเรียกหนิงเทียนเข้ามาใกล้ เมื่อดอกบัวข้างกายัักัน ก็ทำให้หนิงเทียนได้รับรู้ถึงสถานการณ์แปลกใหม่
ซิ่งอวี่เจวียนอยู่ในขอบเขตผนึกดารา ทว่าดอกบัวทั้งเก้ารอบกายของนางกลับให้ความรู้สึกอ่อนแอราวกำลังเจ็บป่วย
“พี่สาวซิ่ง รากบ่มเพาะของท่านาเ็สาหัสหรือ?”
บงกชสีมรกตทำให้หนิงเทียนรู้สึกใกล้ชิดกับซิ่งอวี่เจวียน เขาจึงเรียกนางว่าพี่สาวโดยไม่ขัดเขิน ทั้งยังไม่สนใจตำแหน่งผู้าุโของนาง
ซิ่งอวี่เจวียนเองก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ นางไม่คุ้นเคยกับการถูกหนุ่มน้อยเรียกว่าพี่สาว แต่ก็ไม่ได้นึกโกรธ
หลังจากได้ยินคำพูดของหนิงเทียน นางก็แสดงร่องรอยของความขมขื่นทันที
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ผู้าุโหลี่จึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “หนิงเทียน เ้ารู้เกี่ยวกับรางวัลของฝ่ายในมากเพียงใด?”
หนิงเทียนส่ายหัว เขาไปสำรวจแดนลับทันทีที่เข้ามาในสำนักร้อยบุปผา จึงรู้เื่เหล่านี้น้อยมาก
ซิ่งอวี่เจวียนจึงกล่าวว่า “รางวัลของสำนักร้อยบุปผาแบ่งออกเป็สามประเภท หนึ่งคือทรัพยากรการบ่มเพาะ สองคือวรยุทธและทักษะต่อสู้ สามคือเครื่องมือและอาวุธิญญา โดยทรัพยากรการบ่มเพาะจะแบ่งเป็ยาอายุวัฒนะ หินิญญา และบ่อน้ำิญญา ซึ่งสองอย่างแรกสามารถแลกเปลี่ยนได้ มีเพียงบ่อน้ำิญญาเท่านั้นที่ต้องเป็ผู้มีคุณูปการสำคัญต่อสำนักอย่างแท้จริง จึงจะอนุญาตให้เข้าไปบ่มเพาะภายในได้”
ดวงตาของหนิงเทียนเป็ประกายก่อนจะถามว่า “หากข้าส่งมอบอาวุธิญญาจื๋อซิวจะนับเป็คุณูปการสำคัญหรือไม่? ข้าสามารถเข้าไปบ่มเพาะในบ่อน้ำิญญาได้หรือไม่?”
ผู้าุโหลี่กล่าวว่า “หากเ้าแลกเปลี่ยนด้วยอาวุธิญญาจื๋อซิว เ้าจะได้รับหินิญญาและน้ำทิพย์จำนวนมาก ในทางกลับกันก็มีโอกาสที่จะได้รับรางวัลเป็การเข้าสู่บ่อน้ำิญญาด้วยเช่นกัน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนิงเทียนก็ฉีกยิ้ม “ขอบคุณผู้าุโที่ชี้แนะ”
ทันใดนั้นเอง ผู้ดูแลก็มาถึงที่แห่งนี้แล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้