เล่มที่ 7 บทที่ 195 หลอมมีดบินฮั่วอู๋
บัดนี้ทั้งคู่กลับมีใจกริ่งเกรงร้านหลอมอาวุธฟานซื่อขึ้นมา เพราะกระบี่ที่มีมนต์สะกดเพียงยี่สิบเจ็ดสายสี่เล่มนี้ ถึงกับสามารถเอาชนะอสุรกายกุ่ยหวังได้ ดูท่าเื้ัของร้านหลอมอาวุธฟานซื่อจะไม่ธรรมดาเป็แน่…
เป็นาน ในที่สุดกู้เชียนฟานก็แผดเสียงตวาดออกมา
“บ้าเอ๊ย เหล่าเย่ว วันหลังหากคิดจะเล่นงานร้านหลอมอาวุธฟานซื่อละก็ ทีหลังไม่ต้องเรียกนะ ข้าไม่กล้าแหย็มแล้ว…”
“บ้าจริง ทำอย่างกับข้ากล้านักแหละ”
หลังจากผลัดกันด่าอยู่สักพัก ทั้งคู่ก็เผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา นั่นสิ ไม่กล้าจริงๆนั่นแหละ ่นี้เมืองวั่งไห่ยิ่งไม่ค่อยสงบอยู่ ถึงกับมีอสุรกายกุ่ยหวังที่รอดพ้นจากค่ายกลคุ้มกันเมืองเข้ามาได้ พวกเขาเองก็ไม่กล้าแหย็มอสุรกายกุ่ยหวังเลยแม้แต่น้อย ส่วนร้านหลอมอาวุธฟานซื่อที่เอาชนะอสุรกายกุ่ยหวังได้ ก็ยิ่งไม่กล้าเข้าไปใหญ่…
อย่าว่าแต่สี่ร้านหลอมอาวุธใหญ่เลย แม้แต่สามสำนักใหญ่ที่อยู่เื้ั หากไม่ถึงที่สุด คงไม่มีใครกล้าหาเื่ร้านหลอมอาวุธฟานซื่ออีกเช่นกัน…
ช่วยไม่ได้ ในงานประลองอาวุธครั้งนี้ ร้านหลอมอาวุธฟานซื่อกลับสำแดงพลังออกมาได้น่ากลัวเกินคาดไปมาก
ใครจะไปคิดว่าร้านเล็กๆเช่นนั้นจะหลอมกระบี่สี่เล่มนี้ออกมาได้?
ถึงกับเอาชนะอสุรกายกุ่ยหวังได้เลยทีเดียว
เพราะที่นี่คือพิภพซ่างจง เป็พิภพที่มีข้อบกพร่องโดยธรรมชาติ ทำให้ผู้บำเพ็ญที่สูงกว่าขั้นจิงตันไม่อาจเข้ามาได้ ดังนั้นการมีกระบี่สี่เล่มนี้อยู่ในมือ จึงแทบจะเรียกว่าไร้เทียมทานเลยทีเดียว แล้วใครยังจะกล้าไปหาเื่ร้านหลอมอาวุธฟานซื่ออีก?
จริงสิ…
เมื่อคิดถึงตรงนี้ จู่ๆเย่วซานกับกู้เชียนฟานก็สบตากันเข้าพอดี บัดนี้ทั้งคู่นึกถึงใครบางคนขึ้นมาพร้อมกัน
‘นักพรตเฮยซาน!’
ทั้งคู่นึกขึ้นได้ว่าก่อนเริ่มงานประลองอาวุธ ก็มีคนพูดกันว่าครั้งนี้หลินเฟยทุ่มหินิญญามหาศาลกวาดซื้อของทุกอย่างในหอว่านเย่ว และสุดท้ายก็สามารถเอาชนะนักพรตเฮยซานด้วยสิบล้านหินิญญาไปได้ และได้ยินว่านักพรตเฮยซานถึงกับลั่นวาจาว่าจบงานเมื่อใด จะจัดการหลินเฟยให้หนัก…
ในตอนนั้นทั้งคู่ต่างคิดว่าหลินเฟยจะต้องแย่แน่ๆ…
ทว่าตอนนี้หลังจากที่ทั้งคู่สบตากัน จู่ๆก็มีความคิดบางอย่างปรากฏขึ้นมา ‘หรือว่านักพรตเฮยซานจะเจอคนจริงเข้าแล้ว?’
และก็เป็อย่างที่ทั้งคู่คิดจริงๆ…
แต่ต่างกันเล็กน้อยตรงที่คนจริงของนักพรตเฮยซานคืออสุรกายกุ่ยหวัง ส่วนคนจริงที่อสุรกายกุ่ยหวังเจอก็คือหลินเฟย…
อย่างไรก็แล้วแต่ เื่ที่กระบี่ทั้งสี่เอาชนะอสุรกายกุ่ยหวังได้นั้น นับว่าส่งผลกระทบเป็วงกว้างอย่างมาก ไม่ใช่เพียงร้านหลอมอาวุธทั้งเจ็ดสิบสามแห่งเท่านั้น บัดนี้ทุกคนในเมืองต่างต้องประเมินความสามารถของร้านหลอมอาวุธฟานซื่อใหม่ หลายคนร่ำลือกันว่าร้านหลอมอาวุธฟานซื่อได้เคล็ดวิชาของผู้บำเพ็ญชั้นสูงมา ดังนั้นฝีมือการหลอมอาวุธจึงพัฒนาอย่างก้าวะโ บ้างก็ลือกันว่าร้านหลอมอาวุธฟานซื่อไปขุดเจอสุสานของปรมาจารย์ด้านหลอมอาวุธ จึงได้รับเคล็ดวิชาหลอมอาวุธที่ไร้เทียมทาน…
และก็ยังมีคำร่ำลืออื่นๆอีกมากมายไม่รู้จบ…
ส่วนคนที่มีสายตาหลักแหลมขึ้นมาบ้าง เช่นคนของสี่ร้านหลอมอาวุธใหญ่และศิษย์สามสำนักใหญ่ ต่างก็มุ่งเป้าหมายไปที่หลินเฟย…
ด้วยหน่วยข่าวที่กว้างขวางของพวกเขา จึงทำให้รู้ว่าเมื่อก่อนร้านหลอมอาวุธฟานซื่อมีสภาพเป็อย่างไร แน่นอนว่าไม่มีทั้งฝีมือและชื่อเสียง เกรงว่าแม้แต่สิทธิ์ในการเข้าร่วมงานประลองอาวุธก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ แต่ละวันไม่มีลูกค้าย่างกรายเข้ามาจนแทบจะต้องปิดกิจการ กระทั่งศิษย์สำนักเวิ่นเจี้ยนผู้นี้ปรากฏตัวขึ้น ร้านหลอมอาวุธฟานซื่อก็พัฒนาจากหน้ามือเป็หลังมือเลยทีเดียว จนกลายเป็ร้านหลอมอาวุธที่เหล่าสามสำนักใหญ่ไม่กล้าเข้าไปมีเื่ด้วย…
หากเื่ทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับหลินเฟยจริงๆ ให้ตายอย่างไรพวกเขาก็ไม่มีวันเชื่อ…
หลังจากกำหนดเป้าหมายได้แล้ว เื่ของหลินเฟยก็ถูกขุดคุ้ยขึ้นมาทันที…
อันที่จริงั้แ่มาที่เมืองวั่งไห่ หลินเฟยเองก็เป็คนไม่ชอบสร้างเื่วุ่นวายอยู่แล้ว เขาจึงไม่ค่อยปรากฏตัวให้ใครเห็นเท่าไร แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะสามสำนักใหญ่มีหน่วยข่าวกว้างขวาง โดยเฉพาะในแถบทะเลอูไห่ ขอเพียงเป็เื่ที่อยากรู้ ก็ล้วนถูกขุดออกมาได้ทั้งหมด
ไม่นานเื่ของหลินเฟยก็กลายเป็ประเด็นร้อนของเหล่าผู้าุโชั้นสูงของสามสำนักใหญ่ ั้แ่เื่สะบั้นเคราะห์อัสนีเก้าสายรวด ทั้งเื่ไม่ชักกระบี่ก็บั่นคอชื่อิได้ ทั้งเื่ฝ่าเคราะห์ไฟด้วยมือเปล่า ทั้งเคล็ดวิชากระบี่ รวมทั้งเื่ทุ่มหินิญญาจนเอาชนะนักพรตเฮยซาน เื่ทั้งหมดทั้งมวลถูกขุดออกมาหมด หลังจากเหล่าสามสำนักใหญ่รู้เื่เหล่านี้เข้า ก็อดที่จะตะลึงไม่ได้…
“นี่ยังใช่คนอยู่รึเปล่า?”
นอกจากนี้สำนักโยวิยังเสียสละสิทธิ์ในการเข้าออกพิภพซ่างจงอันล้ำค่า โดยส่งศิษย์คนหนึ่งกลับไปยังพิภพหลัวฝู เพื่อไปสืบว่าที่สำนักเวิ่นเจี้ยนมีศิษย์ที่ชื่อหลินเฟยจริงหรือไม่…
ทว่าเื่ทั้งหมดหลินเฟยกลับไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย…
เพราะบัดนี้เขากำลังวุ่นอยู่กับการหลอมมีดบินฮั่วอู๋…
จะว่าไปหลินเฟยเองก็โชคดีไม่เบา…
เพราะมีดบินฮั่วอู๋ตกอยู่ในเงื้อมมืออสุรกายกุ่ยหวังมาอย่างน้อยสองพันปีได้ มันจึงซึมซับไออสูรอยู่ทุกคืนวัน แทบจะมีพลังใกล้เคียงกับตอนอยู่กับเ้าของคนแรกอย่างนักพรตไท่หยินเลยก็ว่าได้ หรือพูดอีกทางก็คือ หากอสุรกายกุ่ยหวังไม่ตายไปเสียก่อน มีดบินฮั่วอู๋ก็ย่อมไม่มีทางตกเป็ของผู้อื่นแน่นอน ต่อให้ถูกกดข่มเช่นไร สุดท้ายเพียงแค่จิตสำนึกเดียวของอสุรกายกุ่ยหวัง ก็สามารถตามมีดบินฮั่วอู๋กลับมาได้เสมอ…
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน…
เพราะครั้งนี้อสุรกายกุ่ยหวังได้อวตารร่างเป็มีดบินฮั่วอู๋ แถมยังใช้เืหล่อเลี้ยงจนเกิดสำนึกติดตามราวกับเดินทางมาด้วยตนเอง บัดนี้กระบี่ทั้งสี่ก็ได้สะบั้นจนอวตารแตกสลายไปจนสิ้น จึงเทียบได้กับสังหารอสุรกายกุ่ยหวัง ตอนนี้มีดบินฮั่วอู๋จึงกลายเป็อาวุธที่ไร้เ้าของทันที แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น เพราะหากร่างจริงของอสุรกายกุ่ยหวังใช้จิตสำนึกเรียกขึ้นมา มีดบินฮั่วอู๋ก็จะกลับไปทันที…
แต่สำหรับหลินเฟยนั้น แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว…
หลังจากร่างอวตารแตกสลาย หลินเฟยก็โคจรพลังบงการให้กระบี่เจิงหนิงทั้งสี่กลายเป็ลำแสงสี่สาย หอบพัดเอามีดบินฮั่วอู๋เข้าไปในกล่องกระบี่เจิงหนิงทันที…
จากนั้นอักขระเจิงหนิงก็เชื่อมต่อเข้ากับอักขระกระบี่หยินหลี เมื่ออักขระกระบี่ทั้งสองรวมพลังกัน จึงสามารถส่งมีดบินฮั่วอู๋เข้าสู้ห้วงมิติิถู่ได้อย่างราบรื่น…
และเมื่อมีดบินฮั่วอู๋เข้าสู่ห้วงมิติิถู่ ทุกอย่างก็ล้วนแปลกไป…
เพราะดินิถู่เกิดจากเสิ่นทงของหยินหลี ดังนั้นด้านในห้วงมิติกับด้านนอกจึงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงราวกับเป็คนละโลก ต่อให้ร่างจริงของอสุรกายกุ่ยหวังคิดจะตามมีดบินฮั่วอู๋กลับไป เกรงว่าจะต้องสะบั้นห้วงมิติดินิถู่ให้แตกออกเสียก่อนจึงจะทำเช่นนั้นได้…
แต่ประเด็นก็คือหลินเฟยอยู่ที่เมืองวั่งไห่ แถมยังมีค่ายกลคุ้มกันเมืองอีก หากคิดจะทำลายห้วงมิติดินิถู่จริง เกรงว่าอสุรกายกุ่ยหวังจะต้องฝ่าค่ายกลคุ้มกันเมืองเข้ามาอีกครั้ง ทว่าพลังของค่ายกลคุ้มกันเมืองเองก็นับว่าร้ายกาจมาก ต่อให้เป็ผู้บำเพ็ญขั้นฟ่าเซี่ยงก็ยังยากที่จะรับมือ หากอสุรกายกุ่ยหวังมาจริง เกรงว่ายังไม่ทันจะสะบั้นห้วงมิติดินิถู่ ก็จะต้องตายภายใต้ค่ายกลคุ้มกันเมืองก่อนแน่นอน…
ถึงแม้มีดบินฮั่วอู๋จะเข้าสู่ห้วงมิติดินิถู่แล้ว หากหลินเฟยคิดจะหลอมก็ไม่ใช่เื่ง่ายเช่นกัน เพราะมีดบินฮั่วอู๋อยู่กับอสุรกายกุ่ยหวังมานับพันปี จึงมีไอโเี้มากกว่าศาสตราวุธทั่วไป ดังนั้นหลังจากที่หลินเฟยเข้ามาในห้วงมิติพร้อมกระบี่ทั้งสี่และกล่องกระบี่เจิงหนิงแล้ว ก็ถูกโจมตีโดยภาพเบื้องหน้าจนตาค้างไปเสียก่อน เพราะบัดนี้มีดบินสีดำกำลังถล่มทำลายทุกอย่างในห้วงมิติดินิถู่แล้ว…
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------