“เฉินเอ๋อร์ ตอนเช้าวันมะรืน ข้าจะให้พี่สามพาเ้าไปรับเ้าสาว ดีหรือไม่?” ซ่งผิงถามความเห็นบุตรชายด้วยรอยยิ้ม บุตรชายของเขาสามารถลุกขึ้นมาถ่ายหนักถ่ายเบาด้วยตนเองได้แล้ว เพียงแค่เดินไม่ได้เท่านั้น หากมีคนเข็นรถเข็นให้ก็ไม่น่าจะมีปัญหา
“ข้าแล้วแต่ท่านพ่อขอรับ” แม้ซ่งจื่อเฉินกับซ่งผิงจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเื แต่เขานับถือซ่งผิงเป็บิดา เขาเลยยอมฝืนใจไปรับเ้าสาวเพื่อให้ซ่งผิงดีใจ
ซ่งผิงจัดท่าทางให้บุตรชายแล้วกลับไปนอน
เช้าวันรุ่งขึ้น เกาซื่อะโปลุกจิ่นเซวียน ให้จิ่นเซวียนพานางเข้าเมืองไปซื้อข้าวของงานแต่ง สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวานทำให้เกาซื่อไม่กล้าทำสิ่งใดรุนแรงกับจิ่นเซวียน นาง้าให้จิ่นเซวียนแต่งงานออกไปโดยเร็วที่สุด
“ท่านย่า บ้านท่านอาเล็กมีรถม้า พวกเราไปหาท่านอาเล็กแล้วนั่งรถม้าเข้าเมืองด้วยกันไม่ดีกว่าหรือเ้าคะ” การเข้าเมืองต้องใช้เวลาครึ่งชั่วยาม เท่ากับใช้เวลาทั้งหมดเดินทางหนึ่งชั่วโมง จิ่นเซวียนไม่อยากเดิน เมื่อมีรถให้นั่งจะเดินไปไย
เพราะพวกเรายังซื้อไม่วัตถุดิบสำหรับจัดงานเลี้ยง เลยมีหลายสิ่งที่ต้องรีบจัดการ
แม้ท่านย่าตัวร้ายจะเชิญคนในหมู่บ้านมาช่วยเหลือ แต่เวลานี้พวกเขายังไม่ตื่น ของที่ต้องซื้อในวันนี้นั้น รถใหญ่ขนาดไหนก็ขนไม่หมดไป รีบไปเร็วหน่อยดีกว่า
พ่อเฮงซวยเดินออกมาจากระเบียงทางเดินตอนที่พวกนางกำลังจะออกจากบ้าน “ท่านแม่ ท่านอยู่ทักทายเพื่อนบ้านที่มาช่วยจัดงานเถิด ส่วนเื่ซื้อวัตถุดิบข้าจัดการเองขอรับ!”
เมื่อคืนเขาตกลงกับหม่านชางแล้ว เขาขอให้หม่านชางช่วยพาไปซื้อวัตถุดิบ
“ดียิ่งนัก นี่คือตำลึงสำหรับซื้อวัตถุดิบ เ้าเก็บเอาไว้” เกาซื่อเอ่ยแล้วส่งถุงเงินให้ซย่าหลี่จวิน ซย่าหลี่จวินจัดการเช่นนี้ย่อมมีแผนอยู่เป็แน่
.....
ทางไปตลาดต้องผ่านบ้านของหูเหยียนซู เมื่อจิ่นเซวียน พ่อเฮงซวยและซย่าหม่านชางมาถึงถนนหลังบ้านของหูเหยียนซู รถม้าของบ้านท่านอาเล็กก็จอดบนถนนรอจิ่นเซวียนอยู่แล้ว!
“น้องเขย ข้าได้ยินว่าเ้าเข้าไปในอำเภอมา ได้เงินมาเท่าไหร่หรือ?” ซย่าหลี่จวินเห็นหูเหยียนซูแต่งกายเหมือนคุณชายบ้านรวย เขาสงสัยว่าหูเหยียนซูสร้างบ้านใหญ่เช่นนี้ได้ เพราะทรัพย์สินส่วนตัวที่ท่านพ่อมอบให้น้องสาว ไม่เช่นนั้นคนจนอย่างหูเหยียนซูจะเงยหน้าอ้าปากได้อย่างไร!
“ได้มาไม่เท่าใดนัก พอจะเลี้ยงชีพได้” หากมิใช่เพราะภรรยา หูเหยียนซูคงไม่สนใจซย่าหลี่จวิน เขาไม่แปลกใจสักนิดที่ซย่าหลี่จวินหย่ากับเสี่ยวเกาซื่อ คนเห็นแก่ตัวเช่นนี้คิดถึงแต่ตนเองเท่านั้น
“ภรรยา เ้าอุ้มหานเอ๋อร์เข้าไปนั่งในรถม้าเถิด ข้าขับรถม้าเอง” หูเหยียนซูประคองซย่าชุนอวิ๋นขึ้นรถ ให้พวกนางแม่ลูกและจิ่นเซวียนนั่งข้างใน
รถม้าบ้านเขากว้างขวางพอให้นั่งได้หลายสิบคน
มิใช่ครั้งแรกที่ซย่าหม่านชางนั่งรถม้าของหูเหยียนซู เขาคิดว่าหูเหยียนซูเป็คนมีน้ำใจ เพราะหูเหยียนซูให้คนในหมู่บ้านติดรถม้าไปตลาดทุกครั้งที่เขาอยู่
“ญาติเขย งานก่อสร้างครั้งหน้า เ้าช่วยส่งให้ข้าด้วยได้หรือไม่?พวกลูกชายของข้าโตแล้ว ข้าอยากหาเงินค่าสินสอดให้พวกเขา” หลี่หม่านชางมีบุตรชายสามคน เมื่อคิดว่าจะต้องจ่ายค่าสินสอดสะใภ้ในอนาคตก็กลุ้มใจนัก
“ได้สิ!หากครั้งหน้ามีงานข้าจะพาท่านไปด้วย” หูเหยียนซูตอบตกลงแบบไม่คิด ซย่าหม่านชางมิใช่คนสับปลับ เขาจึงเต็มใจคิดช่วยเหลือ มิติดสิ่งใด
น้องเขยอู้ฟู้ขึ้นเรื่อยๆ งานก่อสร้างรับเหมาคงได้เงินไม่น้อย
“น้องเขยเอ๋ย ท่านแม่อายุมากแล้ว ครอบครัวเลยรับภาระหนักขึ้น เ้ามิสู้พาข้าไปรับเหมาก่อสร้างด้วยเล่า ข้าไม่้าอะไรมาก เ้าหกส่วนข้าสี่ส่วน”
พ่อเฮงซวยช่างกล้า คนพอรู้หนังสือทว่าี้เีสันหลังยาวเช่นเขาไม่เคยลำบากมากก่อน จะทำงานหนักได้อย่างไร เวลานี้กลับมาเล่นแง่กับท่านอาเขยเพื่อเงิน ช่างไร้ยางอายจริงๆ
“พี่หลี่จวิน งานจับกัง สามีข้าทำยังเหนื่อยเลยเ้าค่ะ คนพอรู้หนังสืออย่างท่านจะทำสิ่งใดได้”
ซย่าชุนอวิ๋นอารมณ์ไม่ดีแล้ว พี่ใหญ่นางอยากแทรกแซงไปเสียทุกเื่ เห็นนางโง่หรืออย่างไร?
หากเขาเป็คนขยันหาความก้าวหน้า ช่วยเขาก็ไม่มีปัญหาหรอก แต่เขาเกียจคร้านนางเลยไม่อยากช่วยเหลือ
นังเด็กนิสัยเสีย ไม่คิดถึงบ้านพ่อแม่เลยหรือ หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่อย่างนางหากวันหนึ่งโดนหูเหยียนซูทิ้ง คอยดูว่านางจะทำอย่างไร ซย่าหลี่จวินดูถูกเหยียดหยามซย่าชุนอวิ๋นในใจ “ข้าทำบัญชีเป็ ข้าเป็คนทำบัญชีให้น้องเขยได้”
“พี่ใหญ่ ท่านมิใช่นายท่านจากครอบครัวร่ำรวยหรือ ้าสิ่งใดกันแน่ท่านคนทำบัญชี” หูเหยียนซูผู้นั่งนอกรถม้าแอบหัวเราะ พี่ภรรยาผู้นี้ตลกยิ่งนัก เขาปฏิบัติเหมือนทุกคนนั้นโง่เง่าไร้สมอง ไม่แปลกใจที่ท่านพ่อตาจะเกลียดเขา
ลูกสาวกับลูกชายไม่ต่างกันหรอก หากเขาเลี้ยงลูกชายออกมาเป็เช่นนี้ บีบคอให้ตายั้แ่ยังใส่ผ้าอ้อมเสียเลยดีกว่า
“ท่านพ่อ ท่านอาเขยหาแต่ละงานไม่ง่ายนัก ท่านอย่าเข้าไปยุ่งเลยเ้าค่ะ ตั้งใจอ่านหนังสือชิงตำแหน่งขุนนางใหญ่เถิดเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนทนไม่ไหวแล้ว นางยกยิ้มหวังให้ท่านพ่อหยุด เื่จะได้จบด้วยดี
เด็กบ้านี่หน้าตางดงามขึ้นเรื่อยๆ หากขายให้คนมีเงิน ต่อให้เป็ตำแหน่งอนุก็คงได้หลายร้อยตำลึง เฮ้อ หากรู้เช่นนี้เขาคงขอสินสอดบ้านซ่งมากขึ้นดีกว่า
“เซวียนเซวียน แหวนบนมือเ้าสวยนัก เหตุใดข้าไม่เคยเห็นเ้าสวมมาก่อน” ซย่าหลี่จวินเห็นแหวนบนมือจิ่นเซวียน เลยสงสัยว่านางมีของดีเช่นนี้ได้อย่างไร หยกสีชมพูงดงามคงมีค่าหลายตำลึง
“ของตกทอดจากท่านแม่เ้าค่ะ ปกติข้าทำใจสวมมันไม่ได้” จิ่นเซวียนยังอ้างเหมือนเดิม ต่อให้พวกเขาอยากได้แหวนวงนี้ก็เอาไปไม่ได้ แหวนหลอมรวมกับนางแล้ว ในยามจำเป็ก็จะกลายสภาพเป็ดาบช่วยนางจัดการคนชั่ว
เฮ้อ ท่านพ่อลำเอียงเกินไปแล้ว แอบนำของเนี่ยนเนี่ยนให้เซวียนเซวียน ตามหลักแล้วของเนี่ยนเนี่ยนควรยกให้เขาไม่ใช่หรือ!
“ท่านพ่อ ท่านรู้ภูมิหลังของท่านแม่หรือไม่เ้าคะ?ข้าได้ยินชาวบ้านบอกว่าตอนท่านแม่มาถึงหมู่บ้านของเรา ท่านแม่แต่งตัวเหมือนคุณหนูมีฐานะ” จิ่นเซวียนอยากรู้อดีตแม่ของตัวเอง นางคิดว่าท่านแม่มิใช่คนธรรมดา และคงเป็คนที่มาจากตระกูลชนชั้นสูง
“ไม่มีผู้ใดรู้ว่าแม่ของเ้าคือผู้ใด นางเป็เด็กที่ท่านยายเก็บมาจากแม่น้ำ ดูจากการแต่งกายน่าจะเป็คุณหนูมีฐานะ” รอยยิ้มบางเบาปรากฏบนใบหน้าซย่าหลี่จวินเมื่อนึกถึงภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้ว หลายปีมานี้เขาเห็นสตรีมามากมาย แต่ไม่มีผู้ใดงดงามเทียบเท่าแม่ของจิ่นเซวียน สำคัญที่สุดคือแม่ของจิ่นเซวียนหาเงินเก่ง ภาพปักลายของนางขายได้หลายสิบตำลึง ปีนั้นเขาทุ่มเทไปมากเพื่อเกี้ยวนาง หากมิมีท่านพ่อ ว่านเนี่ยนเนี่ยนคงไม่มีทางแต่งให้เขา
ถ้าบอกว่าแม่ของจิ่นเซวียนซ่อนทรัพย์สินส่วนตัวไว้เขาก็เชื่อ
“เซวียนเซวียน แหวนวงนี้พิเศษนัก คงขายได้ราคาดี มิสู้เอาไปจำนำแลกเป็สินสมรสเล่า” ซย่าหลี่จวินมองแหวนดอกท้อด้วยความโลภ เขาอยากให้จิ่นเซวียนเอาไปจำนำจะได้เอาส่วนแบ่ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้