เมื่อประตูแห่งโลกเื้ัเปิดออก ผู้คนมากมายที่อยู่ที่นี่ต่างก็ส่งเสียงดังกึกก้องออกมาด้วยความดีใจ
นอกจากนี้บุปผางามอาบพิษสามดอกสุดท้ายยังถูกทำลายลงแล้ว จึงทำให้แรงกดดันลึกลับที่มองไม่เห็นบนแท่นบูชานี้หายไปด้วย แท่นบูชาค่อยๆ เกิดรอยแตกร้าวขึ้น มันเริ่มมาจากฐานของแท่นและลุกลามออกไป ทำให้ตอนนี้แท่นบูชาคล้ายจะถล่มลงมา
ในขณะเดียวกันนี้ หลัวเลี่ยก็เริ่มััได้ถึงแรงสั่นะเืที่มาจากหินปราบัและกระดูกอสูรั ราวกับว่าของสองสิ่งนี้รับรู้ได้ถึงสถานการณ์ตอนนี้ โชคดีที่ของทั้งสองสิ่งนี้อยู่ในกระเป๋าเฉียนคุณ มันจึงไม่ได้ออกมาสร้างความวุ่นวายด้านนอก
เหตุการณ์นี้ทำให้หลัวเลี่ยรู้ว่า สมบัติต่างๆ เช่น กระดูกอสูรั หินปราบั และสิ่งของอื่นๆ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการมีอยู่ของแท่นบูชา บุปผางามอาบพิษ และแม้กระทั่งการกำเนิดของขุนพลเทพอสูร
เมื่อแท่นบูชาปราศจากแรงกดดันแล้ว ผู้คนมากมายก็รีบขึ้นไปบนแท่นบูชาอย่างตื่นเต้น และโยนหลัวเลี่ยขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อเฉลิมฉลอง
พวกเขาได้รับประสบการณ์มากมาย ทั้งผ่านความเป็ความตาย ความสิ้นหวัง และการมีความหวัง ซึ่งมันเป็ความรู้สึกที่ทรมานมาก แต่พวกเขากลับไม่รู้ว่าสิ่งนี้เป็การทดสอบจิตใจครั้งยิ่งใหญ่ของพวกเขา ทำให้พวกเขามีจิตใจที่แข็งแกร่งขึ้น
แม้จะเป็ความจริงที่ว่า บรรดาอัจฉริยะผู้ที่ปิดบังตัวตนเ่าั้ไม่ใช่อัจฉริยะอันดับต้นๆ ในดินแดนเหยียนหวง แต่พวกเขาก็ผ่านความเป็ความตายมาเช่นกัน ประสบการณ์ในครั้งนี้ย่อมส่งผลดีต่อการฝึกฝนวิชายุทธ์ของพวกเขาอย่างมากเป็แน่ ไม่แน่ว่าหลังออกจากที่นี่ไปแล้ว บางคนอาจถึงขั้นที่สามารถทลายพลังยุทธ์ของตัวเอง แล้วก้าวขึ้นไปในระดับที่สูงกว่านี้ก็เป็ได้
แน่นอน ในขณะนี้ทุกคนรู้ว่าหลัวเลี่ยที่อยู่ในฐานะของ ‘ผู้มีัอยู่ในเป้า‘ อาจมีชื่อเสียงสูงส่งแล้ว
เมื่อประตูแห่งโลกเื้ัเปิดออกแล้ว บรรดาผู้ทรงพลังหลายท่านที่พยายามทำลายมันอยู่ด้านนอกโลกเื้ัก็ล่าถอยไป ไม่มีใครรู้ว่ามีคนซ่อนอยู่ในเงามืดอีกหรือไม่ แต่หนึ่งในผู้ทรงพลังนั้นมีหนึ่งในแม่ทัพใหญ่ของเผ่าัอยู่ด้วย
ท้ายที่สุดแล้ว สถานที่แห่งนี้ก็เป็ส่วนหนึ่งของภพจิตั ดังนั้นเผ่าัจึงสมควรที่จะจัดการเื่นี้ที่สุด
หลงโต้วไห่พุ่งตัวเข้ามาใกล้แท่นบูชา และอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งภายในและภายนอกแท่นบูชา
นอกจากอัจฉริยะผู้ภาคภูมิใจในตนเองที่ถูกทุบตีและโยนออกไปเมื่อนานมาแล้ว ผู้คนมากมายยังคงอยู่ที่นั่น
พวกเขายังคงอยู่ล้อมรอบหลัวเลี่ย
ทางด้านซ้ายและด้านขวาของหลัวเลี่ยคือผีเสื้อแห่งรักและเย่เิหลง ที่ยังคงงดงามเช่นเดียวกับดวงจันทร์ที่สว่างไสวบนท้องฟ้าท่ามกลางหมู่ดาว
“นี่คือ?” หลงโต้วไห่เต็มไปด้วยความสงสัย
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่เป็คนของเผ่าัก้าวออกมา เขาเป็ัประเภททั่วไปในเผ่าัที่สามารถเปลี่ยนร่างเป็มนุษย์ได้ สถานะของเขาในเผ่าันั้นถือได้ว่าไม่สูงนัก และเขาไม่สามารถเรียกตัวเองว่าเป็อัจฉริยะได้ด้วยซ้ำ เขาก็ได้ผ่านประสบการณ์ทุกอย่างในโลกเื้ันี้เช่นเดียวกับทุกคน
เด็กชายจากเผ่าัอธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด
ก่อนที่เขาจะพูดจบ หลงโต้วไห่ที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไปก็โพล่งออกมา “เ้าว่าอย่างไรนะ เขาฝึกฝนเคล็ดวิชาั์ นอกจากนี้เขายังฝึกฝนจนถึงระดับสิบแล้วเช่นนั้นหรือ?”
“ใช่แล้วขอรับ เขาพูดออกมาเองว่าเขาฝึกฝนเคล็ดวิชาั์ นอกจากนี้เขายังสังหารผู้พิทักษ์ยอดเขาแห่งคุกอนธการทั้งสิบตนได้ภายในพริบตาอีกด้วย” เด็กชายจากเผ่าักล่าว
แน่นอนว่าหลงโต้วไห่ย่อมรู้ว่าผู้พิทักษ์ยอดเขาแห่งคุกอนธการทั้งสิบตนหมายถึงอะไร และคำอธิบายเดียวสำหรับการที่คนคนหนึ่งสามารถสังหารทุกตนได้ภายในพริบตา ก็คือเขาฝึกฝนเคล็ดวิชาั์
หลังจากนั้น เด็กชายจากเผ่าัก็พูดต่อ “ยังไม่หมดนะขอรับ ยังมีผู้พิทักษ์การกำเนิดของขุนพลเทพอสูร ที่ฝึกฝนเคล็ดวิชาั์มาแปดร้อยกว่าปี จนมีพลังอยู่จุดสูงสุดในระดับสิบของระดับผู้ฝึกตน และยังเชี่ยวชาญวิชาหมัดประกายดำอีกด้วย ซึ่งในตอนนั้น ‘ผู้มีัอยู่ในเป้า’ ได้ปลดปล่อยพลังจากเคล็ดวิชามหาสรรพฟ้าดินในระดับสำริดออกมาขอรับ!”
“อึก!”
แม้กระทั่งหลงโต้วไห่ที่ตอนนี้มีพลังอยู่ในจุดสูงสุดของระดับทลายยุทธ์ยังตกตะลึงกับคำพูดเหล่านี้
“ท่านแม่ทัพขอรับ”
เมื่อเห็นว่าหลงโต้วไห่เงียบไปเป็เวลานาน เด็กชายจากเผ่าัจึงเรียกออกมาเบาๆ
เมื่อหลงโต้วไห่ได้ยินเสียงเรียก เขาจึงมีสติขึ้น เขามองไปที่หลัวเลี่ยอย่างไม่อยากจะเชื่อ เื่ความสามารถทั้งสองอย่างนั้นยังคงสะท้อนอยู่ภายในใจของเขา
เคล็ดวิชาั์!
เคล็ดวิชามหาสรรพฟ้าดินระดับสำริด!
ไม่ใช่แค่เขา แต่ผู้คนมากมายที่ติดตามหลงโต้วไห่มาจากด้านนอกก็กรีดร้องด้วยความใเช่นกัน
หลงโต้วไห่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และก้าวไปหาหลัวเลี่ย
คนที่อยู่ข้างหน้าหลัวเลี่ยหลีกทางให้เขาในทันที
“เ้ายินดีจะเข้าร่วมกับเผ่าัของพวกเราหรือไม่” เมื่อหลงโต้วไห่พูด ทุกคนที่มองเหตุการณ์อยู่ก็หูผึ่งทันที
หลัวเลี่ยส่ายหัว ตัวตนของเขาในฐานะ ‘ผู้มีัอยู่ในเป้า‘ จะต้องถูกเก็บเป็ความลับจากทุกคน เขาจะต้องไม่เปิดเผยและติดต่อกับกองกำลังใดๆ ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธข้อเสนอนี้โดยไม่ต้องคิดให้มากความ
หลงโต้วไห่กล่าวว่า “หากเ้าเข้าร่วมกับเผ่าั เ้าจะได้รับสถานะองค์รัชทายาทของเผ่าเรา”
ฮือฮา!
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้น พวกเขาก็เริ่มส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมา
รัชทายาทแห่งเผ่าั เป็ตำแหน่งเดียวในเผ่าที่ต้องสายเืของัแท้จริง ซึ่งเป็สายเืสูงสุดของเผ่าั
“ท่านแม่ทัพหลงสามารถตัดสินใจเื่รัชทายาทของเผ่าัได้ด้วยตนเองหรือ?” เย่เิหลงถาม
“ไม่” หลงโต้วไห่ตอบอย่างเรียบง่าย
เย่เิหลงจึงยิ้ม และพูดว่า “ข้าเชื่อว่าในตอนที่ท่านแม่ทัพหลงเดินทางมาที่นี่ าาแห่งเผ่าัก็คงไม่ได้รับสั่งถึงเื่นี้เช่นกัน”
หลงโต้วไห่ยังคงตอบอย่างเรียบง่ายว่า “ใช่ องค์าาไม่ได้รับสั่งถึง”
“หากเป็เช่นนั้นแล้ว ทำไมท่านแม่ทัพหลงถึงกล้าเสนอเงื่อนไขเช่นนี้เล่า? ท่านไม่กลัวว่าเผ่าัของท่านจะเสียใจในภายหลังหรือ” เย่เิหลงกล่าว
“ไม่กลัว” หลงโต้วไห่มองไปยังหลัวเลี่ย และพูดอย่างเคร่งขรึม “เพราะเขาคือ ‘ผู้มีัอยู่ในเป้า!’”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์เ่าั้เงียบลงเล็กน้อย
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของหลงโต้วไห่ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
ใช่แล้ว คนที่พลิกสถานการณ์และสามารถขัดขวางการกำเนิดของขุนพลอสูรได้ คนคนนั้นยังเป็คนเดียวกับคนที่เพียงแค่เฝ้ามองคนอื่นใช้วิชายุทธ์ต่อสู้ ก็สามารถเข้าใจวิชายุทธ์ที่คนอื่นใช้แล้ว นอกจากนี้ยังสามารถฝึกฝนลอกเลียนวิชายุทธ์นั้นจนถึงระดับถ่องแท้ได้ภายในเวลาไม่นานอีกด้วย มาจนถึงตอนนี้เขายังเป็ผู้ที่ฝึกฝนเคล็ดวิชาั์ และมีพลังเคล็ดวิชามหาสรรพฟ้าดินระดับสำริดอีก อนาคตของคนคนนี้ย่อมต้องเป็เทพอย่างแน่นอน
ผู้ที่มีอนาคตเป็เทพ มองอย่างไรก็นับว่าเป็การลงทุนที่คุ้มค่า
“ขอเพียงเ้าตอบตกลง เ้าก็จะเป็รัชทายาทแห่งเผ่าั รอให้ถึงพิธีชำระล้างของเผ่าั เ้าจะกลายเป็คนในเผ่าอย่างแท้จริง และจะได้รับพลังทั้งหมดที่องค์รัชทายาทควรจะได้รับ ซึ่งสิ่งเ่าั้จะช่วยให้เ้าเข้าใกล้การเป็เทพมากกว่าตอนนี้อย่างแน่นอน” หลงโต้วไห่ให้คำมั่นสัญญาที่ยิ่งใหญ่ เขากล้าที่จะทำตามสัญญาอย่างแน่นอน แม้ว่าสถานะของเขาในเผ่าัจะไม่ได้สูงส่งมากนัก
หลัวเลี่ยยังคงส่ายหัว “ขออภัยด้วย!”
หลงโต้วไห่เองก็ยังคงโน้มน้าวอย่างไม่ลดละ “เ้าลองคิดดูให้ดี เผ่าัเป็ตัวเลือกที่ดีที่สุดของเ้าอย่างแน่นอน หากเ้าเข้าร่วมกับเผ่าั เ้าสามารถเสนอเงื่อนไขใดก็ได้ตาม้า แล้วพวกเราจะตอบรับทุกข้อเสนอของเ้าอย่างแน่นอน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มุมปากของทุกคนก็เริ่มกระตุก
เผ่าัที่เคยหยิ่งยโสและดูถูกผู้อื่นอยู่เสมอ แต่ตอนนี้หลงโต้วไห่แทบจะร้องไห้ออกมา เพื่อขอร้องให้หลัวเลี่ยเข้าร่วมกับเผ่าของเขา
หลงโต้วไห่จะต่างจากเมื่อก่อนมากเกินไปแล้ว
หลัวเลี่ยยังคงส่ายหัวและปฏิเสธ
เมื่อเห็นว่าหลงโต้วไห่ยังไม่ยอมแพ้ คนติดตามหลงโต้วไห่มาจากภายนอกโลกเื้ัที่ปกปิดตัวตนด้วยหมอกก็ก้าวออกมา และเปิดเผยร่างที่แท้จริงของตนเอง จากนั้นเขาก็โค้งคำนับหลัวเลี่ย และพูดว่า “ข้าเป็ศิษย์ของเซียนแห่งทักษิณาทิศกระเรียนขาว ขอคารวะนายท่าน”
ทุกคนใมาก
เซียนแห่งทักษิณาทิศ คือศิษย์ของเทพสูงสุดคนปัจจุบันที่มีนามว่า หยวนสื่อเทียนจวิน เขาเป็ผู้ส่งสารของหยวนสื่อเทียนจวิน ทั้งยังเป็บรรพชนที่แข็งแกร่งที่สุดอีกด้วย
หลัวเลี่ยโค้งคำนับกลับ “ขอรับ”
ศิษย์กระเรียนขาวยกยิ้ม “ข้ามาที่นี่ไม่ได้นำของขวัญมาให้ท่าน ข้ามาที่นี่เพื่อส่งสารแห่งเทพแทนอาจารย์ของข้า”
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของคนคนนั้น พวกเขาทั้งหมดก็อ้าปากค้างโดยไม่ได้ตั้งใจ พวกเขาพากันถอยหลังและแสดงความเคารพผ่านทางสีหน้า
สารแห่งเทพก็คือดำรัสของเทพ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้