บนเวทีประลองขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางยี่สิบจั้ง (ประมาณ 66.66 เมตร) มีชายสองคนกำลังยืนประจันหน้ากันอยู่!
“ฉึก!” หนิวซานแทงดาบใหญ่เหล็กดำลงไปบนเวทีที่ทำด้วยหิน! มือทั้งสองข้างของเขาก็กำแน่น เกิดเป็เสียงกระดูกลั่นรัว ตามมาด้วยเสียงพูดที่ฟังดูชั่วร้าย “ไอ้หนู ข้าจะไม่ใช้ดาบเพราะข้าไม่้าฟันเ้าให้ตายภายในดาบเดียว ข้าอยากใช้สองมือนี้บดกระดูกในร่างของเ้าให้ป่นเป็ชิ้นๆ!”
เหตุใดถึงได้พบเจอแต่พวกกบในกะลาที่ชอบทำตัวอวดดีเช่นนี้ตลอดเลยนะ!
เซียวหลิงอวิ๋นมองดูหนิวซานที่ทำสีหน้าดุร้ายอย่างพูดไม่ออก “ข้าไม่อยากป่นกระดูกทั้งหมดในตัวเ้าให้กลายเป็ชิ้นๆ แต่ข้ารับรองได้ว่าจะทำลายเส้นชีพจรทั้งหมดในตัวเ้าให้ขาดสะบั้นแน่!”
“อย่างเ้าจะสะบั้นเส้นชีพจรทั้งตัวของข้างั้นรึหรือ? ฮ่าๆๆ ช่างน่าขัน หากเ้ามีความสามารถมากพอก็เชิญ!” หนิวซานหัวเราะดังสนั่น!
“ประเดี๋ยวก็รู้!” ทันทีที่คำพูดเปล่งออกมา เท้าขวาของเขาก็เหยียดยันไว้กับพื้น จากนั้นร่างของเซียวหลิงอวิ๋นก็หายไปอย่างลึกลับ ปรากฏตัวอีกทีอยู่ตรงหน้าของอีกฝ่าย ก่อนจะชกไปที่หน้าอกของหนิวซาน!
หนิวซานรับรู้ได้เพียงว่ามีแสงหนึ่งแวบเข้ามาในดวงตา ไม่ทันไรหมัดของอีกฝ่ายก็มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว พลังอันทรงพลังถูกอัดแน่นอยู่ในหมัดนั้น แม้แต่ตัวเขาที่อวดดีกับความแข็งแกร่งของตนเองมาโดยตลอด ยังต้องรู้สึกตกตะลึงกับพลังดังกล่าว!
อย่างไรก็ดี หนิวซานนั้นไม่ใช่จ้าวซานเต๋อ เขารู้สึกใแค่ครู่หนึ่งและตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว เขาใช้พลังปราณอันทรงพลังเพื่อเร่งความเร็วของตนเองให้ทวีขึ้น ยกแขนขึ้นป้องกันเป็รูปกากบาทตรงหน้าอกตัวเองอย่างรวดเร็ว!
เปรี้ยง!
พร้อมกับเสียงที่ดังสนั่น ร่างที่พุ่งไปข้างหน้าของเซียวหลิงอวิ๋นมีอันหยุดชะงักลง ในขณะที่ร่างกายสูงใหญ่ของหนิวซานถอยหลังออกไปถึงสามก้าว!
ในการเผชิญหน้าครั้งแรกระหว่างทั้งสองฝ่าย หนิวซานผู้แข็งแกร่งกลับกลายเป็ฝ่ายที่ถูกทำให้ล่าถอย ผลลัพธ์นี้ทำให้ผู้ชมหลายร้อยคนในที่นั้นต่างพากันอ้าปากค้างทันที
จ้าวซานเต๋อและไช่ิถึงกับต้องขยี้ตาสองรอบด้วยความไม่เชื่อสายตาตัวเอง!
แม้แต่หนิวซานเองยังใ!
การโจมตีของเซียวหลิงอวิ๋นยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เขาซัดคู่ต่อสู้จนถอยกรูดออกไปด้วยหมัดเดียวจบ ก็พุ่งเข้าไปหาอย่างต่อเนื่อง ปล่อยหมัดซ้ายออกไปด้วยความเร็วปานสายฟ้าอีกครั้ง
เปรี้ยงๆๆ!
หมัดของเซียวหลิงอวิ๋นที่ถูกปล่อยออกมาส่งเสียงดังสนั่นราวกับฟ้าผ่า โดยแต่ละหมัดมีพลังมากกว่าเจ็ดร้อยชั่ง ปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังใส่หนิวซานอย่างต่อเนื่อง!
หนิวซานตกอยู่ในอาการตื่นตระหนก แม้ว่าตัวเขาจะสามารถป้องกันการโจมตีอีกสามครั้งถัดมาของเซียวหลิงอวิ๋นได้ทั้งหมด แต่ตัวเขาก็เซถอยออกไปถึงห้าก้าวซ้อน และถูกทำให้ต้องมายืนอยู่ที่ขอบเวทีประลองด้วยสี่หมัดของเซียวหลิงอวิ๋นเท่านั้น!
เหล่าผู้ชมรอบเวทีลานประลองต่างตกตะลึง ภาพที่พวกเขาคาดหวังเอาไว้ ว่าหนิวซานจะเป็ฝ่ายอัดเซียวหลิงอวิ๋นแต่เพียงฝ่ายเดียวนั้น ไม่เพียงแต่จะไม่ปรากฏให้เห็น หนำซ้ำกลับกลายเป็หนิวซานที่ถูกเซียวหลิงอวิ๋นเล่นงานจนต้องถอยหลังอย่างต่อเนื่อง!
เ้าอ้วนนิ่งอึ้งไป แต่แล้วเสียงะโด้วยความตื่นเต้นของพานเสี่ยวปิงก็ดังลั่นออกมาท่ามกลางความเงียบของคนอื่นๆ!
“ฮ่าๆๆ พี่อวิ๋น อัดเขาเลย! ซัดเ้าวัวโง่นั่นให้กลายเป็หัวหมูไปเสีย!”
“หนิวซาน ฝีมือเ้ามีเท่านี้เองหรอกหรือ? ทำได้แค่เพียงปัดป้องเท่านั้นเนี่ยนะ!”
“ว๊าก!” หนิวซานซึ่งถูกยั่วโมโหเพราะคำพูดของเซียวหลิงอวิ๋น แค่นเสียงคำรามออกมาดังลั่น ปล่อยหมัดขวาของเขาออกไปอย่างไม่ลังเล!
กำลังรออยู่เลย ใบหน้าของเซียวหลิงอวิ๋นมืดดำลงทันที ลมปราณภายในของเขาก็ไหลเวียนด้วยความเร็วสูง จนกระทั่งยั้งเอาไว้ไม่อยู่ ปล่อยหมัดต่อยออกไปอย่างรุนแรงใส่หมัดขวาของอีกฝ่าย!
“กร๊อบ”
ในขณะที่หมัดทั้งสองปะทะกัน หนิวซานก็รู้สึกราวกับหมัดของเขาถูกค้อนขนาดั์เหวี่ยงใส่อย่างแรง จนได้ยินเสียงกระดูกแตกอย่างชัดเจน! ภายใต้การกระแทกที่รุนแรงนี้ ส่งผลให้กระดูกแขนของเขาหักในทันที!
ความเ็ปอย่างรุนแรงแผ่ซ่าน ทำให้หนิวซานอดไม่ได้ที่จะร้องโหยหวนราวกับหมูที่ถูกเชือด!
ในขณะที่เขาเอาแต่กรีดร้องดังลั่นอยู่นั้น “เปรี้ยง!” หลังเท้าพลันเตะเข้าที่ท้องน้อยของหนิวซานอย่างเต็มกำลัง! พลังของแรงเตะนี้ก็รุนแรงมากเสียจนร่างกายที่สูงใหญ่และกำยำของหนิวซานกระเด็นออกไปราวกับผ้าขี้ริ้ว!
“ตุบ!” หนิวซานร่วงจากเวทีประลอง ร่างตกลงกระแทกพื้นจนเกิดฝุ่นตลบอบอวลอยู่รอบๆ เขากระอักเืออกมาคำโต
การโจมตีอย่างต่อเนื่องนี้เกิดขึ้นรวดเร็วมาก จนแม้แต่ผู้ดูแลที่รับผิดชอบเวทีลานประลองเองยังไม่มีโอกาสได้เข้าไปช่วยเหลือเลย หนิวซานถูกเซียวหลิงอวิ๋นซัดร่วงจากเวทีจนหมดสติไป!
หลังจากกระเด็นกระดอนถึงสองรอบติด ผู้ดูแลก็รีบวิ่งไปหาหนิวซาน เมื่อเขาแตะที่ข้อมือของอีกฝ่าย สีหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนไปทันที!
พลังปราณในร่างกายอีกฝ่ายปั่นป่วนไปหมด จุดกำเนิดพลังตันเถียนได้รับความเสียหาย ลูกเตะของเซียวหลิงอวิ๋นได้ทำลายพลังยุทธ์ของนักยุทธ์ระดับห้าที่สั่งสมมาเป็เวลานานของหนิวซานจนหมดสิ้น
การต่อสู้แบบถึงตาย! อย่าว่าแต่ทำให้อีกฝ่ายต้องพิการเลย ต่อให้ซัดอีกฝ่ายจนตายก็ถือว่าไร้ความผิด!
เซียวหลิงอวิ๋นซึ่งยืนอยู่บนเวทีประลอง มองไปที่จ้าวซานเต๋อและไช่ิที่กำลังหวาดกลัว และทำมือเป็ท่าเชือดคอไปทางทั้งสองคนอย่างจงใจ!
่จังหวะที่ทั้งคู่ถูกจับจ้องด้วยสายตาอันเย็นะเืของเซียวหลิงอวิ๋น พวกเขารู้สึกราวกับตนเองตกลงไปในขุมนรกเสียแล้ว ยิ่งเห็นอีกฝ่ายทำมือเชือดคอ ขาของจ้าวซานเต๋อสั่นเป็ทุนเดิมก็อ่อนเปลี้ยจนแทบจะทรุดลงไปนั่งกับพื้นทันที! แต่ไช่ิที่อยู่ข้างๆ กลับน่าเวทนายิ่งกว่า เสียงตุบดังขึ้น พร้อมกับตัวเขาที่ทรุดลงไปนั่งกับพื้นด้วยความรู้สึกหวาดกลัวแทบตายเมื่อเห็นสายตาและท่าทางของเซียวหลิงอวิ๋น!
ห่างชั้น!
ความประหลาดใจปรากฏในดวงตาของชายร่างอ้วนผู้หนึ่ง! นักยุทธ์ระดับสี่ สามารถทำให้นักยุทธ์ระดับห้าขั้นสูงสุดกลายเป็คนพิการได้! เซียวหลิงอวิ๋นคนนี้ นอกเหนือจากเขาจะเป็เ้าของตำรับตำรับยาโบราณแล้ว ยังมีความแข็งแกร่งในด้านการต่อสู้อีกด้วย! ช่างเป็ต้นกล้าที่ดีจริงๆ! ควรค่าแก่การจับตามองอย่างยิ่ง!
ก่อนหน้านี้ตำรับตำรับยาโบราณทำให้จ้าวเหวินจัวมีความประทับใจที่ดีต่อเซียวหลิงอวิ๋น และในครั้งนี้หลังจากที่เห็นการต่อสู้ระหว่างเซียวหลิงอวิ๋นกับหนิวซาน จ้าวเหวินจัวก็เริ่มให้ความสำคัญกับ เซียวหลิงอวิ๋นอย่างจริงจัง!
...
เหตุการณ์วันนี้สั่นะเืไปทั่วทั้งเขตใต้ของสำนักิญญาเมฆา!
เซียวหลิงอวิ๋นกับหนิวซานต่อสู้แบบถึงตายที่เวทีประลอง ผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้ผู้ชมเก้าสิบเก้าจากร้อยต้องใ!
เซียวหลิงอวิ๋นซึ่งเป็ที่รู้จักกันดีในฐานะ ‘เ้าขยะชั้นสองชั้นสาม’ มีพลังยุทธ์แค่ขั้นนักยุทธ์ระดับสี่เท่านั้น บัดนี้กลับสามารถเอาชนะหนิวซานที่เป็นักยุทธ์ระดับห้าขั้นสูงสุดของการฝึกฝนได้อย่างง่ายดาย!
การต่อสู้ครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะลบชื่อเสียงที่ไม่ดีของเซียวหลิงอวิ๋นให้หายไปโดยสิ้นเชิง แต่ยังทำให้ใครหลายคนถึงกับขนานนามเขาว่าเป็ดาวเด่นของเขตใต้! บ้างก็อัจฉริยะคนใหม่! ส่วนไช่ิและจ้าวซานเต๋อที่หวาดกลัวจนเป็ลมไป กลายเป็ ‘เื่ขบขัน!’ ของทั่วทั้งสำนักิญญาเมฆา
และแล้วข่าวก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว!
เมื่อข่าวใหญ่นี้ไปถึงหูของว่านฮวน นวลนางแห่ง์ที่แสนงดงาม นางก็ขมวดคิ้วทันที “เขาเอาชนะหนิวซานได้จริงหรือ? แต่แค่การเอาชนะเ้าวัวป่านั่นมิได้ถือเป็อัจฉริยะเสียเมื่อไร? ถ้าอย่างนั้นก็คงมีอัจฉริยะมากมายก่ายกองแล้วล่ะ! ดาวรุ่งพุ่งแรงแล้วอย่างไรกัน!”
...
“ฮ่าๆๆ! ศิษย์พี่อวิ๋นได้มาตั้งหนึ่งพันเหรียญทองแหนะ เอ้า นี่ ของท่านเจ็ดร้อยเหรียญทอง!” เ้าอ้วนตื่นเต้นมาก! ไม่เพียงแต่เขาจะดีใจเพราะได้เงินมากมายก่ายกองเท่านั้น แต่ยังยินดีให้กับเซียวหลิงอวิ๋นอีกด้วย! ศิษย์พี่ของเขาได้แสดงให้โลกเห็นถึงความสามารถในการต่อสู้อันสุดยอดของเขาแล้ว ว่าตัวเขาไม่ใช่ขยะ ทว่าเป็อัจฉริยะและเป็ดาวเด่นอย่างแท้จริง!
เซียวหลิงอวิ๋นรับถุงเงินหนักๆ ที่เ้าอ้วนส่งมาให้ หยิบขวดยาเล็กๆ สามขวดออกมา แล้วมอบให้กับเ้าอ้วน “เสี่ยวปิง นี่เป็ยาเหลวสำหรับใช้เสริมแกร่งร่างกายสามชุด! พวกมันจะช่วยให้เ้าสามารถบรรลุขึ้นเป็นักยุทธ์ระดับหกได้ทันก่อนวันงานประลอง!”
“ศิษย์พี่อวิ๋น ในวันงานประลองครั้งนี้ พวกเราสองพี่น้องจะต้องเฉิดฉาย ตั้งเป้าไปให้ถึงสิบอันดับแรกกันเถอะ!”
“ดี!”
สองพี่น้องประสานมือให้กันอย่างภาคภูมิใจ!
“หลิงอวิ๋น มานี่หน่อย!” เสียงหนึ่งดังขึ้น!
เซียวหลิงอวิ๋นหันไปบอกลาพานเสี่ยวปิง แล้วรีบเดินไปหาอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว “ผู้าุโ ไม่ทราบว่าท่านมีธุระอะไรกับข้าหรือขอรับ?”
จ้าวเหวินจัวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าว “หลิงอวิ๋น บรรพบุรุษของเ้ามีผู้ใดเคยทำอาชีพพ่อค้ายา หรือนักปรุงยาหรือไม่?”
“ท่านผู้าุโ...”
“อะแฮ่ม ข้านึกถึงตำรับยาโบราณที่เ้าทำเมื่อครั้งก่อน ถ้าเกิดว่าบรรพบุรุษของเ้าเป็... ช่างมันเถอะ... ว่าแต่ เ้าสนใจศาสตร์การปรุงยาวิเศษหรือไม่?”
ศาสตร์การปรุงยา จะสอนข้าปรุงยาอย่างนั้นหรือ? เซียวหลิงอวิ๋นหลับตาลง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขบขัน!
“ผู้าุโ ข้าไม่ทราบว่าบรรพบุรุษของตระกูลเรามีนักปรุงยาหรือไม่ แต่ข้ายังพอจำตำรับตำรับยาวิเศษได้อยู่หลายตำรับตำรับ ไม่ทราบว่าระดับของยาวิเศษสูงสุดที่ผู้าุโสามารถปรุงได้เวลานี้คือระดับไหนหรือ?”
“ยาวิเศษ...ตำรับยาวิเศษ?” จ้าวเหวินจัวรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันใด “ตอนนี้ข้าสามารถปรุงยาวิเศษระดับสองขั้นกลางได้แล้ว!”
ระดับสอง ขั้นกลาง!
เช่นนั้นก็ให้ตำรับยาวิเศษระดับสองไปสองตำรับ และตำรับยาวิเศษระดับสามอีกหนึ่งตำรับก็แล้วกัน!
“ยาระดับสอง [ยาบริสุทธิ์] ยาระดับสอง [ยาต้นกำเนิดิญญา] และ [โอสถละมุน] ตะ...ตำรับยาระดับสาม!” ขณะที่ถือกระดาษเอาไว้ในมือ มือขาวอวบอ้วนของจ้าวเหวินจัวถึงกับสั่นเทิ้มด้วยความตื่นเต้น!
“ละ...หลิงอวิ๋น หลังจากที่ข้าตรวจสอบตำรับยาทั้งสามนี้แล้ว พวกมันจะถูกส่งไปให้ทางสำนัก และพวกมันจะถูกแปลงเป็แต้มสำนักให้เ้า!”
“ท่านผู้าุโอย่าได้กังวลเื่นี้ รอจนศิษย์ได้เข้าไปยังสำนักชั้นในเสียก่อน แล้วค่อยมอบให้กับศิษย์ก็ยังไม่สายเกินไป!”
“สำนักชั้นใน ได้สิ ได้ ขอเพียงยืนยันได้ว่าตำรับยาทั้งสามเป็ของแท้ ข้าจ้าวเหวินจัว จะขอรับรองการเข้าสู่สำนักชั้นในให้เ้าเอง!”
“หลิงอวิ๋น เวลานี้เ้ายัง้าอะไรอีกหรือไม่? ขอเพียงเป็สิ่งที่ข้าสามารถหามาได้ เ้าสามารถบอกมาได้เลย!”
“ในเวลานี้ไม่มีอะไรที่ศิษย์้าทั้งนั้น!”
“เช่นนั้น เอ้า นี่ ด้วยความแข็งแกร่งทางกายของเ้าในเวลานี้ยาปราณโลหิตขวดนี้คงเหมาะสมกับเ้าที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตาม รางวัลสำหรับผู้ที่ได้สิบอันดับแรกของงานประลองครั้งนี้มีมูลค่าสูงกว่าปีก่อนๆ มาก ด้วยพลังยุทธ์ของเ้าที่พัฒนาขึ้นอย่างมาก ข้าเชื่อว่าเ้ามีโอกาสที่จะได้เข้าสู่สิบอันดับแรกอย่างแน่นอน!” จ้าวเหวินจัวหยิบขวดยาขนาดกลางออกมา แล้วยัดมันลงในมือของเซียวหลิงอวิ๋น!
ตำรับยาสามตำรับ แลกกับยาปราณโลหิตสำหรับนักยุทธ์เพียงหนึ่งขวดอย่างนั้นหรือ!
เฒ่าจ้าวเอ๋ย ตาเฒ่าจ้าว ข้าจะขอดูท่าทีของเ้าในอนาคตสักหน่อยก็แล้วกัน! เซียวหลิงอวิ๋นจับขวดยาในมือแล้วเก็บเอาไว้ในอ้อมแขน!
