ทิศตะวันออกของแดน์วิมานคือฤดูใบไม้ผลิ เป็่ที่สิ่งมีชีวิตตื่นตัวขึ้น ดังนั้นจึงเป็แหล่งที่หญ้าเซียนงอกเงยมากที่สุด รองลงมาถึงเป็ทิศตะวันตก ซึ่งพลังปราณเทียบไม่ได้กับทิศตะวันออก
หลังจากที่หลิงเซียวเร่งรีบเดินทางมา พวกเขาก็มาถึงอุปสรรคด่านแรกอย่างเร็วไว สถานที่นั้นคือ ร่องธารพฤกษา
ก่อนที่จะมีร่องธารพฤกษานี้ ในตำนานเล่าขานกันว่าเคยเป็ูเาสูงชันมาก่อน ต่อมาได้มีจอมยุทธ์บางคนผ่ามันออกเป็สองซีก จึงกำเนิดเป็ธารน้ำลึกกว่าพันเมตร เนื่องจากสภาพอากาศ ธารน้ำถูกพืชพรรณสิ่งมีชีวิตสีเขียวปกคลุมทั่ว จนท้ายสุดกลายเป็ถิ่นอาศัยของอีกาดำ
อีกาดำเป็สัตว์ปีศาจชั้นล่าง มีพลังแค่ขั้นสี่ แต่เวลาปรากฏตัวมักอยู่รวมกันเป็ฝูง อีกทั้งพวกมันยังสามารถดึงเอาความกระวนกระวายใต้จิตสำนึกของคนออกมาได้ ดังนั้นคนส่วนมากจะเกลียดอีกาดำ เมื่อถึงร่องธารพฤกษาก็มักจะเลี่ยงไปใช้ทางอ้อม
เมื่อถึงร่องธารพฤกษา โหยวเสี่ยวโม่ก็ให้หลิงเซียววางเขาลง
อีกาดำแม้เป็เพียงสัตว์ปีศาจชั้นล่าง พวกมันมักเฝ้าหญ้าเซียนขั้นสี่ชื่อว่า สมุนไพรพูนสุข
สมุนไพรพูนสุขหรืออีกชื่อหนึ่งคือต้นราตรีหุบ ต้นแผ่ออกกว้าง ใบสยายเหมือนปีกนก เปิดออกตอนกลางวัน พอตกกลางคืนก็หุบลง ที่มาของชื่อสมุนไพรพูนสุขนั้น ตรงข้ามกับอีกาดำ มันมีสรรพคุณช่วยผ่อนคลาย ระงับอาการที่เกิดจากความรู้สึกทุกข์ทั้งเจ็ดประการในจิตใจ วิตกกังวลทุกข์ร้อนใจ สามารถใช้มันหลอมยาเซียนตันขั้นสี่ที่เรียกว่ายาพูนสุข
แต่ที่โหยวเสี่ยวโม่สนใจนั้นไม่ได้สมุนไพรพูนสุข หากแต่เป็หญ้าเหม็นที่แยกมาจากพันธุ์ของสมุนไพรพูนสุข
หญ้าเหม็นนั้นตรงตามชื่อ มันจะแผ่กลิ่นเหม็นชนิดหนึ่งออกมา ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสมุนไพรพูนสุข มีเพียงแหล่งที่สมุนไพรพูนสุขเป็พันต้นขึ้นไปถึงจะมีหญ้าเหม็นเติบโตขึ้นได้ ร้านยาด้านนอกนั้นไม่ค่อยจะเห็น
โหยวเสี่ยวโม่อยากหลอมยาเซียนตันชนิดหนึ่งที่ชื่อว่ายาเหม็น ยาชนิดนี้จะส่งกลิ่นประหลาดบางอย่างออกมา เมื่อนักฝึกตนพกกลิ่นนี้ไว้กับตัว สัตว์ปีศาจที่เข้าใกล้พวกเขาก็จะสูญเสียการรับรู้กลิ่น อีกทั้งยังมีโอกาสทำให้สัตว์ปีศาจตัวนั้นลดความระแวงต่อตัวพวกเขาด้วย สำหรับนักหลอมยาหรือนักฝึกตนแล้ว จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการทำสัญญาใจกับพวกมันได้ไม่น้อย
ดังนั้นถึงแม้กลิ่นของยาเหม็นจะไม่น่าพิสมัยนัก แต่ก็ได้รับความนิยมจากนักฝึกตนพอสมควร
โหยวเสี่ยวโม่มีความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในสมอง ฉับพลันสัตว์ปีศาจสง่าน่าเกรงขามก็โผล่มาทันใด
ขนสีขาวเงินเปล่งประกายสวยงาม เส้นขนนิ่มเรียงตัวลงมา ดวงตาสีแดงโลหิตระยิบระยับราวกับอัญมณีทับทิม แต่ก็มีความโหดร้ายและกระหายเืซ่อนอยู่จางๆ นี่คือธาตุแท้ของหมาป่าเืสีขาว
จากเ้าลูกบอลน้อยกลายเป็เ้าลูกบอลใหญ่ แม้จะยังไม่โตเต็มวัย แต่ก็ใกล้มากแล้ว หนึ่งเดือนกว่ามานี้ โหยวเสี่ยวโม่ป้อนเนื้อแพะหมื่นปราณไปราวสี่ในห้าส่วนจากทั้งหมดหกร้อยชั่ง ที่เหลือเขาไม่กล้าให้มันต่อ เพราะนั่นคือเสบียงในส่วนของหลิงเซียว…
เนื้อแพะหมื่นปราณสี่ในห้าส่วนนั้นมีพลังงานเปี่ยมล้น บวกกับโหยวเสี่ยวโม่ใช้ยาเซียนตันและน้ำปราณเลี้ยงมัน ผลคือลูกหมาป่าเืสีขาวตัวน้อยพริบตาเดียวถูกเลี้ยงจนเกือบโตเต็มวัยในเวลาไม่กี่เดือน
หมาป่าเืสีขาวสง่าน่าเกรงขามเมื่อเห็นโหยวเสี่ยวโม่ จู่ๆ ก็ครางเสียงน้อยใจออกมา จากนั้นก็วิ่งส่ายหางไปมาอย่างว่าง่าย ท่าทางน่าเกรงขามพลันหายไปหมดสิ้น
“ศิษย์น้องเล็ก เ้าจะให้มันไปเก็บหญ้าเหม็นงั้นรึ?”
หลิงเซียวเห็นโหยวเสี่ยวโม่เรียกเ้าหมาป่าเืสีขาวออกมา พลันคาดเดาความคิดเขาได้ เผยท่าสีประหลาดออกมา
โหยวเสี่ยวโม่ไม่เห็นท่าทางเขา “ก็ใช่น่ะสิ เ้าลูกบอลใหญ่รวดเร็วว่องไว ดังนั้นคงเก็บหญ้าเหม็นได้ก่อนที่พวกอีกาดำจะตื่นเสียอีก”
“หญ้าเหม็นกลิ่นแรงขนาดนั้น เ้าไม่กลัวว่ามันจะเสียการรับรู้กลิ่นรึไง?” หลิงเซียวถามกลับเชิงหยอกล้อ ก่อนหน้านี้เขาได้ยินโหยวเสี่ยวโม่พูดเื่สรรพคุณของหญ้าเหม็นแล้ว ตอนนี้เขายืนอยู่ตรงนี้ยังได้กลิ่นนั้น หากเ้าหมาป่าเืสีขาววิ่งเข้าไป คงสลบอยู่ในนั้นแน่
“เอ๊ะ?” โหยวเสี่ยวโม่ชะงัก ถึงพึ่งคิดได้
ใช่สิ หญ้าเหม็นถึงแม้จะยังไม่ได้หลอมเป็ยา แต่กลิ่นมันแรงอยู่แล้ว ให้เ้าลูกบอลใหญ่ที่ยังไม่โตเต็มวัยไป คงสลบก่อนจะได้เก็บหญ้ามาแน่นอน
หลิงเซียวพูดอย่างใจเย็น “รออยู่ที่นี่กับเ้าลูกบอลใหญ่ของเ้าที่นี่ ข้าจะรีบกลับมา”
โหยวเสี่ยวโม่ถูจมูกไปมาอย่างเก้อเขิน ได้แต่ยืนรออย่างว่าง่าย
หลิงเซียวเข้าไปยังร่องธารน้ำนั้น เดิมทีโหยวเสี่ยวโม่อยากเก็บเ้าลูกบอลใหญ่กลับเข้าไปในห้วงมิติ แต่เ้าลูกบอลใหญ่ไม่ยอม กัดชายเสื้อเขาไม่ยอมปล่อย ดวงตาสีแดงฉานจ้องเขาอย่างน่าสงสาร พอใจอ่อน จึงยอมให้มันอยู่ข้างนอกด้วย
แม้จะยังไม่โตเต็มวัย แต่ก็มีพลังชั้นจันทรา อีกทั้งมีนิสัยสัตว์ป่าอยู่ในตัว ที่นี่เหมาะกับมันมากกว่าอีก หากถูกคนพบเข้า ก็แก้ตัวได้ว่าทำสัญญากับมันที่แดน์วิมานนี่ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวจริงๆ!
ขณะกำลังคิดเพลินๆ ทันใดนั้นด้านนั้นก็มีเสียงลมลอยวูบเข้ามา
โหยวเสี่ยวโม่หันหลังด้วยความสงสัย ก็เห็นกลุ่มชายหญิงเหินอยู่บนฟ้า ชายเสื้อพลิ้วไหว มาตามลม หนุ่มหล่อหญิงงามเตะตาอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะผู้ชายที่นำหน้าสุด พลิ้วไหวดุจลม หล่อเหลาองอาจ ดูโดดเด่นสะดุดตา พลังชั้น… โหยวเสี่ยวโม่อ่านไม่ทะลุ แต่เขารู้ว่าคนกลุ่มนี้คือใคร
คู่อริหมายหัวของสำนักเทียนซิน ศิษย์ของสำนักชิงเฉิงนั่นเอง
ชายผู้นี้ไม่ใช่ลั่วซูเหอ แต่พลังของเขาไล่เลี่ยกับลั่วซูเหอ ซึ่งเป็ศิษย์น้องของเขาชื่อว่า เยี่ยตัน
เื่ราวพวกนี้เขาไม่ได้สืบมาเอง แต่ได้ยินมาจากพวกนักฝึกตนสันโดษกลุ่มนั้น คงเพราะยากที่จะเจอคนที่เป็มิตรด้วย นักฝึกตนพวกนั้นจึงเล่าเื่ราวมากมายให้พวกเขาฟัง เยี่ยตันก็เป็หนึ่งเื่ในนั้น
พูดถึงเยี่ยตัน ศักยภาพของเขาโดดเด่นนัก ตอนนี้มีพลังชั้นดวงดาวหนึ่งดาว ต่ำกว่าลั่วซูเหอเพียงหนึ่งดาว หากไม่ใช่ลั่วซูเหอที่อยู่เหนือเขา เขาคงเป็ดาวเด่นดวงใหม่ของสำนักชิงเฉิงไปแล้ว
แต่ด้วยความที่ลั่วซูเหอคือศิษย์พี่ของเขา และดูแลเขามาตลอด ดังนั้นทั้งสองจึงสนิทกันพอสมควร เพียงแต่นิสัยของเยี่ยตันค่อนข้างประหลาด ไม่ได้เป็มิตรอ่อนโยนเหมือนลั่วซูเหอ นิสัยเขาออกจะชั่วร้ายเหมือนพวกฝึกวิชามารมากกว่า
โหยวเสี่ยวโม่เห็นพวกเขา พวกเขาก็เช่นกัน ตอนนี้จะหลบก็คงไม่ทันแล้ว
คนกลุ่มนี้ร่อนลงมาเบื้องหน้าเขาไม่ไกลนัก
เยี่ยตันที่นำหน้าอยู่ครู่เดียวก็จำโหยวเสี่ยวโม่ได้ เขามาถึงช้ากว่าใคร ทั้งยังมีความสัมพันธ์กับหลิงเซียว ด้านนอกแดน์วิมานนั้นมีคนไม่น้อยที่สังเกตเห็นพวกเขา เห็นเขาอยู่ตรงนี้คนเดียว กวาดตามองอย่างรู้สึกสนุก ทันใดนั้นสายตาก็ไปหยุดที่หมาป่าเืสีขาวข้างเขา รูม่านตาถึงกับหดเล็ก
ไม่ทันรอเขาได้เอ่ยชื่อออกมา ศิษย์น้องคนข้างๆ ก็โพล่งออกมาอย่างตะลึง “ทุกคนดูเร็ว นั่นมันหมาป่าเืสีขาวกึ่งขั้นแปดไม่ใช่รึ? ดูเหมือนใกล้จะโตเต็มวัยแล้วด้วย”
คำพูดเขาดึงดูดสายตาทุกคนทันใด สายตาทุกคู่นั้นเต็มไปด้วยความละโมบอยากได้มองไปยังหมาป่าเืสีขาว หมาป่าเืสีขาวขั้นแปดแม้จะจัดว่าเป็สัตว์ปีศาจชั้นกลาง แต่สำหรับสำนักชิงเฉิงแล้ว มันเป็ตัวช่วยที่ดีมาก อีกทั้งสัตว์ปีศาจที่จะเชื่อมสัญญาใจด้วยนั้นก็มีไม่มาก สามารถพบเจอหมาป่าเืสีขาวขั้นแปดได้สักตัวนั้นถือว่าโชคดีมหาศาลเชียว
ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อคนของสำนักชิงเฉิงมั่นใจว่ามันคือหมาป่าเืสีขาวแล้ว สายตาโลภกระหายนั้นก็ปิดบังไม่อยู่
ตาชั้นเดียวโฉบเฉี่ยวของเยี่ยตันค่อยๆ ชี้ขึ้นเหมือนมารร้าย เผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา จ้องมองโหยวเสี่ยวโม่แล้วเอ่ย “ศิษย์น้องเล็กแห่งสำนักเทียนซิน ที่นี่มีเพียงเ้าคนเดียว เห็นทีดวงของเ้าไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เ้าจะยอมมอบหมาป่าเืสีขาวมาแต่โดยดี หรือจะให้ข้าฆ่าเ้าก่อนดี?”
โหยวเสี่ยวโม่เบิกตาโตมองพวกเขา แม้จะรู้ว่าที่โลกนี้ฆ่าคนกันเป็ว่าเล่น แต่คิดไม่ถึงว่าพึ่งพบหน้ากัน คนพวกนี้ก็เผยจิตโสมมน่ารังเกียจถึงเพียงนี้
เ้าลูกบอลใหญ่ะโมาอยู่หน้าโหยวเสี่ยวโม่แต่แรกแล้ว ตั้งท่าปกป้องแล้วกางกรงเล็บออกพร้อมกับแยกเขี้ยวแหลมคมใส่พวกเยี่ยตัน แม้มันจะไม่เคยออกล่าเหยื่อมาก่อน แต่มันถูกโหยวเสี่ยวโม่เลี้ยงมาอย่างดี ทั้งเนื้อปราณ น้ำปราณและยาเซียนตัน ตัวจึงโตกว่าหมาป่าเืวัยเดียวกัน ฟันก็คมกว่ามาก
แต่ยิ่งเพราะเหตุนี้ พวกเยี่ยตันจึงยิ่งรู้สึกอยากได้หมาป่าเืตัวนี้ เห็นท่าของมันก็รู้ได้ว่าพลังต่อสู้คงไม่ด้อยแน่
“เ้าลูกบอลใหญ่เป็ของข้า ข้ากับมันผูกสัญญากันแล้ว”
โหยวเสี่ยวโม่กอดคอเ้าลูกบอลใหญ่ไว้ มองพวกเขาอย่างระแวง อยากให้เขามอบเ้าลูกบอลใหญ่หรือ ไม่มีทางเสียหรอก!
เยี่ยตันหาได้อารมณ์ขึ้น กลับดีอกดีใจ เอ่ยอย่างชั่วร้าย “เ้าลูกบอลใหญ่? เป็ชื่อที่บ้านนอกเสียจริง งั้นก็ไม่มีทางอื่น สัตว์ปีศาจที่ผูกสัญญาแล้ว คงต้องฆ่าเ้าก่อนถึงจะถอนสัญญานั่นได้”
ฆ่าชิงทรัพย์เป็เื่ง่ายดาย แต่การชิงสัตว์ปีศาจที่ผูกสัญญาไว้นั้นไม่เหมือนกัน
นักฝึกตนบางคนหมายใจกับสัตว์ปีศาจที่ผูกสัญญาไว้อยู่แล้ว ขอเพียงจัดการฆ่าเ้าของมันเสีย สัญญาที่ทำไว้กับคนนั้นก็จะขาดสะบั้นลง เท่านี้ สัตว์ปีศาจก็จะกลายเป็สัตว์ไร้เ้าของที่ทำสัญญาใหม่เมื่อใดก็ได้ แต่สัตว์ปีศาจบางตัวที่ผูกพันกับเ้าของเดิมอย่างลึกซึ้ง ก็จะผูกสัญญาใหม่ด้วยยาก
แต่เยี่ยตันไม่สนใจ หากหมาป่าเืสีขาวไม่ยอมผูกสัญญากับเขา ก็ทิ้งฆ่า แม้จะเสียดาย แต่หมาป่าเืสีขาวขั้นแปดก็ขึ้นชื่อว่าเป็สมบัติหายาก
“พวกเ้าไม่สงสัยหรือไงว่าทำไมข้าถึงมาอยู่ที่นี่คนเดียว?”
โหยวเสี่ยวโม่เห็นเขาเริ่มมีความคิดเข่นฆ่า สมองแล่นอย่างไว ใจหนึ่งก็คิดถึงว่าทำไมหลิงเซียวไม่กลับมาสักที อีกใจก็พลันคิดว่าจะดึงเวลาอย่างไรดี
พลังของเ้าลูกบอลใหญ่ตอนนี้อยู่แค่ขั้นห้า ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเยี่ยตัน แม้จะยื้อจนหลิงเซียวกลับมาได้ แต่คงาเ็สาหัส เขาไม่อาจทนเห็นคนใกล้ตัวาเ็ได้
เยี่ยตันก่อนหน้านี้เองก็สงสัย เห็นเขากับหลินเซียวท่าทีสนิทสนมใกล้ชิด เดิมนึกว่าเขาคงอยู่กับหลินเซียว แต่ก็ไม่เห็นเงาของหลินเซียวอยู่ละแวกนี้ ฟังเขาพูดเช่นนี้ จึงยิ่งมั่นใจความคิดของตัวเอง
“ไอ้หนุ่ม หากเ้าอยากยื้อเวลาละก็ ข้าจะบอกให้ว่าไม่มีประโยชน์ ไม่ว่าหลินเซียวจะอยู่แถวนี้หรือไม่ วันนี้เ้าก็ต้องตายอยู่ดี มอบหมาป่าเืสีขาวมาซะดีๆ อย่างน้อยข้าอาจจะปรานีให้เ้าได้ตายสบายๆ หน่อย” เยี่ยตันจ้องเขาอย่างอำมหิต
โหยวเสี่ยวโม่แววตาเลิ่กลั่ก หมอนี่หลอกไม่ได้ง่ายๆ แฮะ
พึ่งนึกได้ก็โดนเขาดูออกง่ายดายเสียนี่
แม้จะพูดเช่นนี้ แต่โหยวเสี่ยวโม่ก็ข่มตัวเองให้สงบนิ่งลง แล้วเอ่ยน้ำเสียงราบเรียบ “ข้าเตือนพวกเ้าไว้ก่อน รีบหนีไปเถอะ ศิษย์พี่ข้าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่นี่ หากเขากลับมา พวกเ้าไม่มีทางหนีรอดแม้แต่คนเดียว ข้าไม่โกหกพวกเ้าหรอก”
เยี่ยตันเห็นเขาไม่ยอมง่ายๆ จึงคิดว่าเขาเพียงแค่ใจดีสู้เสือ สะบัดแขนเสื้อทีเดียว เข็มอาบยาพิษหลายอันก็พุ่งไปยังโหยวเสี่ยวโม่
ตอนนั้นเองไม่ทันที่เข็มอาบยาพิษจะเข้าใกล้โหยวเสี่ยวโม่ได้ในระยะสามเมตร ก็หล่นลงบนพื้นเสียก่อน
ร่องธารน้ำพฤกษาที่ห่างออกไป เงาร่างหนึ่งที่บินจากที่ตรงนั้นเข้ามาใกล้ด้วยความรวดเร็ว พริบตาเดียวก็มายืนอยู่หน้าทุกคน ใบหน้ายิ้มแฉ่งต้อนรับพวกเยี่ยตัน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้