“ภายในหนึ่งอาทิตย์?”
“ทำไมเหรอครับ นานไปเหรอ?”
“ไม่ใช่ มันสั้นเกินไป!” เหมือนหวูเหวินเซี่ยงจะไม่เชื่อว่าฉินหลางสามารถจัดการปัญหาพวกนี้ได้ภายในหนึ่งอาทิตย์ “แน่นอนว่า ถ้าเธอสามารถจัดการได้ภายในหนึ่งอาทิตย์ ต้องดีกว่าอยู่แล้ว!”
“ท่านหวูครับ ผมรู้ว่าคุณไม่เชื่อ แต่…คุณรู้มั้ยว่าทำไมชิงเฮ่อหยุนหัวหน้าแก๊งชิงหวนถึงได้หายตัวไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ?” ฉินหลางถามหวูเหวินเซี่ยงพร้อมกับรอยยิ้มที่เหมือนมีบางอย่างแอบแฝง
“อะไรนะ! ชิงเฮ่อหยุนเป็ฝีมือเธอ—ฉันคิดไม่ถึงเลยจริงๆ!” เห็นได้ชัดว่าหวูเหวินเซี่ยงใมาก ในฐานะที่เป็นายกเทศมนตรีเมืองเซี่ยหยาง หวูเหวินเซี่ยงรู้ว่าชิงเฮ่อหยุนเก่งกาจขนาดไหน ถ้าไม่ใช่เพราะชิงเฮ่อหยุน ‘หายไปจากโลกนี้’ แล้ว เขาไม่สามารถจัดการอิทธิพลมืดในพื้นที่อย่างแก๊งชิงหวนได้แน่ เพราะชิงเฮ่อหยุนเ้าเล่ห์มาก ตั้งถิ่นฐานอยู่ในหมู่บ้านชนเผ่าน้อยมาเป็เวลานาน บวกกับติดสินบนตำรวจในพื้นที่ ดังนั้นต่อให้รู้ว่าแก๊งชิงหวนเป็เนื้อร้าย แต่นายกเทศมนตรีเมืองเซี่ยหยางทุกๆ สมัย ไม่มีใครสามารถตัดเนื้อร้ายชิ้นนี้ออกได้เลย เพราะได้ฉินหลางลงมือ หวูเหวินเซี่ยงจึงสามารถจัดการเนื้อร้ายก้อนนี้ ทำให้เขาได้ผลงานใหญ่นี้ไป แต่ก่อนอื่นหวูเหวินเซี่ยงต้องกวาดล้างคนของแก๊งชิงหวนที่ยังลอยนวลอยู่ให้หมดซะก่อน และที่สำคัญจะต้องไม่ส่งผลกระทบที่ร้ายแรงด้วย
“เื่เล็กครับ ถือเป็ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ จากผมครับ” ฉินหลางยิ้มเล็กน้อย “ดังนั้นคุณน่าจะเชื่อว่า ผมสามารถจัดการปัญหานี้ได้ภายในหนึ่งอาทิตย์”
“งั้นเื่การเก็บกวาดเนื้อร้ายพวกนี้ ก็มอบให้นายจัดการนะ!” เวลาแบบนี้สีหน้าหวูเหวินเซี่ยงก็ซีเรียสตามไปด้วย “แก๊งชิงหวนก็เป็เหมือนเนื้อร้ายของอำเภอเซี่ยหยาง ถ้าเธอสามารถตัดมันออกได้ ก็ถือเป็การช่วยลดภัยสังคมด้วย! ดังนั้นไม่ว่าจะด้วยเหตุผลส่วนตัวหรือส่วนรวม เื่นี้ฉันสนับสนุนเธอแน่นอน!”
“งั้นผมก็วางใจแล้ว” ฉินหลางหัวเราะชอบใจ จากนั้นล้อเล่นกับหวูเหวินเซี่ยงว่า “จริงสิ ท่านหวูครับ ่นี้อยาก…บ่อยมากไหมครับ?”
หวูเหวินเซี่ยงคิดไม่ถึงว่าจู่ๆ ฉินหลางจะถามแบบนี้ จึงหยิบน้ำชาขึ้นมาจิบอย่างเขินอายแล้วพูดว่า “เธอเป็หมอ อาการของฉันเป็ยังไงนายยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ”
“ดูไปแล้ว่นี้ท่านหวูจะอดกลั้นมากไปหน่อย ผมว่านะ คุณควรจะรีบหาแฟนสักคนแล้วล่ะ” ฉินหลางพูดด้วยรอยยิ้ม “พูดไปแล้ว ผมรู้จักผู้หญิงคนนึง ไม่ว่าจะเป็รูปร่างหน้าตา หรือฐานะ เหมาะสมกับคุณทุกอย่างเลย”
“เ้าฉิน เธอหัดเป็แม่สื่อให้คนอื่นั้แ่เมื่อไหร่?” หวูเหวินเซี่ยงเริ่มเขินอายน้อยลง และกำลังค่อยๆ กลับเป็ปกติ พูดไปหัวเราะไป “เพียงแต่ฉันก็อยากได้ยินเหมือนกัน ว่าคนที่เธอพูดถึงนั้นเป็ใคร”
“ผอ.ของโรงเรียนชีจง—หวางจือเสี้ยว” ฉินหลางไม่ได้พูดถึงหวางจือเสี้ยวอย่างไม่มาสาเหตุ เพราะฉินหลางรู้สึกว่าหวางจือเสี้ยวไม่เลวจริงๆ นอกจากนี้ฉินหลางก็รู้สึกว่าอย่างไรเสียหวางจือเสี้ยวก็เป็ ผอ.ของโรงเรียนชีจง ไม่แน่ต่อไปเธออาจจะช่วยเหลือเขาในตอนสอบ หรือตอนที่เขาทำผิดกฎได้ อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกประเภทเดียวกับซุนปอมาหาเื่
“หวางจือเสี้ยว?” สีหน้าของหวูเหวินเซี่ยงดูแปลกประหลาด อยู่ครู่หนึ่งก่อนเขาจะถอนหายใจเบาๆ “เธอเป็ลูกพี่ลูกน้องของเมียเก่าฉัน ระหว่างเราไม่น่าจะเป็ไปได้”
“อ้าว งั้นก็เป็น้องเมียคุณน่ะสิ?” ฉินหลางหัวเราะแล้วพูดว่า “โลกใบนี้แคบจริงๆ เลย ฟังจากน้ำเสียงของคุณ ระหว่างพวกเรามันน่าจะเป็ไปไม่ได้? น่าเสียดายแย่เลย—”
“เสียดายอะไรเหรอ?” หวูเหวินเซี่ยงถามอย่างอดไม่อยู่
“ในเมื่อคุณไม่คิดจะคบกับเธอ ผมไม่พูดดีกว่า คุณจะได้ไม่ต้องเสียดาย” ฉินหลางพูดด้วยรอยยิ้ม
“เ้าฉิน เธอบอกมาเถอะ” น้ำเสียงของหวูเหวินเซี่ยงเหมือนเขาอ้อนวอนเล็กน้อย ดูแล้วเ้าหมอนี่ก็คิดไม่ซื่อกับอดีตน้องเมียเหมือนกัน
“อ๋อ คืออย่างงี้ คุณก็รู้ว่าผมเรียนการแพทย์แผนจีนมาก่อน ผมเห็นสภาพร่างกายของพวกคุณสองคน คนหนึ่งหยินเยอะแต่ขาดหยาง อีกคนหยางเยอะแต่ขาดหยิน จะได้ค่อยเติมเต็มให้กันและกันได้พอดี หลังจากสำเร็จความใคร่แล้ว ต่อไปพวกคุณยังจะอายุยืนอีกด้วย เพียงแต่น่าเสียดายนะ น่าเสียดายจริงๆ…”
พูดจบ ฉินหลางเตรียมจะลุกเดินจากไป
แต่หวูเหวินเซี่ยงกลับสนใจคำพูดนี้ของเขา ถามขึ้นอีกครั้งอย่างอดไม่อยู่ “เธอบอกว่าถ้าเราสองคนอยู่ด้วยกัน ยังช่วยให้อายุยืนได้อีกเหรอ? พูดจริงรึเปล่า?”
“คุณก็รู้ว่าผมเป็แพทย์แผนจีนที่เก่งขนาดไหน จะดูผิดได้ยังไง? ทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ ประกอบด้วยหยินและหยาง ร่างกายคนเราก็เหมือนกันถ้าหยินหยางในร่างกายไม่สมดุล ก็จะเจ็บป่วยได้ง่ายๆ นานๆ เข้าก็จะกลายเป็โรคเรื้อรัง ส่วนคนที่หยินหยางสมดุลนั้น กลับสามารถนอนหลับได้เต็มอิ่ม สดชื่นแจ่มใส ก็จะสามารถอายุยืนได้เป็ธรรมดา” คำพูดของฉินหลางเหมือนจะลึกซึ้ง และมีเหตุมีผลมาก ในหนังสือ ‘หวงตี้เน้ยจิง’ มีข้อมูลเกี่ยวกับการปรับสมดุลระหว่างสามี ภรรยา ซึ่งสามารถช่วยให้อายุยืนได้ นี่ฉินหลางไม่ได้แต่งขึ้นมาเอง
หวูเหวินเซี่ยงฟังฉินหลางบอกว่าจะได้ประโยชน์เยอะขนาดนี้ เริ่มหวั่นไหวแล้วจริงๆ ด้วย แต่ว่ากลับไม่อยากแสดงออก “เื่นี้…เื่นี้ ต่อไปค่อยคุยกัน…เื่ของความรู้สึก ต้องปล่อยไปตามธรรมชาติ”
ฉินหลางพูดในใจ หวูเหวินเซี่ยงนี่ฟอร์มเก่งจริงๆ เลย ไม่เสียทีที่เป็นักการเมือง แต่ฉินหลางมั่นใจว่าหวูเหวินเซี่ยงเริ่มมีความ้าแล้ว ไม่แน่ตอนนี้ในสมองของหวูเหวินเซี่ยง อาจจะถอดเสื้อผ้าหวางจือเสี้ยวออกหมดแล้วก็ได้
แต่ฉินหลางจะไม่เปิดโปงหวูเหวินเซี่ยงแน่นอน เขาหัวเราะคิกๆ แล้วลุกออกจากที่นี่
ออกจากร้านวังน้ำชาแล้ว ฉินหลางรีบโทรให้ฮานซานฉางกับกระทิงมาประชุมที่บริษัททันที
ที่ทำให้ฉินหลางชื่นใจมากก็คือ ตอนที่ฉินหลางไปถึงที่บริษัทรักษาความปลอดภัย ฮานซานฉางกับกระทิงกำลังฝึกซ้อมอยู่ และดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะไม่ได้ทำให้ฉินหลางดูเท่านั้น เพราะพวกเขากำลังเข้ารับการฝึกจริงๆ เมื่อเห็นฉินหลางปรากฏตัวแล้ว สายตาของทุกคนที่กำลังเข้ารับการฝึกก็จับจ้องมาที่ฉินหลาง
เพราะตอนนี้คนจำนวนมากรู้แล้ว ว่าเ้าที่แท้จริงของบริษัทรักษาความปลอดภัยไม่ใช่ฮานซานฉางกับกระทิง แต่เป็นักเรียนมัธยมที่ดูไม่มีพิษมีภัยตรงหน้า
ฉินหลางมายืนอยู่ตรงนี้ ทุกคนต่างก็รู้สึกเหมือนเขาเป็แค่เด็กนักเรียนที่ไม่มีพิษมีภัยจริงๆ ไม่ได้มีรูปร่างกำยำเป็พิเศษ และก็ไม่มีดูโเี้อะไร ยิ่งไม่ได้ตัวสูงใหญ่หรือน่ากลัวเลยแม้แต่นิดเดียว คนจำนวนมากจึงไม่ข้าใจว่า ทำไมฮานซานฉางกับกระทิงถึงเต็มใจเป็ลูกสมุนของฉินหลาง
ในจุดนี้ ขนาดครูฝึกที่ฉินหลางเชิญมาก็ยังไม่เข้าใจเลย
เห็นว่ามีคนมองตัวเองมากขนาดนี้ ฉินหลางหัวเราะชอบใจ แล้วพูดขึ้นว่า “พี่น้องทุกคนเหนื่อยหน่อยนะ แต่ทนลำบากตอนนี้ ตอนเงินเดือนออกก็จะได้มากกว่าไม่น้อย ยังไม่รวมอย่างอื่น อั่งเปาปีใหม่ปีนี้จะหนาแน่นอน! ทุกคนจะได้มีเงินให้ลูกเมียและพ่อแม่พี่น้อง!”
คำพูดอาจจะไม่สวยหรูนัก แต่คำพูดแค่ไม่กี่คำพูดนี้ของฉินหลางกลับได้ผลมากกว่า ทุกคนดูกระฉับกระเฉงขึ้น ความเหนื่อยล้าบนใบหน้าก็หายไป ทว่าในเวลานี้ กลับมีคนพูดขึ้นว่า “เ้านายครับ ได้ยินครูฝึกกับพี่ฉางบอกว่าพี่เก่งมากๆ พวกผมขอดูหน่อยได้ไหมครับ!”
เมื่อมีคนนำ คนอื่นๆ ก็พูดตามทันที
ฮานซานฉางกับกระทิงรู้อยู่แล้วว่าฉินหลางเก่ง ครั้งก่อนซีเจิ้งเหว่ยก็ได้เห็นฝีมือของฉินหลางไปแล้ว ต่อให้ฉินหลางสยบจางสางเลี๋ยงได้ในท่าเดียว แต่แค่ท่าเดียวนี้ ซีเจิ้งเหว่ยก็ดูออกแล้วว่าฉินหลางเก่งมากขนาดไหน เพียงแต่ คนส่วนมากยังไม่เคยเห็นฝีมือของฉินหลาง ต่างก็ได้ยินเพียงเื่เล่าเท่านั้น ดังนั้นจึงอยากรู้อยากเห็นอย่างอดไม่ได้
“ก็ได้ งั้นวันนี้ฉันจะซ้อมต่อหน้าทุกคน” ฉินหลางหัวเราะคิกคัก แล้วเดินเข้ามากลางสนามฝึกซ้อม ก่อนจะมาหยุดอยู่ข้างหน้าหุ่นไม้ที่เอาไว้ซ้อมมวย ส่วนคนอื่นๆ ก็หยุดฝึกซ้อมแล้วเช่นกัน ทั้งหมดล้อมเข้ามาดู ครูฝึกทุกคนก็เข้ามาดูเช่นกัน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้