แกนอสูรเวทของแบบนี้ มีประโยชน์สารพัด
ไม่ว่าจะใช้สร้างคทาเป็อาวุธ หรือหลอมชุดเกราะป้องกัน หรือแม้กระทั่งใช้ทำเป็ส่วนประกอบยา แกนอสูรเวทก็เป็หนึ่งในส่วนประกอบสำคัญ
ไม่ว่าแกนอสูรเวทจะอยู่ในระดับไหน มันก็เป็ของล้ำค่า
และยิ่งแกนอสูรเวทมีระดับสูงเท่าไร ราคาก็ยิ่งสูง และหาซื้อยากตามท้องตลาด
“ไม่เป็ไร หนึ่งร้อยผลึกิญญาก็ได้” อิ้งเสวี่ยโบกมือ และส่งแกนอสูรเวทให้ฉีเล่อ
สายตานั้น เหมือนอยากจะกินคนเสียให้ได้
“ท่านพี่...”
“เชื่อข้า” อิ้งเสวี่ยตำหนิ
อิ้งเฟิงคิดจะเถียง แต่เมื่อถูกอิ้งเสวี่ยตำหนิ เขาจึงไม่พูดอะไรอีก
“ยาต้วนซวี่หนึ่งเม็ด ยาหุยชี่หนึ่งเม็ด ยาอวี้ซางหนึ่งเม็ด” อิ้งเสวี่ยบอกสิ่งที่นาง้าในชั้นวางสินค้าออกมา
ส่วนยาที่เพิ่มความสามารถอื่นๆ ไม่ได้อยู่ในหัว
นอกจากยาหลิงจือระดับธรรมดา
ในความเป็จริง นักเวทมากมายล้วนแต่มีพลังเวทที่สามารถเพิ่มความสามารถได้ ดังนั้นอิ้งเสวี่ยจึงไม่สนใจยาสองชนิดนั้น
“ขอบคุณที่อุดหนุน โอกาสหน้าเชิญใหม่นะขอรับ”
ฉีเล่อใส่แกนอสูรเวทเข้าไปในกล่องเก็บเงิน แล้วเอ่ยขอบคุณด้วยน้ำเสียงเฉยชา
อิ้งเฟิงถลึงตามองฉีเล่อ เขาอยากจะบอกว่า “พวกเราจะไม่กลับมาอีก” จริงๆ
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ติดอยู่ที่ปลายลิ้น ไม่ได้พูดออกไป
ระบบ (ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ทำภารกิจที่ทำภารกิจเสริมได้สำเร็จ มีลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ)
“อะไรนะ?” ฉีเล่อจ้องมองร่างที่แทบจะมองไม่เห็นด้านนอกประตู และตกตะลึงในทันที
ระบบ (คืนนี้ระบบผู้จัดการจะอัพเกรด ขอให้โฮสต์เตรียมตัวให้ดี)
ครั้งนี้ฉีเล่อได้ยินอย่างชัดเจน
อัพเกรด!
“สองพี่น้องคู่นั้นนำพาความโชคดีมาให้ฉันจริงๆ” ฉีเล่อรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก เขาผิวปากพลางก้มหน้ามองกล่องเก็บเงิน
ด้านในนั้นเหลืออยู่เพียงหนึ่งร้อยเหรียญทองเท่านั้น
ทันใดนั้นก็อารมณ์ไม่ดีแล้ว
“เถ้าแก่ เถ้าแก่ ข้าขอซื้อยาหน่อย”
ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับอีกสามคน
ฉีเล่อยืนหลังตรงแล้วมองไปที่คนทั้งสี่กำลังเดินเข้ามาในร้าน
สี่คนนี้ ก็คือกลุ่มของเคอิหล่างที่ออกมาจากป่าอวิ๋นอู้
เคอิหล่างคิดได้ว่ายาที่พี่น้องคู่นั้นได้มา ต้องซื้อยามาจากร้านนี้ จึงตามมาเพราะความเสียดาย
ดังนั้นคราวนี้ ไม่ว่ายังไงก็ต้องซื้อยาเพิ่มอีกสองสามขวดเผื่อฉุกเฉิน
“เ้าเองหรือ” ฉีเล่อเอ่ยเสียงเรียบ
“ข้าเอง ข้าเอง ยาของเถ้าแก่ มันยอดเยี่ยมมากจริงๆ” เคอิหล่างกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เคอิหล่างเป็คุณชายตระกูลเศรษฐี แต่เมืองอวิ๋นอู้คือชายแดนของอาณาจักรฮวงหยวน ต่อให้ตระกูลเขามีอำนาจมากแค่ไหน ก็ยากที่จะเอื้อมมือถึงขั้นนั้น
“ก็ของดีจริงๆ” ฉีเล่อพยักหน้า
“เพราะงั้น...”
“อยากได้อะไรก็หาดูเอาเอง ร้านเล็กๆ แค่นี้ ห้ามต่อราคาล่ะ” ฉีเล่อปิดโอกาสต่อรองของเคอิหล่างทันที
“เถ้าแก่ ของที่ข้าอยากได้ในครั้งนี้มีเยอะเลยนะ ถูกลงกว่านี้ไม่ได้หรือ?” เคอิหล่างแสดงให้เห็นว่าตนคือลูกค้ารายใหญ่
“ไม่ได้” ฉีเล่อปฏิเสธเสียงเรียบ
หลังจากมองเคอิหล่างแวบหนึ่ง ถึงได้จงใจเอ่ยออกมา “ร้านข้ามันร้านเถื่อนหน้าเื”
คำพูดนี้ทำให้เคอิหล่างแทบล้มทั้งยืน
คำว่าร้านเถื่อนหน้าเืคำนี้ จริงๆ แล้วเขาเป็คนด่าออกมา
เมื่อนึกย้อนกลับไป เคอิหล่างแทบอยากจะย้อนเวลากลับไปตบปากตัวเองสักสองที
“จะเป็แบบนั้นได้อย่างไร เถ้าแก่ ตอนนั้นข้าผิดเอง ท่านเป็คนดี คงไม่ถือสาเื่เล็กน้อยแค่นี้หรอกใช่หรือไม่” เคอิหล่างกล่าวติดตลก พยายามทำตัวให้สนิทสนมกับเ้าของร้าน
“ข้าถือ วันนี้ข้าไม่ให้เ้าเข้าร้าน” ฉีเล่อเหลือบมองเคอิหล่าง
“ข้า...” เคอิหล่างกัดฟัน ใช้เวลานานกว่าจะกล้าหายใจออกมา