“…”
หลินหวั่นชิวหันไปทางอื่นไม่มองหน้าเขา เ้าหมอนี่ เหตุใดต้องจับผิดคำพูดนางอยู่เรื่อย?!
เจียงหงหย่วนกอดหลินหวั่นชิวเข้ามาในอ้อมแขนเบาๆ อีกครั้ง มุมปากฉีกออก ทำมุมโค้งขึ้นเรื่อยๆ
“รอพวกเราเข้าห้องหอก่อนค่อยมี มีสักหลายๆ คน ข้าจะเงินมาเลี้ยงพวกเขาให้แข็งแรงอ้วนท้วมทุกคน โตแล้วพวกเขาจะได้หาเงินให้เ้าใช้”
เมื่อนางได้ฟังคำพูดของเจียงหงหย่วน…เหตุใดหลินหวั่นชิวรู้สึกเหมือนเขากำลังพูดถึงเื่คลอดลูกหมูเลย?
คลอดลูกหมูต้องใช้แรงมากนะ ตัวใหญ่เกินก็มีโอกาสตายตอนคลอด!
“จะมีท่านก็มีเอง ผู้ใดจะไปคลอดให้ท่าน!”
“ก็ต้องพวกเราสองคนช่วยกันคลอดอยู่แล้ว เ้าจะมีลูกได้อย่างไรหากไม่มีข้า วางใจเถิด หลังเข้าหอแล้วข้าจะขยันทำไร่ไถนา ไม่ให้ตรงนั้นของเ้าต้องร้างเป็แน่...”
หลินหวั่นชิว “…”
์ ผู้ใดก็ได้มาเก็บเ้าปีศาจนี่ทีเถิด!
นางปิดปากเงียบ เข้าใจแล้วว่าคุยกับบุรุษผู้นี้ไปก็มีแต่ตัวเองที่เสีย
ปล่อยให้เจียงหงหย่วนกอดอยู่เช่นนี้เงียบๆ สักพัก อ้อมกอดเขาแข็งมาก ทว่ากลับทำให้รู้สึกสบายใจได้อย่างไม่มีเหตุผล
“สายแล้ว พวกเราไปที่บ้านเหล่าหลินกันเถิด” ผ่านไปเนิ่นนาน หลินหวั่นชิวดูเวลาแล้วพูด
“อืม ไปกันเถิด”
เจียงหงหย่วนจูงมือภรรยาตัวน้อยออกจากกระท่อมไม้
“อีกสองสามวันข้าจะขึ้นเขาอีกรอบ เข้าหน้าหนาวแล้ว ่นี้ขนจิ้งจอกกำลังหนาที่สุด ไว้ข้าจะล่าสักสองสามตัวมาทำเสื้อขนสัตว์ให้เ้า”
“ท่านจะขึ้นเขา?” หลินหวั่นชิวถาม ความจริงนางค่อนข้างเป็ห่วงเจียงหงหย่วน แต่ขณะเดียวกันก็รู้ว่าบุรุษผู้นี้มีแผนการและปณิธานของบุรุษ ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ไม่ใช่ว่าต้องมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดที่ทำหน้าที่ดูแลเพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูแลสนับสนุนซึ่งกันและกัน
อย่างเช่นเื่ที่นางเปิดร้าน หากเป็บุรุษอื่นคงไม่อนุญาตให้สตรีของตัวเองปรากฏตัวในวงสังคม แต่เจียงหงหย่วนกลับสนับสนุนทุกเื่ที่นางทำมาโดยตลอด
“อืม รีบขึ้นเขาก่อนหิมะจะตกจนปิดทางเสียหมด” หาเงินก้อนใหญ่!
“คืนนี้รีบกลับมาเร็วหน่อยเถิด ข้าจะรอ” หลินหวั่นชิวนับเวลาดูก็พบว่าใกล้ครบกำหนดแล้ว อยากให้เขากินโอสถชำระไขกระดูกอีกเม็ด
นางััถึงประโยชน์หลังกินเข้าไปของโอสถนี้ได้อย่างลึกซึ้ง หูชัดตาสว่าง เคลื่อนไหวคล่องตัวกว่าเมื่อก่อน หลินหวั่นชิวรู้สึกว่าหากมีคัมภีร์วิชาลับให้นางฝึก ไม่แน่ว่านางจะกลายเป็สตรียอดฝีมือ
ฮ่าฮ่าฮ่า
แต่เจียงหงหย่วนคิดไปอีกทาง ภรรยาตัวน้อยจะนอนกับเขาแล้ว?
ฮิฮิฮิ
เช่นนั้นต้องรีบกลับให้ไว เอาสบู่หอมไปขัดร่างกายนี้ให้สะอาดด้วย
ถึงจะยังเข้าหอไม่ได้แต่ได้ทำอย่างอื่นแน่
เจียงหงหย่วนตอบตกลงหน้าบึ้งแต่ในใจกลับกำลังฝันหวาน เพียงไม่นาน ทั้งคู่ก็เดินมาถึงบ้านเหล่าหลิน
“พวกเ้ามามือเปล่าได้อย่างไร? เนื้ออยู่ที่ใด?” หลินจินเป่าวิ่งออกมาจากลานบ้าน เห็นหลินหวั่นชิวกับเจียงหงหย่วนมามือเปล่าก็ร้องโวยวายอย่างไม่พอใจทันที
“รีบไปซื้อเนื้อ พวกเ้ามีเงิน ควรต้องซื้อเนื้อให้ข้า!” หลินจินเป่าชี้หน้าหลินหวั่นชิวโวยวาย เขากลัวเจียงหงหย่วนเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้จึงกล้าสั่งแค่หลินหวั่นชิว
หลินหวั่นชิวไม่อยากถือสากับเด็ก นางดึงแขนเจียงหงหย่วนเดินจากไป “หย่วนเกอ พวกเราไปกันเถิด”
“นังแพศยา หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” หลินจินเป่าเห็นหลินหวั่นชิวเดินจากไปแบบไม่สนใจตัวเองก็โมโห
เจียงหงหย่วนหันมายกคอเสื้อหลินจินเป่าขึ้นมาทันที หลินจินเป่าใร้องไห้ ‘แง’
“เ้าอยากกินมูลตามแม่ของเ้าใช่หรือไม่?” เสียงขู่ของเจียงหงหย่วนดังขึ้น หลินจินเป่ารีบเอามือปิดปาก ไม่กล้าร้องไห้อีก มองมาทางเจียงหงหย่วนอย่างหวาดกลัว
ในตอนนี้เอง หลินฟาไฉกับสวี่ซือเดินออกมาจากบ้านแล้ว เจียงหงหย่วนโยนหลินจินเป่าลงบนพื้น เนื่องจากเขายังเป็เด็ก เจียงหงหย่วนจึงไม่ได้ออกแรงกระไรมาก
หลินจินเป่าถูกสวี่ซือกอดเข้าอ้อมแขน นางตรวจสอบด้วยความสงสาร ดูว่ามีแผลหรือไม่
หลินฟาไฉฝืนยิ้มกับเจียงหงหย่วนว่า “เด็กคนนี้ถูกพวกข้าตามใจจนเคยตัว ลูกเขยอย่าถือสาหลานนอกเลย”
เจียงหงหย่วนยิ้มเยาะ “ข้าไม่มีหลานนอกเช่นนี้”
หลินฟาไฉใกลัวเขา พูดเจื่อนๆ ว่า “ต่างก็เป็ครอบครัวเดียวกันไม่ใช่หรือไร จินเป่าพูดจาไม่ดี กลับไปแล้วพวกข้าจะสั่งสอนให้ดี”
ตอนนี้หลินซย่าจื้อออกมาแล้วเช่นกัน อันที่จริงบ้านเหล่าหลินได้ยินเสียงตั้งนานแล้ว แต่ยอมปล่อยให้หลินจินเป่าอาละวาด ไม่แน่ว่าจะอาละวาดจนได้เนื้อมาสองสามชั่ง…
หลินหวั่นชิวสองสามีภรรยาจะมาถือสาเด็กก็ไม่ใช่ เพราะทั้งคู่ยืนอยู่นอกประตูบ้านเหล่าหลิน
อีกอย่าง ลูกสาวที่กลับบ้านแม่ก็ห้ามมามือเปล่าอยู่แล้ว
แต่ผู้ใดจะไปคิดว่าเจียงหงหย่วนจะไม่ออมมือแม้แต่กับเด็ก
มารดามันเถิด
พวกคนล่าสัตว์มีแต่ป่าเถื่อน ไม่ต่างกระไรกับสัตว์ ไม่มีมารยาทสักนิด
“ไอ๊หยา จินเป่าเป็กระไรไปลูก? เหตุใดไปยั่วโมโหน้าเขยเ้า? เหตุใดเด็กคนนี้จึงไร้มารยาทขนาดนี้ ผู้มาเยือนเป็แขก ต่อให้ไม่ได้เอาของมา แต่ไม่แน่ว่าน้าเ้าอาจเตรียมเงินมาก็ได้”
“ต้าเจี่ยคิดมากไปแล้ว ข้ากับหย่วนเกอไม่ได้พกเงินออกจากบ้านมาด้วย”
แค่ก…
หลินซย่าจื้อสำลัก
“ครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น อย่ามัวยืนคุยด้านนอกเลย รีบเข้าด้านในเถิด หวั่นชิว น้องเขย เชิญเข้ามาเลย” ในตอนนี้เองที่โจวเอ้อร์เหนิงชะโงกหน้าออกมาจากประตู พูดอย่างหวาดกลัว
หลินซย่าจื้อชำเลืองตามองเขาแวบหนึ่ง โจวเอ้อร์เหนิงรีบหดหัวกลับเข้าบ้าน ไม่กล้าแอบมองหลินหวั่นชิวอีก
แต่แน่นอนว่าเพราะมีเจียงหงหย่วนอยู่ เขาไม่กล้ามองมั่วซั่วเช่นกัน
อันที่จริง ตอนนี้เขาอยากได้คำตอบจากหลินหวั่นชิว เหตุใดคืนนั้นนัดกันแล้วจึงไม่มา ทำเอาเขาตากลมหนาวจนเป็ไข้ ต้องกินยาหลายชุดจึงจะดีขึ้น
อัดอั้นในใจเหลือเกิน
“ใช่ๆ เข้ามาคุยกันข้างใน” หลินฟาไฉพูดเช่นกัน รีบพาเจียงหงหย่วนกับหลินหวั่นชิวเข้าข้างใน สวี่ซื่อสีหน้าไม่ค่อยดี หลานรักของนางถูกรังแก หากเป็เมื่อก่อนคงร้องไห้อาละวาดบนพื้นแล้ว แต่ตอนนี้กลับทนไว้ได้
หลินหวั่นชิวรู้สึกว่าแปลกประหลาดมาก
ครอบครัวนี้คงวางแผนไว้มาก มิเช่นนั้นจะยอมทนขนาดนี้หรือ?
หรือจะบอกว่าครอบครัวนี้ตาสว่างแล้วดี เห็นเจียงหงหย่วนมีเงินสร้างบ้านอิฐหลังใหญ่เลยอย่างคลี่คลายความสัมพันธ์ วันหน้าจะได้เข้ามาตักตวงผลประโยชน์?
แต่ไม่ว่าแบบใด บ้านเหล่าหลินก็ฝันหวานไปทั้งนั้น
เข้ามาในห้องโถง หลินฟาไฉพูดว่า “ยุคนี้ทุกบ้านต่างก็ลำบาก ตอนนั้นข้าเห็นหงหย่วนเป็เด็กเอาการเอางานเลยมอบหวั่นให้ ไม่อย่างนั้น มีหมูป่าเป็สินสอดแค่ตัวเดียว ข้าไม่มีทางยอมยกลูกสาวให้เป็แน่ แต่ดูจากตอนนี้แล้วสายตาข้าเฉียบแหลมไม่เบา! เ้าดูสิ พวกเ้าเพิ่งแต่งงานกันได้ไม่นานก็สร้างบ้านอิฐหลังใหญ่เสียแล้ว เห็นได้ว่าหวั่นชิวของพวกเราช่วยเหลือเ้าขนาดไหน”
แค่น้ำชายังไม่รินให้สักถ้วย หลินฟาไฉก็เข้ามาผูกความสัมพันธ์แล้ว ความจริงหลินหวั่นชิวค่อนข้างนับถือเขา นับถือที่เขาสามารถพูดเื่การขายลูกสาวให้ฟังดูมีเกียรติได้ขนาดนี้
สินสอดงั้นหรือ…ถุย!
“ท่านพ่อ ท่านเลิกแกล้งได้แล้ว ขายข้าไปแล้วก็ถือว่าขายไปเถิด จะมาพูดเื่สินสอดกระไร?บอกว่าแต่งลูกสาว เหตุใดไม่เห็นจัดโต๊ะเลี้ยงล่ะ? ตอนต้าเจี่ย เอ้อร์เจี่ย ซานเจี่ยแต่งงานก็เห็นมีกันหมด!”
ลุงหวางพูดถูก ถึงบ้านเหล่าหลินจะเลวร้ายอย่างไรก็เป็บ้านแม่ของเ้าของร่างเดิม มีประเพณีนิยมผูกมัด ไม่ใช่ว่าอยากสลัดทิ้งแล้วจะสลัดได้ทันที
ก็แค่เรียกว่าท่านพ่อ ไม่ได้ต้องเฉือนเนื้อกระไร หลินหวั่นชิวไม่อยากคิดมากนักกับชื่อเรียก
