การประมูลครั้งนี้เป็ไปอย่างคึกคัก จุนห่าวมองดูอย่างสบายใจ เมื่อเห็นองค์ชายสามสุ่ยเย่ว์หรูหวาะโเรียกราคาอยู่ในห้องส่วนตัวเขายังคงเพิ่มราคาให้เขาอึดอัดใจ เป็เพราะการปรากฎตัวอย่างฉับพลันของจุนห่าว สุ่ยเย่ว์หรูหวาจึงใช้เงินจำนวนมากไปกับการประมูลครั้งนี้
จุนห่าวเห็นหานรุ่ยกำลังสนใจรายการประมูลบนแท่นประมูล จุนห่าวมองตามสายหาของหานรุ่ย หลังจากดูจบแล้ว จุนห่าวจึงพูดกับหานรุ่ยอย่างมิได้รับความเป็ธรรมว่า “เสี่ยวรุ่ย หินแตกๆ ก้อนนั้นสวยงามยังไงหรือ ถึงได้ดึงดูดความสนใจของเ้าไปสิ้น มีชายรูปงามหล่อเหลาอย่างข้านั่งอยู่ตรงหน้าเ้านะ เ้ายังทำเป็มองไม่เห็น อย่าบอกนะว่าข้ายังสู้หินก้อนนั้นไม่ได้?”
เมื่อได้ยินคำพูดของจุนห่าว หานรุ่ยถอนตาสาย แล้วหันมาพูดกับจุนห่าวอย่างจนใจว่า “เ้าย่อมดึงดูดกว่าหินก้อนนั้นอยู่แล้ว” พูดจบพลันหยุดชะงักครู่หนึ่ง และพินิจก้อนหินก้อนนั้นอีกครั้งโดยกล่าวว่า “ก้อนหินนั้นไม่ระบุแม้แต่ราคาประเมิน มิได้ระบุอะไรเลย ข้ารู้สึกว่ามันคงมิใช่ของธรรมดา”
หลังจากได้ยินคำพูดของหานรุ่ย จุนห่าวพูดว่า “มันอาจจะเป็หินธรรมดา เพราะมันมาจากซากวัตถุโบราณ มีต้นกำเนิดสูงส่ง หอหยุนเซียวถึงเจตจาวางไว้ในรายการประมูล”
“ไม่น่าเป็ไปได้ หอหยุนเซียวไม่มีทางทำเื่ที่ทำลายความเป็ตัวตนเช่นนั้น”
"ประมูล 10 ล้าน”
เมื่อได้ยินการเสนอราคาของหานรุ่ย ผู้ดำเนินการประมูลมีความสุขเล็กน้อย หลังจากที่เขาแจ้งราคาฐาน ก็ไม่มีใครเสนอราคาเลย เขาได้วางแผนสำหรับการประมูลครั้งนี้แล้ว เขาคิดไม่ถึงว่าทางจะลดเลี้ยวคดเคี้ยว กลับไปกลับมาอีกครั้ง ครั้นเมื่อเห็นห้องของคนที่เสนอราคา ผู้ดำเนินการประมูลขมวดคิ้ว
เมื่อเห็นว่าหานรุ่ยประมูลก้อนหินก้อนนั้น จุนห่าวมิได้ยับยั้ง วิถีของเขาก็คือ หากภรรยาของเขาชอบย่อมต้องซื้อ
จุนหนานที่ได้รับอนุญาตให้นั่งลงแล้ว ทว่าการลงโทษยังไม่สิ้นสุด ต้องกลับไปทำต่อที่บ้าน
จุนหนานเห็นหานรุ่ยใช้เงิน 10 ล้านเพื่อซื้อก้อนหิน แต่จุนห่าวยังคงยิ้มอยู่บนใบหน้า ไม่รู้สึกว่าหานรุ่ยล้างผลาญครอบครัวสักนิด จุนหนานไม่ยับยั้งปากของเขา และพูดกับจุนห่าวอย่างไม่พอใจว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ใช้เงิน 10 ล้านซื้อก้อนหิน ท่านไม่รู้สึกเป็ทุกข์เลยหรือ?”
“ไม่เป็ทุกข์ ข้ามีความสุขที่ได้จ่ายเงินให้ภรรยา“ จุนห่าวกล่าวโดยไม่ขมวดคิ้ว จากนั้นยกคิ้วขึ้น แล้วพูดกับจุนหนานว่า
“เ้าอิจฉาหรือ? อิจฉาไปก็ไร้ประโยชน์”
จุนหนานตอบโต้ “ข้าไม่อิจฉาท่านแม่หรอก ข้าแค่เป็ห่วงท่าน ท่านแม่ล้างผลาญครอบครัวเช่นนี้ ท่านต้องมีแรงกดดันมากเป็แน่”
"มีแรงกดดันถึงมีแรงกระตุ้นมิใช่หรือ? อีกอย่าง ยังมีพวกเ้ามิใช่หรือ? อีกไม่กี่ปีข้างหน้า พวกเ้าก็ต้องหาเงินมาจุนเจือครอบครัว” จุนห่าวพูดอย่างเฉยเมย คิดในใจ ก็ไม่รู้ว่าจุนหนานเป็ห่วงเื่ใดกันแน่ แค่เงิน 10 ล้านเท่านั้นเอง เปรียบเสมือนยาิญญาขวดหนึ่งหรือสองขวด
จุนหนานยิ้มอย่างไร้เดียงสา และพูดว่า “อีกไม่กี่ปีข้างหน้า ข้ายังเป็เด็ก หาเงินไม่ได้หรอก”
“ไม่เด็กแล้ว พ่อเ้าอย่างข้าก็เริ่มหารายได้เมื่อโตประมาณนี้” จุนห่าวกล่าว คิดในใจ ตอนที่เขาอายุสามขวบกว่า ก็เริ่มเก็บเศษเหล็กขายแล้ว
จุนหนานพูดอย่างชมเชยว่า “ข้าเทียบกับท่านพ่อมิได้หรอก ท่านพ่อเป็ผู้ยิ่งใหญ่ มิใช่คนตัวเล็กๆ อย่างข้าจะเทียบได้”
“เ้าก็แค่มีความทะเยอทะยานน้อยเกินไป และทนต่อความยากลำบากไม่ได้” จุนห่าวพูดกับจุนหนานอย่างไม่พอใจ “ลูกผู้ชายควรมีความใฝ่ฝันอันสูงส่ง และคุณสมบัติที่หนักเอาเบาสู้”
จุนหนานพูดพึมพำ : แต่ข้าเป็ซวงเอ๋อร์
“ห๊ะ?" จุนห่าวเลิกคิ้ว พลางมองจุนหนานอย่างกลั้นหัวเราะ
จุนหนานรีบเอ่ยขึ้นว่า “ที่ท่านพ่อพูดก็ถูก จากนี้ไปความใฝ่ฝันอันสูงส่งของข้าก็คือ หาเงินให้ได้มหาศาล และแสดงความกตัญญูต่อท่านพ่อและท่านแม่”
เมื่อได้ยินความตั้งใจของจุนหนาน จุงตงกล่าวสัญญาเช่นกันว่า “ท่านพ่อ ข้าจะหาเงินให้มากเช่นกัน จะต้องมากกว่าน้องชายที่โง่เขลาเป็แน่ จากนี้ไปพวกท่านก็เสวยสุขไปกับลูกชายอย่างข้า”
สายฟ้าก็เห่าโฮ่งๆ อย่างไม่ให้น้อยหน้า คิดในใจ เขาเป็พี่ชายจะยอมแพ้น้อยชายได้อย่างไรล่ะ
จุนห่าวพอใจกับทัศนคติของลูกๆ ทั้งหลาย และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พวกเ้าช่างเป็เด็กดีที่กตัญญูนัก”
หานรุ่ยเป็ลูกๆ ทั้งหลายตั้งเป้าหมายสำหรับอนาคต รีบเอ่ยขึ้นว่า “เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด การบำเพ็ญเพียรสำคัญที่สุด พวกเ้าไม่อาจละทิ้งได้ หากไร้ซึ่งพลังอันแข็งแกร่ง ต่อให้พวกเ้าหาเงินได้มาก ก็รักษาไว้ไม่ได้ ในทางกลับกัน หากพวกเ้ามีพลังอันแข็งแกร่ง เงินย่อมมาหาพวกเ้าเอง”
หลังจากได้ฟังคำพูดของหานรุ่ย เด็กๆ ต่างครุ่นคิด
การประมูลใกล้จะถึง่สุดท้ายแล้ว เหลือเพียงรายการประมูลชิ้นสุดท้าย ทั้งยังเป็เป้าหมายของการแย่งชิงระหว่างตระกูลใหญ่
“ลำดับต่อไป เราจะประมูลรายการสุดท้าย นั่นก็คือกุญแจของซากวัตถุโบราณ ทุกท่านอาจมีคำถามว่า เหตุใดหอหยุนเซียวของเราถึงบุกเบิกกุญแจของซากวัตถุโบราณนี้ ถ้าอย่างนั้น บัดนี้ข้าจะบอกทุกท่าน สิ่งที่เรากำลังประมูลหาได้เป็กุญแจโบราณของซากวัตถุโบราณไม่ แต่เป็กุญแจไปสู่ซากวัตถุโบราณอีกอัน สำหรับซากวัตถุโบราณนี้ทางเราก็ไม่แน่ชัดนัก ดังนั้นเราจึง้าบุกเบิกไปกับทุกท่าน ในที่นี้มีกุญแจทั้งหมด 5 ดอก ผู้ชนะการประมูลสูงสุดจะได้รับมัน กุญแจแต่ละดอกมีราคาฐานอยู่ที่ 120 ล้านตำลึงเงิน การเพิ่มราคาแต่ละครั้งต้องไม่น้อยกว่า 10 ล้าน และบัดนี้ เริ่มการประมูลดอกแรกได้”
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้ดำเนินการประมูล เสมือนโลกทั้งใบกำลังเดือดพล่าน ซากวัตถุโบราณแห่งใหม่เป็ตัวแทนของโอกาสใหม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ฟังการเสนอราคาของผู้จัดงานประมูล ผู้ที่ไม่มีเงินเริ่มส่ายหัวพลางถอนหายใจ พวกเขาไม่มีวาสนาต่อซากวัตถุโบราณเสียแล้ว แต่เมื่อลองคิดดูซักพัก แม้ว่าซากวัตถุโบราณจะดีเยี่ยงไร ทว่ากลับมีอันตรายหนักหนาอยู่ภายใน หากพวกเขาสิ้นชีพย่อมไม่ได้อะไรเลย คิดถึงเื่เหล่านี้ พวกเขาจึงไม่รู้สึกเป็ทุกข์นัก
“100 ล้าน”
“120 ล้าน”
การแย่งชิงราคาเป็ไปอย่างคึกคัก หลายตระกูลใหญ่ต่างลงมืออย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่ากุญแจจะมี 5 ดอก ทว่าใครต่าง้าประมูลชิ้นแรกสุด เพราะมีเพียงการอยู่กระเป๋าเสื้อเท่านั้น ถึงจะปลอดภัย ต่อให้จะมีการแย่งชิงอย่างไม่คิดชีวิต งั้นต้องดูกันว่า พวกเขามีชะตาที่จะได้ไหม ตระกูลใหญ่ต่างคิดเช่นนี้
“300 ล้าน” เฉินิ่โหรวเอ่ยขึ้น แม้ว่าเธอจะมาจากเมืองระดับสอง แต่เพื่อกุญแจของซากวัตถุโบราณแล้ว เธอนำเงินเกือบทั้งหมดของคฤหาสน์เ้าเมือง เพื่อคว้ากุญแจแห่งอำนาจนี้ให้จงได้
"400 ล้าน” คนตระกูลหยุนะโ ตระกูลหยุนของพวกเขาก็ต้องคว้ากุญแจแห่งอำนาจให้จงได้ พวกเขาไม่เคยประมูลอะไรมาก่อน รอคอยจังหวะลงมือในโอกาสนี้
"500 ล้าน” คนตระกูลหวังะโ ตระกูลหวังเป็ตระกูลทางฝ่ายพระมารดาขององค์ชายสาม ดังนั้นองค์ชายสามจึงไม่คิดแย่งชิงกับตระกูลหวัง ตระกูลไป๋ก็กำลังเตรียมแต่งงานกับองค์ชายสาม ดังนั้นองค์ชายสามยังต้องให้เกียรติพวกเขา และไม่เข้าร่วมการสู้ราคากับพวกเขา
ส่วนตระกูลหานและตระกูลหยุนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จึงไม่คิดจะแย่งชิงกับตระกูลหยุน อีกอย่าง หานเฉินก็นำเงินมาไม่มาก หานเฉินคิดในใจ ครั้งนี้สิ่งตระกูลเขาเกรงกลัวคือ พลาดโอกาสไปสู่ซากวัตถุโบราณไปต่อหน้าต่อตา ตระกูลหานของพวกเขาใช้พละกำลังในการก่อตั้งตระกูล ต่างกระตือรือร้นในการบำเพ็ญเพียร แต่ก็เพิกเฉยต่อการพัฒนาธุรกิจ ทั้งการเงินของตระกูลหานยังตกอยู่ในมือของน้องรองของหานจี้เซิ่ง ยามนี้ตระกูลหานกำลังเผชิญหน้ากับความขัดแย้ง ดังนั้น 1,000 ล้านที่หานเฉินนำมาในครั้งนี้ จึงเป็ทรัพย์สินส่วนตัวจากบ้านของพวกเขา เวลานี้เขาฝากความหวังไว้กับตระกูลหยุน หวังว่าหลังจากตระกูลหยุนได้กุญแจนี้ไป อาจแบ่งปันให้แก่ตระกูลหานได้จำนวนหนึ่ง
หานรุ่ยก็ทราบว่าตระกูลหานกับตระกูลมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ดังนั้นจึงยับยั้งจุนห่าวมิให้สู้ราคา
ในท้ายที่สุดมีเพียงตระกูลหยุน ตระกูลหวัง และเฉินิ่โหรวเท่านั้นที่ยังสู้ราคา
"600 ล้าน” ตระกูลหยุนะโอย่างแสดงให้เห็นว่าตนมิได้ด้อยกว่า
"700 ล้าน” เฉินิ่โหรวกัดฟันกรามพร้อมเพิ่มราคา เธอนำออกมาทั้งหมด 1,000 ล้านในครั้งนี้ เพื่อประมูลกุญแจดอกเดียว เธอไม่ได้เสนอราคากับของสิ่งอื่น เมื่อเห็นว่าสมบัติเ่าั้พลาดโอกาสไปต่อหน้าต่อตา เธอก็เ็ปมาก แต่หากเธอไม่อาจประมูลกุญแจได้สักดอก ถ้าอย่างนั้นเธอคงใช้ตะกร้าไม้ไผ่หาบน้ำอันว่างเปล่า [1] เมื่อคิดถึงเื่นี้ เธอจึงจ้องมองจุนอี้อีกครั้ง คิดกับตัวเองว่า หากจุนอี้เป็คนร่ำรวยเหมือนจุนห่าวคงดีไม่น้อย น่าเสียดายที่จุนอี้ไม่เป็เช่นนั้น ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าจุนอี้จะเป็คนที่มีศักยภาพ ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็เช่นนั้น
บัดนี้เธอเสียใจที่ไม่ฟังคำพูดของพ่อของเธอ ที่แต่งงานกับลูกหลานของตระกูลใหญ่ หรือแต่งงานกับครอบครัวที่ร่ำรวย ตอนนี้เธอถึงรู้ว่าเงินไม่ใช่ทุกอย่าง เงินไม่ใช่ยาวิเศษครอบจักรวาล ทว่าไม่มีเงินก็ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง ดูเหมือนว่าเธอจะต้องกลับไปวางแผนกับท่านพ่อ แผ่นดินชางหลานที่ถือพลังกำลังคือเกียรติ บุรุษสามารถแต่งงานกับภรรยาได้หลายคน สตรีก็สามารถแต่งงานกับสามีได้หลายคน นอกจากซวงเอ๋อร์ ซวงเอ๋อร์จะแต่งเข้าหรือแต่งออกก็ได้ ทว่าบนแผ่นดินชางหลาน ซวงเอ๋อร์จะเป็ฝ่ายแต่งออก คือแต่งกับชายและให้กำเนิดบุตร แต่ก็อาจแต่งกับหญิง และให้ฝ่ายหญิงตั้งครรภ์บุตรแทน
“800 ล้าน” ตระกูลหวังะโ ตระกูลหวังของพวกเขาต้องได้กุญแจนี้ หากไม่อาจประมูลกุญแจดอกนี้ได้ การจะประมูลดอกต่อไปยิ่งลำบากนัก เพราะจะไม่มีใครหลีกทางให้เขาแล้ว
“1,000 ล้าน” ตระกูลหยุนเพิ่มราคา
เมื่อได้ยิน 1,000 ล้าน เฉินิ่โหรวยอมแพ้ในที่สุด เห็นทีคราวนี้พวกเขาจะเป็ตะกร้าไม้ไผ่หาบน้ำอันว่างเปล่าจริงๆ หากอยากจะเข้าสู่ซากวัตถุโบราณคงต้องหาวิธีอื่นแล้ว
เฉินิ่โหรวถอนตัว จึงเหลือเพียงสองตระกูลที่แย่งชิง...หยุนและหวัง ในท้ายที่สุดตระกูลหยุนได้รับกุญแจนี้ในราคา 3,010 ล้านตำลึงเงิน ตระกูลหยุนได้รับกุญแจและไม่อยู่ต่อ ไปจ่ายเงินที่หลังเวที พร้อมรับกุญแจจากไปอย่างเร่งรีบ หานเฉินเห็นตระกูลหยุนจากไป มองไปยังห้องส่วนตัวที่หานรุ่ยอยู่ครู่หนึ่งและรีบเร่งจากไปเช่นกัน คิดในใจ เวลานี้มิใช่เวลาที่เขาจะพบกับหานรุ่ย ตระกูลหานของพวกเขารู้สึกผิดต่อหานรุ่ย ไม่อาจสร้างปัญหาให้เขาได้อีก ในเมื่อทุกคนคิดว่าหานรุ่ยคือสวะ ก็ปล่อยให้พวกเขาคิดเช่นนี้ไปเถิด
หานรุ่ยมองหานเฉินที่จากไปอย่างรีบเร่ง และยังเห็นหานเฉินมองมายังห้องส่วนตัวของพวกเขาด้วยสายตาอย่างเป็นัย หานรุ่ยมีปริศนามากมาย ทว่าเขาเก็บมันไว้ เวลานี้มิใช่เวลาที่ดีที่จะไถ่ถามจากห้องส่วนตัวของหอหยุนเซียวมีความพิเศษคือ มีเพียงทิศทางของแท่นประมูลเท่านั้นที่มองเห็นจากภายนอก เนื่องจากสร้างจากวัสดุชั้นดี คนภายในมองเห็นภายนอกได้ แต่คนภายนอกกลับไม่อาจมองเห็นด้านในได้
หลังจากตระกูลและตระกูลหานจากไป กุญแจดอกที่สองถูกจุนห่าวแย่งชิงมาจากสุ่ยเย่ว์หรูหวาในราคา 3,051 ล้านตำลึงเงิน สุ่ยเย่ว์หรูหวาประมูลหลายอย่างมาก่อนแล้ว ทั้งยังถูกจุนห่าวก่อกวน ดังนั้นเขาจึงใช้เงินไปจำนวนมาก ตอนนี้เขาจึงเหลือเพียง 3,000 ล้านเท่านั้น
กุญแจดอกที่สามตระกูลไป๋เป็ฝ่ายประมูลได้ไป จุนห่าวเห็นสุ่ยเย่ว์หรูหวาไม่ออกตัว เขาจึงไม่ออกตัว
กุญแจดอกที่สี่ จุนห่าวประมูลได้ไปในราคา 3,001 ล้าน แย่งชิงมาจากสุ่ยเย่ว์หรูหวาอีกเช่นกัน
ในเวลานี้ทุกคนต่างมองออกว่า จุนห่าวแค่จะก่อกวนสุ่ยเย่ว์หรูหวา ขอเพียงสุ่ยเย่ว์หรูหวาไม่เข้าร่วมประมูล จุนห่าวก็จะไม่เข้าร่วมประมูล
หลังจากจุนห่าวประมูลกุญแจดอกที่สี่ หานรุ่ยและจุนห่าวไปจ่ายเงินและรับของประมูลแล้วจากไป พวกจุนห่าวพลางตัวโดยการแต่งหน้าเข้ามา ครั้นออกจากหอหยุนเซียวก็กำจัดคนที่สะกดรอยตาม จุนห่าวพาสายฟ้าเข้าสู่จิตสำนึก ทั้งหมดเปลี่ยนชุดแล้วก็เดินกร่างกลับไปยังบ้านถ้ำ
สุ่ยเย่ว์หรูหวาคิดไม่ถึงว่าจุนห่าวจะจ่ายเงินจำนวนมากขนาดนั้นได้ หลังจากเห็นกลุ่มของจุนห่าวจากไป จึงส่งคนสะกดรอยตาม ไม่นานคนที่สะกดรอยตามก็กลับมา บอกว่าคนนั้นหายไปแล้ว สุ่ยเย่ว์หรูหวาโกรธจนหน้าเขียว
“ตามหามาให้ได้ ข้างกายพวกมันมีสุนัขมิใช่รึ? คอยสังเกตคนที่มีสุนัข” สุ่ยเย่ว์หรูหวาพูดด้วยใบหน้าเหี้ยม คิดกับตัวเอง เขาต้องจับคนนั้นให้ได้ ในตัวมันมีกุญแจสู่ซากวัตถุโบราณถึง 2 ดอก ซึ่งสำคัญมากสำหรับพวกเขา
ในที่สุด กุญแจสู่ซากวัตถุโบราณดอกสุดท้าย สุ่ยเย่ว์หรูหวาก็ประมูลได้ไป ในเวลานี้ เขาก็ไม่สนใจแล้วว่าตระกูลหวังคือตระกูลทางฝ่ายมารดาของเขาหรือไม่
[1] ตะกร้าไม้ไผ่หาบน้ำอันว่างเปล่า คือ การลงทุนลงแรงทำสิ่งใดไปอย่างเปล่าประโยชน์
