บทที่ 56 เด็กไม่หายใจแล้ว
เมื่อสถานการณ์ที่ห้างเจียหลินคลี่คลาย ทีมแพทย์ของหยางชิงโม่ก็รีบกลับมาที่โรงพยาบาลทหารทันที เพราะมีผู้าเ็ และ าเ็สาหัสหลายคน ดังนี้พวกเขา้าหมอผ่าตัดอย่างเร่งด่วน หยางชิงโม่รีบเปลี่ยนชุดและทำความสะอาดร่างกายก่อนจะใส่ชุดผ่าตัดแล้วรีบวิ่งไปที่ห้องผ่าตัดที่เธอรับผิดชอบทันที เคสของเธอเป็คนไข้ที่หนักที่สุด
ภายในห้องผ่าตัดคุณหมออวิ่นไป่ยืนรออยู่แล้ว เขาอาสาเข้ามาเป็ผู้ช่วยแพทย์ของคุณหมอหยางในวันนี้ อย่างไรก็ตามเขาต้องทำให้คุณหมอหยางใจอ่อนยอมรับเขาเป็ลูกศิษย์ให้ได้แสงไฟสีขาวจ้าสาดส่องลงมาบนร่างเล็ก ๆ ของเด็กชายวัย 8 ขวบ ที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงผ่าตัด เสียงเครื่องวัดสัญญาณชีพดังรัวเร็วเป็จังหวะ หัวใจของเด็กเต้นช้าลงทุกวินาที แพทย์และพยาบาลในห้องต่างตึงเครียด เหงื่อไหลอาบใบหน้า
เสียงฝีเท้าหนักๆ ของหมอหยางชิงโม่ ดังก้องไปทั่วห้องผ่าตัด บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด ไฟสว่างจ้าวจนแสบตา ทีมแพทย์และพยาบาลต่างเตรียมพร้อมสำหรับการผ่าตัด
หมอหยางเดินตรงไปที่เตียงทัน
“เด็กเป็อย่างไรบ้าง?”
พยาบาลสีหน้าตึงเครียด
“เด็กถูกยิงเข้าที่หน้าท้อง เสียเืมาก ชีพจรเริ่มอ่อนลงแล้วค่ะคุณหมอ”
บรรยากาศภายในห้องผ่าตัดเต็มไปด้วยความตึงเครียด ทีมแพทย์และพยาบาลต่างเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับผ่าตัดอย่างว่องไว เสียงเครื่องมือกระทบกันดังกังวาน ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความกังวล
หมอหยางเอ่ยขึ้นมาเบาๆ “เริ่มผ่าตัดได้!”
“ค่ะคุณหมอ” พยายาบาลผู้ช่วยรับคำแล้วยื่นมีดผ่าตัดให้คุณหมอหยางทันที
หมอหยางเริ่มผ่าตัดเด็กน้อยอย่างรวดเร็ว แววตาของเธอมุ่งมั่น ดวงตาจดจ่ออยู่กับาแ มือของเธอทำงานอย่างแม่นยำ ราวกับช่างฝีมือผู้ชำนาญ
ทันใดนั้นเสียงเตือนชีพจรดังระงม หัวใจของทุกคนเต้นรัวไปพร้อมกับเสียงเตือนนั้น
หมอหยางชิงโม่มองดูเด็กน้อยบนเตียงผ่าตัด
“รีบเตรียมเืกรุ๊ป O ให้ 2 ยูนิต! เตรียมยาเพิ่มความดันโลหิต!”
พยาบาล “ค่ะคุณหมอ”
เสียงเตือนชีพจรดังต่อเนื่อง เหงื่อเริ่มไหลอาบใบหน้าของหมอหยางชิงโม่ แต่เธอไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนล้า
หมอหยางชิงโม่พูดกับตัวเองเบาๆ “อดทนนะเด็กน้อย เดี๋ยวหมอจะช่วยเธอเอง”
การผ่าตัดดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ชีพจรของเด็กน้อยเริ่มอ่อนลงอีกครั้ง หมอหยาง ชิงโม่ กัดฟันกรอด เร่งความเร็วในการผ่าตัด
หมออวิ่นไป่ะโขึ้นมาด้วยความใ
“ชีพจรหยุดเต้นแล้วครับคุณหมอ!”
หมอหยางชิงโม่รีบ กดหน้าอกเด็กอย่างรวดเร็ว
“เร็ว! เตรียมเครื่องกระตุ้นหัวใจ เร็วเข้า!”
พยาบาล “เตรียมเครื่องกระตุ้นหัวใจแล้วค่ะ!”
หมอหยางชิงโม่ ช็อตเด็กด้วยเครื่องกระตุ้นหัวใจ
“ 1... 2... 3... ช็อต!”
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าในความรู้สึกของทุกคนในห้องผ่าตัด ความตึงเครียดแผ่ลามไปทุกที่ ..จนในที่สุด เสียงเตือนชีพจรกลับมาดังอีกครั้ง
หมอหยางชิงโม่ถอนหายใจ
“กลับมาแล้ว!รีบลงมือต่อเถอะ”
หมอหยางชิงโม่ ผ่าตัดต่อจนเสร็จสิ้น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตึงเครียด รอคอยผลลัพธ์ของการผ่าตัด
หมอหยางชิงโม่เย็บแผลสุดท้าย “เสร็จสิ้นการผ่าตัด” เธอประกาศขึ้นมา
พยาบาล: “เด็กปลอดภัยแล้วค่ะคุณหมอ” เสียงปรบมือดังขึ้น ทีมแพทย์และพยาบาลต่างยิ้มด้วยความดีใจ หมอหยาง ชิงโม่ ถอดหมวกและชุดผ่าตัด ใบหน้าของเธอเปื้อนยิ้ม
เธอดีใจที่เด็กปลอดภัยเมื่อเธอเดินออกมาหน้าห้องผ่าตัด พ่อแม่และญาติของเด็กน้อยต่างยืนขึ้นแล้ววิ่งมาหาเธอทันทีคุณพ่อที่วิ่งมาถึงเธอเป็คนแรก
“หมอครับ ลูกผม ลูกของผมเป็ยังไงบ้าง?”
นัยตาของเขาแดงก่ำเหมือนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
หมอหยางชิงโม่ยิ้มเล็กน้อยและตอบว่า “การผ่าตัดเรียบร้อยดี ไม่ต้องห่วงค่ะ ตอนนี้เด็กปลอดภัยแล้ว”
คุณแม่ของเด็กน้อยร้องไห้ด้วยความดีใจ “จริงเหรอคะคุณหมอ?! เสี่ยวเหยี่ยนของฉันปลอดภัยแล้วใช้ไหม”
“ค่ะปลอดภัยแล้ว ะุฝังลึกอยู่ใกล้ลำไส้ใหญ่ แต่ฉันผ่าตัดเอาออกได้แล้ว เด็กเสียเืมาก แต่ตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว”
คุณพ่อเด็กน้อยน้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม ลูกชายของเขาปลอดภัยแลว “ขอบคุณครับคุณหมอ ขอบคุณมาก”
หมอหยางชิงโม่เอ่ยต่อ
“เด็กน้อยจะต้องพักฟื้นสักระยะหนึ่ง แต่โดยรวมแล้วปลอดภัยดีค่ะ”
“หมอคะ แล้วฉันจะได้เจอลูกเมื่อไหร่คะ”
“ประมาณ 2-3 ชั่วโมงค่ะ ตอนนี้เด็กยังพักฟื้นอยู่ในห้องไอซียูเชิญคุณพ่อคุณแม่ไปพักรอที่ห้องพักผู้ป่วยก่อนนะคะ เดี๋ยวพยาบาลจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งเมื่อถึงเวลาเยี่ยม”
คุณพ่อคุณแม่ของเด็กต่างดีใจจนน้ำตาไหล รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของพวกเขารู้สึกขอบคุณที่คุณหมอสามารถช่วยชีวิตลูกเอาไว้ได้
หยางชิงโม่เดินกลับเข้าไปในห้องผ่าตัดอีกครั้ง
"คุณหมอหยางคะ ท่านนายพลเซี่ยจงเชิญที่ห้องประชุมด่วนค่ะ"
นางพยาบาลรีบเดินเข้ามาบอกเธอตอนที่เห็นว่าเธอเดินกลับเข้าไปในห้องผ่าตัดอีกครั้ง " ได้ค่ะขอฉันเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ เมื่อเปลี่ยนถอดชุดผ่าตัดออกคุณหมอหยางทำความสะอาดเสร็จหันไปหยิบชุดกาวน์สีขาวของเธอมาสวมและเดินออกไปพร้อมกับพยาบาลที่รออยู่ทันที
" หมอหยางครับมีเคสพิเศษเกิดขึ้นครับ คนไข้ที่ส่งมาจากห้างเจียหลินคนหนึ่งมีถูกเหล็กเสียบที่ขาขวา และในขณะเดียวกันเขาก็เก็ดภาวะไส้ติ่งอักเสบขั้นรุนแรงเขาช็อคไปแล้ว ตอนนี้หมอของเราไม่รู้ว่าจะทำการผ่าตัดอันไหนก่อน ผมอยากให้คุณหมอช่วยวิเคราะห์เคสนี้ด้วยครับ"
ถ้าเป็เื่ของการผ่าตัดท่านนายพลเซี่ยนั้นไม่เคยไว้ใจใครนอกจากหมอหยางชิงโม่ เพราะคนไข้หลายเคสถ้าผ่านมือเธอเกือบ 98 % คือรอดแน่นอน อีกสองเปอร์เซนต์เป็สถานการณ์ที่ไม่อาจจะควบคุมได้
เมื่อหมอหยางฟังจากที่นายพลเซี่ยจงแจ้งอาการ เธอหันไปมองทีมหมอที่กำลังรอฟังผลการวิเคราะห์ของเธออยู่
" ผู้ป่วยมีอาการ 3 อย่างไม่ใช่ 2 อย่างค่ะ คือ
1 . ถูกเหล็กแทงขา
2. ไส้ติ่งอักเสบรุนแรง
3. ช็อค
ให้ทำการรักษาภาวะช็อค เป็อันดับแรกเนื่องจากภาวะช็อคเป็ภาวะฉุกเฉินที่สุดผู้ป่วยอาจจะเสียชีวิตได้ ให้สารน้ำ ยาเพิ่มความดันโลหิต และยาเพิ่มออกซิเจน เพื่อรักษาสมดุลของอิเล็กโทรไลต์ หรือสารประกอบที่เมื่อละลายน้ำหรือหลอมเหลวชดเชยการสูญเสียเืและเพิ่มการไหลเวียนของเื
หลังจากนั้นให้ทำการรักษาไส้ติ่งอักเสบรุนแรงเป็อันดับถัดไปการผ่าตัดควรทำโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันภาวะไส้ติ่งแตก ซึ่งอาจนำไปสู่เยื่อบุช่องท้องอักเสบ และติดเชื้อในกระแสเื สุดท้ายจึงทำการรักษาาแจากเหล็กแทงขา เป็อันดับสุดท้าย แพทย์จะทำความสะอาดแผล ห้ามเื เย็บแผล และให้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อ" หมอหยางชี้แจงเป็ขั้นตอนให้คณะแพทย์ฟัง
เหตุผล:
ทีมแพทย์ทั้งหมดค้อมศีรษะให้กับหมอหยางชิงโม่แล้วรีบกลับเข้าไปในห้องผ่าตัดเพื่อทำการผ่าตัดทันที..
**** นางดูงานยุ่งเนาะ ไม่เหมือนทำพาร์ตไทม์ ที่ท่านนายพลเซี่ยจงบอกเลย 5555 สงสารนางถูกใช้คุ้มค่ามาก ..
