โจวหมัวมัวขึ้นบันไดไปอย่างราบรื่น กระทั่งถึงหน้าประตูห้องพิเศษ ตี้ จึงมีคนเข้ามาขัดขวางนาง
“เ้าเป็ใคร ระหว่างการแข่งขันเดินหมาก ห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาข้างบนเด็ดขาด!”
โจวหมัวมัวนั้นเป็จิ้งจอกเ้าเล่ห์เฒ่าตัวหนึ่ง นางยิ้มแหะๆทันที “พ่อหนุ่ม ข้าเป็ท่านย่าของแม่นางเฟิง ข้าไม่วางใจที่นางเป็สตรี ดังนั้นจึงมาดูนางเป็การเฉพาะ รบกวนเ้าช่วยอำนวยความสะดวกให้ด้วย”
ชายหนุ่มในชุมนุมหมากล้อมตกตะลึง “ท่านเป็ท่านย่าของแม่นางเฟิงหรือ เช่นนั้นข้าต้องเข้าไปรายงานก่อน ท่านรอที่นี่สักครู่”
“ขอบคุณพ่อหนุ่ม!” โจวหมัวมัวกล่าว
ชายหนุ่มหมุนกายผลักประตูเข้าไปในห้องพิเศษ โจวหมัวมัวรีบตามเข้าไปทันที นางมองลอดช่องประตูเข้าไป เห็นเพียงสภาพเละเทะภายในห้อง บนพื้นเต็มไปด้วยไข่มุกและน้ำ ท่ามกลางห้องเละเทะนี้ สตรีในชุดขาวนั่งอยู่เบื้องหน้ากระดานหมาก ร่างกายโอนไปเอนมา ชัดเจนเหลือเกินว่าอ่อนแรง ได้ยินเสียงชายหนุ่มรายงาน นางจึงหันหน้ามองมาทางประตู...
วินาทีนั้นเพียงปราดเดียว นางก็จดจำสตรีในชุดขาวได้!
นางมิใช่ใครอื่น นางคือฮองเฮา เฟิ่งเฉี่ยน
โจวหมัวมัวตาค้าง
ที่แท้นางเป็ฮองเฮาจริงๆ สตรีมหัศจรรย์ที่กำลังประลองหมากล้อมกับองค์ชายสาม ถึงกับเป็ฮองเฮาที่ได้ชื่อว่าเป็สตรีหน้าอกใหญ่ไร้สมอง!
นี่เป็ไปได้อย่างไร
แต่เื่จริงได้ปรากฏอยู่ตรงหน้า นางไม่เชื่อไม่ได้
วินาทีถัดมา ก่อนที่เฟิ่งเฉี่ยนจะกวาดสายตามาเห็นนาง นางหมุนตัวหนีไป!
เมื่อเฟิ่งเฉี่ยนมองมาเห็นเพียงชายอาภรณ์ นางไม่เห็นชัดเจนว่าเป็ใคร นางลุกขึ้นเดินมาถึงประตูมองออกไป เห็นหน้าประตูว่างเปล่าไม่มีใครสักคน
นี่เป็ใครกันถึงกับปลอมตัวว่าเป็ท่านย่าของนาง มีแผนการอะไร
ไม่รอให้นางไตร่ตรองให้ละเอียด อาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงเล่นงานนางอีกครั้ง ปวดเหลือเกิน
หลังจากโจวหมัวมัวหนีไปจากหน้าประตู นางเดินไปตามระเบียงทางเดินตรงไปที่ห้องพิเศษ เทียน นางจำเป็ต้องนำเื่นี้ไปบอกกับองค์ไท่จื่อ นี่เป็โอกาสอันดีที่จะถอนรากถอนโคนฮองเฮา จะพลาดไม่ได้เด็ดขาด!
นางยิ่งคิดยิ่งตื่นเต้น นางเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
เฟิ่งเทียนรุ่ยรู้สึกว่าพฤติกรรมของนางน่าสงสัยจึงลอบตามหลังไป
ในห้องพิเศษ เทียน ซือคงเซิ่งเจี๋ยดื่มชาอย่างสบายใจ รอคู่ต่อสู้รับมือ ทว่าคู่ต่อสู้ไม่เคลื่อนไหว เขาไม่รีบร้อนเช่นกัน เขามีความอดทนที่จะรอ
ซือคงจวินเย่กลับมีทีท่ารอไม่ไหว “นางจงใจถ่วงเวลาใช่หรือไม่ หากนางไม่ยอมเดินหมากสักที และไม่ยอมแพ้ เ้ามิต้องเสียเวลากับนางต่อไปหรือ”
ซือคงเซิ่งเจี๋ยพูดเนิบๆ “ค่ายกล ‘หน้าผาสูงชันพันหน้า’ ของข้า นอกจากศิษย์พี่แล้ว จนถึงเดี๋ยวนี้ยังไม่มีใครทำลายได้! นางไม่ได้รีบร้อนเดินหมาก แสดงให้เห็นว่านางเป็คนฉลาด ทว่าหากนางยังไม่คิดแผนการต้านรับต่อไป แสดงให้เห็นว่าความสามารถของนางยังต้องถูกทดสอบอยู่ ข้ายินดีให้เวลานางมากหน่อย ดูว่านางคู่ควรเป็คู่ต่อสู้ของข้าหรือไม่”
ระหว่างที่คนทั้งสองสนทนากัน นอกประตูมีการเคลื่อนไหว
“ทูลไท่จื่อ หม่อมฉันมาเข้าเฝ้าพระองค์ตามบัญชาขององค์หญิงหลานซินเพคะ!
ได้ยินเสียงของโจวหมัวมัว ซือคงจวินเย่กวาดตามองแล้วพูดกับคนด้านนอก “ปล่อยให้นางเข้ามาเถิด!”
โจวหมัวมัวเดินเข้ามาในห้องพิเศษแล้วถวายบังคมคนทั้งสอง “ทูลไท่จื่อ หม่อมฉันได้รับคำสั่งจากองค์หญิง ให้มาตรวจสอบฐานะที่แท้จริงของแม่นางเฟิงเพคะ”
ซือคงเซิ่งเจี๋ยกวาดสายตาคมปลาบมองมา “พบอะไรบ้าง”
ดวงตาของโจวหมัวมัวเปล่งประกาย “หม่อมฉันพบเห็นเื่สำคัญเพคะ พระองค์ทายว่าแม่นางเฟิงคนนั้นเป็ใครกัน”
นางหยุดไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ “นางก็คือฮองเฮาแห่งแคว้นเป่ยเยียน เฟิ่งเฉี่ยน!”
ซือคงเซิ่งเจี๋ยที่ไม่เคยสนใจเื่ไร้สาระได้ยินเช่นนั้นถึงกับหันหน้ากลับมาด้วยความประหลาดใจ “เ้าบอกว่านางคือฮองเฮาแห่งแคว้นเป่ยเยียนหรือ”
โจวหมัวมัวพยักหน้าแรงๆ “เพคะ องค์ชายสาม!”
ซือคงเซิ่งเจี๋ยลุกขึ้นพรวด เขาเดินไปข้างหน้าต่างแล้วมองออกไป ประจวบเหมาะเห็นร่างสั่นสะท้านของเฟิ่งเฉี่ยนที่ถูกน้ำรินรดจนเปียกชุ่มั้แ่ศีรษะจดปลายเท้า คิ้วคมใต้หน้ากากสีเงินขมวดมุ่น สายตาที่มองเฟิ่งเฉี่ยนเพิ่มความงุนงงและประหลาดใจ
ทั้งๆ ที่นางเป็ถึงฮองเฮาของแคว้นเป่ยเยียน ฐานะสูงศักดิ์ เหตุใดต้องเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนแซ่มาปลอมตัวเป็นางกำนัลฐานะต่ำต้อย
ยังมีอีก แค่แมวเทพตัวเดียว นางถึงกับยอมอดทนอยู่ในสิ่งแวดล้อมเลวร้ายเช่นนี้ก็ยังยืนหยัดที่จะเดินหมากกับเขา เพื่ออะไร
เขารู้สึกว่าตนเองอ่านสตรีคนนี้ไม่ออกแม้แต่น้อย!
“เ้ารู้หรือไม่ว่านาง้าแมวเทพไปทำอะไร”
ได้ยินเขาถาม โจวหมัวมัวรีบตอบ “นี่เป็แผนการขององค์หญิงเพคะ! องค์หญิงวางแผนให้ฮองเฮาและไทเฮาพนันกัน หากฮองเฮาหาแมวเทพสามหางไม่พบภายในเวลาห้าวัน นางจะต้องเป็ฝ่ายสละตำแหน่งฮองเฮา ไปจากวังหลวง! พรุ่งนี้เป็วันสุดท้ายที่พวกเขานัดหมายกันไว้เพคะ ดังนั้นนางจึงทำทุกอย่างเพื่อจะได้มาซึ่งแมวเทพ!”
“ที่แท้เป็เช่นนี้” ซือคงเซิ่งเจี๋ยกระจ่างแจ้งในที่สุด หรือที่นางกล่าวว่านาง้าปกป้องครอบครัวและสหายของนาง ตำหนักในเป็สถานที่ที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดี ทันทีที่นางสูญเสียตำแหน่งฮองเฮา คนข้างนางย่อมต้องลำบากไปด้วย ดังนั้น นางไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่นางทำเพื่อคนรอบๆ ตัวนาง!
ทว่าเื่เหล่านี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา และเขาไม่สนใจด้วย
หากกล่าวเช่นนี้ เมื่อแรกที่เขาเสนอว่าจะประลองกับนาง ทางหนึ่งคือคิดจะสั่งสอนนางผ่านการเดินหมากกระดานหนึ่ง อีกทางหนึ่งคือไม่ง่ายดายกว่าจะพบคู่ต่อสู้ที่น่าสนใจสักคน เขาไม่อยากพลาดโอกาส ทว่าตอนนี้ที่เขาใส่ใจมากกว่าคือคนที่อยู่เื้ันางคนนั้น!
ยอดฝีมือที่ถ่ายทอดหลักการเดินหมากสี่ต่อหกให้กับนาง!
ศิษย์พี่ที่เขาคิดหาร้อยแปดพันวิธีบีบให้เขาออกมาปรากฎตัวเดินหมากให้รู้แพ้รู้ชนะสักกระดาน!
เขามีความรู้สึกแรงกล้าชนิดหนึ่ง ว่าสตรีนางนี้จะทำให้เขาต้องตามหาศิษย์พี่เจอแน่นอน!
ดังนั้น เขาจะประลองกับนางต่อไป บีบให้คนที่อยู่เื้ันางปรากฏตัวออกมาทีละก้าวๆ!
“เฟิ่งเฉี่ยน หวังว่าเ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง!”
เขาลอบพูดกับตัวเองในใจ
ซือคงจวินเย่หัวเราะเสียงเย็น “คิดไม่ถึงว่านางจะเป็ฮองเฮาของแคว้นเป่ยเยียนจริงๆ! เซวียนหยวนเช่อถึงกับปล่อยให้ผู้หญิงของตนปลอมเป็นางกำนัล มาประลองเดินหมากในสถานที่ที่มากไปด้วยผู้คนหลากหลายอาชีพเช่นนี้ ช่างทำให้คนยากจะเข้าใจ!”
โจวหมัวมัว “ก่อนมาที่นี่ องค์หญิงได้ทรงกำชับว่า ขอให้ไท่จื่อขัดขวางไม่ให้ฮองเฮาได้ตัวแมวเทพเพคะ! นอกจากนี้หากเป็ไปได้ จะเป็การดีที่สุดหากสังหารฮองเฮานอกวังได้ เพื่อเป็การถอนรากถอนโคน!”
นางทำท่าสังหาร ในแววตาเต็มไปด้วยรังสีสังหาร เห็นได้ว่านางเคียดแค้นฮองเฮาเพียงใด
ด้านนอกประตูไม่ไกลนัก เฟิ่งเทียนรุ่ยได้ยินบทสนทนาภายในห้องพิเศษหมดสิ้น เขามีสีหน้าตกตะลึงและกังวล พวกเขาถึงกับคิดจะสังหารน้องหญิงสี่ นี่จะทำอย่างไรดี
รอบๆ ชุมนุมหมากล้อมมียอดฝีมือของแคว้นหนานเยียนซุ่มอยู่ ทันทีที่ลงมือ ไม่แน่ว่าเขาจะคุ้มกันน้องหญิงสี่ได้!
ไม่ได้ เขาต้องรีบกลับไปเรียกทัพหนุน! คิดแล้ว เขารีบมุ่งหน้าไปวังหลวง บอกกล่าวกับบิดา
หลังจากเขาออกไป ในห้องพิเศษ ซือคงเซิ่งเจี๋ยพลันส่งเสียง “ไม่ได้! หากข้าไม่อนุญาต พวกเ้าไม่ว่าใครก็ห้ามแตะต้องนาง!”
ซือคงจวินเย่ประหลาดใจ “เพราะเหตุใด”
ซือคงเซิ่งเจี๋ย “ข้า้าตามหาศิษย์พี่ของข้าผ่านนาง!”
ซือคงจวินเย่ขมวดคิ้วแน่น “คนเก็บไว้ได้ แต่แมวเทพเก็บไว้ไม่ได้!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้