หลังจากที่อธิบายอยู่ครู่หนึ่ง ิอวี่ถึงได้รู้ว่าอุโมงค์เพลิงตั้งอยู่ด้านข้างสายเลี่ยนเหยียนที่มีพลังงานฟ้าดินหมุนเวียนเป็พิเศษ ซึ่งมีพลังงานฟ้าดินที่มีคุณสมบัติร้อนแรงและบริสุทธิ์ที่สุด
ซึ่งการได้ไปฝึกที่นั่นจะได้ผลที่ดีไปกว่าครึ่ง อีกอย่าง เมื่อฝึกลึกเข้าไปอีก อุโมงค์เพลิงนั้นก็ยิ่งมีพลังงานที่แข็งแกร่งมากขึ้น!
ศิษย์ของสายเลี่ยนเหยียนสามารถเลือกสถานที่ฝึกตามความสามารถและความเหมาะสมของตัวเองในการฝึกได้
ดังนั้น อุโมงค์เพลิงเลยกลายเป็สถานที่ฝึกในฝันของศิษย์หลายคน
เพียงแต่ อุโมงค์เพลิงไม่ได้อนุญาตให้ศิษย์จำนวนมากเข้าไปได้ ดังนั้น หากจะเข้าไปในอุโมงค์เพลิงก็จำเป็ต้องมีค่าผลงานที่มากพอถึงจะสามารถเข้าไปฝึกได้
และตำแหน่งที่ลึกเข้าไปก็จะต้องจ่ายค่าผลงานสูงตามไปด้วยเหมือนกัน
ส่วนวิธีการที่ได้ค่าผลงานมาง่ายที่สุด ก็คือใช้ของในระดับเดียวกันในการแลก
หลังจากที่ิอวี่ทำความเข้าใจแล้วก็ออกจากเรือนพักชายไป เขาขี่เ้าอสูรวิหคัไปที่โถงค่าผลงานแล้วนำเงินหนึ่งร้อยล้านเหรียญหยกดำออกมา ซึ่งมันมีมูลค่าเท่ากับยาจูหยวนตันหนึ่งหมื่นเม็ด ซึ่งจูหยวนตันมีมูลค่าเท่ากับค่าผลงาน ดังนั้นิอวี่ก็เลยแลกค่าผลงานได้หนึ่งหมื่นแต้ม
ตราสถานะเปลวไฟที่เิเวยถ่ายเข้าสู่ร่างกายของผู้ผ่านการทดสอบ มันเป็ตราสัญลักษณ์เฉพาะของสายเลี่ยนเหยียน เมื่อิอวี่แลกค่าผลงานมาแล้วมันก็จะถูกเก็บสะสมเอาไว้ในบัตรแก้วแห่งเปลวเพลิงของสายเลี่ยนเหยียน
หน้าบัตรแก้วแห่งเปลวเพลิงจะมีคำว่า “เลี่ยน” ตัวใหญ่อยู่ ส่วนด้านหลังจะเป็ชื่อ “ิอวี่” เขียนเอาไว้
พูดได้เลยว่า บัตรแก้วแห่งเปลวเพลิงนั้นไม่เพียงสามารถเก็บสะสมค่าผลงาน แต่ยังเป็บัตรแสดงสถานะคนของสายเลี่ยนเหยียนของิอวี่ด้วย
หลังจากทำบัตรแก้วแห่งเปลวเพลิงเสร็จแล้ว ิอวี่ก็ตรงไปยังอุโมงค์เพลิงในทันที
ตลอดทางนั้นเขาเริ่มครุ่นคิด
ภายในระยะเวลาสั้นๆ แค่หนึ่งเดือน เซินถูเจ๋อจะต้องคิดหาวิธีเล่นงานเขาแน่ หากิอวี่เผชิญหน้ากับศัตรูตอนนี้คงไม่สามารถสู้กับเซินถูเจ๋อที่มีทั้งพลังอูจิน มีทั้งพลังเทียบเท่าราชสีห์หนึ่งหมื่นห้าพันตัว และยังมีดาบเทวะทลายที่แข็งแกร่งนั่นอีกแน่
หากสู้กัน เขาจะต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย!
ดังนั้น ิอวี่ถึงได้คิดจะใช้เวลาหนึ่งเดือนฝึกในอุโมงค์เพลิง นอกจากจะสามารถหลบการไล่ล่าของเซินถูเจ๋อแล้ว ยังสามารถเพิ่มความสามารถของตัวเองได้อีก
หลังจากนี้อีกหนึ่งเดือน ในงานคัดเลือกศิษย์ชั้นยอด ก็น่าจะเป็เวลาที่ได้พิสูจน์ความสามารถที่แท้จริง!
ิอวี่บังคับวิหคัให้บินเร็วขึ้น ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วยามก็มาถึงข้างอุโมงค์เพลิง
ในเวลานี้ ตรงทางเข้าสีแดงทองของอุโมงค์เพลิงมีคนอยู่เต็มไปหมด คนแล้วคนเล่าที่เดินออกมาจากในอุโมงค์เพลิง และก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งเดินเข้าไปในนั้น
พลังงานที่อยู่ในอุโมงค์เพลิงนั้นแข็งแกร่งมาก คนทั่วไปที่เดินเข้าไปหาอุโมงค์ที่เหมาะสมก็จะทนได้แค่ไม่กี่ชั่วยามเท่านั้นก็ต้องออกมาแล้ว ไม่อย่างนั้นเส้นชีพจรอาจถูกไฟเผาทำลายไปหมด สติอาจทำงานหนักจนธาตุไฟเข้าแทรกก็ได้
มีแค่ผู้กล้าที่มีร่างนักรบเป็ธาตุไฟเท่านั้นถึงจะต้านทานเปลวไฟนั้นได้ และสามารถอยู่ในอุโมงค์เพลิงนี้ได้สามถึงห้าวัน แต่คนกลุ่มนี้มีอยู่ไม่มากนัก
ถึงแม้ิอวี่จะอยากรีบฝึก แต่ก็ต้องเป็ไปตามลำดับ เขาเองก็ต้องเข้าแถวเหมือนกัน
เขาอยู่รอในหมู่ผู้คนมากมายประมาณหนึ่งชั่วยาม ในที่สุดิอวี่ก็เข้ามาถึง่กลางแถวแล้ว ตามระดับความเร็วนี้ อย่างไรเขาก็จะต้องได้เข้าไปในอุโมงค์เพลิงก่อนฟ้ามืดอย่างแน่นอน
“หลีกหน่อย หลีกหน่อย หลีกทางหน่อย”
ในเวลานี้เอง ก็มีชายหนุ่มด้านหลังเข้ามาแทรกแถวบริเวณด้านหน้า
ชายหนุ่มคนนั้นมีดวงตาชั้นเดียว ไม่สูงมาก ท่าทางอวดดีเ็า ทางด้านหลังเขามีผู้หญิงหน้าตาดีผิวขาวผมยาวเกาะแขนของชายหนุ่มมา ดวงตาเป็ประกายดูมีชีวิตชีวา
ชายหนุ่มคนนั้นกวาดสายตามองมาที่ศิษย์ที่กำลังเข้าแถวยาวและหยุดลงที่ศิษย์ขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เก้าคนหนึ่ง แล้วกระซิบอะไรบางอย่างข้างหูของศิษย์คนนั้น จากนั้นชายหนุ่มก็ยิ้มอย่างเขินๆ แล้วก็เดินมาด้านหลัง
ไม่นานนัก ชายหนุ่มคนนั้นก็พาหญิงสาวเดินมาข้างๆ ิอวี่
ชายหนุ่มมองไปที่ิอวี่ จากนั้นก็ขยับเข้าใกล้แล้วพูดว่า “น้องชาย ข้ามีเื่อยากจะหารือกับเ้าหน่อย”
ิอวี่ขมวดคิ้ว “มีเื่อะไร?”
ิอวี่ไม่ได้รู้จักชายหนุ่มที่ว่านั่นเลย เมื่อครู่เห็นเขามองไปทั่ว ิอวี่ยังคิดว่าเขากำลังมองหาคนรู้จักอยู่
“ข้าขอแนะนำตัวก่อนนะ ข้าชื่อซุนเหิง เข้าร่วมสำนักเทพอัคคีมาประมาณหนึ่งปีแล้ว มีขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่ง ไม่ทราบว่าน้องชายขั้นไหนแล้ว?”
ิอวี่พูดตามความจริงว่า “ข้าชื่อิอวี่ เป็เด็กใหม่ที่เพิ่งประกาศให้ผ่านการทดสอบในวันนี้ ไม่ทราบมีอะไรหรือเปล่า?”
“อย่างนั้นหรือ คือแบบนี้นะ ข้าเองก็ถือได้ว่าเป็ศิษย์พี่ของเ้า เหอะๆ เ้ารู้จักศิษย์พี่คนไหนแล้วหรือยัง ใครเป็คนแนะนำเ้าเข้ามาหรือ?” ซุนเหิงถาม
ิอวี่เริ่มหงุดหงิดเลยพูดไปว่า “ข้ามาของข้าเอง มีอะไรหรือเปล่า มีอะไรก็พูดมาเลยตรงๆ ”
ได้ยินดังนั้นซุนเหิงก็ยิ้ม แล้วหันไปมองสาวคนที่อยู่ด้านหลังก่อนจะหันกลับมาพูดว่า “คืออย่างนี้ ศิษย์น้องด้านหลังของข้าคนนี้เพิ่งจะผ่านการทดสอบของสายเลี่ยนเหยียนเข้ามาเหมือนกัน ก็ถือว่าเป็เด็กใหม่ พรุ่งนี้นางต้องไปเข้าเรียนกับท่านผู้าุโแต่เช้า ดังนั้น นางเลยมีเวลาค่อนข้างจำกัด เข้าแถวรอไม่ได้ เอาอย่างนี้นะ ข้าจะให้ค่าผลงานกับเ้าห้าแต้ม เ้ายกที่ตรงนี้ของเ้าให้นางนะ”
ระหว่างที่พูด ซุนเหิงก็กวักมือเรียกผู้หญิงคนนั้นแล้วพูดว่า “เจียวเจียว ยังไม่รีบมาขอบคุณเขาอีก?”
เจียวเจียวตอบรับและรีบเดินเข้ามายิ้มหวานให้กับิอวี่แล้วพูดด้วยความซาบซึ้งว่า “ขอบคุณมาก”
“ดี เ้าหลีกไปข้างๆ ข้าจะโอนค่าผลงานไปในบัตรแก้วแห่งเพลิงของเ้าห้าแต้ม” ซุนเหิงเดินก้าวเข้ามาและใช้มือแตะไปที่หัวไหล่ของิอวี่แล้วดันออกไป
แต่ว่าการแตะของเขามันไม่ได้ทำให้ิอวี่ขยับเลย “ข้าบอกแล้วหรือว่าข้าจะยกที่ให้กับเ้าน่ะ?”
“หือ?”
ซุนเหิงคิดไม่ถึงเลยว่าิอวี่จะกล้าปฏิเสธ เขาจึงเริ่มโมโห
วันนี้เขาอุตส่าห์ไปถูกใจเจียวเจียวแล้วก็ได้เชื่อมสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แล้วก็รู้มาว่าเมื่อสองวันก่อนนางมัวเที่ยวเล่นกับเพื่อนสนิทตลอดจึงไม่ได้ฝึกฝนอะไรเลย การฝึกที่ท่านผู้าุโมอบหมายให้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า แล้วพรุ่งนี้จะต้องไปเข้าเรียนกับท่านผู้าุโแล้ว ทำให้เจียวเจียวไฟลนก้นถึงได้ต้องมาเข้าฝึกที่อุโมงค์เพลิงนี้
เดิมทีเจียวเจียวเองก็กำลังกังวลอยู่เพราะคนเข้าแถวเข้าอุโมงค์เพลิงนั้นยาวมาก แต่ว่า ซุนเหิงรับประกันกับนางว่าวันนี้จะไม่ต้องรอนาน นางถึงได้ดีใจสุดๆ
ตลอดการเดินทางมาที่นี่ ระหว่างที่ซุนเหิงกับเจียวเจียวพูดคุยกัน เขาพยายามแสดงความสามารถ แสดงสถานะทางการเงิน และเส้นสายของตนเองอยู่ตลอด เจียวเจียวเป็คนรักสนุกอยู่เป็ทุนเดิม นางจึงเห็นว่าซุนเหิงสามารถให้ในสิ่งที่นาง้าได้ก็เลยรู้สึกมีความสุข
ระหว่างทางซุนเหิงลองหยั่งเชิงพูดไปว่า หากครั้งนี้เขาสามารถช่วยเจียวเจียวสำเร็จ จะขอให้นางหอมแก้มเขาเป็รางวัล คิดไม่ถึงเลยว่าเจียวเจียวจะตกปากรับคำด้วย
ซุนเหิงรู้ คราวนี้อย่างไรเขาก็มีหวัง!
ดังนั้น เขาถึงได้อาศัยสถานะและตำแหน่งของเขามาแทรกแถวแบบเปิดเผย
ซุนเหิงพยายามเลือกคนที่มีพลังฝีมือต่ำ ก่อนหน้านี้เขาเข้าไปหาผู้กล้าขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เก้าคนหนึ่ง แต่ว่าเขามีญาติเป็ผู้าุโคนหนึ่งในสายเลี่ยนเหยียน ซุนเหิงก็เลยเลิกยุ่ง แล้วก็มาเจอิอวี่
ใครจะไปคิดว่า ิอวี่ที่ไม่มีอำนาจใดหนุนหลัง และเป็แค่เด็กใหม่ขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เก้า กลับกล้าหักหน้าเขาต่อหน้าคนอื่น โอหังอวดดีเป็ที่สุด คิดว่าศิษย์พี่อย่างพวกเขารังแกกันได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรือ!
“ศิษย์น้อง เจียวเจียวก็พูดขอบใจเ้าไปแล้วยังทำแบบนี้อีก เ้ารู้สึกว่าค่าผลงานห้าแต้มมันน้อยไปใช่ไหม งั้นข้าให้เ้าสิบแต้มเลย”
ซุนเหิงพยายามข่มความโกรธเอาไว้ในใจ ในฐานะผู้ชาย รับปากเจียวเจียวไปแล้วเขาจะต้องทำให้ได้ เขาจะขายหน้าไม่ได้
“เหอะๆ ”
ิอวี่มองออกเลยว่าซุนเหิงคิดจะทำอะไร วันนี้เขาก็อารมณ์ไม่ดีเป็ทุนเดิมอยู่แล้ว ในเวลานี้เลยเหมือนจะทนไม่ไหวแล้ว “เ้าจะให้ค่าผลงานกับข้าก็ได้ ข้าขอค่าผลงานหนึ่งล้านแต้ม โอนมาเลย แล้วข้าจะยกที่ให้ทันที”
ซุนเหิงเองก็เหมือนจะโกรธไม่ไหวแล้วเหมือนกัน เขาพูดเสียงเข้มขึ้นมาเลยว่า “ข้าขอเตือนเ้าไว้ก่อนเลยนะ อย่าได้คืบจะเอาศอก”
“ช่างมันเถอะซุนเหิง เขาใจแคบเกินไป อย่าไปถือสาเขาเลยนะ หาคนอื่นเถอะ” เจียวเจียวที่อยู่ด้านหลังมองมาที่ิอวี่แล้วก็ดึงชายเสื้อของซุนเหิง
“ได้อย่างไรกันล่ะ?”
ซุนเหิงเอามือขวานุ่มๆ ของเจียวเจียวออก แล้วชี้หน้าพูดเสียงเข้มกับิอวี่ว่า “ข้าพูดดีกับเ้า แล้วดูท่าทีที่เ้าพูดกับข้าสิ ขอโทษเดี๋ยวนี้เลย”
ไม่เพียงต้องขอโทษ แต่ิอวี่ยังต้องยกที่ของเขาให้ด้วย ซุนเหิงจะต้องกู้หน้าที่เสียไปของเขากลับมาให้หมด!
ิอวี่ยิ้มแสยะและเริ่มรวบรวมลมปราณในร่างกาย “พวกเ้าสองคนคิดอยากตัดสินข้าด้วยศีลธรรมอย่างนั้นหรือ? ได้ ถ้าอย่างนั้นขอถามหน่อย ใครเป็คนกำหนดว่าข้าต้องสละที่ให้ด้วย? ทำไมข้าเห็นแต่ศิษย์รุ่นพี่คิดอยากจะจีบหญิงเลยใช้อำนาจรังแกคนอื่น แล้วยังคอยเห่าหอนเพื่อผู้หญิงหน้าตาธรรมดาคนหนึ่งด้วย!”
คำพูดของิอวี่ทำให้ทั้งซุนเหิงและเจียวเจียวหน้าแดงไปหมด สายตาจ้องมาที่ิอวี่อย่างไม่ละสายตา
“ไหนเ้าลองพูดอีกทีสิ!” ซุนเหิงใช้ฝ่ามือซัดพุ่งเข้าไปที่แก้มของิอวี่ เขา้าฉีกปากของิอวี่ให้เละไปเลย!
แต่ในวินาทีนั้นเอง ิอวี่กลับยื่นมือซ้ายของเขาออกไปแล้วต้านฝ่ามือนั้นเอาไว้ จากนั้นก็ยื่นตรงออกไปจับคอของซุนเหิงแล้วยกตัวเขาขึ้นมา!
“ข้าพูดอีกทีแล้วเป็อย่างไร”
ในตอนนี้เอง ความโกรธในใจของิอวี่ะเิออกมาหมดแล้ว พลังธาตุหยางขั้นสุดในร่างกายของเขามันพลุ่งพล่านออกมา เปลวเพลิงลุกท่วมแขนซ้ายและแผ่ซ่านออกมาจากิัของเขา
พลังฝีมือของซุนเหิงถือได้ว่าแค่ปานกลางเท่านั้น และก็ไม่มีพลังกายที่แข็งแกร่งพอที่จะหลบพ้น อีกทั้งิอวี่ก็เล่นงานเขาอย่างกะทันหัน หากิอวี่้า ซุนเหิงคงโดนไฟเผาจนาเ็หนักไปแล้ว!
ในเวลานี้เอง ซุนเหิงเห็นในดวงตาของิอวี่นั้นมีเปลวไฟสีแดงทองลุกโชน มันทำให้เขารู้สึกเหมือนมีพลังแห่งความตายที่น่ากลัวอย่างมากแผ่กระจายออกมาปกคลุมร่างกายของเขาเอาไว้
“เ้า ... เ้า ... ”
ซุนเหิงอยากมีคำที่จะพูด แต่ตอนนี้ในหัวของเขามันว่างเปล่าอย่างมาก
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เจียวเจียวที่อยู่ด้านหลังของซุนเหิงก็หน้าซีด นางจะไปคิดได้อย่างไรว่าซุนเหิงที่บอกกับนางว่าเขาแข็งแกร่งสูงส่งจะถูกิอวี่ยกตัวลอยแบบที่ไม่มีทางสู้ได้แบบนี้
คนรอบข้างที่เข้าแถวอยู่ก็เริ่มหันมามองกัน
ศิษย์รุ่นพี่ล้วนแต่รู้ดี ภายในสำนักเทพอัคคีเกิดการต่อสู้มากมายรายวัน เพียงแต่ไม่เคยมีใครทำให้เป็เื่ใหญ่ คนเป็รุ่นพี่ที่เข้ามาก่อนก็ไม่ค่อยจะไปยุ่ง เพราะการแข่งขันการต่อสู้มันทำให้พัฒนาเติบโตได้เร็ว
ดังนั้น ทุกคนก็เลยเริ่มเข้ามามุงดู
เมื่อััได้ว่ามีสายตาหลายคู่กำลังจับจ้อง ซุนเหิงก็หน้าแดง เขารู้สึกว่าอับอายขายหน้าหมดแล้ว แต่ความกลัวมันบอกเขาว่า ตอนนี้แค่เขาคนเดียวอาจทำอะไรไม่ได้
“เ้า ... ปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้นะ เ้าไม่รู้หรือว่าพี่ชายข้าเป็ใคร? ซุนอี้ ... รู้จักไหม? ศิษย์ชั้นยอด ซุนอี้! เ้าแน่จริงก็ลงมือกับข้าเลยสิ ข้าจะให้เ้า ... ”
“เพียะ!”
ิอวี่ใช้มือตบหน้าซุนเหิงเข้าไปเต็มๆ เขาถึงกับหน้าหันกระเด็นไปไกล ฟันหลุดออกจากปากทีเดียวแปดซี่ เืกบปากนอนกองอยู่ที่พื้นในสภาพเหมือนคนตายแล้ว
ในเวลานี้ิอวี่รู้สึกได้ว่าพลังงานธาตุไฟหยางขั้นสุดของเขามันวิ่งพล่านไปทั่วทุกเม็ดเื เหมือนว่ามันกำลังจะะเิออกมาแล้ว! เดิมทีวันนี้เขามีโอกาสได้กลายเป็ศิษย์ชั้นยอด แต่กลับถูกเซินถูเจ๋อทำลายแผนจนเละ แล้วยังถูกซ่งหยวนหยวนเมินอีก เขาอารมณ์ขุ่นมัวเป็ทุนเดิมอยู่แล้ว คำพูดของซุนเหิงจึงทำให้ิอวี่ถึงจุดที่ะเิออกมา!
ิอวี่หายใจหอบแรงขึ้นมา เขาพบว่าตอนนี้ตนเองไม่สามารถอดกลั้นต่อไปได้อีกแล้ว
หากเขาได้เป็ศิษย์ชั้นยอด เขาจะมาถูกซุนเหิงรังแกอย่างไร้เหตุผลแบบนี้ได้อย่างไรกัน?
