“ ท่านพ่อ พวกเราไปสำนักหลิงอวิ๋นกันเถอะเ้าค่ะ หมอมากมายเช่นนั้นยังทำอะไรมิได้ ข้าไม่คิดว่าหมอคนใหม่ที่จะมารักษานี้ก็ทำไม่เช่นกัน! ”
เนี่ยเฉี่ยนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนานแล้ว ในส่วนลึกของจิตใจนางคิดแค่ว่ามีเพียงผู้ฝึกลมปราณแข็งแกร่งของสำนักหลิงอวิ๋นผู้สูงส่งเท่านั้นถึงจะสามารถรักษาโรคประหลาดให้กับเนี่ยเทียนได้
เนี่ยตงไห่เองก็มีสีหน้าลังเล
สามวันแล้ว ไม่เพียงแค่ในเมืองเฮยอวิ๋น แม้แต่หมอที่มีชื่อเสียงเป็ที่เลื่องลือของเมืองรอบด้านต่างก็พากันมาตามข่าวเพื่อรับรางวัลใหญ่ ต่างคนต่างนำวิธีมากมายออกมาใช้ ทว่าสุดท้ายแล้วอาการของเนี่ยเทียนก็ยังไม่ดีขึ้น
แต่ไหนแต่ไรมาเขานั้นเคารพเลื่อมใสในฝีมืออภินิหารของผู้ฝึกปราณสำนักหลิงอวิ๋นมากที่สุด และก็คิดด้วยว่าเวลานี้มีเพียงสำนักหลิงอวิ๋นเท่านั้นที่ช่วยเนี่ยเทียนได้
“ท่านประมุข...” ขณะที่เนี่ยตงไห่ขมวดคิ้วคิดหนักอยู่นั้นเอง หานเยวี่ยก็พูดขึ้นมาอย่างขี้ขลาดตาขาวว่า “หมอที่มาใหม่ท่านนั้นเป็คนแปลกหน้า เขาบอกว่าหากเขาทำไม่สำเร็จ จะยอมให้ท่านประมุขจัดการได้ตามอำเภอใจ”
“จัดการได้ตามอำเภอใจอย่างนั้นรึ?” เนี่ยตงไห่สีหน้าเปลี่ยนไป “ทั้งๆ ที่รู้ว่าหมอทุกคนก่อนหน้าเขาล้วนล้มเหลว ยังจะกล้ามาพูดจาใหญ่โตเช่นนี้ บางที คนผู้นี้อาจจะมีวิธีพิเศษอะไรบางอย่างจริงๆ หรือไม่?”
“รีบไปเรียกเขามา!”
“เ้าค่ะ” หานเยวี่ยรีบร้อนออกไป
ไม่นานนัก ชายชรารูปร่างเล็กเตี้ย ผิวหน้าดำคล้ำผู้หนึ่งก็ถือกล่องยาเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้า
ั้แ่คางจรดลำคอของชายชรามีแผลเป็เล็กยาวเห็นได้ชัดเส้นหนึ่ง รอยแผลนั้นคล้ายจะยาวไปจนถึงจุดลึกตรงหน้าอก ทำให้มองดูแล้วดุร้ายน่าสะพรึงกลัวเป็อันมาก
ในดวงตาของชายชรามากไปด้วยตาขาว ลูกตาดำเล็กยิ่งนัก ขับให้รอยแผลเป็ที่น่ากลัวของเขายิ่งมองยิ่งมืดครึ้มน่าขนลุก
เนี่ยตงไห่มองเขาหนึ่งครั้งในใจก็เกิดความระแวง แอบใช้พลังิญญาัั กลับพบว่าชายชรานั้นคล้ายจะไม่ใช่ผู้ฝึกลมปราณ ในร่างไม่มีคลื่นพลังิญญาแม้แต่เส้นเดียว
“ข้าน้อยหัวมู่ มักจะตามหาสมุนไพรในเขาลึกเป็ประจำ วันนี้เดินทางผ่านเมืองเฮยอวิ๋น ได้ยินว่าในจวนมีเด็กเป็ไข้สูงพอดี” ชายชราเป็ฝ่ายบอกชื่อขึ้นมาด้วยตัวเอง พูดอย่างช้าๆ ด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกแหบต่ำ “เป็หมอมาหลายปี ข้าผู้แก่ชราค่อนข้างมั่นใจในการรักษาโรคประหลาด คิดว่าสามารถรักษาเด็กน้อยผู้นี้ให้ไข้ลดลงไปได้ หวังว่าท่านประมุขตระกูลเนี่ยจะให้ข้าลองรักษาดู”
ระหว่างที่พูด สายตาของหัวมู่ก็มองผ่านเนี่ยตงไห่และเนี่ยเฉี่ยน จ้องเขม็งไปยังเนี่ยเทียนที่อยู่บนเตียง
ตอนที่เขามองไปยังเนี่ยเทียน ดวงตาน่าสะพรึงกลัวที่ลูกตาดำเล็กลูกตาขาวมากคล้ายฉายประกายแสงตื่นเต้นแปลกประหลาดบางอย่าง
“เ้ามีความมั่นใจจริงรึ?” เนี่ยตงไห่สีหน้ามืดคล้ำ กล่าวว่า “ก่อนหน้าเ้า หมอหลวงที่มีชื่อเสียงทุกคนล้วนลองกันมาหมดแล้ว แต่ก็ล้มเหลวกันทุกคน ไข้ของหลานชายข้าก็ยังไม่ลดลงเสียที หากไม่รีบรักษาให้หายโดยไว ข้ากังวลว่าเขาจะทนไม่ไหว ข้าเพิ่งจะเตรียมตัวเดินทางไปสำนักหลิงอวิ๋น ข้าไม่อยากเสียเวลาอันมีค่าไปเพราะความไร้ฝีมือของเ้า”
หัวมู่ถอนสายตากลับคืน ถอนหายใจเบาๆ หนึ่งครั้ง หลับตาลงครู่หนึ่งก็พลันเบิกตาขึ้นด้าวยสายตาที่ดุดัน แล้วพูดด้วยสีหน้าอันเด็ดเดี่ยวว่า “หากรักษาวิได้ ข้าน้อยยอมทิ้งหัวไว้ที่นี่!”
“ได้!” เนี่ยตงไห่สีหน้าใ
“อย่ามัวพูดมากกันอยู่เลย ไปเอาถังน้ำใบใหญ่มาให้ข้าหนึ่งใบ เทน้ำร้อนลงไปให้เต็ม!” หัวมู่สั่งการ
“ได้ตามที่เ้า้า!” เนี่ยตงไห่พยักหน้าหนักๆ รีบสั่งความตามที่หัวมู่้าทันที
นอกประตู ข้ารับใช้ตระกูลเนี่ยมากมายที่รออยู่ด้านนอกด้วยความร้อนใจรีบทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย
ไม่นานนัก ภายใต้การนำของสาวใช้หานเยวี่ยก็มีข้ารับใช้แบกเอาถังไม้ใบใหญ่ที่บรรจุน้ำร้อนไว้เต็มถังเข้ามาวางกลางห้อง
“ท่านประมุขตระกูลเนี่ย ขอท่านและคนอื่นโปรดออกไปก่อน ในห้องนี้นอกจากข้าและเด็กน้อยแล้ว ห้ามให้มีผู้อื่นอยู่อีก” หัวมู่เงยหน้าเล็กน้อย บนใบหน้าเผยความลำพองใจ “วิธีการรักษาเฉพาะตัวของข้า ไม่สามารถให้ผู้อื่นรู้เห็นได้ วิธีนี้คือวิธีการรักษาที่ข้าผู้แก่ชราใช้ดำรงชีพ หวังว่าท่านประมุขตระกูลเนี่ยจะเข้าใจ”
“ท่านพ่อ นี่... จะเป็เช่นนี้ได้อย่างไร? ข้า้าดูแลเสี่ยวเทียนตลอดเวลา!” เนี่ยเฉี่ยนกล่าวด้วยความไม่พอใจ
“ข้าบอกแล้วว่าหากรักษามิได้ ข้ายินดีทิ้งหัวไว้ที่นี่!” หัวมู่กลอกตา กล่าวเสียงเ็า “ที่นี่คือถิ่นของตระกูลเนี่ย ข้ามิได้เป็ผู้ฝึกลมปราณ ทั้งยังเป็คนต่างถิ่น หากข้าไม่บริสุทธิ์ใจ จะมีชีวิตรอดออกไปจากตระกูลเนี่ยได้อย่างไร?”
“ทำตามที่เขาบอก” เนี่ยตงไห่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็โค้งตัวให้กับหัวมู่ ั์ตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง พูดด้วยความจริงใจว่า “ข้าเนี่ยตงไห่ขอขอบคุณท่านก่อน ขอแค่เสี่ยวเทียนไม่เป็อะไร ข้าจะตอบแทนท่านอย่างงาม!”
หัวมู่สีหน้าราบเรียบ พยักหน้าเล็กน้อย
“ออกไปพร้อมข้ากันให้หมด!” เนี่ยตงไห่กล่าวเสียงดัง
ภายใต้คำสั่งของเขา ทุกคนที่อยู่ในห้องหรือแม้แต่เนี่ยเฉี่ยนเองก็ยังต้องออกไปจากห้อง
“แอ๊ด!”
เนี่ยตงไห่ปิดประตูแล้วนั่งลงหน้าประตู สูดลมหายใจเข้าลึกอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับสภาพจิตใจของตัวเอง รอคอยด้วยความกังวลใจ
“ท่านพ่อ มีหมอมาช่วยเนี่ยเทียนอีกคนแล้ว” เนี่ยคั่นเดินเข้าไปเงียบๆ ในห้องลับห้องหนึ่งของตระกูลเนี่ย รายงานให้กับเนี่ยเป่ยชวนทราบ
เนี่ยเป่ยชวนที่นั่งพิงเสาหยกสีดำเย็นเฉียบมีไอเย็นหมุนเป็เกลียวตลบไปทั่วร่าง สีหน้ามืดทะมึนราวน้ำแข็ง กล่าวเสียงเ็าว่า “ไม่คิดว่าจะยังมีคนละโมบในสมบัติเล็กๆ น้อยๆ เช่นนั้นอยู่”
หยุดไปครู่หนึ่งเขาก็แสยะปากยิ้มอย่างเ็า แล้วกล่าวดูแคลนว่า “เขาก็คือตะวันใกล้พลบแล้ว คิดจะให้คนในตระกูลพวกนั้นช่วยเขาตามหาคนให้อย่างสุดความสามารถ มีหรือจะง่ายดายเช่นนั้น? หลายปีมานี้ เพื่อตามหาบิดาแท้ๆ ของเนี่ยเทียน เขาเอาสมบัติที่เก็บไว้หลายปีออกมาใช้หมดแล้ว จะมีเหลือมากมายสักเท่าไหร่กันเชียว?”
“มันก็จริง” เนี่ยคั่นหัวเราะเบาๆ “เขาไม่รู้ว่าในมือท่านพ่อมียาต่อิญญาของสำนักหลิงอวิ๋นอยู่เม็ดหนึ่ง ยาต่อิญญานี้เป็ของดีนักแล แค่กลืนยาเม็ดนั้นลงไป โรคประหลาดนั่นของเนี่ยเทียนย่อมหายขาดแน่นอน”
“เนี่ยหงต่างหากที่เป็หลานชายแท้ๆ ของข้า หากผู้ที่ป่วยเป็โรคประหลาดนี้คือเนี่ยหง ข้าก็เอายาต่อิญญาให้เขากินไปนานแล้ว” เนี่ยเป่ยชวนสีหน้าไม่ไยดี “นึกถึงปีนั้นที่ข้าแย่งชิงตำแหน่งประมุขตระกูลกับเขา เป็่เวลาที่เขารุ่งโรจน์มากที่สุด เพื่อคว้าเอาตำแหน่งประมุขตระกูลมาครองแล้ว เขาไม่คิดจะไว้หน้าน้องชายแท้ๆ อย่างข้าแม้แต่น้อย เวลาผ่านไป ความโชคดีของเขาก็ผ่านไปด้วย และก็เป็่เวลาที่ข้าจะได้ผงาดขึ้นมาเสียที”
“เ้าเด็กเนี่ยเทียนนั่น ข้ามีความรู้สึกประหลาดบางอย่างอยู่ตลอด อย่างไรเสียก็ไม่อาจวางใจได้” เนี่ยคั่นขมวดคิ้ว “เห็นๆ อยู่ว่าขอบเขตของเขาต่ำกว่าเยอะมาก ทว่ากลับยังเอาชนะหงเอ๋อได้ ช่างพิลึกพิลั่นเสียจริง ยังดี... ยังดีที่อยู่ๆ เขาก็เป็โรคประหลาดขึ้นมา มิฉะนั้น... ไม่แน่ว่าวันข้างหน้าเขาจะกลายมาเป็ภัยแฝงอย่างหนึ่ง”
“หากเนี่ยเทียนโชคร้ายป่วยตายไป เกรงว่าสิ่งเดียวที่ช่วยประคับประคองจิตใจของพี่ใหญ่ข้าเอาไว้ได้ก็คงพังทลายลงไปด้วย ไม่นานเท่าไหร่ก็คงตายตกตามกัน ไป เมื่อเป็เช่นนี้ในตระกูลก็จะไม่มีใครมาเป็อุปสรรคขัดขวางข้าได้อีก” ดวงตาเนี่ยเป่ยชวนฉายแสงแรงกล้า
“ใกล้แล้วล่ะ ตามความเห็นข้า ท่านพ่อคงไม่ต้องรอนานนักหรอก” เนี่ยคั่นเองก็ฮึกเหิมไม่ต่างกัน
“ข้าก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน” เนี่ยเป่ยชวนเชิดหน้ากล่าว
อีกฝั่งหนึ่ง
หลังจากพวกเนี่ยตงไห่พากันเดินออกมาจากห้องของเนี่ยเทียน หัวมู่ หมอผู้ไม่รู้ที่มาก็หยิบเอาขวดเล็กขวดน้อยมากมายออกมาจากกล่องยาของเขาทันที
ในขวดยาเ่าั้บรรจุของเหลวหลากหลายสีสันไว้เต็มขวด ของเหลวเ่าั้แม้จะมีจุกขวดขวางกั้นเอาไว้ ทว่าก็ยังคงมีกลิ่นมากมายโชยออกมา
บางขวดมีกลิ่นหอมกระจาย บางขวดมีกลิ่นเปรี้ยวฉุน และยังมีบางขวดที่กลิ่นเผ็ดร้อนแสบจมูก
หากเนี่ยตงไห่ไม่ได้ออกไป ชื่อยาที่ติดฉลากไว้ตามขวดเ่าั้คงทำให้เขาคลุ้มคลั่งเอาได้
ไม่ว่าขวดใดก็ตามในนั้นล้วนเป็สิ่งของล้ำค่าหายากของโลก มูลค่ามหาศาลเหนือล้ำเกินกว่าของรางวัลที่เขาคิดจะมอบให้
หัวมู่บิดจุกขวดหนึ่งเปิดออกอย่างรวดเร็ว เทของเหลวสีน้ำเงินในขวดยาลงไปในถังไม้ที่บรรจุน้ำร้อนไว้เต็ม
“รางวัลที่ว่างามของเ้าเนี่ยตงไห่ ยังเทียบค่ากับน้ำโลกยมบาลสามหยดที่ข้าหลอมออกมาเองมิได้เลย” หัวมู่พึมพำหนึ่งประโยค นำสิ่งที่เขาเรียกว่าน้ำโลกยมบาลเทลงไปในถังไม้ไม่เหลือสักหยด
เมื่อน้ำโลกยมบาลหยดลงไปในถังไม้ ประกายแสงสีน้ำเงินเป็เส้นๆ ยังคงลอยอยู่กลางอากาศ จากนั้นถึงได้ค่อยๆ หลอมรวมเข้ากับน้ำร้อนในถัง
หัวมู่ไม่หยุด ยังคงเอาของเหลวในขวดยามากมายหยดลงไปในถังไม้ใบใหญ่ครั้งแล้วครั้งเล่า
ของเหลวที่อยู่ในขวดยาเ่าั้ล้วนอยู่ในระดับเดียวกันกับน้ำโลกยมบาล ทั้งยังเพิ่มวัตถุวิเศษล้ำค่าลงไปด้วย
ทว่าหัวมู่กลับไร้ซึ่งความเสียดาย เททั้งหมดลงไปในถังไม้อย่างไม่ลังเล
ถอนหายใจเบาๆ หนึ่งครั้ง มู่หัวถึงได้เดินมาหยุดข้างกายเนี่ยเทียน ดวงตาที่แปลกประหลาดเฉพาะตัวนั้น เมื่อเข้ามาใกล้เนี่ยเทียนกลับเปล่งประกายแสงมันขลับน่าพิศวง
สีหน้าของหัวมู่เปลี่ยนมาเป็จริงจัง เขายื่นมือออกไปวางไว้บนหลังของเนี่ยเทียนอย่างระมัดระวัง ยกตัวเนี่ยเทียนที่นอนหลับไม่รู้เื่เนื่องจากไข้สูงขึ้นมา ท่าทางอ่อนโยนราวกับกลัวว่าเนี่ยเทียนจะรู้สึกไม่สบายตัว
มองสีหน้าท่าทางของเขา ไม่เหมือนกำลังโอบอุ้มเด็กน้อยคนหนึ่ง แต่เหมือนโอบอุ้มของล้ำค่าหายากของโลกชิ้นหนึ่งมากกว่า
เดินมาหยุดอยู่ข้างถังไม้ เขาก็ผ่อนมือวางลงเชื่องช้า ค่อยๆ ปล่อยร่างเนี่ยเทียนลงไปด้วยความนุ่มนวล
“จ๋อม!”
เมื่อร่างของเนี่ยเทียนร่วงลงไปในถังน้ำ น้ำร้อนที่ถูกหัวมู่เทยามากมายลงไปพลันเดือดพล่านขึ้นมาราวกับไต่ถึงจุดหลอมเหลวในพริบตา
------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้