ไม่มีทาง อาการาเ็ของอินเหิงยังไม่หายดี ถึงกับขาหัก ได้แต่ต้องพักรักษาตัวที่นี่ชั่วคราวเท่านั้น
นางเซี่ยเรียกเมิ่งอู่มาหาแล้วสนทนากันเป็การส่วนตัว นางชี้แนะด้วยความปรารถนาดีอย่างจริงใจ “อาอู่ ขาของเขาใช้การไม่ได้ ไหล่ก็แบกหามไม่ไหว มือก็ยกไม่ขึ้น ภายภาคหน้าหากอยู่ที่เรือนนี้จริงๆ ก็มิอาจช่วยแบ่งเบาภาระของเ้าได้ แล้วมีอันใดดีเล่า?”
พูดไม่น่าฟังหน่อยก็คือ นั่นเป็เพียงคนไร้ค่า แล้วนางเซี่ยจะยอมให้บุตรีอยู่กับเขาได้อย่างไร มิเช่นนั้นเมิ่งอู่ไม่เพียงต้องเลี้ยงตนเองอีกครึ่งชีวิตที่เหลือ แต่ยังต้องเลี้ยงดูเขาด้วย!
เมิ่งอู่มีชะตาอาภัพมากพอแล้ว นางเซี่ยจะทนเห็นบุตรีต้องทุกข์ยากชั่วชีวิตได้อย่างไร
เมิ่งอู่เกาหัวพลางกล่าว “ท่านแม่อยากพินิจอีกสักหน่อยหรือไม่ เขาหล่อเหลาจริงๆ นะเ้าคะ” ว่าแล้วนางก็แสร้งทำท่าจะเปิดม่านให้นางเซี่ยได้ยลโฉม
นางเซี่ยกล่าวด้วยความขุ่นข้อง “หน้าตาหล่อเหลาแล้วมีประโยชน์ใดเล่า ยิ่งกินแทนข้าวไม่ได้!”
ทว่าสำหรับเมิ่งอู่ผู้หลงใหลรูปโฉมโนมพรรณ หน้าตาหล่อเหลาคมคายคือทุกอย่าง!
คราวก่อนที่ตระกูลหวังกับตระกูลเมิ่งสองฝ่ายวิวาทกัน คราแรกมีเพียงแม่เฒ่าหวังกับนางเหอ พอเห็นท่าไม่ดี อาสะใภ้สกุลหวังกับสะใภ้สกุลเมิ่งก็เข้าร่วมวงด้วย ครั้นสถานการณ์ยิ่งไม่ถูกต้อง บรรดาบุรุษสกุลหวังและสกุลเมิ่งก็เข้าร่วมต่อสู้เพิ่มด้วย
ผลสุดท้ายต่างฝ่ายต่างไม่ได้เปรียบหรือเสียเปรียบ
นางเย่สะใภ้ของสกุลเมิ่งมีรอยข่วนสองสามรอยที่ใบหน้า มิกล้าออกจากประตูเรือนหลายวัน พอได้สติครุ่นคิดอย่างรอบคอบแล้วก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ทั้งสองตระกูลทะเลาะกันรุนแรงถึงเพียงนั้น สุดท้ายผู้ที่ได้ประโยชน์กลับกลายเป็เมิ่งอู่นางเด็กสารเลวนั่น! หากมิใช่เพราะนางยุแยง สุดท้ายเื่ราวจะยุติลงแบบนี้หรือ?
ตระกูลหวังมิยอมละเว้นง่ายๆ แน่ ย่อมต้องลากตัวบุตรสาวสกุลเมิ่งไปเป็ภรรยาของหวังสี่ซุ่นให้ได้
ท้ายที่สุดหัวหน้าหมู่บ้านจึงต้องออกหน้าไกล่เกลี่ย สกุลเมิ่งมิเพียงต้องคืนเงินสินสอด ยังต้องชดใช้ค่ารักษาพยาบาลจำนวนหนึ่งตามสมควร ยิ่งกว่านั้นต้องยกที่นาให้ตระกูลหวังหนึ่งผืน นี่จึงนับว่ายุติแล้ว
ทว่านับแต่นั้นมาสองตระกูลในหมู่บ้านก็จัดว่าเป็ศัตรูคู่อาฆาตกันอย่างสมบูรณ์ ภายหลังหากเจอหน้ากันอีกครา คงต้องต่อยตีกันอีกสักครั้งเป็แน่
ครั้นนึกได้ว่าเื่ทั้งหมดนี้เกิดจากเมิ่งอู่ นางเหอกับนางเย่ย่อมกล้ำกลืนโทสะนี้ไม่ลง
วันนี้เมิ่งอู่ต้องขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพร ขณะที่ร่างกายของนางเซี่ยแข็งแรงขึ้นมาก สามารถลุกจากเตียงและเดินเหินได้แล้ว เมิ่งอู่จึงกำชับมารดาว่าให้อยู่แต่ภายในเรือน ปิดประตูลานเรือนให้มิดชิด ไม่ว่าผู้ใดมาเคาะประตูก็ห้ามเปิดให้เข้ามาเด็ดขาด
นางเซี่ยพยักหน้ารับ
เมิ่งอู่ต้องออกไปนานถึงครึ่งวัน ่เช้าในเรือนยังจัดว่าเงียบสงบดี แต่พอตกบ่าย นางเหอก็มาหา
ก้นบึ้งของใจนางเซี่ยไม่ได้ชิงชังนางเหอเข้ากระดูกดำ แม้หญิงชราผู้นี้หยาบคาย ไร้เหตุผล และดุร้าย ทว่าถึงอย่างไรนางก็เป็แม่สามีของตน ส่วนนางเป็เพียงลูกสะใภ้ ไหนเลยจะพูดอันใดได้มาก
ดังนั้นปกติแล้วนางจึงได้แต่ยอมทนเหมือนเมิ่งอู่ อดทนได้ก็อดทนไป
นางเซี่ยแอบมองลอดช่องประตูแล้วเห็นนางเหอยืนอยู่ด้านนอก เมื่อนึกถึงคำพูดของเมิ่งอู่ ก็ไม่รู้ว่าสมควรเปิดประตูให้ดีหรือไม่
นางเหอกล่าวว่า นางมาส่งยาให้นางเซี่ย ยามที่ไปหาหมอครั้งล่าสุดยังเหลือยาอยู่สองชุด นางจึงต้มแล้วเอามาส่งให้ นางยังกล่าวว่าล้วนเป็คนในครอบครัวเดียวกัน ไหนเลยจะบาดหมางกันข้ามคืน
นางเซี่ยตาแดงพลางกล่าว “ล้วนเป็คนในครอบครัวเดียวกัน แต่ท่านแม่กลับคิดหาประโยชน์จากการที่ข้าป่วยโดยขายอาอู่ออกไป!”
นางเหอกล่าว “ถึงอย่างไรสักวันอาอู่ก็ต้องออกเรือนกับผู้อื่น หนำซ้ำเ้ายังเป็เช่นนี้ ข้าก็อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของเ้า ส่วนเื่ที่อาอู่ถูกจับถ่วงน้ำ ข้าเองก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นเช่นกัน แต่นางทำร้ายบุตรชายตระกูลหวังจนาเ็สาหัส พวกเราไม่มีข้อแก้ตัว”
นางเซี่ยได้แต่ปาดน้ำตาด้วยความน้อยใจ
นางเหอกล่าวต่อ “เอาละ ไม่พูดถึงเื่นั้นแล้ว ข้ามาส่งยา ยาใกล้จะเย็นแล้ว เ้ารีบเปิดประตูแล้วดื่มเสีย จะได้หายป่วยเร็วๆ อาอู่จะได้มิต้องขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรให้เ้าอีก”
นางเซี่ยกล่าว “อาอู่บอกว่าก่อนที่นางจะกลับมา ห้ามเปิดประตูให้ผู้ใดตามใจชอบเ้าค่ะ”
นางเหอเบิกตากว้างกล่าว “ข้าเป็ย่าของนาง เป็แม่สามีของเ้า เ้าไม่ยอมเปิดประตูให้ข้าหรือ?!”
แท้จริงแล้วขิงแก่ย่อมเผ็ดร้อนกว่า เมื่อเห็นนางเซี่ยละล้าละลัง นางเหอเปลี่ยนสีหน้าเป็โมโหดุร้ายฉับพลัน ส่งเสียงร้องโวยวายดังลั่นอยู่หน้าประตู “ช่างใจหมาป่าปอดสุนัขนัก ข้าเป็แม่สามี อุตส่าห์หวังดีมาส่งยาให้ลูกสะใภ้ ถึงกับผ่านเข้าประตูไปไม่ได้ เพื่อนบ้านในหมู่บ้านมาดูกันเร็ว สะใภ้คนนี้ฟั่นเฟือนและอกตัญญู รังแกข้าที่เป็หญิงชรายามที่บุตรชายของข้าไม่อยู่ในเรือน...”
ใต้หล้านี้คำคนช่างน่ากลัวเหลือคณา แม้แต่คนก็ยังจมน้ำลายตายได้
นับประสาอันใดกับนางเซี่ยที่เป็สตรีผู้ยึดมั่นในขนบจารีตดั้งเดิมอย่างแท้จริง ปฏิบัติตามแบบแผนของสตรีอย่างเคร่งครัด กตัญญู ยินยอมให้ตนเองคับข้องใจก็มิยอมให้ผู้อื่นนินทาเยาะเย้ยลับหลัง
ดังนั้นนางเซี่ยจะทนฟังนางเหอร้องโหยหวนอยู่นอกประตูได้อย่างไร สุดท้ายได้แต่ต้องเปิดประตูปล่อยให้นางเหอเข้ามา
นางเหอมีสีหน้าดุร้าย ยามเดินเข้ามาในลานเรือนใบหน้าดุร้ายของนางก็บิดเบี้ยว
ถ้วยยาที่นางถืออยู่ในมือบรรจุยาน้ำสีดำสนิท ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์
นางเหอกล่าว “รีบดื่มเสีย ยานี้เป็ยาแผนโบราณ เ้าดื่มก็จะดีขึ้นแล้ว”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้