Part เตโช
ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวก่อนละกัน
สวัสดีครับ ผมชื่อ เตโช หรือ โช อย่างที่พวกเพื่อนรักของผมชอบเรียกกัน และคงจะมีแค่แก๊งเพื่อนตัวป่วนของผมเท่านั้นที่กล้าเรียกแค่ โช สั้นๆแบบนั้น อ่อ นอกจากเพื่อนแล้วก็คงมีน้องชายผมอีกคนและคนในครอบครัวเท่านั้น ที่เหลือไม่มีใครกล้าหรอกเพราะถ้าคนที่ไม่สนิทเรียกสั้นๆห้วนๆเมื่อไหร่ มันก็ได้เข้าโรงพยาบาลกันบ้าง แต่บางคนก็เป็ศพครับ ผมไม่ชอบพูดมากแต่ชอบทำเลยมากกว่า จะว่าผมโหดก็ไม่ได้นะเพราะผมเนี่ยใจดีที่สุดแล้วในกลุ่มพวกเรา อย่าให้ร้าย เพราะจากอันดับสุดท้ายจะเลื่อนความโหดขึ้นมาที่ 1 ของกลุ่มทันที
ชื่อจริงก็ เตโช กิจรัตนมณีโชติ ปีนี้ผมอายุ 29 ปี สูง 187 ซม. น้ำหนัก 80 กก. จบจากมหาวิทยาลัย SK คณะมนุษย์ศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ ปัจจุบันทำงานในบริษัทของครอบครัว สาขาที่เรียนไม่ได้มีความเกี่ยวของกับธุรกิจของครอบครัวแม้แต่น้อย
สาวๆ มักบอกว่าผมหล่อ ผิวสีแทน แต่คงจะหล่อจริงๆ หุ่นเหมือนนายแบบเพราะผมชอบเข้าฟิตเนสและเล่นฟุตบอล หรือบางครั้งก็เข้ายิมที่บ้าน มาดเซอร์ทรงโจรหน่อย ผมไม่ชอบโกนหนวด สาเหตุที่ไม่ชอบก็เพราะปล่อยให้เส้นหนวดเรียงตัวสวยๆนี่มันเพิ่มความเข้มและความโหดได้ดี ถึงหน้าปกติจะดุๆอยู่แล้วก็ตาม
และผมยังมีดีกรีอดีตนักกีฬาฟุตบอลมหาลัยด้วย เพื่อนๆมักบอกว่าผมอะเ้าเล่ห์ โหด หื่น หื่นมากๆ เป็คนที่รักพวกพ้องมากถึงไหนถึงกัน เพื่อนว่าไงผมได้หมด ใครมีเื่ขอให้บอก พวกเราไม่เคยทิ้งกัน ที่สำคัญคือ รวย และนี่คือสาเหตุทั้งหมดที่สาวๆมักไม่ห่างกาย มีสาวๆมาให้คบหาดูใจไม่เคยว่าง และผมก็ไม่ได้รักหรือชอบใครเป็พิเศษ มีบ้างที่ลองคบๆดูแต่มันก็ไปกันไม่รอดอะครับ
แม่ผมก็คอยหาคนมาดูตัวให้ผมอยู่บ่อยๆ ทั้งลูกสาวเพื่อนสนิท ดารา หรือแม้แต่นางแบบ หรือแม้แต่บางครั้งแม่ผมเอาผู้ชายมาดูตัวก็มี แม่คิดว่าที่ผมไม่สนใจผู้หญิงที่ท่านหามาให้เพราะคิดว่าผมอาจจะชอบผู้ชาย ไงล่ะแม่ผม แต่ก็ไม่มีใครที่ผมถูกใจและอยากสานสัมพันธ์ต่อเลยสักคน ส่วนแด๊ดผมก็ชิลล์ๆครับ เพราะท่านบอกผมว่าคนที่ใช่ถึงเวลามันก็มาเอง อีกอย่างคือท่านไม่คิดมากเื่คู่ครองของลูกๆ พูดให้เข้าใจง่ายๆคือแล้วแต่มึงครับ เพราะเงินและอำนาจก็มีมากพออยู่แล้วไม่จำเป็ต้องพึ่งพาบารมีใคร ไม่ต้องหาความวุ่นวายมาเพิ่ม จะรักใครชอบใครท่านไม่ยุ่ง แค่เลือกแล้วมีความสุขกับสิ่งที่เลือกก็พอ
แต่สำหรับผมเอง ก็คงต้องบอกว่ามีอยู่ในใจคนหนึ่ง เขาไม่ใช่ผู้หญิง ซึ่งผมก็ไม่ได้ซีเรียสกับอะไรตรงนั้น ผมก็ชอบที่เขาเป็เขา มีเสน่ห์ดึงดูดสุดๆ ขี้เหวี่ยงหน่อย เอาแต่ใจนิดๆ อารมณ์ร้อน แต่ผมคงร้อนกว่า แต่เวลานิ่งกลับดูเยือกเย็น ั์ตาใสกลมโตนั่นเหมือนมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ ดูลึกลับน่าค้นหา รวมๆแล้วคือน่ารักดี ดูไม่เหมือนใคร ดูพิเศษและแตกต่างจากทุกคน แต่ตอนนี้ผมก็ไม่รู้ว่าเค้าจะยังโสดหรือมีแฟนไปแล้ว ยังไงก็คงต้องใช้ลูกน้องตามสืบให้หน่อย จริงๆ ผมก็พอรู้มาบ้างแล้วแบบคร่าวๆ แต่อยากรู้แบบชัวร์ๆ ผมคิดว่ามันคงถึงเวลาแล้วละครับ
ทุกคนอาจสงสัยว่า ผมเป็ผู้ชายหรือเป็เกย์ ผมตอบได้เลยผมคือผู้ชาย 100% ผู้ชายที่ชอบผู้หญิง กับเกย์หรือเพศที่สามคือไม่ชอบ ไม่ได้เกลียดหรือรังเกียจแต่แค่ไม่ชอบ มีเพื่อนหรือญาติพี่น้องที่เป็เพศที่สามผมก็ไม่ซีเรียส สนิทพูดคุยได้ตามปกติแค่ไม่คิดจะคบเป็แฟนกับเพศที่สามเท่านั้นเอง
แต่พอเป็เขาแล้วทุกอย่างมันคือข้อยกเว้น มันเหนือความคาดหมาย อย่างที่บอก ผมชอบที่เขาเป็เขา เขาเป็คนแรกและคนเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกอยากเข้าไปกอด จูบ ััทุกส่วนบนร่างกายนั้น อยากปกป้องดูแล อยากถนุถนอม แต่ในขณะเดียวกันผมก็อยากที่จะทำลายด้วยมือของผมเอง และหัวใจของเขาเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว
หากคุณเคยชอบหรือหลงรักใครสักคนโดยที่ไม่คิดว่าเขาเป็อะไร เป็เพศไหน คุณจะรู้ว่าผมรู้สึกอย่างไร
งานอดิเรกของผมก็ไม่มีอะไรมากส่วนใหญ่ก็แตะบอล แข่งรถ วันไนท์ มีเื่วิวาทเื่เพื่อนทั้งนั้น และยังเป็หุ้นส่วนของสนามแข่งรถ NGDT สนามของผมและเพื่อนๆ สนามนี้เกิดขึ้นจากการที่พวกเราทั้ง 7 คนหลงไหลในการแข่งรถ และอีกเหตุผลคือเป็การเซฟความปลอดภัยของพวกเราทั้งหมด
งานของตระกูล คนส่วนใหญ่มักรู้จักกันในนามตระกูลเก่าแก่ที่มีทั้งอสังหาริมทรัพย์ ผับบาร์ บริษัทนำเข้ารถหรู และอีกหลายๆอย่าง เรียกง่ายๆว่า มาเฟีย งานเื้ัของตระกูลก็มีพวกคาสิโน ปล่อยกู้ ค้าอาวุธ
จริงๆแล้วตระกูลของครอบครัวผมมีเชื้อสายอิตาลีครับ ได้รับอิทธิพลมาั้แ่รุ่นปู่ รุ่นทวดแล้ว และตอนนี้คนที่ดำรงตำแหน่งบอสใหญ่คนปัจจุบันก็คือพ่อของผมที่มาพบรักกับแม่ที่ประเทศไทย ทายาทคนต่อไปก็เป็ผม ส่วนน้องชายผมเค้าไม่ชอบความวุ่นวายเกี่ยวกับเื่นี้สักเท่าไหร่ ชอบเก็บตัวเงียบๆซะมากกว่า แต่เื่ศิลปะการต่อสู้ไม่เป็สองรองใคร
อย่าถามนะว่าทำไมผมถึงหน้าตาไทยแท้ขนาดนี้เหตุผลคือได้แม่มาทั้งหมด ส่วนน้องชายก็ได้แม่มาครึ่งนึงพ่อมาครึ่งนึง
แก๊งเพื่อนตัวป่วน นิค น็อค กราฟ กันต์ ดีย์ ทรี เพื่อนรักั้แ่มัธยมปลาย เรียนจบแยกย้ายทำงานก็ยังรักกันและกวนตีนเหมือนเดิม
รถคันโปรดของผมก็ Lamborghini Huracán STO ต้องบอกว่าเพิ่งถอยมาสดๆร้อนๆเมื่อไม่นานมานี้เอง ความอยากได้ล้วนๆ ไม่มีความจำเป็ผสมเลยสักนิด
ประวัติของผมก็มีเท่านี้แหละครับ ไม่มีอะไรน่าสนใจสักเท่าไหร่
ตูดดดดดดด...............
ผมยกโทรศัพท์มือถือกดโทรออกปลายสายก็รับอย่างรวดเร็ว
“ เค็น เข้ามานี่หน่อย อ้อ เรียกทินมาด้วย ” ผมกรอกเสียงนิ่งเรียบผ่านสายโทรศัพท์ไป เค็นกับทินคือลูกน้องคนสนิทของผมเอง เป็ทั้งเลขาและบอดี้การ์ดส่วนตัว
“ ก๊อกๆ !! ขออนุญาตครับบอส ” ผมนั่งรอไม่ไม่ถึง 10 วินาทีด้วยซ้ำ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพร้อมคำขออนุญาต
“ เข้ามา ” ผมตอบนิ่งๆ
“ ครับ บอสมีอะไรให้พวกเราทำครับ ?” ดูไอ้ทินมันถามสิ น่าแจกตีนจริงๆ
“ ถ้าไม่มีอะไรนี่คือเรียกไม่ได้ ?” ผมถามพร้อมเลิกคิ้ว
“ ได้ครับบอส อย่าเพิ่งโหดสิครับ ผมล้อเล่นเอง ตกลงมีอะไรครับ ?” ไอ้ทินยังคงกวนตีน ที่มันกล้ากวนตีนได้แบบนี้ก็เพราะพวกเราสามคนอายุไล่เลี่ยกัน และอยู่ด้วยกันมานาน
“ หน้ากูล้อเล่น ?” ผมถามนิ่งๆ ี้เีตีฝีปากกับมัน ไม่งั้นคือยาวครับ คนบ้าอะไรเถียงได้ทุกอย่าง ถึงมันจะดูกวนตีนอย่างนี้แต่เื่งานไว้ใจได้ทุกอย่าง
“ ทิน หยุดเล่นน่า ” เป็เค็นที่ดุไอ้ทินมัน
“ ก็ได้ๆ ” ยอมสงบปากสงบคำได้สักที แต่มันก็ยังทำหน้าตากวนตีนเหมือนเดิม
“ มีงานให้พวกนายทำ งานนี้เป็งานง่ายๆ สบายๆ ไม่ต้องออกแรงเยอะ ” ผมพูดไม่ทันจบไอ้ทินก็เอ่ยแทรกขึ้นมาทันที
“ ให้ผมนอนเล่นเหรอบอส ?” หน้าตาซื่อมากกก ซื่อจนน่าโดนตีน
“ นอนมั้ย ?” ผมถามยิ้มๆ
“ ได้เหรอครับ ?” ไอ้ทินถามพร้อมทำตาเป็ประกาย ไอ้สัส มึงอายุ 10 ขวบรึไงว่ะ ปวดหัวกับลูกน้องแบบมันจริงๆ ไอ้ที่ชมก่อนหน้านี้ขอคืนคำ
“ เดี๋ยวจะทำให้ได้นอนโรงพยาบาลสัก 7-8 คืน เอามั้ย ” ผมพูดแล้วกระตุกยิ้มร้ายขึ้นมาเล็กน้อย
“ แหะๆ ไม่ดีกว่าบอส ผมเกรงใจ ว่าเื่ของบอสต่อเลย ผมไม่ขัดแล้วครับ ” ไอ้ทินหัวเราะแห้งเบาๆ
“ พิช พีชญะ ศิวรางค์ ไปสืบประวัติมา ขอแบบละเอียด ย้ำว่าละเอียด ” ผมเอ่ยเสียงนิ่งๆ
“ บอสให้สืบทำไมเหรอครับ ?” ไอ้ทินยังกวนตีนไม่เลิก
“ ไม่เสือก !!” ผมพูดเสียงแข็ง
“ ครับ / ครับไม่เสือก ” เค็นกับไอ้ทินรับคำสั่งแล้วก็ออกไปจากห้องทันที
หลังจากสองคนนั่นออกไปแล้วผมก็นั่งเคลียร์เอกสารที่ต้องเซ็นอนุมัติงานต่อทันที เคลียร์งานเสร็จก็ปาเข้าไปจะห้าโมงเย็นแล้ว ผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าไปที่แอพพลิเคชันสีฟ้าเป็ที่ยอดฮิตในตอนนี้
เลื่อนไปเลื่อนมาได้ไม่นาน เฟสที่ผมไม่ได้เข้าไปส่องมาประมาณปีนึงแล้วก็เด้งขึ้นมา ทุกๆปีผมมักจะเข้าไปคอมเม้นในภาพของเ้าของเฟสนี้ ถ้าหากใครถามว่าผมทำไปทำไม คงตอบไปว่า เพราะผมไม่อยากให้เขาลืมผมล่ะมั้ง เพื่อย้ำเตือนบางสิ่งบางอย่าง
พิช พีชญะ ศิวรางค์
อัพเดทสถานะเมื่อเวลา 1 นาทีที่แล้ว @FI’ Cafe
คำบรรยายบนภาพ คนเดียว.
ภาพแรกเป็ภาพแก้วลาเต้ร้อนพร้อมน้ำเปล่า ภาพที่สองเป็ภาพอุปกรณ์การทำกาแฟแบบทำมือ และภาพต่อๆ มาเป็บรรยากาศภายในร้าน ในมุมต่างๆ เช่น มุมอ่านหนังสือ เล่นน้องแมว หรือเหมาะแก่การถ่ายรูป บรรยากาศในร้านให้ความร่มรื่นเพราะมีต้นไม้เยอะดูแล้วรู้สึกสบายใจ ดูอบอุ่น น่าค้นหาและลึกลับ แต่เ้าของเฟสกลับถ่ายภาพและใช้โทนสีให้อารมณ์ของคนที่กำลังเหงาแต่ก็้าอยู่คนเดียว ้าคิดทบทวนบางสิ่งบางอย่าง
ผมคิดแล้วคิดอีกว่าจะเข้าไปคอมเม้นดีรึป่าว มันอดที่จะกดเข้าไปคอมเม้นไม่ได้จริงๆ สุดท้ายก็เลยทำตามใจตัวเอง
เตโช นั่งด้วยคนได้มั้ย ? [คอมเม้นเมื่อสักครู่]
หลังจากนั้นผมก็จ้องมองโพสต์นั้นว่าจะตอบกลับมารึเปล่า ผ่านไป 10 นาทีแล้วก็ยังไม่ตอบ อ่าาาาน้องมันคงไม่ตอบแล้วละ ผมเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าแล้วเดินออกจากบริษัทขึ้นรถคันโปรดของผมทันที จุดหมายปลายทางก็คือคอนโดของผม
....RRRRRRR...…..
………….....Trrrrrrrrrr..……..ในขณะที่กำลังจอดรถใต้คอนโดเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“………….” ผมกดรับสายแต่ไม่พูดอะไร
“คืนนี้พวกกูจะไป CC ?” เสียงไอ้นิคพูดมาทางปลายสาย แสดงว่าพวกแม่รงนัดกันไว้หมดแล้วเหลือแค่บอกผมเท่านั้น
“บอกกูเพื่อ ?” ผมถามเสียงกวนๆ
“เลี้ยงพวกกูหน่อยดิ” เสียงอ้อนตีนมาเลยมึง
“พูดเหมือนมึงไม่มีอันจะแดก สัส !!” ผมว่าอย่างขำๆ แต่ละคนรวยจนไม่รู้จะเอาตังไปไว้ไหนแล้ว
“มันไม่เหมือนกันไงมึง ก็กูอยากให้เ้าของจ่าย จบป่ะ ?” ไอ้นิคพูดแบบเซ็งๆ
ถึงมันจะบอกแบบนี้แต่สุดท้ายแล้วก็หารเท่าๆกันอยู่ดี พวกมันไม่เคยเอาเปรียบ ทำไรคือจ่ายเท่าหารเท่ากันหมด พวกเราอยู่กันแบบแฟร์ๆใจๆ
“เออๆพวกมึงเข้าไปก่อนเลย เดี๋ยวลูกน้องกูจัดการเอง เดี๋ยวกูตามไปทีหลังละกัน”
“เค เจอกัน” แล้วมันก็วางสายไป
CC คือผับเปิดใหม่ของผมเอง เพิ่งเปิดเมื่อต้นเดือนนี้เอง พวงแม่งก็ไปถล่มมาแล้ว
CC ค่อนข้างตอบโจทย์นักท่องราตรี เพราะมีหลากหลายโซนมาก มีทั้งหมด 5 ชั้น
ชั้นบนสุดชั้นที่ 4 มีห้อง VVIP ไม่ต่างจากโรงแรม 5 ดาว ที่มีไว้สำหรับลูกค้าได้พักผ่อน เงินไม่หนาจริงพักไม่ได้ มีแค่ 14 ห้องเท่านั้น
ชั้นที่ 3 เป็บาร์นั่งชิลล์ สำหรับลูกค้าที่อยากนั่งฟังเพลงเบาๆ บรรยากาศสบายๆ ผมว่าชั้นนี้เหมาสุด
ชั้นที่ 2 เป็ชั้นลอยของชั้นที่ 1 ก็คือผับ พูดง่ายๆคือเชื่อมต่อกันโดยไม่ต้องขึ้นลงลิฟต์ สามารถเดินขึ้นลงบันไดได้เลย ชั้นนี้ทั้ง 2 ชั้น เป็ของพวกสายแดนซ์สายเต้นที่มีเอาไว้ให้ได้โชว์สเต็บและอวดลวดลายของตัวเอง ส่วนบางคนมีไว้สำหรับล่าเหยื่อ !!!
ชั้น 2 ก็จะแบ่งเป็สองส่วน ส่วนแรกก็โต๊ะปกติทั่วไป ส่วนที่สองก็คือโต๊ะ VIP ที่ต้องโทรจองเท่านั้นเพราะมีแค่ 10 โต๊ะ และแต่ละโต๊ะจะมีกระจกกั้นเป็ห้องๆ มองจากด้านนอกจะไม่เห็นด้านในแต่ถ้ามองจากด้านในสามารถมองเห็นทุกอย่างภายนอก
ชั้นที่ 1 ก็จะเป็โต๊ะธรรมดาๆเหมือนผับทั่วๆไป มีโซนเวที และดีเจ
ชั้นสุดท้ายคือชั้นใต้ดิน คือคาสิโน มีไว้ให้พวกผีพนันเค้าเล่นกัน
CC มีความปลอดภัยระดับสูงมาก ใครจะมีเื่หรือฆ่ากันตายต้องขออนุญาตผม เพราะหากใครฝ่าฝืนมันนั่นแหละที่ตาย
อ้อ ผมลืมบอกไป ห้องทำงานผมก็อยู่ที่ชั้น 4 นั้นแหละ แต่ห้องผมจะอยู่แยกออกไปจากห้องลูกค้า พูดง่ายๆคือมีลิฟต์แยก และเป็ห้องสูทขนาดใหญ่ ที่มีวิวรอบกรุงเทพมหานคร ห้องทำงานของผมก็ไม่ได้ต่างจากคอนโดเท่าไหร่ แค่เล็กกว่านึดนึง และผมหวงความเป็ส่วนตัวมาก มีแค่ลูกน้องคนสนิทอย่าง เค็นกับทินและพวกเพื่อนสนิทเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้ามาได้ แต่เดี๋ยวทุกคนจะงงกันว่าเวลาผมจะเอาผู้หญิงผมพาไปเอาที่ไหน ไม่ยากครับเปิดห้องชั้น 4 นั่นละครับ เอาเสร็จก็กลับห้องแค่นั้น
ผมขึ้นคอนโดมาก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ไหนๆก็ไป CC กะว่าจะเข้าไปเคลียร์เอกสาร ก่อนอาบเหล้ากับพวกมันสักหน่อย จัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วก็ขับรถไป CC ทันที
Part พิช
ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าผมจะหนียังไง ในชีวิตผมไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งที่ผมมักจะได้พบได้เจอหรือได้เห็นไอ้รุ่นพี่เตโชหน้าส้นตีนตลอด ไม่ว่าตอนนั้นผมจะคบหาดูใจอยู่กับใครก็ตาม อย่างเช่น บาง่เวลาของทุกๆปีจะมีหนึ่งครั้งหรือสองครั้งที่จะมาคอมเม้นในเฟสบุ๊คของผม และมันเป็การเม้นที่สุดจะกวนประสาทมากๆ
เตโช : นั่งด้วยคนได้มั้ย ?
พิช พีชญะ ศิวรางค์ : มาสิครับ
แต่สุดท้ายผมก็กดตอบคอมเม้นนั้นไปตามมารยาทแบบทีเล่นทีจริง พร้อมยกยิ้มอย่างเ้าเล่ห์ ในเมื่อแม่งตามติดชีวิตกูขนาดนี้ ลองเล่นดูก็ได้ว่ะ
หลังจากที่ผมตอบได้ไม่นานก็มีแจ้งเตือนขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ต้องดูก็รู้ครับว่าเป็ใคร หึหึ ผมกดเข้าไปกดหัวเราะใส่สติ๊กเกอร์ของพี่เตโชหน้าตีนมัน
และผมก็กดออกจากแอพสีฟ้านั่น แล้วไลน์เข้าไปในกลุ่มที่มีทั้งสองกลุ่มอยู่ด้วยกัน พวกแม่รงสนิทกันก็เพราะผมที่เป็เพื่อนกับทั้งสองฝ่าย ก็ดีครับ พวกแม่งบอกเพื่อนเยอะก็ดี บางทีก็ได้กันเอง หึหึ แต่อันนี้ผมขอบายครับเพราะมันจะเป็ปัญหายุ่งยากทีหลัง เดี๋ยวจะเสียเพื่อนกันเปล่าๆ วันไนท์คือดีสุดสำหรับคนที่ไม่พร้อมผูกมัดกับใคร
ไลน์ NIGHT
ผม : เฮ้ย คืนนี้ออกป้ะว่ะ ?
บิวตี้ : กี่โมง ว่ามา
นีล : ที่ไหนดี
ซันชาย : CC แจ่มมึง เพิ่งเปิดใหม่ บรรยากาศโคตรดี ที่สำคัญงานแจ่มๆทั้งนั้น
สมายด์ควายยิ้ม : จัดไปครับ
เจเนท : 4 ทุ่มกำลังดี
บิวตี้ : เค มึงจอง @ซันชาย
บาเบล : ไปล่าหรือไปแดก
ผม : กูดูก่อนว่ะ ถ้าถูกใจก็เอา
นีล : กู 2 ครับ
บาเบล : เคเจอกัน
ผม : แยก !!
ที่เหลือก็ตอบพร้อมกันว่าเค หลังจากนั้นต่างคนก็ต่างแยกย้าย
กลุ่มผมจะเรียกว่าชายโฉดก็คงไม่เชิงแต่ที่แน่ๆโสดทุกคน ไม่ต้องแซวนะครับส่วนใหญ่พวกผมทั้งหมดเป็พวกวันไนท์ ไม่ใช่ไม่มีหัวใจนะครับพวกแม่งเจอกันมาคนละเื่ก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน เอาเป็ว่าเื่ของพวกมันผมไม่เสือก
ไอ้บิว ไอ้บ้านี่มันชอบผู้ชายครับ รุก จะบอกว่ารุกจนผู้ชายหนี นิสัยติ่งต้อง เอาแต่ใจ บ้าๆบอๆ แต่ก็คบได้
ไอ้สมายด์ ชายก็ได้หญิงก็ดี บางทีก็สวิง รุก นิสัยชิวๆ ยังไงก็ได้ง่ายๆไม่เื่มาก
ไอ้นีล ชายหญิงได้หมด แต่ส่วนใหญ่จะเน้นเป็ผู้ชายมากกว่าเพราะมันบอกว่าเอามันส์ดี ฟาดแต่ละทีดังป๊าบๆ รุกเท่านั้น นิสัยเงียบๆ ดุๆ ลุ๊คคุณชายแบบแบดๆ
ไอ้ซัน ชอบผู้ชาย จะรุกจะรับได้หมดอยู่ที่ความถูกใจของตัวเอง นิสัยขี้เล่นและเ้าชู้สุดๆ
ไอ้เจ ชอบผู้หญิง ความสนใจในผู้ชายเท่ากับ 0 แต่ก็มีผู้ชายเข้าหาตลอด หน้าหวานน้ำตาล 10 กระสอบ นิสัยห้าวเป้ง โคตรต่างกับหนังหน้ามาก แถมยังตัวเล็กอีก
ไอ้เบล รุก รับ ได้หมดมันคั่วแต่ผู้ชายเท่านั้น โดยเฉพาะเพื่อน 55+ แต่ผมจะไม่บอกนะว่าเบลมันแอบ…กับใคร รอดูเอาล่ะกัน นิสัยมันค่อนข้างเฟรนลี่สุดๆ เข้าได้กับทุกสภาพปรับตัวเก่งยิ่งกว่ากิ่งก่า ดูเหมือนจะใจดี อย่าให้ร้ายครับ
ส่วนผมก็อย่างที่บอกส่วนมากก็ผู้หญิง แต่ถ้าน่าสนใจก็มีบ้าง
อธิบายมายาวมากแล้วก็ได้เวลาที่ผมจะกลับคอนโดไปอาบน้ำแต่งตัวเสริมหล่อก่อนออกเที่ยวครับ
Part เตโช
ผมขับรถมาถึง CC ก็จะทุ่ม 1 ละครับ จอดรถเสร็จก็มีลูกน้องมารอรับถึงประตูรถ ถือว่าทำงานดี แต่บางทีก็น่ารำคาญ ผมเลยโบกมือไล่ เค้าก็โค้งตัวเคารพเสร็จแล้วก็กลับไปทำงานตามปกติ จะมีก็แต่ เค็นกับไอ้ทินที่รออยู่ก่อนแล้วและคอยเดินตามหลังผมเงียบๆเข้าไปในผับ พวกมันสองคนคงทำงานตามที่สั่งเรียบร้อยแล้ว เห็นมีซองเอกสารติดมือมาด้วย ในนั้นคงมีอะไรดีๆ ผมหวังไว้ว่าอย่างนั้น
พอลูกน้องเห็นผมเดินเข้ามาด้านในทุกคนต่างหันมาโค้งเคารพ ผมเพียงพยักหน้ารับแล้วเดินเข้าลิฟต์ส่วนตัวไปทันที
เมื่อมาถึงชั้นที่ผม้าประตูลิฟต์ก็เปิดออกและมีประตูอีกชั้นสำหรับเข้าห้อง ผมสแกนผ่ามือและสแกนหน้าประตูก็เปิดออกอัตโนมัติ ถ้าหากเค็นกับทินจะเข้ามาก็ต้องได้รับการปลดล็อกจากโทรศัพท์หรือไอเพ็ดผมเท่านั้น พวกเพื่อนๆก็เช่นกัน
ผมเดินตรงไปในส่วนของห้องทำงานทันที เค็นก็ก้าวมายืนที่หน้าโต๊ะก่อนจะยื่นซองเอกสารมาวางที่ตรงหน้าผม แล้วก็กลับไปยืนเหมือนเดิม ไอ้ทินมันไม่กล้ากวนตีนอะไรคงเป็เพราะเห็นผมนิ่งๆ ผมกระตุกยิ้มนิดๆอย่างพอใจ แล้วหยิบซองเอกสารมาเปิดดู แต่ก็ต้องขมวดคิ้วทันทีเมื่ออ่านจบ แล้วเงยหน้ามองลูกน้องคนสนิททั้งสองคนอย่าง้าคำตอบ
“บอสครับ อย่ามองอย่างนั้นสิครับ ” ไอ้ทินพูดพร้อมทำหน้าแหย๋ๆ
“อธิบายมา ?” ผมถามเสียงนิ่งๆ
“คือพวกผมสืบประวัติของคุณพิชทั้งหมดแล้วได้มาแค่ข้อมูลส่วนตัวเบื้องต้นบางส่วนเท่านั้น นอกจากนั้นเหมือนกับมีคนปกปิดข้อมูลเอาไว้ ราวกับว่าเค้าไม่้าให้เรารู้ครับ ” เค็นตอบอย่างจริงจังทั้งหน้าตาและน้ำเสียง ต่างกับอีกคนลิบลับเลย
“อืม” ผมตอบรับในลำคอเบาๆ ตอนแรกว่าน่าสนใจแล้วตอนนี้ยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่
“ผมลองเจาะเข้าไปดูแล้วทั้งในฐานข้อมูลราชการ หรือแม้แต่การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล กลับไม่พบข้อมูลอะไรเลยครับ และดูเหมือนว่าฝั่งนั้นจะมีแฮรกเกอร์ที่มีฝีมือด้วย ทำให้ได้ข้อมูลมาแค่นี้จริงๆ” ไอ้ทินพูดแบบเคร่งเคลียด
“พวกผมต้องขอโทษบอสด้วยครับ” ทั้งสองกล่าวขอโทษจากใจ
“ช่างมัน แค่นี้ก็พอ ” ผมพูดก่อนยกยิ้มคลายความตึงเครียดลง สองคนนั้นก็มีสีหน้าที่ผ่อนคลายลง
ที่ผมบอกแค่นี้ก็พอไม่ใช่อะไรครับ ในเอกสารที่พวกมันปริ้นมา มีคำว่า
สถานะ : โสด
หึหึ ก่อนหน้านี้ที่ต้องกดดันก็เพราะผมไม่เคยเห็นสองคนนี้ทำงานผิดพลาดเลยสักครั้งั้แ่ที่ทำงานด้วยกันมา
“ครับ / เห้ออออ !” เสียงแรกเสียงเค็น เสียงถอนหายใจคงไม่ต้องบอกว่าใคร
หลังจากนั้นพวกมันก็ทำตัวเหมือนปกติครับ เค็นช่วยผมดูเอกสาร ส่วนไอ้ทินเหรอเปิดกล้องวงจรปิดทั่วทั้งตึกขึ้นมาดู บนหน้าจอทัชสกรีนที่ฝาผนังทันทีเพื่อตรวจความเรียบร้อยและที่สำคัญในมือมันถือแก้วเหล้าจิบไปด้วย แถมยังใจดีเอาเหล้ามาเสิร์ฟให้ผมกับเค็นด้วย โคตรกวน โดนเค็นดุด้วยสายตาไปทีนึง กลับไปนั่งที่เดิมเลย หึ ส่วนเค็นถึงจะดุ ก็ดุไปงั้นเพราะหลังจากที่ไอ้ทินกลับไปนั่งดูความเรียบร้อยต่อฝั่งนี้ก็ยกแก้วขึ้นจิบเหมือนกัน ผมเห็นไอ้ทินแอบยิ้มมุมปากด้วยครับ ร้ายจริงๆ ผมได้แต่ส่ายหัวให้กับความเ้าเล่ห์ของมัน
ผมนั่งเคลียร์เอกสารผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมง….
“บอส ” ไอ้ทินเรียกผมเสียงดังจนต้องเงยหน้าจากเอกสารขึ้นมองหน้ามัน
“………” ผมไม่พูดแต่เลิกคิ้วถามแทน
“เพื่อนบอสมาละ” ผมพยักหน้ารับ
“จัดโต๊ะไว้ให้พวกมันแล้วใช่มั้ย ?” ผม
“เรียบร้อยครับ”
“อืม” ผมตอบแค่นั้นแล้วหันมาเคลียร์งานต่อทันที เพราะเหลืออีกไม่เยอะแล้ว
“ไม่เกิน 10 นาทีโทรตามชัวร์” ไอ้ทินพูดขำๆเพราะรู้นิสัยเพื่อนของผมดี
....RRRRRRR...…..
.…………..Trrrrrrrrrr..……….เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นทันทีหลังจากที่ไอ้ทินพูด ไม่ต้องรอ 10 นาทีครับ
“เออ” ผมพูดใส่ปลายสายแค่นั้นแล้วก็กดวางทันที
ผมเซ็นต์เอกสารอีกเล็กน้อยก็เสร็จ ปิดแฟ้มเค็นก็นำไปเก็บ แต่พอผมหันไปหาไอ้ทินมันก็เอาแต่จ้องมองกล้องวงจรปิดอยู่ และดูเหมือนจะดูอยู่ที่ชั้น 2
“บอส บอสครับ” ไอ้ทินเรียกผมด้วยรอยยิ้มทะเล้นและกวนตีน
“หึหึ” ผมรู้ละว่ามันมองอะไร
แมวน้อยของผมนี่เอง………..
คนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอกลับได้เจอเฉยเลยเว้ย
พวกผมทั้งสามคนลงลิฟต์มาที่ชั้น 2 ห้อง VIP ทันที เดินเข้าไปหาพวกเพื่อนๆที่มากันจะครบแล้วขาดแค่ไอ้กราฟกับไอ้ทรีครับ
……………………………………………………
