เจาะรู ห้องกระดาษใช้สายตาที่เหมือนเหยี่ยวของตัวเอง (ประเมินตัวเองสูงไปหรือเปล่า) มองลอดช่องเข้าไป อิงหลิวยื่นหันหลังเหมือนกำลังคุยกับใครอยู่ วรากรหน้าแดงถอยออกจากข้างฝาวิ่งไปทิ้งตัวลงนอนบนที่นอน นึกวาดภาพความฟินสูงสุดระหว่างหลวนคุนกับอิงหลิวจะมี แบบโหดๆ ดึงกันไปมาล้มทับกันหรือเปล่าหนอหรือว่าQ_Q จูบกันไปแล้ว555 หลับใหลในนิทรารมณ์อากาศเย็นเหมือนกับมีเครื่องปรับอากาศ
เสียงเคาะประตูรัวๆ วรากรเปิดประตูออกไป หลวนคุนโผล่พรวดเข้ามา ศีรษะกระแทกวรากรอย่างจังหงายหลังแต่หลวนคุนก็คว้าเอวไว้ทันล้มทับกัน ใบหน้าคมใกล้แค่ปลายนิ้ว วรากรอึ้งแต่ไม่ทันได้สบตาคมเหมือนในนิยาย หลวนคุณลุกพรวดพราดวิ่งไล่ตามเงาอะไรบางอย่างที่อยู่ในห้องของวรากร ทะยานขึ้นหลังคาตามเงาดำนั้นไป เสียงอื้ออึงความโกลาหลเริ่มบังเกิดขึ้น
แสงไฟจากคบไฟสว่างไสว เสียงคนพูดบ้างก็เสียงวิ่ง วรากรออกจากห้องไปพบกับ สาวใช้คนที่นำเสื้อผ้ามาให้พอดี
“เกิดอะไรขึ้น”
“แม่นาง เสี่ยวเอิน ถูกฆ่าตาย” วรารเบิกตาโพลง รีบวิ่งตามทางที่หลายคนกำลังเดินไป #_#เื่เผือกขอให้บอกถนัดนัก
เสี่ยวเอิน นอนตัวแข็งทื่อคว่ำหน้าอยู่ตรงนั้น หลวนคุนทะยานลงมาจากหลังคาพลิกร่างเสี่ยวเอินให้หงายหน้า เืไหลนอง เต็มอกหัวใจถูกควักออกไป หลวนคุนขมวดคิ้ว วรากรเพิ่งรู้สึกตัวคราวนี้เองว่ากลัวจริงๆ จนเกือบจะเป็ลมก็ในเมื่อกลิ่นคาวเืคละคลุ้งจนน่าคลื่นเหียน!_!
อิงหลิวประคอง วรากรไว้ในเมื่อวรากรเซไปด้านหลัง อย่างไม่ทันระวังตัว
“คนร้าย ลงมือโเี้ฆ่าแล้วยังควักหัวใจ ข้าตามมันไปแต่ไม่ทัน หายไปอย่างกับล่องหนได้” หลวนคุนบอกกับทุกคน
“คนร้ายอำมหิตเกินมนุษย์ นายท่านพอจะมีเบาะแสหรือไม่” คนรับใช้ชายนายหนึ่งถามขึ้น
“ข้าเห็นมันก็ตอน ที่วิ่งเข้าห้องแม่นางชินอี้ ดีที่ไม่ได้ทำร้ายแม่นางชินอี้อีก แต่ตามอย่างไรก็ไม่ทันหายไปกับตา เพิ่มเวรยาม ให้มากขึ้นตรวจตราให้รอบ จนกว่าจะจับตัวคนร้ายได้ คืนนี้แยกย้ายกันได้แล้ว ศพของเสี่ยวเอินนำไปไว้ที่ด้านนู้นรอข้าชันสูตร” น้ำเสียงห้าวหาญบุคลิกของผู้นำ ที่น่าชื่นชม หันมาทางวรากร
“แม่นางชินอี้คงใไม่น้อย” วรากรโบกมือ
“ไม่ไม่ ไม่เป็ไรข้าไปนอนดีกว่า” เดินหลบออกมา ตรงนั้นจึงเหลืออิงหลิวกับหลวนคุนสองคน อิงหลิวหลบตาคมของหลวนคุนที่จ้องมอง เดินมาทำทีพยุงวรากร หลวนคุนอมยิ้มะโตามหลังทั้งสองสาว
“ไม่ต้องกลัว ข้าจะดูแลความปลอดภัยให้เอง ปิดห้องของแม่นางทั้งสองให้ดีข้าจะให้เวรยามคอยตรวจตราหน้าห้องแม่นางทั้งสองอย่างเข้มงวด” วรากรถอนใจโล่งอกหรืออะไรไม่ทราบได้
เช้าสดใส วรากรมองออกไปนอกหน้าต่างรู้แล้วว่านี่คือความจริงไม่ใช่ความฝันแต่อย่างใด ยังอยู่ตรงนี้ที่เดิมอยู่บนแท่นนอนที่เดิม มีน้อยเื่นิยายย้อนยุคที่นางเอกจะกลับไปได้แต่ว่าเราไม่ใช่นางเอกนี่หว่าเราเป็นักเขียน
เสียงกระแอมเบาๆ ด้านนอก วรากรแง้มประตูออกไปดูแต่ต้องรีบปิดประตูทันทีเป็หลวนคุนนั่นเอง
“เมื่อคืนหลับสบายดีไหม” ยืนอยู่หน้าห้องอิงหลิวถามไถ่นาง อิงหลิวยิ้มเอียงอาย วรากรยิ้มตาม ตามบทสงสัยจะคิดถึงจนทนไม่ไหวหรือแอบมีใจหรือมีความรู้สึกดีดีต่ออิงหลิวเข้าให้แล้ว วรากรย่องออกไปข้างนอกเงียบกริบ ถือรองเท้าทั้งสองข้างในมือกลัวหลวนคุนเห็นจะเป็การเสียมารยาทปล่อยเขาสองคนอยู่ตามลำพัง
“แม่นางชินอี้ วันนี้จางหลิ่งจือบุตรชายของใต้เท้าจาง อยากจะพบแม่นางชินอี้เพื่อจะได้รู้จักมักจี่กันไว้” หยุดกึกอยู่ตรงนั้นในท่าทีของนักย่องเบา 0^0 เวรแล้ว!
“ไม่เป็ไร ข้ายังไม่อยากพบเขา” Q_Q
“เขาเดินทางเกือบจะถึงแล้ว คาดว่าในยามจี๋ (9.00น) ก็คงจะถึงแล้ว” วรากรถอนใจหมดเรี่ยวแรง หลวนคุนอมยิ้ม
“ก็ได้” เสียงอ่อยๆ มันเลี่ยงไม่ได้นี่
“ข้ากับแม่นางอิงหลิวจะไปที่สนามยิงธนูหากแม่นางชินอี้หมดธุระแล้วตามเราไปที่นั่นก็ได้”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้