“ฉินเฟิงเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาเหรอ?” ไป๋ชิงกระทุ้งแขนของฉินเฟิงขณะที่ถามเสียงต่ำ
“ไม่มีอะไรหรอกถ้าเธอไม่ชอบให้พวกเขายืนขึ้น เดี๋ยวฉันทำให้นั่งลงเดี๋ยวนี้แหละ”ฉินเฟิงกล่าวแบบไม่ใส่ใจ เขาไม่ได้เห็นว่าคนพวกนั้นสำคัญ
เขายืนขึ้นทันทีและสายตาของเขาก็กวาดไปที่ใบหน้าของทุกคนเขาพูดเบาๆ “ดูเหมือนว่าผมจะเข้าใจทุกคนผิดนะ...โอเคเพื่อแสดงความตั้งใจและแสดงว่าพวกคุณไม่ได้มาแค่เพื่อกินเพื่อดื่มหรือเพื่อพักร้อนจริงๆผมขอแนะนำให้เราทุกคนหารกัน และนั่นจะทำให้เราแชร์ค่าใช้จ่ายอย่างเท่าเทียม เป็ไง?”
บรรยากาศเย็นะเืทันทีไป๋ชิงไม่ได้ใส่ชุดมากนัก เธอจึงรู้สึกถึงลมหนาวที่ทำให้เธอสั่นั้แ่หัวจรดเท้าเพื่อนร่วมชั้นทุกคนหน้าแหกและพวกเขาก็โกรธมากยิ่งขึ้น คำพูดของฉินเฟิงจี้ใจดำพวกเขาเลยอยากจะกระโจนเข้าไปกัดเขาให้ตาย
ด้วยประโยคเดียวการต่อสู้ก็จบลงและฉินเฟิงก็ชนะขาดลอย
เพื่อนร่วมชั้นเ่าั้นั่งลงอย่างรวดเร็วไม่มีใครแสดงว่าเห็นด้วยกับความคิดที่จะหารกันของฉินเฟิงพวกเขาทุกคนตีหน้าซื่อและไม่ได้ยกเื่นี้ขึ้นมาพูดอีกและก็ไม่มีใครกล้าออกหน้าและปฏิเสธหรือยั่วฉินเฟิงอีก
“อะแฮ่ม...”ฟางจื้อิที่ยืนอยู่บนเวทีมาหลายนาทีถูกทอดทิ้งเขากระแอมอย่างกระอักกระอ่วนเพื่อดึงดูดสายตาของผู้คนกลับมาที่เขาอีกครั้ง“เื่นั้น เลิกคิดเื่ไร้สาระกันเถอะฉันขอประกาศว่างานเลี้ยงรุ่นมัธยมปลายแห่งเมืองเว่ยเฉิงรุ่นที่เก้าได้เริ่มขึ้นอย่างเป็ทางการณ บัดนี้”
ตอนแรกเขาเตรียมที่จะเปิดตัวยิ่งใหญ่อลังการแต่ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์และไม่กล้าพูดไร้สาระมากนักเขาเกลียดฉินเฟิงมากจนกัดฟันกรอด หลังพูดจบเขาก็เดินออกจากเวทีและออกจากห้องส่วนตัวเพื่อสั่งพนักงานให้นำอาหารเข้ามา
“นายน้อยฟางไอ้เด็กนี่มันหยิ่งเกินไป คุณอยากให้เราสองคนเรียกมันมากระทืบหรือเปล่าครับ?” จ้าวปินกับหลิวิตามหลังฟางจื้อิออกจากห้องส่วนตัวอย่างใกล้ชิดตอนนี้พวกเขากำลังพูดในทางร้ายถึงฉินเฟิง
ความเ็าแวบผ่านั์ตาของฟางจื้อิเขาเงียบไปสักพักแล้วพูดออกมาทันที “นายสองคนไม่ต้องกระทืบใครหรอกฉันมีคนที่จะสอนบทเรียนไอ้เด็กนั่นแล้ว พวกนายคอแข็งแค่ไหน?”
เมื่อพูดถึงเื่คอแข็งทั้งสองก็มั่นใจพวกเขาตบอกตัวเองและพูดอย่างวางท่า “นายน้อยฟาง ไม่ใช่ว่าผมอาปินจะคุยโตโอ้อวดนะ แต่เื่ดื่มขอให้บอกไม่ว่าจะเบียร์ ไวน์แดง เหล้าขาว หรือเอามาผสมกันสามสี ผมก็ไม่เคยเมา”
เมื่อเห็นจ้าวปินประจบนำไปก่อนด้วยความมั่นใจหลิวิก็ไม่พอใจเขาเชิดหัวยืดอกและประกาศ “อาปิน อย่ามั่นใจนัก ฉันดื่มเหล้าเป็ไหั้แ่เด็กทุกปีใหม่ฉันดื่มแข่งกับทั้งบ้านได้เลย”
“บ้านเอ็งคงมีแค่สามคนล่ะซี?”จ้าวปินก็ไม่พอใจ เขาจ้องหลิวิด้วยความดูถูก
“งั้นไอ้ที่เอ็งผสมสามสีนั่นก็น้ำอัดลมม้าง”หลิวิโต้ตอบ
เมื่อเขาเห็นว่าทั้งคู่เริ่มทะเลาะกันฟางจื้อิก็จ้องพวกเขาและพูดด้วยความเ็า “จะโม้กันทำหอกอะไรวะ? อีกไม่นานพวกแกต้องช่วยฉันมอมเหล้าให้ไอ้ฉินเฟิงมันเมาจนตายใครก็ตามที่ดื่มมากกว่าจะได้ทำงานในบริษัทของฉันเมื่อกลับไป”
“นายน้อยฟางรอเห็นโชว์ดีๆได้เลย” ทั้งสองรับปากเคร่งครัด งานนี้ถือเป็โอกาสอันดีและไม่มีใครยอมใคร
ทั้งสามกลับมาที่ห้องส่วนตัวตอนนี้อาหารถูกวางไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ตอนแรกฟางจื้อิอยากจะนั่งข้างไป๋ชิงแต่ฉินเฟิงนั่งอยู่ข้างเธอและจ้าวเชี่ยนก็นั่งอยู่อีกข้างหนึ่ง ฟางจื้อิจึงนั่งตรงข้ามกับเธอแทนเมื่อเขาเห็นว่าอาหารส่วนใหญ่มาถึงแล้ว เขาก็ยืนด้วยรอยยิ้มครึกครื้น
“ในเมื่อเรามี่เวลาดีๆในวันนี้ ผมจะขอเปิดงาน ไม่เมาห้ามกลับ”ฟางจื้อิหยิบเหมาไถขึ้นมาบนโต๊ะและอดไม่ได้ที่จะโชว์ฟอร์มอีกครั้ง “เวลานี้เพื่อเลี้ยงเพื่อนเก่าที่มางานเลี้ยงรุ่นผมเตรียมสิ่งที่ดีที่สุดทั้งอาหารและเหล้ามิตรภาพสมัยเรียนของเราตีค่าด้วยเงินไม่ได้”
“คืนนี้เหล้าขาวคือเหมาไถ53 ดีกรี ผมนำมันมาโดยเฉพาะ เพราะผมชอบที่ราคามัน 888 ผมหวังว่าทุกคนก็สามารถ รวย รวย รวยด้วยเหมือนกัน”
กว่าครึ่งของผู้ชายเป็พวกขาดื่มเมื่อพวกเขาได้ยินว่าจะได้ดื่มเหมาไถราคา 888 หยวนต่อขวดสายตาของพวกเขาก็ส่องประกาย พวกเขามองไปที่ห้าขวดบนโต๊ะแค่ห้าขวดก็ล่อไปสี่พันกว่าหยวนแล้ว อาหารทั้งโต๊ะนี้จ่ายไปเท่าไรเนี่ย? คนพวกนั้นไม่กล้าคิด
พวกเขาดีใจที่ตอนแรกไม่ได้วู่วามเห็นด้วยกับฉินเฟิงว่าให้หารกันพวกเขาคิดว่าตัวเองนี่ฉลาดจริงๆ!
“มีใครไม่ไว้หน้างานเลี้ยงรุ่นของนายน้อยฟางไหม?ฉันจะดื่มกับนายน้อยฟางและจะไม่กลับจนกว่าจะเมา” ลูกน้องสองคนจ้าวปินกับหลิวิยืนขึ้นทันทีและประกาศก้อง ชายคนอื่นๆก็แสดงสีหน้าว่าจะดื่มกันจนจบ
“ฮ่าๆๆ ขอบคุณที่สนับสนุนส่วนคุณผู้หญิง ผมสั่งไวน์แดงมาให้โดยเฉพาะ ราคา 3,888 หยวนต่อขวดเป็ไวน์นำเข้าคุณภาพเยี่ยม ผมหวังว่าทุกคนจะชอบนะ”
เมื่อทำเป็อวดต่อหน้าผู้หญิงก็ต้องอวดให้ดี ราคาของไวน์จะสูงกว่าโดยธรรมชาติ ฟางจื้อิทั้งรวยและมีสง่าราศีทำเหมือนกับว่าเงินเป็แค่ตัวเลข ผู้หญิงหลายคนเริ่มยั่วสวาทเขาด้วยสายตาใครจะไม่อยากจับผู้ชายหล่อรวยอย่างนี้กัน?
เห็นได้ว่าฟางจื้อิไม่ได้สนใจท่าทีของผู้หญิงคนอื่นเลยเขาแอบชำเลืองมองไปที่ไป๋ชิงเมื่อเห็นว่าไป๋ชิงไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าเลยแม้แต่นิดเดียวตอนที่บอกราคาไวน์แดงกับเหล้าขาวเขาก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย
แม้ว่าไวน์จะไม่ได้แพงมากแต่มันก็พิจารณาได้ว่าเป็ของแพงสำหรับคนทั่วไป ฟางจื้อิเห็นว่าไป๋ชิงยังปกติเธออาจจะไม่หวั่นไหวเพราะเงินหรือเปล่า?
จะให้ไป๋ชิงหวั่นไหวเพราะไวน์แดงราคา3,888 เหรอ? งั้นเธอคงจะขำน่าดู
เธอเป็ผู้จัดการแผนกต้อนรับของโรงแรมหวงเจียเธอติดต่อกับคนที่ร่ำรวยและมีอำนาจในเมืองเว่ยเฉิงทุกคนและเห็นงานเลี้ยงที่อลังการมาแล้วมากมายบวกกับนายน้อยอันดับหนึ่งของเมืองเว่ยเฉิงตอนนี้กำลังนอนในอ้อมกอดเธออย่างไร้ยางอายนายน้อยเ้าสำราญจอมเสเพลคนนี้มักจะเปิดขวดลาฟิต 82 ตอนที่เขากินที่โรงแรมหวงเจียเป็ประจำขวดไวน์นั้นราคาแสนกว่าหยวน ดังนั้นอาหารและเครื่องดื่มบนโต๊ะนี้จึงเทียบไม่ติด
“มาๆๆ ผู้ชายดื่มเหล้าขาวส่วนผู้หญิงก็ดื่มไวน์แดง มาดื่มอวยพรกัน” ฟางจื้อิถือแก้วไวน์และอยากจะทำให้บรรยากาศคึกคักเพื่อที่จะได้มอมเหล้าฉินเฟิงง่ายๆ
นี่เป็แก้วแห่งการเริ่มต้นไม่ว่าพวกเขาจะดื่มหรือไม่คน 23 คน ทุกคนยืนขึ้นและถือแก้วที่มีสีสันแตกต่างกันและดื่มรวดเดียว
หลังจากดื่มแก้วแรกหลายคนก็นั่งลงจ้าวปินและหลิวิยังคงยืนอยู่ แต่ละคนเติมแก้วเปล่าด้วยเหล้าขาวจ้าวปินถือแก้วของเขาไปหาฉินเฟิงก่อนและกล่าว
“ฉินเฟิงแม้ว่านายจะไม่ใช่เพื่อนร่วมชั้นรุ่นเก้าของโรงเรียนเราแต่ก็ถือได้ว่าเป็โชคชะตาที่นำพาเรามาเจอกันและพักผ่อนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่บ้านพักตากอากาศด้วยประโยชน์ของนายน้อยฟางนายต้องใช้บุญถึง 8 ชาติที่สามารถมาดื่มเหล้าดีๆอย่างนี้และกินอาหารซีฟู้ดสดใหม่ในงานเลี้ยงคืนนี้”
ดูจากผิวเผินเหมือนจ้าวปินอยากจะดื่มกับฉินเฟิงแต่คำพูดของเขาปกปิดการเยาะเย้ยไว้ แล้วจู่ๆสายตาของเขาก็เปลี่ยนและพูดด้วยความเสียใจ “เฮ้อในฐานะที่ไป๋ชิงเป็เพื่อนสมัยม.ปลายอย่าว่าฉันแล้วกันที่พูดความรู้สึกของฉันออกมา เป็แค่พนักงานขายเล็กๆ นายไม่มีอะไรเลยที่ดีพอสำหรับเทพธิดาไป๋ชิงของเราจากที่ดูๆ แล้วมีเพียงแค่นายน้อยฟางของเรากับไป๋ชิงเท่านั้นที่เหมาะสมกันโดย์ลิขิต”
“เอาล่ะเลิกพูดไร้สาระแล้วมาอวยพรกันเถอะ”จ้าวปินเยาะเย้ยฉินเฟิงอย่างไร้ยางอายในขณะที่อวยพรเขา
สีหน้าของฟางจื้อิไม่ได้เปลี่ยนแต่เขาเบิกบานด้วยความยินดีในใจ เขาแอบชื่นชมจ้าวปินด้วยสายตาคำพูดของหมอนี่มันตรงกับความคิดของเขาจริงๆ
จ้าวปินยกซดและวางแก้วเหล้าขาวหน้าของเขายังไม่แดงหรือหัวใจยังไม่เต้นเร็ว เขาดูเหมือนคนช่ำชองสุรา
“ฉินเฟิงทำไมไม่ดื่มล่ะ?”
“ทำไมฉันต้องดื่ม?ฉันยังไม่รู้จักพวกนายดีพอเลย” ฉินเฟิงไม่สนจ้าวปิน เขาค่อยๆเลือกอาหารมาให้ไป๋ชิง
จ้าวปินเกือบจะไม่สามารถคงสีหน้าไว้ได้เขามองฉินเฟิงอย่างเ็าราวกับว่าอยากจะต่อยเขา
“จ้าวปิน ฉันจะช่วยฉินเฟิงดื่มเหล้าแก้วนี้เอง”ตอนนี้ไป๋ชิงยืนขึ้น ยกแก้วเหล้าและกระดกมันลง ทุกคนคือเพื่อนร่วมชั้นของเธอเธอจึงไม่อยากทำให้งานกร่อย
ในฐานะผู้จัดการของโรงแรมหวงเจียไป๋ชิงก็คอแข็งใช้ได้เหมือนกัน
“เฮอะฉินเฟิงเอ๋ยฉินเฟิง ตอนแรกฉันเห็นว่านายไม่มีเงินหรืออำนาจและมาเพื่อกินแต่ในฐานะที่เป็เพื่อนของไป๋ชิง ฉันเลยไม่อยากจะจู้จี้นายแต่ตอนนี้นายทำให้เทพธิดาไป๋ชิงของเราช่วยดื่มเพื่อนายนายนี่มันไม่ใช่ลูกผู้ชายเอาเสียเลย”
“ฉันพบว่าแม้จะเป็ผู้ชายเหมือนกันทั้งคู่แต่ทำไมนายกับนายน้อยฟางถึงแตกต่างกันนักเล่า? ตอนที่นายน้อยฟางยังวัยรุ่นเขาเป็เ้านายบริษัทของตัวเองและเขาก็เป็คนที่โดดเด่นที่สุดในหมู่พวกเราแต่เขาก็ไม่ได้หยิ่งหรืออวดดีและยังให้ความเคารพเรา แล้วก็แม้ว่าเขาจะมีอำนาจเขาก็ไม่ได้เสเพลเขายังซื่อตรงต่อเทพธิดาไป๋ชิง…แต่ดูนายสิ นายมีสถานะต่ำต้อย พูดจาหยาบกระด้างและไม่มีคุณธรรมฉันไม่เข้าใจเลยว่าไป๋ชิงตาบอดไม่เห็นนายน้อยฟางแต่กลับไปชอบนายได้อย่างไร”จ้าวปินพบโอกาสเสียดแทงฉินเฟิง เขาตั้งข้อสังเกตอย่างโจ่งแจ้ง
เพื่อให้ได้งานในบริษัทของฟางจื้อิจ้าวปินกับหลิวิตัดสินใจอย่างรอบคอบที่จะหน้าด้าน หลังจากตัดสินใจเสร็จแล้วพวกเขาก็พบว่าพวกเขาหน้าด้านมาโดยตลอด
ตอนแรกฉินเฟิงี้เีจะสนใจจ้าวปินแต่เมื่อเห็นว่าตัวเองโดนยั่วซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาจึงยืนขึ้นและยิ้มให้กับจ้าวปินและกล่าว“นายอยากดื่มกับฉันใช่ไหม? ก็ได้ เดี๋ยวพ่อจะดื่มกับนายเอง”
เมื่อเห็นว่าฉินเฟิงโกรธเพราะคำยุยงจ้าวปินก็ะโอย่างมีอารมณ์ “ถ้าอยากดื่มก็ดื่ม กลัวจะดีแต่ปากน่ะสิ”
“ฉันก็จะดื่มด้วยใครก็ตามที่ไม่กล้าดื่มต่อก่อนจะต้องเรียกคนอื่นว่า ‘ท่านปู่’ ”จ้าวปินขโมยจุดสนใจในคืนนี้ หลิวิรู้สึกว่าเขาต้องเคลื่อนไหวเขาจะไม่ปริปากบ่นเลยแม้ว่าจะได้ตำแหน่งยามก็ตาม