“ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ!!”
เถียนสวี่หลันพยายามแกะมือใหญ่ที่กำลังลากตนด้วยท่าทางทุลักทุเล เพราะเว่ยเจ๋อิที่ตัวสูงกว่าจึงทำให้ภาพออกมาเหมือนเขากำลังหิ้วเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งในมือ
“เถียนสวี่หลันบอกมาซิว่าเ้าเข้าไปทำอันใดในเรือนตระกูลสวี ข้านึกว่าหลายเดือนมานี้ที่เ้าอยู่เงียบๆ เป็เพราะว่าเ้าคิดได้แล้ว แม้แต่อาเล็กของเ้าก็ยังเอ่ยปากแทนว่านิสัยของเ้าได้เปลี่ยนไปแล้ว ดูเหมือนทั้งหมดจะเป็เพียงแค่การแสดงสินะ สุนัขที่เคยกินอาจมมันย่อมไม่มีทางเปลี่ยนนิสัยได้ง่ายๆ”
เถียนสวี่หลันหยุดดิ้นทันที ดวงตาแดงก่ำจ้องไปยังร่างสูงอย่างแข็งกร้าว คำพูดที่แสนดูถูกของเขาทำให้นางนึกถึงเื่ราวในชีวิตก่อน ตอนที่นางยังไม่ได้ถูกตัดแขนขานางเคยถูกบ่าวรับใช้ในเรือนของซ่งหยางเฉิงรังแก พวกเขาทุกคนต่างประชดประชันนางว่าเป็หมูบ้างล่ะ เป็สุนัขที่กินอาจมบ้างล่ะ
คำพูดดูแคลนสารพัดต่างก็ถูกซัดสาดมาที่นาง หลังจากที่ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งเถียนสวี่หลันไม่คิดว่าตนจะมาได้ยินคำพูดดูถูกเ่าั้อีกครั้ง
ดวงตากลมโตไหวระริก ความเ็ปทั้งหลายปรากฏขึ้นในดวงตางาม เถียนสวี่หลันพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ นางไม่้าแสดงความอ่อนแอต่อหน้าเขา
“ข้าจะเข้าไปทำอันใดมันก็เื่ของข้า หากเ้าคิดจะจับข้าส่งทางการก็จงะโให้ชาวบ้านมาจับตัวข้าไปเสียเลยตอนนี้ แต่อย่าได้เอ่ยคำดูถูกเช่นนั้นออกมา ที่ข้าเป็เช่นนี้ทั้งหมดเ้าเองก็มีส่วนผิด หากเ้าเคยใส่ใจข้าบ้างเลิกผลักใส่ข้าให้ออกห่าง ข้าก็คงไม่ต้องประสบชะตากรรมเช่นนั้น เ้านั่นแหละที่ผิด!! เ้าผิด!!”
เถียนสวี่หลันะโใส่เว่ยเจ๋อิเสียงดัง น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ก็พังทลายลงมาเหมือนกับหัวใจของนางที่ตอนนี้มันแสนจะเจ็บช้ำเพราะคำพูดเพียงไม่กี่คำของเขา
“เว่ยเจ๋อิ จากนี้ไปเ้าและข้าต่างคนต่างอยู่ ต่อให้พบเจอกันโดยบังเอิญก็ทำเหมือนข้าไร้ตัวตนซะ!!หัวใจของข้าที่เคยมอบให้เ้าต่อไปนี้ไม่มีอีกแล้ว”
เถียนสวี่หลันผลักร่างสูงให้ออกห่าง จากนั้นนางจึงวิ่งหนีไป ทิ้งเว่ยเจ๋อิที่กำลังสับสนเอาไว้เื้ั หลังจากที่เถียนสวี่หลันจากไปแล้ว ร่างสูงยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมเป็นาน กว่าเขาจะได้สติกลับมา
ไม่ใช่ว่าเมื่อก่อนเขาก็เคยดุด่าเอ่ยคำพูดเช่นนี้กับนางมิใช่หรือ ตอนนั้นไม่ว่าอย่างไรเถียนสวี่หลันก็ทำเหมือนไม่รู้สึกอันใด แต่ครั้งนี้เกิดสิ่งใดขึ้นกับนางกันแน่ ถึงได้ดูอ่อนไหวเช่นนี้
หัวใจของเว่ยเจ๋อิรู้สึกวูบโหวงเหมือนเขากำลังจะสูญเสียสิ่งที่สำคัญไป ความรู้สึกหงุดหงิดบางอย่างเกิดขึ้นภายในใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของนาง
เถียนสวี่หลัน นางบอกว่านางจะเก็บหัวใจกลับคืนไปอย่างนั้นหรือ สุดท้ายแล้วก็ยังคิดที่จะเสแสร้งอยู่อีก ใครจะไปเชื่อเื่ที่นางพูดกัน ไม่ใช่ว่าตลอดมานาง้าแต่งงานให้เขาหรือ หากนางปล่อยมือเขาตอนนี้นางจะสามารถทำใจได้อย่างไร เขาไม่มีทางเชื่อคำพูดนั้นอยู่แล้ว สตรีร้ายกาจอย่างนางรู้จักแต่เพียงทำเื่ที่น่าละอายเท่านั้น น่ารังเกียจนัก!! เว่ยเจ๋อิสบถในใจอย่างหัวเสีย
หลังจากที่วิ่งหนีกลับมาที่เรือน เถียนสวี่หลันก็ยังไม่สามารถบังคับให้ตนเองหยุดร้องไห้ได้ นางรู้สึกชาหนึบที่หัวใจ หากไม่ต้องพบเจอกับเขานางก็ยังพอจะทำใจให้ไม่รู้สึกอันใดได้
แต่เมื่อได้พบเว่ยเจ๋อิอีกครั้ง ภาพสุดท้ายที่เขาใช้เสื้อคลุมของเขาห่มให้ความอบอุ่นแก่นางและอุ้มนางเอาไว้ในอ้อมแขนก่อนที่นางจะตาย มันยังคงวนเวียนติดอยู่ภายในใจ
“คนเลว จริงๆ แล้วเ้าเป็คนเช่นไรกันแน่ หากรู้ว่าข้ากำลังจะตายแล้วเ้าทำเช่นไปเพื่ออันใด หรือเป็ความเวทนาสงสารครั้งสุดท้ายที่เ้าหยิบยื่นให้อดีตภรรยาอย่างข้าเช่นนั้นหรือ ถ้าหากเป็อย่างนั้นข้าก็ไม่้า”
เถียนสวี่หลันมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยอารมณ์อ่อนไหว อาจเป็เพราะนางได้พบเขาอีกครั้ง จึงทำให้นางไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้
เว่ยเจ๋อิเองก็ไม่ต่างกัน เขากลับไปที่เรือนของตนด้วยอารมณ์หงุดหงิดที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจ แม่นางเซี่ยท่านแม่ของเขาที่นั่งคอยบุตรชายจนกระทั่งดึก รีบเดินมาเปิดประตูให้เขา
“ิเอ๋อเหตุใดกลับมาเสียมืดค่ำเพียงนี้เล่า แม่เป็ห่วงมากนะเห็นลูกกลับบ้านผิดเวลา ไม่มีเื่อันใดขึ้นกับลูกใช่หรือไม่”
แม่นางเซี่ยถามบุตรชายด้วยความห่วงใย เว่ยเจ่อิส่ายหน้า ท่าทางของเขาดูเหม่อลอยก่อนจะเดินกลับเข้าห้องของตน แม่นางเซี่ยมองตามหลังบุตรชายไปด้วยสายตาเป็ห่วง หรือว่าจะเกิดเื่ขึ้นกับเขาจริงๆ
“ิเอ๋อก่อนนอนลูกออกมาทานอะไรสักหน่อยเถอะ แม่อุ่นอาหารเอาไว้ในครัวให้ลูกแล้ว”
แม่นางเซี่ยเคาะประตูเบาๆ เอ่ยกับบุตรชายคนโตก่อนที่จะกลับเข้าห้องของนางไป เว่ยเจ๋อิเปลี่ยนชุดของสำนักศึกษาออกก่อนที่จะเข้าไปในครัว น้ำร้อนถูกต้มเอาไว้แล้วทั้งที่มารดาของเขาไม่จำเป็ต้องทำเช่นนั้นก็ได้ แต่เขาก็รู้สึกขอบคุณที่นางดูแลเอาใจใส่เขามาตลอด แม้จะเป็เพียงเื่เล็กน้อยก็ตามที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้