ชวีหงคิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับมีน้ำเสียงค่อนแคะของหวังชุนเฟิงดังแว่วมาจากด้านนอกเสียก่อน “ท่านแม่ พี่ใหญ่ไม่เหมาะจะเป็หัวหน้าหมู่บ้านหรอก ไปบอกท่านพ่อให้เขาส่งมอบตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านต่อให้ข้าเถิด ข้าจะกตัญญูต่อท่านและท่านพ่อแน่นอน”
“ชุนเฟิง ข้ากำลังสั่งสอนสะใภ้ใหญ่อยู่ เ้าอย่าเข้ามาวุ่นวาย” เฟิงซื่อลอบด่าหวังชุนเฟิงในใจว่าเป็พวกไม่ได้ความ อย่างไรก็ตาม นางยังหวังให้หวังชุนเฟิงและหวังลี่ตงไม่ลงรอยกัน เพราะการแก่งแย่งตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านอยู่
ชวีหงรอให้เฟิงซื่อออกไปก่อนแล้วจึงใช้มือขวาตีลงไปที่แขนของหวังลี่ตง ทั้งยังร้องไห้จนน้ำมูกน้ำตาไหลพราก พูดจาตัดพ้อว่า “เหตุใดชีวิตข้าจึงย่ำแย่เพียงนี้ สามีก็เป็พวกไม่เอาไหน ผู้อื่นคิดตีข้าให้ตาย แต่สามีกลับไม่กล้ามีปากมีเสียงอะไรเลย”
หวังลี่ตงกล่าวอย่างขุ่นเคือง “อยู่ดีๆ เ้าจะไปหาเื่พวกบ้านหลี่ทำไมเล่า?”
เตียงเตาของบ้านหลี่ใช้ได้ดีจริงๆ ในเมืองตำบลก็มีหลายบ้านที่อยากเชิญคนตระกูลหวังไปสร้างเตียงเตา ใน่แรกเขาทะเลาะกับหวังไห่เพราะเื่การสร้างเตียงเตา หวังไห่จึงไม่ให้เขาเข้าไปยุ่งอีก
ตอนนี้หวังไห่พาคนในตระกูลไปก่อเตียงเตาทำเงินได้มากมาย เื่ยอดเยี่ยมเช่นนี้เขากลับไม่มีส่วนร่วมแม้แต่น้อย ความคับข้องใจอัดแน่นอยู่ข้างใน แต่กลับไม่มีที่ให้ระบาย
หลี่ิ่หานพรวนดินในพื้นที่เพาะปลูกของครอบครัว ซึ่งมีขนาดประมาณครึ่งหมู่กว่า ที่อยู่นอกหมู่บ้านจนเสร็จแล้ว จึงถอนหญ้าให้เรียบร้อยก่อนจะแบกจอบกลับบ้านพร้อมถั่วฝักยาวหนึ่งกำมือ ขณะที่เดินไปถึงปากทางเข้าหมู่บ้าน คนในหมู่บ้านที่พบเจอเขาก็พากันทักทาย
“ิ่หาน เมื่อครู่ชวีหงไปที่บ้านเ้า ถูกพี่สามกับน้องห้าของเ้าตีกลับไปแล้ว”
“พี่สามกับน้องห้าของเ้าตีชวีหงจนหนีไปแล้ว”
“พี่ิ่หาน ชวีหงด่าแม่ของท่านได้แย่มากจริงๆ”
หลี่ิ่หานกลับบ้านไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เมื่อกลับมาถึงก็พบว่ามีเสียงของสตรีหลายคนดังออกมาจากห้องโถงคล้ายกำลังสนทนากับจ้าวซื่อ
“ชวีหงนี่เป็ผู้หญิงที่ปากร้ายหน้าไม่อายจริงๆ ข้าอยากตบนางมานานแล้ว”
“เมื่อครู่ข้าเดินผ่านบ้านหวัง ได้ยินเฟิงซื่อด่าชวีหงด้วย แถมชวีหงยังกล้าเถียงกลับอีก”
“หวังลี่ตงไม่ใช่คนดีอะไร คนในตระกูลพวกเราไม่ยอมให้เขาเป็หัวหน้าหมู่บ้านแน่ เ้าวางใจได้เลย”
“น้องจ้าว ตอนนี้บุรุษบ้านเ้าไม่อยู่บ้าน ต่อไปหากมีเื่ลำบากอะไรก็บอกข้าได้เลย ครอบครัวข้าจะช่วยเ้าแน่นอน”
บ้านหลี่เพิ่งมีเื่ไปไม่ทันไร หม่าซื่อและสตรีตระกูลหวังทั้งหลายก็พากันมาปลอบใจจ้าวซื่อแล้ว หากเป็เมื่อก่อนถ้าตระกูลหลี่มีเื่หม่าซื่อจะต้องมาอย่างแน่นอน ส่วนตระกูลหวังก็จะมีเฟิงซื่อมาเพียงคนเดียว
แต่ตอนนี้บ้านหลี่ไม่เหมือนเดิมแล้ว สตรีตระกูลหวังจึงพากันมาประจบประแจงจ้าวซื่อ
“ขอบคุณมาก” กว่าจ้าวซื่อจะส่งสตรีทั้งสี่กลับไปได้ก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว นางหันไปยิ้มให้หลี่ิ่หานที่มีสีหน้ารู้สึกผิดพลางกล่าวว่า “ที่ดินนอกหมู่บ้านเป็อย่างไรบ้าง”
“มีแตงกวาบางส่วนถูกนกจิกกินไปขอรับ” หลี่ิ่หานเดินเข้ามาประคองจ้าวซื่อ “ท่านแม่ ข้าไม่รู้ว่าชวีหงมาก่อเื่ที่บ้านเรา หากรู้ข้าจะรีบกลับมาแน่นอน”
จ้าวซื่อกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เ้าไปทำงานในที่ดินของพวกเราไม่ได้ไปเที่ยวเล่นเสียหน่อย ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก”
หลี่หรูอี้ที่ยืนอยู่ตรงประตูห้องครัวกล่าวกับหลี่ิ่หานเจือเสียงหัวเราะ “อาหารกลางวันวันนี้กินผัดถั่วฝักยาวกับไข่ตุ๋นนะเ้าคะ”
หลี่ิ่หานพาจ้าวซื่อเดินเข้าไปส่งในห้องนอน จากนั้นจึงเดินกลับมาเอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “น้องห้า ชวีหงทำร้ายเ้าหรือไม่”
“นางคิดจะตีสวนแต่ก็ไม่ได้ตีเ้าค่ะ พี่สามต่อยท้องนางก่อน” หลี่หรูอี้หัวเราะ “ข้าใช้ไม้นวดแป้งตีนางไปสองครั้ง ข้าออกกำลังกายมามาก ใส่แรงฟาดไปไม่น้อยเลย”
หลี่อิงฮว๋านำถั่วฝักยาวไปล้างที่บ่อน้ำจนสะอาดแล้วนำมาหั่นที่เขียงในห้องครัว เขากล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ท่านแม่ใกล้จะคลอดแล้ว พวกเราต้องทิ้งคนไว้ที่บ้านบ้าง”
หลี่หรูอี้กระซิบ “สองสามวันนี้คงยุ่งมาก ข้าคิดอยู่ว่าพรุ่งนี้จะหาจ้างแรงงานระยะสั้นมาช่วยทำขนมไหว้พระจันทร์”
หลี่ิ่หานถามอย่างประหลาดใจ “บ้านเรามีคนมากเพียงนี้ยังต้องจ้างแรงงานอีกหรือ”
“นอกจากทำขนมไหว้พระจันทร์แล้วพวกเรายังต้องดูแลเื่การขายด้วย หากเป็เช่นนี้จะไม่มีเวลามาดูแลบ้าน พอเกิดเื่อะไรขึ้นพวกเราคงจัดการไม่ทัน” หลี่หรูอี้คิดในใจว่า หากท่านพ่อและท่านอารองอยู่บ้านคงไม่ต้องจ้างแรงงานแล้ว
หลี่อิงฮว๋าถามต่อ “ค่าจ้างแรงงานวันละเท่าไรหรือ”
หลี่หรูอี้ตอกไข่ห้าฟองใส่ชามกระเบื้องหยาบสีดำอย่างคล่องแคล่ว “ข้า้าจ้างแรงงานมาเพื่อช่วยย่างขนมไหว้พระจันทร์ในแต่ละวัน นี่ถือเป็งานไม่หนัก ไม่ต้องใช้ผู้ใหญ่ก็ได้ ดูแลอาหารการกินให้วันละสามมื้อ ค่าจ้างสิบทองแดง”
การย่างขนมไหว้พระจันทร์และการเตรียมทำขนมไหว้พระจันทร์เป็งานที่แยกออกจากกัน คนที่ย่างขนมไหว้พระจันทร์ไม่ต้องรู้สูตรการทำขนมไหว้พระจันทร์ก็ได้
หลี่อิงฮว๋าเลิกคิ้วแล้วกล่าวว่า “น้องห้า ข้อตกลงของเ้าดีเกินไปแล้ว ได้เงินมากกว่าผู้ใหญ่ที่ทำงานในตำบลมากเลยทีเดียว”
หลี่ิ่หานถามต่อ “แล้วเ้าคิดจะจ้างแรงงานกี่คน?”
หลี่หรูอี้นำไข่ที่ตอกและคนผสมเรียบร้อยแล้วลงไปนึ่งในหม้อที่ใส่น้ำเตรียมไว้ก่อนแล้ว “ข้ามีคนในใจอยู่คนหนึ่งแล้วเ้าค่ะ ก็คือ อู่โก่วจื่อ พวกท่านแต่ละคนก็เสนอมาคนละชื่อแล้วกัน จะต้องเป็คนที่ซื่อสัตย์ เชื่อฟัง และขยันขันแข็ง”
พี่น้องห้าคนเสนอชื่อคนงานมาคนละชื่อ รวมทั้งหมดจะได้คนงานห้าคน มีค่าจ้างวันละห้าสิบทองแดง นอกจากนี้ก็มีค่าใช้จ่ายเื่อาหารการกิน รวมทั้งหมดแล้วประมาณหกสิบทองแดง นี่เป็เงินที่จะต้องจ่าย ไม่อาจประหยัดได้
หลี่ิ่หานถามอย่างกระตือรือร้น “น้องห้า เ้าพูดจริงหรือ”
“ข้าล้อท่านเล่นเมื่อใดกันเล่า?”
หลี่อิงฮว๋ายิ้ม “ข้าเสนอชื่อซื่อโก่วจื่อ”
หลี่หรูอี้นึกถึงความสกปรกของซื่อโก่วจื่อขึ้นมาได้ จึงรีบกำชับไปว่า “ซื่อโก่วจื่อก็ได้เ้าค่ะ แต่ท่านต้องให้เขาเช็ดน้ำมูกและล้างหน้าล้างมือให้สะอาดก่อนด้วย”
“วางใจเถิด ข้าจะไปบอกเขาเองว่า พรุ่งนี้ให้เขาล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาดก่อนมาบ้านพวกเรา” หลี่อิงฮว๋าเดินออกไปด้วยท่าทางยินดี
“น้องห้า ข้าเสนอต้าจู้จื่อ” ต้าจู้จื่อที่หลี่ิ่หานพูดถึงก็คือหลานชายของหวังเซี่ยจื้อ เป็เด็กในตระกูลหวัง ปีนี้อายุสิบขวบแล้ว เป็คนเงียบๆ และซื่อสัตย์ เอาการเอางาน ทำงานหนักได้
หลี่หรูอี้ไม่ค่อยรู้เื่ของต้าจู้จื่อที่ไม่ค่อยมาบ้านหลี่มากนัก ได้ยินเพียงว่าครอบครัวของเขาค่อนข้างเรียบง่าย มีปู่ย่า พ่อแม่ น้องชายสองคน และน้องสาวอีกหนึ่งคน ผู้าุโในบ้านก็มิได้มากเื่ จึงถามไปว่า “ท่านสนิทกับหวังจู้จื่อหรือ”
หลี่อิงฮว๋ายิ้มจนตาหยี “ใช่ เขามีอะไรก็บอกข้าหมด พอเข้าฤดูหนาวหิมะตกพวกเราก็จะพากันไปจับนกมาย่างกิน เคยเอาให้เ้ากินด้วย”
“เ้าค่ะ เช่นนั้นท่านไปบอกเขาเถิด”
“รอพี่สามกลับมาก่อนค่อยไป” หลี่ิ่หานกลัวว่าจะมีคนเลวมารังแกจ้าวซื่อและหลี่หรูอี้อีกจึงไม่กล้าออกไปไหน
ผ่านไปครู่หนึ่ง หลี่เจี้ยนอันและหลี่ฝูคังก็บังคับเกวียนกลับมาถึงบ้าน พวกเขารู้เื่ที่ชวีหงก่อเื่มาจากปากของคนในหมู่บ้านแล้ว ย่อมโกรธแค้นเป็อย่างยิ่ง
หลี่หรูอี้เห็นพี่ชายใหญ่และพี่ชายรองมีสีหน้าโกรธขึ้งดูท่าทางโกรธไม่เบา จึงรีบกล่าวปลอบ “พวกเราไม่ได้เสียเปรียบนะเ้าคะ ข้าตีนางไปแล้ว”
หลี่ฝูคังกำหมัดแน่น “เห็นพวกเราอ่อนแอหรือ ชวีหงถึงมารังแกพวกเราตอนที่ผู้ชายผู้ใหญ่ไม่อยู่บ้าน!”
หลี่เจี้ยนอันกล่าวอย่างเ็า “อีกสามปีพวกเราก็จะอายุสิบหก จะถือว่าเป็ผู้ใหญ่แล้ว หากใครกล้ามาหาเื่ข้าจะตีมันให้ตาย”
หลี่หรูอี้พูดเสียงนุ่มนวล “ก่อนหน้านี้ครอบครัวพวกเรายากจน ชวีหงไม่เคยคิดมาหา ตอนนี้พวกเรามีชีวิตดีขึ้นแล้วพวกคนขี้อิจฉาก็เลยมาหาเื่”
หลี่ฝูคังนวดขมับตนเอง “ใช่แล้วน้องห้า เมื่อครู่พวกเราเข้าไปในตำบล มีลูกค้าเก่าอีกสองคนจ่ายเงินจองขนมไหว้พระจันทร์อีกร้อยชิ้น”
“หลังพักกลางวันแล้วข้าจะไปเตรียมทำเ้าค่ะ” หลี่หรูอี้รู้สึกยินดียิ่งนัก บอกเื่จ้างแรงงานกับพี่ชายทั้งสอง พวกเขาเชื่อใจและมั่นใจในความคิดของนางมากอยู่แล้วจึงเห็นด้วยเต็มที่
เมื่อหลี่อิงฮว๋ากลับมาแล้วทั้งครอบครัวก็กินข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา หลี่เจี้ยนอันบอกจ้าวซื่อว่า พรุ่งนี้จะจ้างแรงงาน ซึ่งจ้าวซื่อก็ไม่ได้มีท่าทีคัดค้านอะไร
ผู้ใดจะทราบว่าตอนเย็นกลับมีเื่เกิดขึ้นอีกแล้ว
.............................
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้