หานิยิ้มบางๆ ขณะหันหน้าไปมองด้านหลังพร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใส
“ท่านแอบย่องเข้ามาในยอดเขาของข้าแบบนี้ มันไม่เสียมารยาทไปหน่อยหรือไง”
ทันใดนั้น ชายชุดดำผู้หนึ่งก้าวออกมาจากความว่างเปล่า พร้อมหัวเราะเบาๆ แล้วเอ่ยด้วยเสียงขบขัน
“ข้าก็แค่มาแจ้งเื่บางอย่างให้เ้ารู้เท่านั้น... แต่ว่า เ้าไปเรียนรู้ค่ายกลพวกนั้นมาจากที่ไหนกัน?”
หานิยิ้มไม่ตอบในทันที ก่อนจะกล่าวช้าๆ
“ข้าศึกษาด้วยตัวเองและก็ได้คนในนิกายช่วยสอน”
ชายชุดดำขมวดคิ้วพลางยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย
“ข้าขอถามตรงๆ เ้าคือบุตรแห่งพระเ้าของตระกูลไหนกัน หรือว่า... เ้าเป็เทพพระเ้าคนไหนกลับชาติมาเกิดหรือเปล่า?”
หานิหัวเราะเบาๆ ในลำคอ
“ข้าเกิดที่โลกใบเล็กนี้เอง ท่านก็น่าจะรู้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ? ข้าเชื่อว่าท่านแอบไปสืบประวัติของข้ามาหมดแล้ว เผลอๆ อาจจะไปดูตระกูลของข้ามาแล้วด้วยซ้ำ”
ชายชุดดำหลุดหัวเราะเหมือนคนที่รู้คำตอบอยู่แล้วแต่แกล้งถาม
“เอาเถอะ ข้าไม่คิดจะเถียงกับเ้าให้เสียเวลาแล้ว วันนี้ข้ามาแค่แจ้งว่า มู่หนานซือกำลังจะส่งคนที่เหลือรอด และิญญาที่หนีตายขึ้นไปยังโลกเบื้องบน โดยจะให้ปู่ของนางเป็ผู้ดูแลต่อทั้งหมด”
หานิวางตะหลิวในมือลงก่อนจะถามกลับ “ไปวันไหน?”
“อีกห้าวันหลังจากนี้” ชายชุดดำตอบทันที “เ้าอยากขึ้นไปด้วยไหม หรือว่าเ้าจะเลือกเข้าไปในสุสานของเทพพระเ้าแห่งสมุนไพรละ?”
หานิเงียบไปเล็กน้อย เขาจ้องมองใบหน้าของชายชุดดำ เขาไม่แน่ใจว่าตัวเองควรไว้ใจใครได้บ้าง เขาอาจจะทำนายอนาคตของคนอื่นได้ แต่เขากลับไม่เคยเห็นภาพอนาคตของตัวเอง
แต่เมื่อลองทำนายเส้นทางของศิษย์ทั้งเจ็ดของเขา หากขึ้นไปยังโลกเบื้องบนตอนนี้... สิ่งที่รอพวกเขาอยู่มีแต่ความตาย จากศัตรูของมู่หนานซือที่เคลื่อนไหวอยู่ในเงามืด
ดังนั้น เขาไม่มีทางพาศิษย์ของเขาไปสังเวยในเกมของใครเด็ดขาด เพราะฉะนั้นเขายังไม่รีบขึ้นไป เขามีแผนของตัวเองอยู่แล้ว และมันค่อนข้างปลอดภัยมากด้วย
“ข้ายังไม่ขึ้นไปตอนนี้” หานิตอบในที่สุด ดวงตาเต็มไปด้วยประกายแห่งความเ็า “เพราะศิษย์ของข้ายังมีความแค้นต้องชำระอยู่กับใครบางคน”
ชายชุดดำจ้องตาหานิอยู่ครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า
“ตกลง ข้าจะไปแจ้งนางให้รู้ แล้วเจอกันอีกครั้ง... นางน่าจะเรียกประชุมเร็วๆ นี้”
หลังจากพูดจบ ร่างของชายชุดดำก็จางหายไปในความว่างเปล่าราวกับไม่เคยมีอยู่ตรงนั้น
หานิหันกลับไปอย่างไม่ใส่ใจ หยิบหม้อขึ้นจากเตาไฟเบาๆ กลิ่นอาหารหอมอบอวลไปทั่วลานกว้างบนยอดเขา
“มากินข้าวได้แล้ว” เขาเอ่ยเรียกศิษย์ทั้งเจ็ดด้วยรอยยิ้ม
เสียงฝีเท้า วิ่งมาอย่างรวดเร็ว พร้อมเสียงพูดคุยหยอกล้อดังขึ้น บรรยากาศที่เงียบเย็นของยอดเขาแสงบริสุทธิ์เริ่มกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
บรรยากาศบนยอดเขาแสงบริสุทธิ์ในยามนี้เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของอาหารที่ลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ
ไก่ย่างหนังกรอบเนื้อนุ่ม ซุปเห็ดหอมกลิ่นเตะจมูก หมูตุ๋นรสกลมกล่อมที่คลุกเคล้ากับกลิ่นสุราอ่อนๆ ทุกจานที่หานิปรุงล้วนชวนให้น้ำลายไหล จนศิษย์ใหม่ทั้ง 2 ที่ปกติแล้วจะทำสีหน้าเคร่งเครียด ยังอดไม่ได้ที่จะนั่งล้อมวงกินกันอย่างเอร็ดอร่อย
กวนจื่อซวนลองชิมหมูอมสุราเข้าไปคำหนึ่ง ก่อนจะเบิกตากว้าง
“นี่มัน... นี่มันรสชาติอะไรกันเนี่ย!” เขาพึมพำอย่างตะลึง ลิ้นของเขาแทบจะไม่เชื่อสิ่งที่ลิ้มรสเข้าไป ความนุ่มของหมู ความหวานจากเครื่องตุ๋น ความหอมของสุราที่แทรกซึมในเนื้อ มันกลมกล่อมเกินจะบรรยาย
ด้านเย่ลี่อินที่ปกติไม่ค่อยแสดงสีหน้าอะไรเลย มักทำหน้าบึ้งตึงตลอดเวลา... คราวนี้ก็ถึงกับชะงักไป เมื่อได้ลองไก่ย่างของหานิ ิัด้านนอกกรอบเกรียมกำลังดี แต่เมื่อลองกัดเข้าไปกลับพบกับเนื้อไก่นุ่มลิ้น ชุ่มฉ่ำ และร้อนกำลังพอดี
เสียงหัวเราะ และเสียงพูดคุยดังขึ้น พวกเขาทุกคนลืมโลกของการฝึกฝนไปชั่วขณะ บรรยากาศที่ตึงเครียดใน่ที่ผ่านมาเหมือนละลายหายไปกับอาหารที่แสนอร่อยของอาจารย์
หลังจากใช้เวลาสักพัก พวกเขาก็กินกันจนหมดเกลี้ยง
หรงหลี่เซียนที่กินเข้าไปไม่น้อยกว่าสามจาน ทิ้งตัวนอนแผ่ลงบนพื้นทันที ใบหน้าที่ปกติแล้วดูสวยสง่า ตอนนี้กลับบวมเล็กน้อยจากความอิ่ม จนแม้แต่ความสวยตามธรรมชาติของนางก็ไม่สามารถช่วยนางได้ในตอนนี้
เฟิ่งหวงจุนเห็นภาพตรงหน้าก็เอ่ยขึ้นมาทันที
“ศิษย์พี่ ท่านช่วยเอาจานของท่านไปล้างด้วยเถอะ”
หรงหลี่เซียนพลิกตัวอย่างี้เีก่อนจะตอบ
“เ้ากล้าพูดแบบนี้กับศิษย์พี่เรอะ ระวังเดินๆ อยู่แล้วกลายเป็นกย่างขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวนะ เ้านกตูดดำเอ๊ย...”
เฟิ่งหวงจุนขมวดคิ้วทันที “แค่ล้างจานท่านก็ยังทำไม่ได้ จะมาย่างข้าเนี่ยนะ? ฝันกลางวันไปเถอะ!”
“ได้เลยศิษย์น้อง!!”
หรงหลี่เซียนพูดประโยคสั้นก่อนจะไม่พูดต่ออะไรต่อ แล้วหลับตานิ่งไปอย่างหมดแรง ท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนอื่นๆ
ทันใดนั้น เสียงของหานิก็ดังขึ้น
“เอาล่ะ พวกเ้าทุกคนตอนนี้ล้วนอยู่ในระดับแกนทองคำขั้นที่เก้ากันหมดแล้ว ถึงเวลาที่ข้าจะเริ่มถ่ายทอดวิธีการบ่มเพาะขั้นถัดไปให้พวกเ้า”
คำพูดของอาจารย์ทำให้ทุกคนเงียบลงทันที
“ในอีก 10 นาที ต่อจากนี้จงไปเตรียมตัวให้พร้อม”
“รับทราบขอรับ ท่านอาจารย์!” ศิษย์ทั้งเจ็ดคนกล่าวขึ้นพร้อมกันด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและแววตาเปล่งประกาย
เสียงจานชามเริ่มถูกเก็บ เสียงน้ำไหลเบาๆ ด้านหลังลานฝึกดังขึ้น ร่างของศิษย์แต่ละคนเริ่มกลับไปเตรียมใจและกายให้พร้อมสำหรับสิ่งที่จะมา
ในระหว่างที่ศิษย์ทั้งเจ็ดยังเตรียมตัว หานิยืนพิงต้นไม้เล็กๆ ข้างลานฝึก ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบาๆ ด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ระบบ สร้างภาพลวงตาให้ข้ากับศิษย์ทั้งเจ็ดกำลังกินอาหารอยู่ตอนนี้ ทำให้เนียนที่สุด ปิดกั้นพื้นที่โดยรอบ แล้วเปิดมิติลับให้ข้า... เอาหินิญญาทั่วไปทั้งหมดไปแปลงเป็พลังงาน แล้วปล่อยเข้ามาไปในมิติลับนั้นด้วย”
[……]
[……]
[……]
[รับทราบ โฮสต์]
เสียงตอบรับของระบบดังขึ้นในหัวก่อนที่รัศมีบางอย่างจะแผ่กระจายออกไปโดยไม่มีใครรู้สึกได้ ภาพลวงตาที่เหมือนกับความจริงทุกกระเบียดนิ้วเริ่มทำงานทันที บริเวณโดยรอบถูกปิดผนึกอย่างแ่า คนจากภายนอกจะเห็นคนจากยอดเขาแสงบริสุทธิ์กำลังกินอาหารกันอยู่เท่านั้น
[สั่งข้ายังกับสั่งอาหารจากร้านอาหารตามสั่งเลยเถอะ ให้ตายสิ...] ระบบบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ ในความเงียบ
สิบ นาทีผ่านไป ศิษย์ทั้งเจ็ดเตรียมตัวกันเสร็จเรียบร้อย หานิโบกมือเบาๆ พาพวกเขาทั้งหมดเข้าสู่มิติลับในพริบตา
ทันทีที่ก้าวเท้าผ่านประตูมิติ ร่างของทั้งแปดก็โผล่มาอยู่บนเกาะกลางทะเลหมอกที่ล้อมรอบไปด้วยผืนน้ำสะท้อนท้องฟ้า พื้นที่เกาะไม่ใหญ่มากแต่ก็กว้างพอจะรองรับทุกคนได้อย่างสบาย อากาศที่นี่เย็นสบาย พลังิญญาในอากาศหนาแน่นเกินกว่าที่โลกภายนอกจะเทียบได้
หานิสะบัดมือเบาๆ ฟูกทั้งเจ็ดผืนผุดขึ้นจากพื้นเรียงเป็วงกลมโดยเว้นระยะห่างกันพอสมควร
“เอาละตั้งสมาธิให้ดี และเลือกที่นั่งของพวกเ้าซะ”
เสียงของเขาดังขึ้น ศิษย์ทั้งเจ็ดรีบทำตามคำสั่งของเขาทันทีโดยไม่รีรอ
เมื่อทุกคนประจำที่ หานิก็เริ่มถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับระดับการบ่มเพาะขั้นถัดไป ั้แ่ิญญาแรกเริ่ม การก่อตั้งิญญา การรวมร่าง การนิพพาน ไปจนถึงขั้นถ้ำ์
เขาอธิบายทีละขั้นตอนอย่างชัดเจน ลึกซึ้ง แสดงภาพประกอบด้วยพลังิญญาเพื่อให้เข้าใจได้ง่าย ทุกการเปลี่ยนแปลง ทุกความต่างระหว่างระดับพลังถูกแจกแจงอย่างละเอียด ไม่มีอะไรตกหล่น
เวลาไหลผ่านไปโดยไม่มีใครรู้ตัว จนกระทั่งบทเรียนจบลง หานิจึงโบกมืออีกครั้ง แผ่นทดสอบปรากฏเบื้องหน้าทุกคน
“แบบทดสอบมีทั้งหมด 500 ข้อ โดย1 อาณาจักรใหญ่จะมี 100 ข้อที่จะถามรายละเอียดต่างๆ แก่พวกเ้า ถ้าใครได้ไม่เต็มแม้แต่คนเดียว ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเ้าทุกคนทะลวงการบ่มเพาะขึ้นสู่ระดับถัดไป เข้าใจไหม?”
“รับทราบ ท่านอาจารย์!” เสียงตอบรับดังขึ้นพร้อมกัน
ทุกคนเริ่มทำข้อสอบด้วยสมาธิสูงสุด หานิยืนมองอย่างเงียบๆ เวลาผ่านไปไม่นาน ทุกคนส่งกระดาษกลับมา พร้อมผลลัพธ์ที่เหมือนกันหมด เต็ม 500 คะแนน
หานิไม่ได้แสดงท่าทีแปลกใจแม้แต่น้อย เพราะว่า แต่ละคนคืออัจฉริยะของยุค และผ่านรูปแบบทองคำของเขามาแล้วถ้าแค่นี้ทำไม่ได้แสดงว่ารูปแบบทองคำของเขามีปัญหาแล้วละ
จากนั้น เขาสะบัดมืออีกครั้ง โอสถสีทอง 35 เม็ดลอยออกมาจากความว่างเปล่า แสงบนผิวยาสะท้อนระยิบระยับ มีตัวเลข 4 - 8 สลักอยู่บนยาแต่ละเม็ด
โอสถนี่ หานิได้มาจากระบบ ก่อนที่จะนำมาปรับแต่งเองทั้งหมดพร้อมเพิ่มบางอย่างเข้าไป ผลคือมันสามารถทำให้คนที่กินเข้าไปสามารถทะลวงระดับไปยังอาณาจักรถัดไปได้และไปหยุดที่จุดสูงสุดของการบ่มเพาะอาณาจักรถัดไป โดยไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ และยังได้พื้นฐานที่มั่นคงและแข็งแกร่งที่สุดแล้วในปัจจุบัน แต่มันก็ต้องใช้ความเข้าใจระดับสูงสุดทั้งในการควบคุมร่างกายทุกส่วนและควบคุมตัวยาเพื่อให้ไหลไปในส่วนที่้าของร่างกายอย่างแม่นยำเช่นกัน
หานิส่งโอสถให้คน 5 ละเม็ด
“เริ่มจากโอสถที่สลักเลข 4 ก่อน กินได้เลย”
ศิษย์ทั้งเจ็ดพยักหน้าโดยไม่ลังเล ก่อนจะกลืนโอสถเข้าไปพร้อมกัน
พลังิญญาจากร่างของพวกเขาเริ่มแผ่กระจายออกมาในทันที ราวกับูเาไฟที่กำลังจะปะทุ ทุกคนเข้าสู่่เร่งพลังบ่มเพาะพร้อมกันโดยมีหานิคอยควบคุมพลังงานรอบๆ