“เฮ้ยเพื่อน นายไปเอาถุงมือกับหน้ากากมาจากไหนอ่ะ ขายให้ฉันได้ป่าว” ชายร่างสูงที่กำลังแบกดาบเล่มโตเดินตรงมาด้านหน้าของเย่เทียนเซี่ยก่อนจะตบบ่าของเย่เทียนเซี่ยแล้วถามออกมา น้ำเสียงของเขาไม่ได้มีความเกรงใจ ความโลภที่ฉายชัดอยู่ในดวงตาทั้งคู่นั้นถูกเปิดเผยออกมาอย่างไม่ปิดบัง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่กลัวที่จะมีปัญหา แม้ปากจะพูดว่าอยากจะซื้อไอเทมจากมือของเขา แต่จริงๆแล้วความหมายนั้นกลับแฝงแววคุกคามไว้อย่างชัดเจนจนไม่มีอะไรจะชัดเจนไปมากกว่านี้อีกแล้ว
คนที่ไม่เกรงใจต่อเขา เย่เทียนเซี่ยก็ไม่เคยเกรงใจเช่นกัน เย่เทียนเซี่ยปรายตามองชายคนนั้นวูบหนึ่งก่อนจะพูดออกมาเสียงเย็น “ถอยไปซะ อย่ามาขวางทาง”
เมื่อพูดจบเย่เทียนเซี่ยก็เดินผ่านร่างของชายคนนั้นมุ่งตรงไปยังจวนเ้าเมือง
สีหน้าของชายคนนั้นเต็มไปด้วยความโกรธจากนั้นเขาก็ยกยิ้มเย็นขึ้นมา “เห้ยไอ้หนู ฉันอยู่ในโบสถ์จิติญญาแห่งามานานหลายปี แต่เจอกันครั้งแรกแกก็กล้าพูดแบบนี้กับคนอายุมากกว่าแล้วเหรอวะ”
“โบสถ์จิติญญาแห่งา?” เมื่อคำๆนี้ผุดขึ้นมาใบหน้าของผู้เล่นรอบๆที่มองมายังเย่เทียนเซี่ยด้วยความตกตะลึงก็เปลี่ยนสีทันที พวกที่เดิมทีอยากจะเดินเข้าไปถามเย่เทียนเซี่ยรีบถอยออกมาจนหมด อีกทั้งยังถอยหลังกลับไปหลายก้าวอย่างระมัดระวัง โบสถ์จิติญญาแห่งาคือหนึ่งในกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเกมเสมือนจริงและยังเป็กองกำลังที่ไม่ควรไปต่อกรด้วยมากที่สุด
คนๆนี้จงใจยกชื่อโบสถ์จิติญญาแห่งามาอ้าง เห็นได้ชัดว่าเขาอยากจะขู่เย่เทียนเซี่ยเพื่อหวังให้เขายอมยกหน้ากากและเกราะมือให้มันแต่โดยดีภายใต้ความหวาดกลัว เพราะกองกำลังของโบสถ์จิติญญาแห่งาโด่งดังไปทั่ว ถ้าริอาจตั้งตัวเป็ศัตรูต่อไปก็อย่าได้หวังว่าจะใช้ชีวิตใน World of Fate ได้อย่างสงบสุขเลย
เย่เทียนเซี่ยหยุดฝีเท้าลงแล้วหัวเราะออกมาเสียงเย็น “โบสถ์จิติญญาแห่งา มันคืออะไรล่ะนั่น?”
“แก!” ในที่สุดใบหน้าของชายคนนั้นก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน เขาพยายามอดทนอย่างที่สุดที่จะไม่ลงมือ ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงมืดมนอยู่ด้านหลังของเย่เทียนเซี่ย “เหอะ ไอ้หนู แกนี่ท่าจะบ้า ช่างเป็คนที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำที่สุดในโลกจริงๆ ทางที่ดีแกน่าจะภาวนาทุกวันว่าอย่าได้มาเจอฉันตอนอยู่ในพื้นที่ล่าก็แล้วกัน”
ภายในตัวเมืองไม่สามารถ PK ได้ นี่ถือเป็กฎของโลกเกมออนไลน์ทั้งหมด ไม่อย่างนั้นไม่ว่าจะถูกหรือผิด คนที่ลงมือPK ก่อนก็จะถูกลงโทษอย่างหนัก
เย่เทียนเซี่ยเดินไปไกลแล้วถึงค่อยหันกลับมามองด้านหลังด้วยดวงตาเยาะเย้ย “ที่จริง นายน่าจะภาวนาว่าอย่าให้ฉันเจอนายในพื้นที่ล่ามากกว่านะ.........”
ในฐานะที่เป็พลเรือนชั้นสูงคนหนึ่งในทวีปที่สาบสูญ เ้าเมืองเทียนเฉินจึงมีชีวิตอยู่อย่างชื่นมื่น ในเวลานี้เขากำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้ ดวงตาปรือลงครึ่งหนึ่ง บางครั้งก็จิบชาสมุนไพรไปสองสามคำ เมื่อได้ยินข่าวว่าเย่เทียนเซี่ยจะมา เ้าเมืองเทียนเฉินก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันทีจนนั่งแทบไม่ติดเก้าอี้
“สวัสดีครับท่านเ้าเมือง ครั้งนี้ผมได้เดินทางลงใต้ไปตามที่ได้รับมอบหมายจากท่านและนำข่าวที่ท่าน้ากลับมาด้วยครับ” เย่เทียนเซี่ยที่เดินเข้าประตูมาเมื่อเห็นท่านเ้าเมืองก็พูดออกมาทันที
สีหน้าของเ้าเมืองเทียนเฉินตื่นเต้นขึ้นมาทันที เขารีบถามออกไปอย่างรีบร้อน “สมแล้วที่เ้าคือผู้ที่มีความสามารถที่จะเหรียญผู้กล้าได้ ข้ารู้อยู่แล้วว่าเ้าจะต้องสามารถทำภารกิจที่แสนอันตรายนี้ให้สำเร็จได้ภายในระยะเวลาอันสั้น เร็วเถอะ รีบบอกข้ามาเร็วเข้าว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน แล้วเป็อย่างไรกันบ้าง”
เย่เทียนเซี่ยก้มหน้าแล้วพูดออกไป “ตอนนี้พวกเขา............”
ปัจจุบันบรรดาทหารที่ได้ต่อกรกับฟีนิกซ์สีเืมีเพียงคนเดียวที่หนีรอดมาได้โดยได้รับาเ็สาหัส ตอนนี้เ้าเมืองกู่ผิงกำลังดูแลอยู่ ส่วนทหารคนอื่นๆถูกฝังอยู่ใกล้ๆรังของฟีนิกซ์สีเืทั้งหมด เย่เทียนเซี่ยรายงานข่าวให้เ้าเมืองเทียนเฉินฟังอย่างละเอียด แต่หลังจากที่ได้รับรู้เื่ทั้งหมดเ้าเมืองเทียนเฉินก็ถึงกับสะอื้นแล้วพูดออกมาด้วยความโศกเศร้า “ไม่คิดเลยว่า พวกเขาจะประสบกับเื่เลวร้ายเช่นนี้........ พวกเขาล้วนเป็ผู้กล้าที่สุดยอดของเมืองเทียนเฉิน..... เฮ้อ น่าเสียดาย แม้จะรู้ว่ารังของฟีนิกซ์สีเือยู่ที่ไหน แต่พวกเราก็ยังคงไม่มีวิธีที่จะกำจัดมันได้อย่างแท้จริง หากบุ่มบ่ามโจมตีบางทีอาจจะได้รับความโกรธเกรี้ยวของมันกลับมาเป็สิ่งตอบแทน และนำมาซึ่งผลลัพธ์อันน่ากลัว หรือว่าต่อไปเมืองเทียนเฉินของเราจะต้องมีชีวิตอยู่ภายใต้เงาอันดำมืดของเ้าฟีนิกซ์สีเืเหรอเนี่ย”
..............โอ้พระเ้า นี่และโอกาสดี!
เย่เทียนเซี่ยพูดออกไปอย่างถ่อมตัวด้วยจังหวะไม่ช้าไม่เร็ว “ท่านเ้าเมืองครับ ปัญหานี้ท่านไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้วครับ ฟีนิกซ์สีเืจะไม่ปรากฏตัวที่เมืองเทียนเฉินได้อีกต่อไปเพราะมันตายไปแล้วครับ”
“ตายแล้ว? อะไรนะ.......ตายแล้ว!!!!??” เ้าเมืองเทียนเฉินอึ้งไป จากนั้นก็ผุดลุกขึ้นยืนราวกับถูกเข็มที่เก้าอี้จิ้มตูดเอา ใบหน้าของเขาแดงก่ำอย่างตื่นเต้นก่อนจะพูดออกมาเสียงสั่น “เ้า....... เ้าพูดจริงหรือไม่? ฟีนิกซ์สีเืตายไปแล้ว!?”
เย่เทียนเซี่ยหยิบขนนกสีเืที่ส่องแสงสีเืออกมาอย่างแปลกประหลาดออกมาจากในกระเป๋าแล้ววางไว้ตรงหน้าของเ้าเมืองเทียนเฉิน ที่เขายังไม่ได้นำขนนกสีเืไปฝังลงในห้วงเวลาแห่งโชคชะตาก็เพื่อนาทีนี้นี่แหละ
เมื่อมองเห็นขนนกสีเืเ้าเมืองเทียนเฉินก็ถึงกับตกตะลึง จากนั้นก็พูดออกมาทันทีด้วยความใ “นี่....... นี่........ ข้าคิดออกแล้ว มันคือขนนกที่ติดอยู่บนหัวของเ้าฟีนิกซ์สีเื! มันเป็แสงแบบนี้ไม่ผิดแน่นอน ข้าไม่มีทางจำผิดแน่ จะต้องไม่ผิดอย่างแน่นอน........ ฟีนิกซ์สีเืตายแล้ว ฟีนิกซ์สีเืตายแล้ว......... ฮ่าๆๆๆๆ!”
เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งกลายเป็เสียงดัง “หึ่งหึ่ง” อยู่ในหูของเย่เทียนเซี่ย เขาได้แต่อดทนยืนฟังเ้าเมืองเทียนเฉินหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเหมือนคนโรคจิตอยู่ตรงนี้ ไม่รู้เมื่อไรที่เ้าเมืองเทียนเฉินเงียบเสียงลง บรรยากาศเปลี่ยนเป็ผ่อนคลาย ฟีนิกซ์สีเืคุกคามและสร้างความเสียหายใหญ่น้อยอย่างไม่หยุดหย่อน และมันยังเป็มอนสเตอร์ที่ชั่วร้ายและโเี้ที่สุดในเมืองเทียนเฉินอีกด้วย หลังจากที่ฟีนิกซ์สีเืปรากฏตัวขึ้นมาเมืองเทียนเฉินก็ต้องคอยวิตกกังวลมาตลอดสามปี แม้แต่ยามหลับก็ยังหลับได้ไม่เต็มตา ทุกวันได้แต่ฝันว่าฟีนิกซ์สีเือันน่ากลัวจะปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้า......ตอนนี้จากที่ได้ยินข่าวและยืนยันแล้วว่าฟีนิกซ์สีเืตายแล้ว ก้อนหินที่กดทับอยู่ในใจจนเขาไม่สามารถหายใจได้อย่างสะดวกก็หายไปจนหมด แล้วเขาจะควบคุมอารมณ์ตื่นเต้นขั้นสุดในเวลานี้ได้อย่างไร
“ดี! ดีมาก! เ้าสามารถเหรียญผู้กล้าได้ ที่แท้เ้าก็เป็ผู้กล้าที่แท้จริงที่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นได้ เซี่ยเทียน เ้าไม่เพียงช่วยนำข่าวสารของทหารประจำเมืองกลับมาให้ข้า แต่เ้ายังช่วยข้าและช่วยชาวเมืองเทียนเฉินทั้งเมืองขจัดความกังวลอันใหญ่หลวงออกไปจนหมดสิ้น นี่ทำให้ข้า........ ไม่รู้จะขอบคุณเ้าอย่างไรดีจริงๆ”
เย่เทียนเซี่ยกระตุกยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าย ขอบคุณ? มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกมั้ง จริงๆแล้วความ้าของเขาก็ไม่ได้สูงอะไรหรอก.......ก็แค่เอาไอเทมระดับเซียน ระดับ์ และระดับพระเ้ามาให้เขาซักสิบชิ้น หรือจะเอาเหรียญทองมาให้เขาสักล้านสองล้านแบบนั้นก็ได้..........
แน่นอนว่าต่อให้เขาไม่ได้ฆ่าฟีนิกซ์สีเืด้วยน้ำมือของตนเองแต่เขาก็ไม่ได้มีความรู้สึกผิดหรือละอายใดๆทั้งสิ้น
เย่เทียนเซี่ยนำขนนกสีเืกลับมา และตอนนี้เ้าเมืองเทียนเฉินที่หัวเราะจนแทบขาดอากาศหายใจตายก็กลับไปที่นั่งของตัวเองแล้ว เขาครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดเขาก็ทุบโต๊ะครั้งหนึ่งแล้วพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น “ดีล่ะ งั้นเป็เ้านี่ก็แล้วกัน! มีแต่แบบนี้เท่านั้นถึงจะสามารถแสดงความขอบคุณต่อเ้าได้ มาสิ เ้าจงเอาสิ่งนี้ไป”
เ้าเมืองเทียนเฉินหยิบกระดาษแผ่นบางๆออกมาจากลิ้นชักแล้ววางมันไว้ในมือของเย่เทียนเซี่ย
“นี่คือ?” เย่เทียนเซี่ยรับมา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
“สามปีก่อนข้าให้คนสร้างคฤหาสน์แห่งหนึ่งที่เรียกได้ว่าหรูหราและงดงามที่สุดในเมืองเทียนเฉินเอาไว้ในทำเลที่ดีที่สุดในเมืองเทียนเฉิน และเมื่อเดือนที่แล้วคฤหาสน์หลังนั้นก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว ตัวคฤหาสน์ทั้งหมดตกแต่งอย่างพร้อมสรรพ คฤหาสน์หลังนั้นใช้เวลาสร้างกว่าสามปีและใช้เงินไปทั้งหมดกว่าร้อยล้านเหรียญทอง เดิมทีที่แห่งนั้นข้าตั้งใจว่าจะสร้างเอาไว้ให้ตัวเองได้พักผ่อนและใช้ชีวิตบั้นปลายในตอนแก่ แต่ตอนนี้.............ในเมื่อเ้ากำจัดความกังวลอันใหญ่หลวงของข้าจนหมดไปได้เช่นนี้ นอกจากสิ่งนี้แล้ว ข้าก็ไม่พบอะไรที่เหมาะสมยิ่งกว่าที่จะกลายเป็รางวัลและคำขอบคุณต่อเ้าเลยจริงๆ นี่คือโฉนดที่ดินของคฤหาสน์หลังนั้น เมื่อมีโฉนดที่ดินใบนี้อยู่กับตัว ต่อไปมันก็จะกลายเป็ของเ้าแล้ว เ้าสามารถควบคุมดูแลมันได้ถึงเจ็ดสิบปีเต็มเลย”
(@o@)!!!!เย่เทียนเซี่ย
คฤหาสน์.........คฤหาสน์ในโลกเกมออนไลน์.........คฤหาสน์ราคาร้อยล้านเหรียญทอง.........
เื่จริง......... โกหก........ เื่จริง........ โกหก ใครก็ได้มาบอกเขาที่ว่าเขาฝันไป
เืในกายของเย่เทียนเซี่ยพุ่งพล่าน สีหน้าของเขาแดงก่ำเหมือนคนดื่มเหล้าเข้าไป กระดาษแผ่นบางๆถูกกำเอาไว้ในมือของเขาแน่นเพราะกลัวว่าเ้าเมืองเทียนเฉินจะเกิดเสียใจขึ้นมาภายหลังแล้วแย่งกลับไป
“ติ๊ง! ท่านทำภารกิจหนึ่งเดียว ‘ตามหาร่องรอยของทหารประจำเมืองที่หายไป’ สำเร็จแล้ว ได้รับรางวัลเป็ค่าประสบการณ์ +50,000, เหรียญทอง 200 เหรียญ, ชื่อเสียง +50, คำสั่งนิรโทษกรรมแห่งเมืองเทียนเฉิน 1 ฉบับ, เนื่องจากท่านทำภารกิจที่แฝงอยู่ในภารกิจครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์อย่างงดงามจึงได้รับรางวัลลับสุดยอด : โฉนดที่ดินของคฤหาสน์สุดหรูแห่งเมืองเทียนเฉินและชื่อเสียง +200”
คำสั่งนิรโทษกรรมแห่งเมืองเทียนเฉิน : เ้าเมืองเทียนเฉินได้มอบคำสั่งนิรโทษกรรมให้แก่ผู้ที่ทำคุณงามความดีเพื่อเมืองเทียนเฉิน สามารถลดค่าบาปกรรมโดยอัตโนมัติ 50 หน่วย และสามารถทำการ PK ภายในตัวเมืองได้ทั้งหมด 5 ครั้งโดยจะไม่ได้รับโทษใดๆ
นี่เป็ครั้งแรกที่เย่เทียนเซี่ยประสบความสำเร็จในการทำภารกิจหนึ่งเดียวใน World of Fate เมื่อจัดการกับคำถามของเ้าเมืองเทียนเฉินเรียบร้อยเย่เทียนเซี่ยก็แทบจะวิ่งตัวปลิวไปยังตำแหน่งที่คฤหาสน์หลังนั้นตั้งอยู่ เมื่อ“คฤหาสน์ที่เรียกได้ว่าหรูหราและงดงามที่สุดในเมืองเทียนเฉิน” ตามที่เ้าเมืองเทียนเฉินบอกไว้ปรากฏสู่สายตาของเขาแม้ว่าเย่เทียนเซี่ยจะเตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้วแต่ก็อดที่จนยืนตะลึงอยู่ตรงนั้นเป็เวลานานสองนานไม่ได้
ที่นี่คือตำแหน่งใจกลางเมืองเทียนเฉิน เป็ตำแหน่งที่ดีจนทำให้ผู้คนอิจฉาตาร้อน มันห่างจากถนนการค้าที่เฟื่องฟูที่สุดในเมืองเทียนเฉินเพียงแค่บล็อกเดียว อีกทั้งที่แห่งนี้ยังเป็เขตที่ปกติแล้วผู้เล่นไปสามารถย่างกรายเข้ามาได้ ดังนั้นมันจึงเงียบสงบเป็อย่างมาก และที่ทำให้เย่เทียนเซี่ยมีปฏิกิริยาเช่นนี้ไม่ใช่เพียงเพราะตำแหน่งที่ตั้งของมัน แต่ยังเป็เพราะความยิ่งใหญ่และความหรูหราของมันด้วย
เพียงแค่มองจากภายนอกคฤหาสน์แห่งนี้ยังมีพื้นที่กว้างขวางกว่าวิลล่าในโลกจริงของเขาถึงสิบเท่า แม้ว่ามันจะเป็ทรงโบราณ แต่มันก็ยังคงเป็รูปแบบที่หรูหราชนะใจคนได้อยู่ดี เย่เทียนเซี่ยกวาดสายตามองไปทางประตูใหญ่ก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน
เพราะเขามีโฉนดที่ดินอยู่กับตัวประตูใหญ่ที่ปิดแน่นจึงเปิดออกเองโดยอัตโนมัติ หลังจากที่มันรอให้เขาเดินเขาไปเรียบร้อยแล้วมันก็ปิดตัวลงโดยอัตโนมัติ และเพียงเข้าก้าวเข้าไปได้เพียงก้าวเดียวเสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นข้างหูของเขา
“ติ๊ง! ยินดีต้อนรับค่ะ คฤหาสน์หลังนี้เป็ของท่านแล้ว นี่เป็ครั้งแรกที่ท่านเข้ามาที่นี่ กรุณาตั้งชื่อคฤหาสน์แห่งนี้ด้วยค่ะ”
“ตั้งชื่อ?” เย่เทียนเซี่ยอึ้งไปเล็กน้อย เขาไม่ได้เตรียมตัวมาสำหรับเื่นี้เลย หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเขาก็พยายามค้นหาชื่อที่เหมาะสมในความคิด
“บ้านหลังน้อยของกั่วกัว บ้านหลังน้อยของกั่วกัว ตั้งชื่อว่าบ้านหลังน้อยของกั่วกัว.......” กั่วกัวโผล่หัวออกมาจากไหล่ของเย่เทียนเซี่ยแล้วะโออกมาอย่างอดใจรอไม่ไหว เสียงะโขึ้นอย่างฉับพลันของเธอทำให้เย่เทียนเซี่ยตื่นจากภวังค์ ก่อนเขาจะพูดออกมาเบาๆตามจิตใต้สำนึก “บ้านหลังน้อยของกั่วกัว.........”
“ติ๊ง........ท่านได้ตั้งชื่อคฤหาสน์ของท่านว่า ‘บ้านหลังน้อยของกั่วกัว’ สำเร็จแล้วค่ะ”
“ฉัน.............” เย่เทียนเซี่ย
