บ่วงรักสัญญาร้าย

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

ฉันยังคงมองสำรวจภาพเ๮๣่า๲ั้๲ไปทั่วด้วยความรู้สึกเห็นใจ จนกระทั่งเสียงเรียกจากพนักงานต้อนรับสาวที่เดินนำหน้าฉันไปได้เอ่ยบอกให้ฉันเข้าไปนั่งรอยังด้านใน ก่อนที่เธอจะขอตัวไปตามคนที่ฉันต้องมาติดต่องานด้วยให้

 

ใช้เวลาเพียงไม่นาน บานประตูห้องรับรองที่ฉันรออยู่ก็ถูกผลักเข้ามา พร้อมกับร่างของคนคนหนึ่ง...

 

‘สวัสดีค่ะ คุณคือคนที่มาเซ็นเอกสารแทนคุณฉวีวรรณนะคะ’

 

หญิงสาวที่เพิ่งเข้ามาใหม่เอ่ยทักทายฉัน ก่อนที่เธอจะถามฉันอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ

 

‘สวัสดีค่ะ ใช่ค่ะ’ ฉันตอบกลับไป พร้อมกับมองไปยังคนตรงหน้าที่เข้ามาใหม่ที่ตอนนี้หอบแฟ้มเอกสารสูงจนแทบจะท่วมหัว

 

‘เดี๋ยวสักครู่นะคะ ขอดิฉันหาเอกสารก่อน’ หญิงสาวคนเดิมวางแฟ้มไว้ตรงโต๊ะกลางห้อง ก่อนที่เธอจะขยับกระชับแว่นขนาดใหญ่ที่อยู่บนใบหน้าตัวเองเพื่อมองหาเอกสารที่น่าจะเป็๲ของฉัน

 

‘อ่ะ...เจอแล้ว’ เธอพูดกับตัวเองเบา ๆ ก่อนที่จะยื่นแฟ้มเอกสารมาตรงหน้าของฉัน

 

‘เซ็นตรงที่มาร์กเอาไว้ให้ได้เลยนะคะ เดี๋ยวอีกสักครู่ดิฉันจะเข้ามารับไป’ เธอพูดพร้อมกับรีบเดินออกไป โดยที่ฉันยังไม่ทันได้ถามอะไร

 

จากนั้นฉันก็ได้จรดลายมือลงไปตามช่องที่มีสัญลักษณ์ตามที่ผู้หญิงคนนั้นบอกเอาไว้ และเมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันก็ได้นั่งรออยู่ที่เดิมเพื่อรอส่งเอกสารตรงหน้าให้กับมือพนักงานที่นำเอกสารมาให้ เพราะฉันอยากจะมั่นใจว่าเอกสารจะไม่ตกหล่นจนทำให้ฉันดูเป็๲คนทำงานสะเพร่า

 

แต่หลังจากที่ฉันนั่งรออยู่สักพักใหญ่ ๆ เมื่อดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือแล้วพบว่าใกล้จะถึงเวลาเลิกงานของตัวเองแล้ว ฉันที่ต้องรีบกลับไปสแกนนิ้วมือที่บริษัทตัวเองเหมือนกัน ก็ได้เดินออกมาเพื่อจะนำเอาเอกสารฝากไว้กับพนักงานคนอื่นแทน...

 

และในจังหวะเดียวกันกับที่ฉันได้เปิดประตูออกไปจากห้องรับรองนั้น...

 

ผลัก...!!

 

ตุบ...!!

 

ทันทีที่ฉันเปิดประตูออกไป ร่างบางของฉันก็ปะทะเข้ากับร่างชายคนหนึ่งซึ่งดูจากการแต่งตัวแล้วช่างดูไม่เหมือนกับพนักงานของบริษัทแห่งนี้เลย และด้วยแรงปะทะของเราสองคนนั้นก็ทำให้แฟ้มเอกสารที่อยู่ในมือของทั้งฉันและผู้ชายตรงหน้าต่างร่วงลงสู่พื้นพร้อมกัน

 

‘อ่ะ...ขอโทษนะคะ’ (- - “) ฉันรีบเอ่ยคำขอโทษ พร้อมกับโค้งหัวเล็กน้อยเพื่อแสดงว่าฉันขอโทษจากใจจริง

 

‘โว๊ะ!!...คนยิ่งรีบ ๆ อยู่’ (-*-) แต่ผู้ชายคนนั้นนอกจากจะไม่รับคำขอโทษของฉันแล้ว เขาที่ยังไม่ยอมกล่าวขอโทษฉันกลับ อีกทั้งยังแสดงกิริยาที่ไม่น่ารักใส่ฉันอีกด้วย

 

เขาที่ไม่แม้แต่จะหันมาหน้ามองหน้าฉันสักนิด แถมยังแสดงอาการฟึดฟัดไม่พอใจอย่างคนหัวเสีย ก่อนจะโน้มตัวลงไปหยิบเอกสารที่ตกลงพื้นขึ้นมาอย่างเร็วเพียงแฟ้มเดียว แล้วรีบเดินจากไปพร้อมกับปล่อยให้ฉันอยู่ในอาการมึนงง

 

(คนอะไรไร้มารยาทชะมัด) (-*-) ฉันงึมงำกับตัวเองอยู่ในใจ ก่อนจะก้มตัวลงไปหยิบแฟ้มเอกสารอีกเล่มที่หน้าตาคล้ายกันกับแฟ้มเอกสารของชายคนนั้นขึ้นมาแนบลำตัว

 

และด้วยความขุ่นข้องหมองใจ จึงทำให้ฉันละเลยที่จะทำสิ่งที่ควรทำ นั่นก็คือการตรวจเช็กเอกสารที่อยู่ภายในแฟ้มอีกครั้ง...และด้วยการละเลยเพียงเสี้ยววินาทีในครั้งนั้นของฉัน...ใครจะไปคาดคิดว่ามันจะกลายเป็๲จุดเปลี่ยนชะตากรรมของตัวฉันเองอย่างไม่น่าให้อภัย...

 

ฉันสอดสายตามองหาผู้หญิงคนนั้น คนที่เอาเอกสารฉบับนี้มาให้ ก่อนที่ไม่ว่าจะมองหายังไงก็ดูจะไม่เห็นแม้แต่เงาของบุคคลที่ฉันมองหาอยู่ดี

 

จวบจนเวลาล่วงเลยใกล้จะถึงเวลาเลิกงานขึ้นทุกที ฉันที่กลัวว่าถ้ารอนานกว่านี้แล้วเมื่อถึงเวลาเลิกงานสถานการณ์คงจะวุ่นวายน่าดู และด้วยความคิดนั้นก็ทำให้ฉันเลือกที่จะเปิดเข้าไปยังห้องทำงานที่อยู่ใกล้ ๆ เพื่อฝากเอาเอกสารที่อยู่ในมือนี้ไปให้คนที่เป็๲เ๽้าของของมัน

 

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

 

‘ขออนุญาตนะคะ...’ ฉันเคาะก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไป เพราะถึงแม้ว่ากระจกมันจะใสจนคนข้างในสามารถมองเห็นคนข้างนอกที่กำลังจะเข้ามาได้ก็ตาม แต่ด้วยมารยาทฉันก็ต้องเคาะเรียกก่อนอยู่ดี

 

หลังจากเปิดประตูเข้าไปแล้ว...ทุกสายตาที่กำลังวุ่นวายอยู่กับงานของตนก็ได้หันมาจับจ้องที่ฉันกันเป็๲ตาเดียวกัน และการเป็๲จุดศูนย์กลางความสนใจโดยไม่ได้ตั้งใจแบบนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกประหม่าแปลก ๆ

 

จากนั้นฉันก็เลือกที่จะเดินไปยังโต๊ะที่ใกล้ที่สุด ก่อนจะแจ้งกับพนักงานผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงนั้นว่าฉันขอฝากเอกสารที่เซ็นเอาไว้

 

‘เออพอดีฉันมาเซ็นเอกสารค่ะ ยังไงรบกวนฝากเอาไว้ด้วยนะคะ’ ฉันที่บอกออกไป โดยที่ไม่ทันได้เอะใจเลยว่าตัวเองได้หลงลืมเ๱ื่๵๹รายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารไปหรือเปล่า

 

ส่วนพนักงานชายตรงหน้าที่ยังคงแสดงสีหน้าเรียบเฉย ก่อนที่เขาจะเปิดเอกสารที่ฉันเพิ่งยื่นส่งไปให้เพื่อตรวจทานข้อมูลในนั้นอีกครั้ง

 

และในจังหวะที่ฉันคิดว่าคงไม่มีอะไรแล้วเพราะเอกสารฉันก็เซ็นเรียบร้อยหมดแล้ว ทันทีหลังจากที่ฉันฝากเอกสารนั้นเอาไว้และเตรียมที่จะหมุนตัวหันหลังกลับออกจากห้องนั้นไป ก็เป็๲จังหวะเดียวกับที่เสียงทุ้มจากพนักงานชายคนเดิมได้ส่งมาเพื่อเตือนอะไรฉันบางอย่าง

 

‘นี่คุณยังเซ็นไม่ครบนี่ครับ...’ เขาเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะยื่นเอกสารมาตรงหน้าฉัน

 

ส่วนฉันที่รู้สึกเอะใจก็ถึงกับขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจถึงคำถามจากคนตรงหน้า นั่นก็เพราะในเมื่อฉันนั้นมั่นใจแล้วว่าฉันได้เซ็นครบทุกจุดตามที่มีสัญลักษณ์บ่งชี้เอาไว้ แต่แล้วทำไมถึงยังมีจุดที่ฉันยังไม่ได้เซ็นอีก

 

และในขณะที่ฉันยังคงย่นคิ้วด้วยความสงสัย พร้อมกับนึกอยากจะทบทวนตรวจทานเอกสารตรงหน้าอีกสักรอบ คำพูดจากพนักงานคนหนึ่งในห้องนั้นก็ได้ทำให้ฉันเลือกที่จะรีบเซ็นเอกสารแล้วรีบกลับออกไปทันที

 

‘ใกล้เลิกงานแล้วพวกเรา...รีบเก็บของเถอะ ขืนช้าแม้แต่นาทีเดียวระวังยืนรอลิฟต์นานชั่วกัปชั่วกัลป์นะเว้ย...’

 

สิ้นเสียงของผู้ชายวัยกลางคน๻ะโ๠๲บอกคนในห้อง ทุกคนภายในห้องต่างกุลีกุจอเคลียร์งานตรงหน้าตัวเองกันทันทีอย่างเร่งรีบ ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าของฉันด้วย ที่ตอนนี้สีหน้าของเขาดูท่าจะไม่พอใจฉันเท่าไรนักที่ทำให้เขาเสียเวลา

 

ฉันรีบจรดปลายปากกาเซ็นลงตรงช่องที่ผู้ชายคนนั้นชี้ให้ทันทีอย่างไม่ลังเล พร้อมกับโค้งหัวเล็กน้อยเพื่อขอบคุณก่อนกลับออกไป และในจังหวะที่ประตูยังไม่ทันได้ปิดสนิท ฉันที่ได้ยินเสียงของใครบางคนที่แว่วเข้ามาในโสตประสาท มันเป็๲เสียงของพนักงานชายคนนั้น คนที่รับเอกสารฉันเอาไว้ และด้วยประโยคที่เขาหันไปพูดกับเพื่อนที่นั่งอยู่ด้านข้างของเขา ก็ถึงกับทำให้ฉันต้องหยุดชะงักเล็กน้อยด้วยความงุนงง

 

‘น่าเสียดายผู้หญิงคนเมื่อกี้นี้ว่ะ หน้าตาโคตรน่ารักเลยยังดูสาวอยู่ด้วย ไม่น่าโดนผัวหลอกให้มาเซ็นค้ำประกันแบบนี้เลย...เฮ้อ...คนเรา เสียดายจริง ๆ ว่ะ’ เขาพูดพร้อมกับส่ายหัวไปมาอย่างคนรู้สึกสงสาร

 

ส่วนฉันที่แม้จะรู้สึกสงสัยแต่ด้วยเวลากระชั้นชิดที่ใกล้จะถึงเวลาเลิกงานแล้ว ทำให้ฉันที่แม้จะได้ยินไม่ค่อยถนัด แต่พอจะจับใจความได้บ้างว่าเขาหมายความว่ายังไง แต่ด้วยสถานการณ์คับขันของมนุษย์เงินเดือนที่ยิ่งใกล้เวลาเลิกงานด้วยแล้ว ตัวฉันเองย่อมรู้ดีว่ามันวายป่วงมากแค่ไหน อีกทั้งเมื่อมาคิดดูดี ๆ แล้วฉันก็ไม่ได้รู้สึกว่าประโยคของผู้ชายคนนั้นมันจะมาเกี่ยวข้องอะไรกับตัวฉัน เขาอาจจะพูดถึงคนอื่นก็เป็๲ได้ ดังนั้นฉันจึงเลือกที่จะสลัดคำพูดเ๮๣่า๲ั้๲ทิ้งไปแล้วมุ่งหน้ากลับบริษัทของตัวเองทันที...

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้