บทที่ 4 ศิลาฤกษ์ก้อนแรก
เจ็ดวันผ่านไปราวกับความฝันและาในคราเดียวกัน
สำหรับอาเป่า มันคือความฝัน เขาได้กินอิ่มนอนอุ่นเป็ครั้งแรกในรอบหลายปี ยาขมๆ ของพี่สาวแม้จะทำให้หน้าเบ้ทุกครั้งที่ดื่ม แต่มันก็ได้ขับไล่พญายมที่เคยเกาะกุมลมหายใจของเขาให้ออกไปจนสิ้น ร่างกายที่เคยผอมแห้งเริ่มมีเืฝาด ดวงตาที่เคยหม่นหมองบัดนี้กระจ่างใสดุจแก้วใสที่สะท้อนภาพพี่สาวผู้เป็ดั่งโลก ทั้งใบของเขา
แต่สำหรับลู่เมิ่ง มันคือาที่ต้องรบในทุกสมรภูมิ
สมรภูมิในครัว นางต้องต่อสู้กับเปลวไฟที่ไม่สมดุลและวัตถุดิบที่จำกัด เพื่อปรุงยาถอนพิษหนอนไหมกัดกินิญญา จอมปลอมให้หัวหมู่จ้าว มันเป็เพียงยาบำรุงตับธรรมดาๆ ที่ใช้สมุนไพรราคาถูกแต่ด้วยความรู้ทางเคมีของนาง นางสามารถสกัดและผสมมันจนมีสีสันและกลิ่นที่ดูซับซ้อนลึกลับน่าเกรงขาม เกินกว่าที่หมอธรรมดาจะดูออก
สมรภูมิในใจ นางต้องต่อสู้กับความอ่อนล้าของร่างกายนี้ที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และต้องอดทนต่อสายตาหวาดระแวงของลูกสมุนที่นำอาหารมาส่งทุกวัน ราวกับนางเป็ตัวประหลาดที่พร้อมจะปล่อยพิษได้ทุกเมื่อ
และสมรภูมิที่สำคัญที่สุด... คือสมรภูมินอกกระท่อม
หลังจากมอบยาจอมปลอมให้หัวหมู่จ้าวไปพร้อมกับกำชับด้วยวาจาอันน่าสะพรึงกลัวว่า "พิษนี้ถูกถอนไปเพียงครึ่งเดียว อีกครึ่งปีหากไม่ได้ยาจากข้าไปล้างพิษที่เหลือ ท่านก็จะกลับไปมีอาการเช่นเดิม" ซึ่งเป็การผูกมัดและซื้อเวลาสำหรับอนาคต เงินห้าสิบตำลึงและเครื่องมือทำยาตกเป็ของนางโดยสมบูรณ์ แต่ลู่เมิ่งรู้ดี... เงินที่ได้มาจากการข่มขู่ย่อมหมดไปได้ฉันใด ความปลอดภัยที่ได้มาด้วยวิธีเดียวกันก็ย่อมสลายไปได้ฉันนั้น
นาง้าอำนาจที่แท้จริง... อำนาจที่เกิดจากมันสมองและสองมือของนางเอง!
"ผลการทดลองสบู่ล็อตที่เจ็ดเป็อย่างไรบ้าง เทียนฉี่" ลู่เมิ่งถามขณะมองสบู่ก้อนสีขาวนวลที่ตัดเป็ก้อนสี่เหลี่ยมอย่างสวยงามวางอยู่บน แผ่นไม้
[รายงาน... ปฏิกิริยาสะพอนิฟิเคชันสมบูรณ์ 98.7% ค่า pH อยู่ที่ 8.5 เป็ด่างอ่อนๆ ไม่เป็อันตรายต่อิั มีความสามารถในการชำระล้างสูง... แต่ยังมีข้อบกพร่อง]
"กลิ่นหืนของไขมันสัตว์" ลู่เมิ่งพูดต่อราวกับรู้คำตอบอยู่แล้ว "ข้าผสมผงดอกไม้แห้งลงไปแล้ว แต่ก็กลบกลิ่นได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น"
[ถูกต้อง... หาก้ายกระดับผลิตภัณฑ์ จำเป็ต้องใช้สารหอมระเหยที่มีความเข้มข้นสูงกว่านี้ หรือที่เรียกว่า น้ำมันหอมระเหย]
"แน่นอนข้ารู้...แต่ในยุคนี้การกลั่นน้ำมันหอมระเหยต้องใช้เครื่องแก้วและกรรมวิธี ที่ซับซ้อนเกินไป" นางครุ่นคิด "มีวิธีอื่นอีกไหม?"
[กำลังค้นหา...พบทางเลือก การสกัดด้วยไขมันเป็วิธีโบราณที่ใช้ไขมันบริสุทธิ์ดูด ซับกลิ่นหอมจากดอกไม้สด มีประสิทธิภาพสูง แต่ใช้เวลาและวัตถุดิบจำนวนมาก]
"น่าสนใจ... แต่ก่อนจะไปถึงขั้นนั้น เราต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อนว่า... ของสิ่งนี้ขายได้"
นางห่อสบู่สองก้อนที่ดีที่สุดใส่ในผ้าสะอาด เหน็บไว้ที่เอว ก่อนจะหันไปหาอาเป่าที่กำลังนั่งเล่นกับตุ๊กตาไม้ที่นางแกะให้
"อาเป่า พี่หญิงจะออกไปข้างนอกครู่หนึ่ง เ้าอยู่ในกระท่อมห้ามออกไปไหนนะ"
"ท่านจะไปไหนหรือขอรับพี่หญิง?" เด็กน้อยถามด้วยความเป็ห่วง
ลู่เมิ่งย่อตัวลงลูบหัวน้องชายเบาๆ แววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "ไปเปลี่ยนหินให้เป็ทองคำ... ไปเปลี่ยนชะตาชีวิตของเรา"
เป้าหมายของนางคือลำธารท้ายหมู่บ้าน สถานที่ซึ่งเป็ศูนย์กลางการซักล้างและ... การนินทาของเหล่าสตรี
เมื่อนางไปถึง ภาพที่เห็นคือหญิงชาวบ้านสี่ห้าคนกำลังนั่งอยู่บนก้อนหินริมน้ำ ใช้ท่อนไม้ทุบผ้าที่ซักกับก้อนหินเสียงดังเป็จังหวะ พวกนางใช้เพียงน้ำและผลซักล้าง ที่ต้องทุบให้แตกก่อนใช้ ซึ่งให้ฟองเพียงเล็กน้อยและมีฤทธิ์กัดมืออย่างรุนแรง
"โอ๊ย! ดูมือข้าสิ แตกและหยาบไปหมดแล้ว" หญิงคนหนึ่งชื่อ หลิวซ้อ บ่นอุบ นางเป็ภรรยาของนายพราน ร่างกายกำยำแต่ก็รักสวยรักงามตามประสาผู้หญิง
การปรากฏตัวของลู่เมิ่งทำให้วงสนทนาเงียบลงทันที ทุกสายตาจับจ้องมาที่นางด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งหวาดระแวง สงสัย และดูแคลน ข่าวลือเื่ที่นางข่มขู่หัวหมู่จ้าวกระจายไปทั่วหมู่บ้านแล้ว บางคนว่านางเป็ปีศาจ บางคนว่านางเรียนวิชาคุณไสย
ลู่เมิ่งไม่สนใจสายตาเ่าั้ นางเดินไปยังจุดที่ว่างอยู่ริมน้ำอย่างสงบนิ่ง หยิบผ้าขี้ริ้วที่จงใจทำให้เปื้อนโคลนติดตัวมาด้วย แล้วหยิบของวิเศษของนางออกมา... สบู่ก้อนสีขาวนวล
นางจุ่มผ้าลงในน้ำ แล้วนำสบู่มาถูเบาๆ บนเนื้อผ้า...
ภาพที่ไม่เคยมีใครในหมู่บ้านนี้เคยเห็นมาก่อนก็ได้ปรากฏขึ้น!
ฟองสีขาวละเอียดหนานุ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับปุยเมฆ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ที่นางผสมลงไปลอยอวลขึ้นมากลบกลิ่นดินโคลนจนหมดสิ้น นางขยี้ผ้าเบาๆ เพียงไม่กี่ครั้งคราบโคลนที่เคยฝังแน่นก็หลุดออกไปอย่างง่ายดายจน น่าอัศจรรย์
"์! นั่นมันอะไรกัน!" หญิงอีกคนอุทานออกมาอย่างลืมตัว
ทุกคนหยุดมือจากการทุบผ้า จ้องมองฟองสบู่ในมือของลู่เมิ่งเป็ตาเดียว
หลิวซ้อเป็คนแรกที่ทนไม่ไหว นางเดินย่องเข้ามาใกล้ๆ "แม่หนูอาลู่... ของในมือเ้านั่น... คืออะไรหรือ?"
ลู่เมิ่งเงยหน้าขึ้นสบตากับนาง แววตาเรียบเฉยแต่แฝงไปด้วยความมั่นใจ "มันเรียกว่า... ไข่มุก์"
นางตั้งชื่อมันอย่างอลังการที่สุดเท่าที่จะนึกออก เพราะนางรู้ดีว่าการตลาดที่ดีเริ่มต้นจากชื่อที่น่าจดจำ
"ไข่มุก์?" หลิวซ้อทวนคำอย่างทึ่งๆ "มัน... มันใช้ทำอะไรได้บ้าง?"
"ใช้ชำระล้างทุกสิ่ง" ลู่เมิ่งตอบเรียบๆ "ไม่ว่าจะเป็เสื้อผ้า ร่างกาย หรือเส้นผม... และที่สำคัญ" นางโชว์หลังมือของตัวเองที่แม้จะยังมีร่องรอยความกร้านอยู่บ้าง แต่ก็ดูนุ่มนวลกว่าหญิงชาวบ้านคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด มันไม่กัดมือ
คำว่าไม่กัดมือเป็เหมือนมนตร์สะกด!สตรีทุกคนมองมือของตัวเองที่แดงและแตก เป็ขุย แล้วหันกลับมามองมือของลู่เมิ่งด้วยแววตาอิจฉา
"ข...ขอข้าลองได้หรือไม่?" หลิวซ้อเอ่ยถามอย่างเกรงๆ
ลู่เมิ่งยิ้มที่มุมปาก "ย่อมได้"
นางยื่นสบู่ให้หลิวซ้ออย่างใจกว้าง หญิงร่างกำยำรับไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ นางลองนำไปถูบนเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อฟองหนานุ่มเกิดขึ้นในมือ คราบสกปรกหลุดออกอย่างง่ายดายจริงๆ!
"เหลือเชื่อ! มันดีกว่าผลซักล้างเป็สิบเท่า! แถมยังมีกลิ่นหอมอีกด้วย!" นางร้องออกมาอย่างตื่นเต้น
หญิงคนอื่นๆ เริ่มขยับเข้ามาล้อมวงด้วยความสนใจใคร่รู้
"มันทำมาจากอะไรหรือ?"
"ราคาเท่าไหร่?"
"เ้าทำเองหรือ?"
คำถามพรั่งพรูเข้ามา แต่ลู่เมิ่งยังคงสงบนิ่ง นางรอจนทุกคนเงียบเสียงลง แล้วจึงเอ่ยขึ้น "ของสิ่งนี้ข้าได้สูตรมาจากผู้าุโท่านหนึ่งขั้นตอนการทำยุ่งยากและต้องใช้เวลาถึง เจ็ดวันจึงจะได้หนึ่งชุด ข้าทำมาได้เพียงสองก้อนเท่านั้น"
นางสร้างเื่ราวเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ "วันนี้ข้าเพียงนำมาทดลองดูเท่านั้น ยังไม่ได้คิดจะขาย"
คำว่า 'ยังไม่ได้คิดจะขาย' ยิ่งกระตุ้นความอยากได้ของผู้หญิงเหล่านี้ให้พุ่งสูงขึ้น!
"ไม่ได้! เ้าต้องขายให้ข้า!" หลิวซ้อเป็คนแรกที่ประกาศกร้าว นางเป็คนตรงไปตรงมา "ข้าให้เ้าสิบอีแปะ!"
"สิบอีแปะรึ?" หญิงอีกคนหัวเราะเยาะ "ของดีเช่นนี้ สิบอีแปะเ้าจะเอาไปล้างได้แค่แขนกระมัง! ข้าให้สิบห้า!"
"ข้ายี่สิบ!"
ราคาเริ่มถูกเก็งกำไรขึ้นไปเรื่อยๆ จากสิบเป็ยี่สิบ จากยี่สิบเป็สามสิบอีแปะ! นี่คือการประมูลย่อมๆ ครั้งแรกในชีวิตของลู่เมิ่ง!
นางปล่อยให้พวกนางแข่งขันกันจนพอใจ ก่อนจะยกมือขึ้นช้าๆ "ทุกท่านโปรดใจเย็นๆ"
นางมองไปที่หลิวซ้อ ซึ่งเป็คนที่มีปฏิกิริยาตอบรับดีที่สุดและดูจะมีกำลังซื้อมากที่สุด "หลิวซ้อ... สามีท่านเข้าป่าล่าสัตว์บ่อยครั้ง คราบเืและกลิ่นสาบสัตว์บนเสื้อผ้าคงซักออกยากน่าดู"
หลิวซ้อพยักหน้าอย่างเห็นด้วยสุดๆ
"ของสิ่งนี้" ลู่เมิ่งกล่าว "จะช่วยให้ท่านประหยัดแรงและเวลาไปได้อีกมาก เสื้อผ้าของสามีท่านจะสะอาดหมดจดไร้กลิ่นรบกวน... และมือของท่าน... ก็จะกลับมานุ่มนวลอีกครั้ง"
ทุกคำพูดของนางล้วนจี้ไปที่จุดความ้าของลูกค้าอย่างแม่นยำ
นางหยิบสบู่ก้อนที่สองออกมา "ข้ามีเพียงสองก้อนจริงๆ ก้อนแรกนี้... ข้าขอขายให้หลิวซ้อในราคาห้าสิบอีแปะ เพื่อเป็เกียรติที่ท่านเป็ลูกค้ารายแรกของข้า"
"ห้าสิบอีแปะ!" ทุกคนสูดลมหายใจเฮือก ราคานี้สามารถซื้อข้าวสารได้หลายชั่ง!
แต่หลิวซ้อกลับตาโตเป็ประกาย นางคิดคำนวณอย่างรวดเร็ว... เวลาที่ประหยัดไป แรงงานที่ลดลง และมือที่สวยงามขึ้น... มันคุ้มค่า!
"ตกลง! ข้าเอา!" นางควักถุงเงินออกมานับเหรียญทองแดงให้ลู่เมิ่งทันทีโดยไม่ลังเล
เมื่อการซื้อขายแรกสำเร็จลง สตรีคนอื่นๆ ที่พลาดโอกาสก็มองมาที่สบู่ก้อนสุดท้ายด้วยสายตาละห้อย
ลู่เมิ่งหันไปทางหญิงอีกคนหนึ่งที่ดูมีอายุและฐานะดีกว่าคนอื่นเล็กน้อย "ส่วนก้อนที่สองนี้... ข้าตั้งใจจะนำไปมอบให้ท่านนายอำเภอ... แต่หากมีใครให้ราคาที่ดีกว่า... ข้าก็อาจจะเปลี่ยนใจ"
นี่คือการตลาดขั้นสูง! นางกำลังใช้ชื่อของผู้มีอำนาจมาสร้างมูลค่าเพิ่มและกระตุ้นการแข่งขัน!
สุดท้าย สบู่ก้อนที่สองก็ถูกขายไปในราคาสูงถึงหกสิบห้าอีแปะ!
ลู่เมิ่งเก็บเงินเหรียญที่หนักอึ้งใส่ถุงผ้าด้วยหัวใจที่พองโต นางโค้งคำนับให้ทุกคนอย่างงดงาม "ขอบคุณทุกท่านที่อุดหนุน หากไข่มุก์ ล็อตต่อไปเสร็จเมื่อใด ข้าจะแจ้งให้ทุกท่านทราบอีกครั้ง"
นางเดินจากไปท่ามกลางสายตาชื่นชมและอิจฉาของหญิงเ่าั้ ทิ้งไว้เพียงตำนานของไข่มุก์ที่จะถูกบอกเล่าปากต่อปากไปทั่วทั้งหมู่บ้าน
เมื่อกลับมาถึงกระท่อม นางเทเหรียญทองแดงหนึ่งร้อยสิบห้าอีแปะลงบนโต๊ะไม้เก่าๆ เสียงกระทบกันของมันไพเราะกว่าเสียงดนตรีใดๆ ในโลก
อาเป่ามองกองเหรียญด้วยตาโต "พี่หญิง... นี่ท่านไปเอามาจากไหนหรือขอรับ?"
ลู่เมิ่งยิ้มกว้างอย่างที่ไม่เคยยิ้มมาก่อน นางหยิบเหรียญขึ้นมาหนึ่งเหรียญ วางลงบนมือน้องชาย "อาเป่า... นี่ไม่ใช่แค่เงิน"
นางมองออกไปนอกกระท่อมที่ผุพัง แววตาของนางมองไกลไปถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
"นี่คือศิลาฤกษ์... ศิลาฤกษ์ก้อนแรก... ของอาณาจักรที่เราจะสร้างมันขึ้นมาด้วยกัน"