บทที่ 142 หานเซียงจื่อขี้โมโห
หลังอาหารเช้าผ่านไป เย่จื่อเฉินหัวเราะออกมาเบาๆ ขณะช่วยเย่หรงทำความสะอาดโต๊ะ
“แม่ครับ ถ้าผมมีเวลาเดี๋ยวผมทำอาหารให้แม่กินนะ”
"ลูกเนี่ยนะ?" เย่หรงพูดด้วยท่าทางเข็ดขยาด "ลูกเคยพูดแบบนี้มาก่อน แล้วตอนนั้นผลเป็ไง... "
เย่จื่อเฉินทำหน้าเก้อเขินทันทีที่ได้ยิน...
ครั้งนั้นที่เขาทำกับข้าว เขาเกือบทำไฟไหม้บ้าน
แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป เขามีเคล็ดลับการทำอาหารของเทพอาหารอยู่ในมือแล้ว
“นั่นมันเื่ั้แ่สมัยไหนแล้วครับ ถ้าแม่ไม่เชื่อผม เดี๋ยวมีเวลาจะโชว์ฝีมือให้แม่ดู ไม่ด้อยไปกว่าเชฟในโรงแรมห้าดาวแน่นอน”
“ช่างมันเถอะลูก”
เห็นได้ชัดว่าเย่หรงนั้นเห็นคำพูดของเย่จื่อเฉินเป็เพียงเื่ตลก
เถียนเถียนถือกระเป๋านักเรียนใบเล็กของเธอรออยู่ในห้องนั่งเล่นแล้ว เย่หรงเช็ดมือของเธอแล้วชี้ไปที่ชามและตะเกียบในอ่าง
“ส่วนที่เหลือพวกนี้ลูกล้างนะ แม่จะไปส่งเถียนเถียนที่โรงเรียน”
"ได้ครับ"
"บ๊ายบายค่ะคุณพ่อ"
เถียนเถียนตัวน้อยยิ้มและโบกมือให้เขาอย่างอ่อนหวาน จากนั้นเขาจึงเดินมายืนส่งเย่หรงกับเถียนเถียนออกจากบ้าน หลังจากเย่จื่อเฉินล้างถ้วยชามบนโต๊ะอาหารในอ่างล้างจานเรียบร้อยแล้ว ก็นั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น
เย่จื่อเฉินเปิดโทรศัพท์ด้วยความเคยชิน เพื่อดูว่ามีใครในกลุ่มแจกอั่งเปาหรือไม่ และดูว่า่นี้เทพเ้าได้พูดถึงเื่อะไรกันบ้าง
แต่เมื่อเขาเปิดวีแชท เขาก็เห็นหมายเลข "1" สีแดงพิเศษในรายชื่อผู้ติดต่อ
หานเซียงจื่อขอเพิ่มคุณเป็เพื่อน
เทพโป๊ยเซียน หานเซียงจื่อ!
มาขอเพิ่มเพื่อนเขาทำไม หรือว่าเทพธิดาเหอเซียนกู่จะคิดว่าตนเองจะจับเธอจริงๆ เลยบอกหานเซียงจื่อ
แบบนั้นก็ไม่น่าจะมาขอเพิ่มเพื่อน เพิ่มไปก็มีเื่น่ะสิ!
วิหารเทพโป๊ยเซียน
หานเซียงจื่อจ้องหน้าวีแชทของโทรศัพท์ตาเขม็ง หลู่ตงปินที่ซ้อมดาบเสร็จ พอเห็นว่าเขายังจ้องโทรศัพท์อยู่ จึงอดที่จะเดินเข้าไปตบบ่าไม่ได้
"เหล่าหาน นี่เ้าจ้องหน้าจอนานไปแล้วนะ"
"ข้าจะต้องได้เผชิญหน้ากับเ้าเด็กนั่นทันทีที่เขากดยืนยัน"
หานเซียงจื่อหายใจฟึดฟัด เหอเซียนกู่คือคนในใจของเขา เง็กเซียนนินามผู้นี้คิดจะเข้ามาแทรกกลางเหรอ
ใครจะไปทนได้!
ใครทนได้ก็ทนไป เขาทนไม่ได้!
"เ้าไม่จำเป็ต้องทำแบบนี้หรอกน่า ในใจของเหอเซียนกู่..."
หลู่ตงปินอึกอัก พวกเขาเป็เซียนกลุ่มโป๊ยเซียนมานาน รู้จักกันดีถึงตับไตไส้พุงแล้ว
ตอนอยู่บนโลกมนุษย์ เหอเซียนกู่กับหานเซียงจื่อเคยมีความสัมพันธ์กันอยู่่เวลาหนึ่ง แต่พอกลายมาเป็เซียนทุกคนต่างก็รู้ ว่าระหว่างพวกเขามันเป็ไปไม่ได้แล้ว
"ถึงยังไงข้าก็จะต้องเผชิญหน้ากับเขาให้ได้" หานเซียงจื่อตอบกลับมาแบบหน้ามืดตามัว
หลู่ตงปินส่ายหน้า เขาไม่รู้ว่าจะปลอบสหายอย่างไรในสถานการณ์นี้ หลันไฉ่เหอที่เดินผ่านมาก็ได้พูดขึ้น
"แล้วเหอเซียนกู่ นางรู้ไหม?"
"นาง..."
หานเซียงจื่อนิ่งไป แล้วส่ายหน้า
หลู่ตงปินกับหลันไฉ่เหอถอนหายใจออกมาพร้อมกัน เถียไกว่หลี่เดินถือขวดสุราเข้ามาร่วมวงด้วย
"เซียนใหม่ผู้นั้นยังไม่รับเ้าอีกเหรอ?"
"ยัง"
หานเซียงจื่อส่ายหน้า เถียไกว่หลี่เลิกคิ้วพูด
"งั้นข้าขอเพิ่มเพื่อนเอง"
"เหล่าหลี่"
หลู่ตงปินขมวดคิ้ว เทพโป๊ยเซียนอย่างพวกเขามีตำแหน่งแยกออกมาจาก์ หานเซียงจื่อเขาหาเื่ก็ปล่อยเขาไป แต่ทำไมเถียไกว่หลี่ผู้ที่สุขุมที่สุดถึงได้เป็ไปกับเขาด้วย
"ก็เหล่าหานเป็ถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าเขาเพิ่มไม่ได้ยังไงก็ไม่มีทางสงบจิตสงบใจได้แน่ เราก็เพิ่มเข้าไปคุยด้วยเถอะ ถ้าเซียนผู้นั้นไม่พอใจจริงๆ พวกเราขอโทษไปก็จบแล้ว"
พูดจบ เถียไกว่หลี่ก็กดเข้าไปที่หน้าโปรไฟล์ของเย่จื่อเฉิน แล้วก็กดขอเพิ่มเพื่อน
ในกลุ่ม์ไม่มีข่าวใหม่อะไรอัปเดต มีแต่ทะเลาะกันแขวะกันตามปกติ
เมื่อเลื่อนดูโพสต์ ก็เห็นว่าผู้เฒ่าจันทราทำหน้าที่เป็ตัวแทนขายได้อย่างสุดความสามารถ ห้านาทีหนึ่งโพสต์ โดยโพสต์วีแชทที่เกี่ยวกับธุรกิจของเขาลงไปในโพสต์ของเพื่อนในกลุ่มของเขา
ติ๊ง!
จู่ๆ โทรศัพท์ก็สั่น เย่จื่อเฉินกดออกจากหน้าโพสต์
มีหมายเลข "1" อีกอันในสมุดรายชื่อ
เถียไกว่หลี่ขอเพิ่มคุณเป็เพื่อน
พอเห็นชื่อคนที่มาขอเพิ่มเพื่อน เย่จื่อเฉินก็หมดคำจะพูด เทพโป๊ยเซียนจะไม่จบใช่ไหม อาศัยคนหมู่มากรุมรังแกคนหมู่น้อยใช่ไหม!
ขอโทษด้วยนะ ถึงยังไงเย่จื่อเฉินก็เป็บุคคลที่มีหน้ามีตาในกลุ่ม์เหมือนกัน
ไม่ยอมให้พวกคุณมารังแกกันได้หรอกนะ
เพิ่มเลย!
ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็แค่ทักไปหายี่หนึงจินกุน
"โอ๊ะ! เขารับข้าแล้ว"
เถียไกว่หลี่ที่อุ้มขวดสุราอยู่ฉีกยิ้ม หานเซียงจื่อแย่งโทรศัพท์จากมือเขาไปทันที
เถียไกว่หลี่ : ข้าคือหานเซียงจื่อ!
เมื่อเห็นข้อความ เย่จื่อเฉินก็กลอกตาอย่างหงุดหงิด
ใครจะไม่รู้ว่าคุณคือหานเซียงจื่อ
จากนั้นจึงมองดูระดับความสนิท
เพื่อน
ก็ถูก ถ้าเป็เถียไกว่หลี่ก็อาจจะเป็เพื่อน แต่หานเซียงจื่อน่าจะเป็เ็า
เ็ากับฉัน ฉันก็ไม่จำเป็ต้องไว้หน้าเหมือนกัน
เย่จื่อเฉิน : อืม อะไร?
"พวกเ้าดู เ้าเด็กนี่มันอวดดีแค่ไหน ก็แค่เง็กเซียนที่ได้เลื่อนขั้นขึ้นมาใหม่ ยังกล้าพูดแบบนี้กับเทพโป๊ยเซียนอย่างพวกเรา เขาไม่เห็นเทพโป๊ยเซียนอยู่ในสายตาเลยสักนิด"
หานเซียงจื่อโกรธจนหนวดปลิว แต่ทุกคนที่อยู่ข้างๆ กลับทำกิจกรรมของใครของมัน ไม่มีใครสนใจเขา
"ได้ พวกเ้านี่ช่างสมกับเป็สหายรักของข้าจริงๆ"
หานเซียงจื่อถลึงตาโตใส่พวกเขา ถือโทรศัพท์ไว้พร้อมกับส่งข้อความไปอีก
เถียไกว่หลี่ : รู้ไหมว่าทำไมข้าถึงทักมาหาเ้า?
เย่จื่อเฉิน : ข้าจะไปรู้เหรอว่าเ้าทักมาหาข้าทำไม ข้ายุ่งจะตาย มีอะไรก็รีบว่ามา
โมโหชะมัดเลย!
โมโหชะมัดเลย!
ถ้าไม่ติดว่าเป็โทรศัพท์ของเถียไกว่หลี่ หานเซียงจื่ออาจจะโยนมันตกแตกละเอียดไปแล้ว
เถียไกว่หลี่ : เ้าหนู ข้าไม่สนใจว่าเ้าจะเป็เง็กเซียนที่ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาหรือยังไง อย่าลืมล่ะว่าพวกข้าคือเทพโป๊ยเซียน!
เย่จื่อเฉิน : เทพโป๊ยเซียน แล้วยังไง?
เถียไกว่หลี่ : ตอนที่พวกข้าเป็เซียน เ้ายังไม่รู้เลยว่าเ้าอยู่ในหลุมไหน!
เย่จื่อเฉิน : แล้วยังไงล่ะ ตอนนี้ข้าก็เป็เง็กเซียนระดับเดียวกับไท่ไป๋จินซิงแล้วนี่ เทพโป๊ยเซียนอย่างพวกท่านมีวังบน์ไหมล่ะ?
ตรู๊ดดด
จู่ๆ หวงอี้ก็โทรเข้ามา เย่จื่อเฉินจึงกดรับแล้วยกขึ้นแนบหู
‘พี่จื่อเฉิน ผะ ผม...ผม...’
เสียงหวงอี้ที่อยู่ในสายฟังดูตื่นเต้นมาก ฟังดูจากน้ำเสียงนั้น เย่จื่อเฉินก็อดยกยิ้มมุมปากไม่ได้
"ยืนได้แล้วเหรอ"
‘อื้ม!’
สิบกว่าปี ั้แ่เขาเกิดมาจนถึงตอนนี้ เขาไม่เคยรู้เลยว่าอะไรที่เรียกว่าการเดิน
คิดว่าคงจะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่บนรถเข็น คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อเย่จื่อเฉินปรากฏตัวออกมา จะทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไป
‘พี่จื่อเฉิน ขอบคุณพี่มากจริงๆ ครับ’
มีเสียงร้องของหวงอี้ดังขึ้นในสาย เย่จื่อเฉินเข้าใจความรู้สึกของเขาดี จึงพูดปลอบ
"นี่เป็เื่ดี จะร้องไห้ทำไม พี่สาวนายรู้เื่ที่นายยืนได้หรือยัง?"
‘พี่เขารู้แล้วครับ เขา...’
ครู่หนึ่ง เสียงร้องไห้ด้วยความดีใจของหวงเซิงเหม่ยก็ดังเข้าในสาย เย่จื่อเฉินถอนหายใจเบาๆ แล้วไหวไหล่พูด
"ฮ่าฮ่า บอกพี่สาวนายด้วยว่าอย่าร้อง ตอนนี้ฉันกำลังไปหา เดี๋ยวจะไปตรวจดูให้รอบหนึ่ง ถึงตอนนั้นเราค่อยออกไปกินข้าวด้วยกัน ถือว่าเป็การฉลองให้กับนาย"
‘ครับ’
กดวางสายไป เมื่อเย่จื่อเฉินมองดูหน้าจอแชท ถึงได้เห็นว่าหน้าจอโดนหานเซียงจื่อครองไปแล้ว
ก็แค่คำพูดข่มขู่ของเทพโป๊ยเซียนอย่างพวกเขานั่นแหละ
เย่จื่อเฉินอ่านแล้วก็ต้องกลอกตา ก่อนจะส่งข้อความไปให้เขา
เย่จื่อเฉิน : ข้ามีธุระต้องออกไปข้างนอก ถ้ามีเวลาเราค่อยคุยกัน
แสยะยิ้มพร้อมกับกดออกจากแชท เมื่อหานเซียงจื่อที่อยู่ในวิหารเทพโป๊ยเซียนเห็นข้อความ...
เพล้ง!
เขวี้ยงโทรศัพท์ใส่พื้นจนแตกละเอียดทันที
"โมโหชะมัดเลย!"
ปึก!
หลังของหานเซียงจื่อโดนไม้ฟาดใส่ทันที เมื่อหันไปก็เห็นว่าเถียไกว่หลี่อุ้มขวดสุรา พร้อมกับถือไม้เท้าสีทองอยู่ด้วยความโมโห
"โทรศัพท์ข้า!"