อวี๋หรูไห่หันไปมองท่านหมอเจียงผู้นั้น แย้มยิ้มพลางพยักหน้านับได้ว่าเป็การทักทายทว่าภายในใจกลับไม่รู้แน่ชัดว่ามู่เหยี่ยนพาท่านหมอในตำบลเลื่องชื่อมาทำอันใด
ท่านหมอเจียงผู้นั้นแย้มยิ้มให้อวี๋หรูไห่อย่างเป็มิตร“ท่านหมออวี๋ ข้าน้อยนามเจียงชิงเหอข้าเห็นแผลบนหลังของนายท่านมู่กลับเป็ปกติแล้วฝีมือการรักษาของท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆทำให้ข้าผู้ไร้หนทางรับมือกับโรคแผลพุพองรู้สึกเลื่อมใสยิ่งนัก”
วันนั้นหลังจากมู่เหยียนออกไปจากสกุลอวี๋ภายในใจยังคงไม่วางใจนักจึงสั่งให้ข้ารับใช้ในจวนนำผงยาของอวี๋เจียวส่งไปให้เจียงชิงเหอแห่งสำนักหุยชุนในตำบลตรวจดูเมื่อได้รับการยืนยันจากปากของเจียงชิงเหอว่ายานี้ไร้พิษหลังจากลองใช้หนึ่งครั้งถึงได้กินยาตามที่อวี๋เจียวแนะนำ
เจียงชิงเหอคอยเอาใจใส่หลังจากอ่านเทียบยาที่ข้ารับใช้สกุลมู่ส่งมาในวันนั้นวันนี้หลังจากฝนหยุดตกเขารีบมุ่งหน้าไปยังจวนสกุลมู่เพื่อช่วยตรวจดูการฟื้นตัวของแผลบนหลังมู่เหยี่ยนหลังจากตรวจดูเป็อันต้องตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าแผลบนหลังของมู่หยี่ยนจะไม่ลุกลามอีกต่อไปคล้ายยามนี้ปากแผลสมานจนหมดแล้ว มีหัวแผลบางจุดเริ่มตกสะเก็ดผ่านไปอีกไม่กี่วันก็จะดีขึ้นมากโข
โรคแผลพุพองบนหลังยากรักษาให้หายขาดเจียงชิงเหอเป็หมอมานานหลายปีแต่ไม่เคยพบเจอวิธีการรักษาเช่นนี้ดังนั้นจึงซักถามถึงท่านหมอผู้จัดเทียบยาเช่นนี้จากมู่เหยี่ยนอยู่พักใหญ่ได้ยินเพียงมู่เหยี่ยนบอกว่าคือหมอท่านหนึ่งในหมู่บ้านเขาไปหารือกับร้านยาสกุลเฉิน คิดอยากจะซื้อวิธีรักษาจากท่านหมอในหมู่บ้าน
เมื่อรู้ว่ามู่เหยี่ยนจะไปเยือนเพื่อขอบพระคุณเขาถึงได้ติดตามมาด้วย
อวี๋หรูไห่เป็หมอ ถึงแม้จะเป็เพียงหมอในหมู่บ้านแต่เขาก็รู้ว่าสำนักหุยชุนคือร้านยาขนาดใหญ่อันดับต้นในตำบลได้ยินว่าสกุลเฉินของสำนักหุยชุนร่ำรวยมากนอกจากนั้นยังมีร้านขายยาขนาดใหญ่อยู่ในเมือง ฐานะสูงส่งอย่างยิ่งสมุนไพรที่พวกเขาเก็บมาในยามปกติ หากคิดจะขายไปยังสำนักหุยชุน ช่างนับเป็เื่ยากเย็นยิ่งนัก
ครั้นได้รับความเคารพเลื่อมใสจากท่านหมอในสำนักหุยชุนภายในใจของอวี๋หรูไห่นึกลำพอง แต่ยังอดใจฝ่อไม่ได้เพราะถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้เป็คนรักษาโรคแผลพุพองนั้น
เขาอยากรับความดีความชอบจากการรักษาโรคแผลพุพองเอาไว้ แต่ก็รู้ว่ามู่เหยี่ยนอยู่ในเหตุการณ์เช่นกันเขาจึงทำได้เพียงแย้มยิ้มอย่างถ่อมตน “ท่านหมอเจียงชมเกินไปแล้วโรคแผลพุพองของนายท่านมู่ยังต้องพึ่งหลานสะใภ้ของข้าเป็ส่วนมากข้าแค่ช่วยออกแรงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”
“หืม?” หมอเจียงผู้นั้นเผยสีหน้าไม่เข้าใจ“นึกไม่ถึงว่าหลานสะใภ้ของท่านจะเป็คนรักษาโรคแผลพุพองของนายท่านมู่จนหายดี?”
มู่เหยี่ยนที่อยู่ด้านข้างอธิบายได้ถูกจังหวะ“หลานสะใภ้ของท่านหมออวี๋เป็หมอเช่นกัน มีวิชาหมอล้ำเลิศ”
เขากวาดตามองภายในห้อง เมื่อไม่เห็นเงาของอวี๋เจียวจึงเอ่ยถามอวี๋หรูไห่ว่า“เหตุใดถึงไม่เห็นแม่นางเมิ่ง? ข้ามาในครั้งนี้ก็เพื่อขอบคุณนาง อีกทั้งยังมาขออภัยด้วย”
อวี๋หรูไห่เอ่ยทั้งรอยยิ้ม “นางกำลังต้มยาอยู่ในห้องครัว”เขาหันมองไปทางสตรีแซ่อวี๋โจว บอกใบ้ให้นางไปเรียกอวี๋เจียวเข้ามา
สตรีแซ่อวี๋โจวไปห้องครัว เอ่ยกับอวี๋เจียวด้วยน้ำเสียงปกติ“นายท่านให้มาเรียกเ้าไปที่ห้องโถง”
อวี๋เจียวปรายตามองนางจากนั้นก้มหน้าจดจ้องยาในหม้อที่ยังต้มไม่เสร็จ
สตรีแซ่อวี๋โจวรู้สึกว่าถูกดูถูก หากเป็ยามปกตินางจะต้องเอ่ยวาจาตำหนิออกไปแล้ว แต่เพราะวันนี้ในจวนมีแขกคนสำคัญอีกทั้งยังเป็ผู้ที่อวี๋เจียวรักษาจนหายดีดังนั้นนางพยายามอดกลั้นความไม่พอใจและเอ่ยว่า “นายท่านมู่บอกว่าจะขอบคุณเ้าอย่าปล่อยให้แขกต้องรอนาน”
กล่าวจบไม่สนใจอวี๋เจียวและหันหลังเดินออกไป
อวี๋ฝูหลิงเผยสีหน้ายินดี“คาดไม่ถึงว่าเ้าจะรักษาโรคแผลพุพองของนายท่านมู่ผู้นั้นจนหายจริงๆ ! อวี๋เจียวเ้ารีบไปเถิด ข้าจะดูยาหม้อนี้เอง”
อวี๋เจียวไม่รีบไม่ร้อน ยังคงคอยดูเตาต้มยาต่อไป “ไม่รีบรอกระทั่งต้มยาเสร็จข้าค่อยไป”
ภายในห้องโถง อวี๋หรูไห่ทักทายมู่เหยี่ยนและท่านหมอเจียงอีกไม่กี่ประโยคเมื่อเห็นว่าอวี๋เจียวยังไม่มาจึงเร่งเร้าให้สตรีแซ่อวี๋โจวไปตามอวี๋เจียวอีกครั้ง
สตรีแซ่อวี๋โจวจนปัญญาทำได้เพียงลุกออกจากห้องโถงเพื่อไปตามอวี๋เจียวในห้องครัว
“เ้าเอาแต่ใจอะไร? จะต้องให้มาเชิญสามรอบห้ารอบถึงจะยอมไปงั้นหรือ?” สตรีแซ่อวี๋โจวถลึงตาจ้องอวี๋เจียวเอ่ยเย้ยหยันอย่างโมโหด้วยน้ำเสียงเ็า
อวี๋เจียวไม่สนใจนางรอจนน้ำสมุนไพรที่เดิมทีเกือบเต็มหม้อถูกเคี่ยวจนเหลือปริมาณหนึ่งถ้วยนางถึงยกหม้อยาออกมา เทน้ำยาข้างในใส่ถ้วยแล้วส่งให้อวี๋ฝูหลิง“ให้พี่ห้ากินตอนกำลังอุ่น”
อวี๋ฝูหลิงรีบขานรับ จากนั้นยกถ้วยยาไปให้อวี๋ฉี่เจ๋อ
คราวนี้อวี๋เจียวถึงเช็ดมือและตามสตรีแซ่อวี๋โจวไปยังห้องโถง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้