ฉินเฟิงเปิดการแจ้งเตือนอีกครั้งเป็คนเดิม โปรไฟล์ไม่ได้เปลี่ยน แต่รูปโปรไฟล์เปลี่ยน
จากความชำนาญของฉินเฟิงที่เห็นหน้าอกมามากมายนับไม่ถ้วนเขาพูดได้ว่าอาวุธชนิดนี้มีพลังเกิน 50,000 มันสามารถฆ่าชายโสดได้ในพริบตาอย่างไรก็ตาม เนื่องจากหน้าอกนี้มันน่าทึ่งเกินไปฉินเฟิงจึงสงสัยว่าคนคนนี้อาจจะเพิ่งโหลดรูปจากเน็ตมา ขาเมื่อกี้ก็เช่นกันมันสวยมากจนดูเหมือนปลอม
เขามั่นใจมากขึ้นว่าคนคนนี้ต้องเป็ผู้หญิงที่ใช้ร่างกายหลอกเงินชาวบ้านฉินเฟิงมองคนประเภทนี้ด้วยความดูถูก เขาจึงปฏิเสธคำขอไปอีกครั้ง
“ฮะ? ร่องนี้ยังไม่ดีพออีกเหรอ? อยากให้ฉันแก้ผ้าจนโป๊เลยหรือไง?”
ภายในออฟฟิศหลี่อวี่เฉินโกรธมากจนปอดแทบะเิตอนแรกเธอไม่ใช่คนที่ใช้รูปร่างหน้าตาดึงดูดคนอื่นแต่เธอฝืนตัวเองทำในสิ่งที่ไม่เต็มใจเพื่อเติมเต็มความหวังของแม่สุดท้ายแล้วนายน้อยฉินก็ไม่สนใจแม้แต่จะรับแอดเธอ
เธอรู้ว่าถ้าเธอส่งคำขอเป็เพื่อนแบบนี้อีกครั้งเขาจะต้องรำคาญแน่นอน และเขาอาจจะบล็อกเธอตลอดกาลเลยก็ได้หลังจากพิจารณาสักพักแล้ว หลี่อวี่เฉินก็ยอมแพ้และหยุดเธอตัดสินใจจะลองแอดเขาใหม่ในภายหลัง...
เมื่อไม่มีคำขอเป็เพื่อนให้วุ่นวายใจโทรศัพท์ของฉินเฟิงก็ดังออกมาทันที เขาดูสายเรียกเข้า เป็เบอร์ที่ไม่คุ้นเคย
“สวัสดีครับ ขอบคุณที่โทรมาที่แผนกการขายของหวงเจียกรุ๊ปนะครับผมคือตัวแทนฝ่ายขายระดับเหรียญทอง ฉินเฟิง ถ้าคุณ้าซื้อบ้านผมสามารถพูดเกี่ยวกับรายละเอียดได้...ผมคือยอดนักขายของบริษัทแห่งนี้ธุรกิจทั้งหมดจะเจรจาและเซ็นสัญญาในบริษัทเท่านั้นผมขอปฏิเสธดินเนอร์และการนัดพบทุกชนิดที่เป็ข้ออ้างในการซื้อบ้านหรือต่อรองสัญญาแน่นอนว่าถ้าคุณสวยมันก็อีกเื่หนึ่ง” ในฐานะตัวแทนฝ่ายขายฉินเฟิงพูดทั้งหมดด้วยความจริงจัง
เมื่อสวี่รั่วโหรวที่นั่งอยู่ตรงข้ามเห็นฉินเฟิงพูดทั้งหมดนี้ด้วยความจริงจังเธอก็อดหัวเราะไม่ได้
ส่วนไป๋ชิงคนที่อยู่อีกด้านของโทรศัพท์มีท่าทีใ เธอคิดว่าตัวเองโทรผิด “โอ้? ดิฉันก็สงสัยแล้วเชียวว่าทำไมนายน้อยฉินถึงไม่มาที่โรงแรมหวงเจียเลยกลายเป็ตัวแทนฝ่ายขายแล้วนี่เอง...ถ้าหญิงงามทุกคนในเมืองเว่ยเฉิงรู้เข้าพวกเธอจะไม่ะโน้ำตายเลยเหรอ?”
“ไอ้หยา ชิงชิงคนสวยนี่เอง ผมเพิ่งคิดถึงคุณและกำลังจะโทรหาคุณอยู่พอดีเลยนี่ผมกำลังจะกดเบอร์คุณเลยนะเนี่ย คุณกลับโทรมาก่อนเสียอีก”ฉินเฟิงจำเสียงของไป๋ชิงได้
เขากำลังคิดอยู่เลยว่าจะทำอย่างไรกับภารกิจของไป๋ชิงดีเขาเลยจะใช้โอกาสนี้ลงมือ
“นายน้อยฉินคะ ถ้าดิฉันจำไม่ผิด คุณไม่เคยถามเบอร์ของดิฉันเลยนะคะแล้วคุณจะโทรหาดิฉันได้อย่างไร?” เสียงของไป๋ชิงดูขี้เล่นอย่างมากใครก็ตามที่ได้ยินอาจจะรู้สึกแขนขาอ่อน ทว่าใบหน้าของเธอในตอนนี้กลับเ็าอย่างไม่น่าเชื่อ
เธอกัดริมฝีปากแน่นและจิตสังหารแลบผ่านั์ตาของเธอ
ครั้งล่าสุดที่เธอกับฉินเฟิงเจอกันก็คือเมื่อเดือนก่อนตอนที่ฉินเฟิงพาเธอไปร้านเครื่องประดับหวงเจียและซื้อสร้อยเพชร5กะรัตในราคา 890,000 หยวน อย่างไรก็ตามหลังจากที่ซื้อสร้อยคอนั้นแล้ว ไป๋ชิงก็ไม่เคยใส่มันอีกเลย
ทำไมเธอต้องใส่สร้อยที่ฉินเฟิงให้ด้วย? เธอเกลียดฉินเฟิงแบบไม่มีที่สิ้นสุด
ถ้าสร้อยเส้นนี้ให้เธอเมื่อ4ปีก่อน ไป๋ชิงอาจจะซึ้งใจและแต่งงานกับฉินเฟิงแต่ตอนนี้เขาให้เธอเพื่อเอาใจ เลยทำให้ไป๋ชิงเกลียดฉินเฟิงมากยิ่งขึ้น
“อะแฮ่ม ชิงชิงคนสวยมีอะไรหรือเปล่าถึงได้โทรมาหาผม?” คำโกหกของฉินเฟิงโดนจับได้ เขาจึงกระแอมสองทีก่อนจะเปลี่ยนเื่
“นายน้อยฉินคะ เรามีงานเลี้ยงรุ่นสมัยม.ปลาย และทุกคนต่างก็พาคนสำคัญไปดิฉันเลยอยากจะพาคุณไปงานเลี้ยงรุ่นในฐานะแฟนหน่อยน่ะค่ะ คุณพอจะมีเวลาสนใจมาหรือเปล่าคะ?”ไป๋ชิงกล่าวแบบหยอกล้อ
“แฟนปลอมเหรอ?” ฉินเฟิงเลิกคิ้วเขารู้สึกว่านี่มันไม่ใช่ความคิดที่ดี
“จะคิดอย่างนั้นก็ได้ค่ะ” ไป๋ชิงกล่าว“งานเลี้ยงรุ่นจะจัดขึ้นที่บ้านพักตากอากาศเราจะออกเดินทางภายในหนึ่งชั่วโมงและค้างคืนกันที่นั่นถ้าคุณสนใจเข้าร่วมงานเลี้ยงรุ่นในฐานะแฟน คืนนี้เราคงต้องอยู่ด้วยกันอย่างแน่นอน”
สีหน้าของฉินเฟิงเปลี่ยนทันทีเขาพูดด้วยความจริงใจสุดๆ “งานเลี้ยงรุ่นสมัยม.ปลายเป็งานที่สำคัญคุณจะรักษาหน้าได้อย่างไรถ้าไม่พาแฟนไป รอก่อนนะ ผมจะไปถึงที่นั่นในสิบนาทีอย่าคิดไปก่อนโดยไม่มีผมล่ะ!”
หลังจากวางสายฉินเฟิงยืนขึ้นทันที เขามองสวี่รั่วโหรวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “รั่วโหรวหลังเลิกงานไม่ต้องรอฉันนะ กลับไปพร้อมกับพี่อิ๋งอิ๋งและรถของท่านประธานฉินแล้วบอกเขาว่ามีปรมาจารย์แห่งการขายกำลังจะมาแชร์ประสบการณ์การขายหลายปีที่เมืองเว่ยเฉิงฉันต้องไปฟังบรรยายและเรียนรู้เทคนิคการขายจากรุ่นพี่มื้อค่ำคืนนี้ไม่ต้องรอนะ...กินเสร็จแล้วก็ไม่ต้องรอ พักผ่อนก่อนได้เลย”
หลังพูดจบฉินเฟิงก็วิ่งออกไปดั่งสายลม หลังจากวิ่งไปครึ่งทางเสียงของขี้ข้าก็ดังออกมาจากด้านหลัง “ฉินเฟิง ชั่วโมงทำงานแกจะวิ่งไปไหน...เฮ้ได้ยินหรือเปล่า? รีบกลับมานี่นะหัวหน้าหวังกำลังหาแกอยู่”
เสี่ยวจางะโดังขึ้นดังจนเจ็บคอ แต่ฉินเฟิงไม่ได้ชายตามองเขาั้แ่แรก เขาเลยหายไปจากสายตาแล้ว
10 นาทีต่อมา จักรยานคร่ำครึได้มาจอดในที่จอดรถวีไอพีของโรงแรมหวงเจียเมื่อฉินเฟิงลงจากจักรยาน เขาก็เห็นยามกำลังวิ่งมา
“เฮ้ ไอ้เด็กเปรต นี่คือลานจอดรถวีไอพีของโรงแรมหวงเจีย แกกำลังขี่...”ยามหยุดะโกะทันหันเพราะเขารู้จักฉินเฟิง นี่คือคุณชายของโรงแรมหวงเจียนายน้อยฉิน
สีหน้าของยามเปลี่ยนเหมือนกับแสดงเปลี่ยนหน้ากากเขาเปลี่ยนจากสีหน้าโกรธเกรี้ยวเป็รอยยิ้มเอาใจในทันที “นายน้อยฉินครับคุณโคตรเท่เลยเวลาขี่จักรยานคันนี้!”
“ในสังคมปัจจุบันนี้ ตราบใดที่มีเงิน พวกลูกคุณหนูตดเหม็นมักจะชอบแข่งกันอวดรวยและใช้รถหรูพวกมันดูดเงินจากตระกูลมาใช้เพื่ออวดชาวบ้าน...มีน้อยมากที่จะเป็เหมือนนายน้อยฉินแม้จะรวยและมีอิทธิพลมากแต่ก็ยังทำตัวติดดินและเป็กันเองเป็สังคมที่น่าเศร้ายิ่งนัก”
ขณะที่พูดอยู่ั์ตาของยามก็เปียกชื้น “นายน้อยฉินครับ คุณเป็คนที่ผมเอาเป็แบบอย่างผมซึ้งใจจริงๆ”
“ประจบเสร็จหรือยัง? ถ้าพูดมากกว่านี้อีกฉันจะไม่ให้ทิปนาย”ฉินเฟิงพูดเสียงต่ำ “คอยดูพาหนะของนายน้อยผู้นี้ให้ดีด้วย ถ้ามันขาด ลอกหรือโดนขโมย นายมีปัญหาแน่”
“นายน้อยฉินครับ ไม่ต้องห่วง ข้าน้อยจะคอยดูแลมันอย่างดีแน่นอน!”ยามให้สัญญาขณะพยายามจะเอาใจฉินเฟิง
เขามองดูฉินเฟิงที่ค่อยๆหายไปก่อนที่จะกล้าเผยท่าทีดูถูก เขาบ่นกับตัวเอง “เชอะ นายน้อยอะไรวะ? อุตส่าห์ชมตั้งนาน แค่น้ำขวดเดียวก็ยังไม่ให้ ขี้ตืดจริง”
ฉินเฟิงจามตลอดทางั้แ่ที่จอดรถจนมาถึงโรงแรมหวงเจียเขารู้ว่าต้องมีใครนินทาเขาลับหลังแน่ๆ
“นายน้อยฉิน คุณมาแล้ว!” เมื่อฉินเฟิงเดินเข้าโรงแรมผู้จัดการทุกคนและพวกพนักงานต่างๆ ก็พากันวิ่งมาต้อนรับ
เขาไม่ได้มาโรงแรมหวงเจียนานแล้วด้วยการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเขา พนักงานของโรงแรมจึงไม่กล้าที่จะละเลย
ฉินเฟิงเมินเหล่าคนที่พูดจาเอาใจพวกนั้นหลังจากเข้าห้องโถงของโรงแรม เขาก็ยืนตะลึงสายตาของเขามองตรงไปข้างหน้าและจับจ้องอยู่บนร่างกายที่ยั่วยวนของสาวงาม
ในความทรงจำของฉินเฟิงไป๋ชิงใส่ชุดทำงานตลอด สูทสีดำกับถุงน่องสีดำนี่เป็ครั้งแรกที่เขาเห็นเธอใส่ชุดลำลอง
เธอใส่เดรสสีน้ำเงินและมีการถักทออย่างเรียบง่ายบนชุดขาที่เนียนสวยและส้นสูงสีดำเงา เธอให้กลิ่นอายชนชั้นสูงและเย้ายวน
นี่เป็ชุดเดรสยาวและมีคอต่ำมันเผยหน้าอกเรียบเนียนชวนน่าหลงใหลของไป๋ชิง กระดูกไหปลาร้าที่งดงามและประณีตคอที่เรียบเนียนราวกับหยก มีรายละเอียดที่คุ้มค่าแก่การชื่นชมและการใส่สร้อยเพชรหรูหราที่ระยิบระยับบนคอเนียนเหมือนหยกของเธอทำให้ชุดของเธอดูมีระดับขึ้น
ไป๋ชิงเห็นฉินเฟิงแล้วเธอแสดงรอยยิ้มอันมีเสน่ห์บนใบหน้าและเดินมาหาฉินเฟิง
ทุกย่างก้าวจะมีเสียงส้นสูงกระทบกับพื้นหินอ่อนเสียงนั้นก้องกังวานในหัวใจของฉินเฟิง มันเป็จังหวะที่ดูเย้ายวนเหลือหลายชายกระโปรงที่คลุมเข่าของเธอพลิ้วไหวเล็กน้อย ทำให้ดึงดูดสายตาของฉินเฟิงเธอยังไม่ทันได้มาถึง แต่เขาก็สามารถได้กลิ่นหอมที่ลอยออกมาจากใต้กระโปรงแล้ว
ด้วยใจจริงฉินเฟิงภาวนาให้ไป๋ชิงสะดุดล้มเพื่อจะได้แอบมองว่าเธอใส่กางเกงขาสั้นกันไว้ข้างใต้หรือไม่
“นายน้อยฉินคะ อะไรถึงทำให้คุณดูตะลึงขนาดนั้นเหรอคะ?” ไป๋ชิงเดินมาหาฉินเฟิงและวางมือไว้บนไหล่ของเขาเธอตั้งใจแนบตัวติดกับฉินเฟิงและยื่นหน้าอกขาวนุ่มให้ฉินเฟิงได้เห็น
ฉินเฟิงใช้แรงทั้งหมดดึงไป๋ชิงเข้ามากอดแน่นทันทีเขากระซิบข้างหูของเธอ “ชิงชิงคนสวย เราโดดงานเลี้ยงรุ่นกันไหม? เข้าห้องกันเถอะ ผมมีคำถามจากงานวิจัยมากมายที่อยากจะพูดคุยกับคุณ”
ไป๋ชิงไม่ได้ระวังถึงการกระทำอย่างกะทันหันของฉินเฟิงทำให้เธอร้องด้วยความใตอนนี้คางของเธออยู่บนไหล่ของฉินเฟิง และใบหน้าของเธอก็ติดกับหูของฉินเฟิง เธอรู้สึกถึงมือของฉินเฟิงที่ยุกยิกไปด้านหลังทำให้ความเ็าบางๆ ผ่านั์ตาที่มีเสน่ห์ของเธอ
“นายน้อยฉินคะ คนดูตั้งเยอะตั้งแยะ คุณหยาบคายขนาดนี้ได้อย่างไร? ทุกคนเขาเขินกันหมดแล้วนะคะ”ไป๋ชิงยิ้มละเมียดละไมและดิ้นออกจากอ้อมกอดของฉินเฟิง “ดิฉันตอบตกลงไปแล้วว่าจะไปวันนี้และอยู่ถึงวันพรุ่งนี้รอเราถึงบ้านพักตากอากาศก่อน แล้วเราค่อยอยู่ด้วยกันทั้งคืน ดังนั้นไม่ต้องรีบค่ะ”
เป็อีกครั้งที่ไป๋ชิงอิงแอบเข้าอ้อมกอดของฉินเฟิงและตีอกของเขาเบาๆฉินเฟิงจับมือของไป๋ชิงและยิ้มอย่างรื่นเริง “ก็ได้ๆ ผมไม่รีบหรอก ผมไม่รีบพอเราถึงบ้านพักเมื่อไรค่อยวิจัยกัน”