่เย็น
ร่างหนานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานกลางห้องในชุดเดียวกันกับที่ใส่เมื่อ่เช้าตอนออกไปร้านกาแฟ เขากำลังไล่อ่านข่าวสารประจำวันบนหน้าเว็บไซต์ต่างๆ โดยที่ชายหนุ่มจะให้ความสนใจเป็พิเศษเกี่ยวกับข่าวของราชวงศ์ ซึ่งเขาทำแบบนี้มาั้แ่สมัยที่ยังเรียนอยู่ที่อังกฤษแล้ว ทำให้ค่อนข้างที่จะรู้จักคนสำคัญและความเป็ไปของที่นี่อยู่พอสมควรแม้ตัวเขาจะไม่ค่อยได้กลับมาไทยก็ตาม
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นทำให้ใบหน้าหล่อละสายตาออกจากจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้าแล้วมองไปที่ประตูนิ่งโดยไม่ได้พูดอะไร
“คามิน…อาธเนศนะ ขออาเข้าไปหน่อยสิ” เสียงเข้มของผู้ชายดังขึ้นที่อีกฟากหนึ่งของประตู
ร่างแกร่งที่พอรู้ว่าเป็ใครเขาก็กดปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ทันทีพร้อมกับเอี้ยวตัวไปหยิบแก้วเหล้าทรงเตี้ยที่วางไว้ไม่ห่างจากจุดที่เขานั่งมากนักมาวางลงบนโต๊ะก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบบรั่นดีชั้นเยี่ยมที่อุตส่าห์ขนมาจากต่างประเทศเปิดฝาเทลงจนเกือบถึงครึ่งแก้วแล้วหยัดกายลุกขึ้นยืนก้าวเดินไปที่ประตูโดยไม่ลืมที่จะควงเหล้าในมือไปด้วยให้กลิ่นของมันคละคลุ้งฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง
กริ๊ก! มือหน้าเปิดประตูออกพร้อมกับยกน้ำสีอำพันขึ้นจิบเพียงนิด
“สวัสดีครับอา” เขาเอาแก้วออกห่างจากใบหน้าพร้อมกับโชว์รอยยิ้มให้กับอาแท้ๆ ของตน
“อืม ดื่มั้แ่หัววันเลยหรอไอ้หนุ่ม…เบาๆ หน่อยถึงแม้จะยังหนุ่มยังแน่นแต่ก็ต้องดูแลสุขภาพนะ” ผู้เป็อาของเขาเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มแต่น้ำเสียงก็แฝงความเป็ห่วงไว้ชัดเจนแม้จะไม่อยากตำหนิ
“สงสัยต้องดูแลสุขภาพจริงจังแล้วครับ เจออาแต่ละทีทำไมหล่อขึ้นทุกรอบก็ไม่รู้ ขนาดขึ้นเลขสี่แล้วแท้ๆ”
“5555 พอๆ ชมกันเกินเหตุเดี๋ยวคนแก่ก็หลงดีใจกันพอดี แต่จะดูแลดีแค่ไหนก็สู้เด็กหนุ่มอย่างเราไม่ได้หรอกน่า” อาของเขายกมือขึ้นโบกไปมาด้วยความขบขัน
“เข้าห้องก่อนไหมครับ อาอยากดื่มอะไรไหม ผมเอากลับมาเยอะเลย” คามินแง้มประตูให้กว้างกว่าเดิมแล้วผายมือเป็การเชิญ
“ไม่เป็ไรดีกว่า อาลด ละ เลิก ไปละ…อืม แต่เรายังชอบดื่มเหมือนเดิมเลยนะ ถ้าจะขนมาขนาดนี้” สายตาของคนที่โตกว่ามองไปรอบห้องของหลานชายเพียงปราดเดียวก็เห็นเหล้าหลากหลายยี่ห้อวางเรียงอยู่ทั่วห้อง
“ก็…นิดหน่อยครับ” ชายหนุ่มยิ้มจางๆ ส่งให้เพราะไม่มีอะไรจะแก้ตัว
“จริงๆ อามาชวนเราลงไปกินข้าว…แต่วางไอ้นี่ก่อน แล้วเดินลงไปด้วยคุยกันไปด้วยดีกว่า”
อาของเขาแย่งแก้วเหล้าออกไปจากมือก่อนจะวางไว้ที่ชั้นวางข้างๆ แล้วลากหลานชายของตนออกจากห้องเพื่อเดินลงไปที่ห้องอาหารซึ่งคามินก็ยอมทำตามแต่โดยดี
“แล้วเราเป็ไงบ้างมาอยู่นี่ปรับตัวได้หรือยัง หลังๆ อาไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมหาที่นู่นเลยมัวแต่ยุ่งงานทั้งภายนอกและภายในของราชวัง…”
“อืม ก็เริ่มชินแล้วนะครับ แต่อาคงเหนื่อยแย่เลยที่ต้องจัดการทุกอย่างคนเดียว…เพราะทายาทคนเดียวอย่างผมก็ไม่ได้อยู่ช่วยเหลืออะไร”
“เอาน่า จะคิดมากทำไม เหนื่อยมันก็เหนื่อยแหละแต่จะใครทำมันก็ตระกูลเดียวกันทั้งนั้นถูกไหม” มือของอายกขึ้นตบไหล่ของเขาเบาๆ
“…จริงครับ”
เขายกยิ้มบางๆ ให้อาของตัวเอง อาธเนศเป็ผู้ชายเพียงคนเดียวในชีวิตเขาที่สนิทสนมพูดคุยกันมาั้แ่เด็กๆ เพราะจะไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ
“แต่เรานี่ ทั้งสูงและหล่อขึ้นทุกครั้งที่เจอกันเลยนะ หรืออาแก่แล้วเตี้ยลงก็ไม่รู้เนี่ย 5555”
“5555 เราอย่าชมกันเองเลยครับอา ผมก็ทำตัวไม่ถูก” ชายหนุ่มหลุดหัวเราะออกมาเหมือนกัน
ทั้งคู่เดินคุยกันมาเรื่อยๆ จนถึงที่ห้องรับประทานอาหารที่ตอนนี้มีอาหารถูกจัดเตรียมไว้บนโต๊ะเรียบร้อยพร้อมกับย่าของเขาและภรรยาของอาเธศ ‘คุณหญิงมน’ นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“อามนสวัสดีครับ” คามินกล่าวทักทายทันทีที่เดินเข้ามาภายในห้องรับประทานอาหาร
“จ้า ไม่ได้เจอกันนาน หล่อขึ้นเป็กอง”
“…ขอบคุณครับ”
เขาส่งยิ้มสุภาพให้กับอาสะใภ้ของตนก่อนจะเลื่อนเก้าอี้นั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามของอาธเนศโดยมีย่ารดานั่งเป็ประธานอยู่ที่หัวโต๊ะ
อามนทิรา หรือ คุณหญิงมนทิรา ที่คนทั่วไปรู้จักในชื่อเ้าหญิงแห่งวงการอสังหาฯ เพราะเธอเป็คนที่มีที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ถือไว้ในเยอะที่สุดโดยยังไม่รวมธุรกิจอื่นๆ ของทั้งตนเองและครอบครัว…
พอทั้งสี่คนเริ่มรับประทานอาหารบรรดาสาวใช้และคนของวังก็ทยอยเดินออกไปจากบริเวณใกล้เคียงเพื่อไม่ให้เป็การรบกวน จะเหลือก็เพียงแต่ป้าช่อและต้นอ้อที่ยืนอยู่มุมด้านนอก
แค่ก แค่ก…เสียงไอของอามนดังขึ้นเป็ระยะระหว่างที่ย่ากำลังถามเื่งานต่างๆ กับอาธเนศอยู่จนในที่สุดผู้าุโที่นั่งตรงหัวโต๊ะก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาด้วยความเป็ห่วง
“ไม่สบายหรอเรา…ดูซูบๆ ลงอยู่นะ”
“ใช่ค่ะ จริงๆ มนเพิ่งไปหาหมอมา” อามนตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้แม่ของสามี
“่นี้สุขภาพมนไม่ค่อยดีผมเลยพาไปหาหมอ แต่ก็ไม่มีอะไรน่าเป็ห่วงครับ เขาทำงานเยอะพักผ่อนน้อยเลยได้พวกยาบำรุงแล้วก็พวกวิตามินอาหารเสริมมา” อาตอบแล้วยกมือขึ้นลูบไหล่ภรรยา
หนุ่มวัยใกล้สามสิบได้แต่นั่งเงียบๆ ฟังบทสนทนาตรงหน้าพร้อมกับส่งข้าวเข้าปากคำแล้วคำเล่าโดยเหลือบสายตามองอาธเนศที ย่าที อามนที สลับกันไปมาเพราะไม่รู้จะพูดอะไร
“ส่วนเราว่ายังไงล่ะ กินไม่พูดไม่จา กลับมาอยู่นี่เริ่มติดใจอยากอยู่ถาวรหรือยัง…หื้ม เ้าชายคามิน หรือจะเอาตำแหน่งไหนอีกดี?”
หญิงผมขาวหันกลับมาหาหลานชายของตนพร้อมกับจ้องใบหน้าหล่ออย่างรอคำตอบ
“ไม่เอาสักตำแหน่งได้ไหมครับ เห็นอาทำงานงกๆ แต่ละวันผมน่าจะเป็ประสาทก่อน” เขาตอบแล้วส่งยิ้มให้อากับย่าของตัวเอง
“5555 แม่อย่าไปกดดันหลานมันน่า วัยนี้ปล่อยให้ใช้ชีวิตไปเถอะ อย่าให้คามินมาทำงานจนหัวหงอกแบบผมเลย
“ช่วยกันตลอดเลยนะสองคนนี้ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ”
หญิงสูงวัยหรี่ตาลงอย่างจับผิดทำให้สามคนที่นั่งอยู่ถึงกับยกยิ้มออกมาอย่างมีความสุขที่แกล้งคุณหญิงย่าของวังได้สำเร็จ…
เคร้ง!
มือเหี่ยวย่นของผู้เป็ย่าที่กำลังจับช้อนอยู่ทำมันร่วงตกลงที่พื้นเพราะมัวแต่สนใจสิ่งอื่นจนลืมประคองช้อนในมือของตน หญิงสูงวัยพยายามเอี้ยวตัวเพื่อหยิบช้อนด้านล่างที่ตกลงไป แต่พอคามินเห็นแบบนั้นก็รีบเอื้อมแขนยาวออกไปแทนแต่ก็ไม่ไวเท่าป้าช่อที่รีบวิ่งเข้ามาหยิบพร้อมกับต้นอ้อที่เอาคันใหม่มาเปลี่ยนให้ด้วยความรวดเร็ว
“ขอบใจมาก” ย่ารดาหันไปบอกกับหญิงคนสนิท
พอทุกอย่างเรียบร้อยทั้งสี่คนก็หันกลับมาทานอาหารตรงหน้ากันต่อ แต่ทานกันไปได้ไม่กี่คำต่างก็ได้ยินเสียงดังแว่วมาจากห้องโถงด้านหน้า
“หนูไมอาน่าจะมาส่งขนมน่ะ พอดีย่าสั่งไว้…เข้ามาด้านในเลยยัยหนู”
หญิงชราบอกกับอีกสามคนบนโต๊ะก่อนจะเรียกให้สาวเ้าของร้านกาแฟเดินเข้ามาด้านใน
“เอ่อ สวัสดีค่ะย่ารดา อาธเนศ อามน…”
เสียงหวานเอ่ยทักทายแล้วยกมือขึ้นไหว้ทุกคนในโต๊ะอาหารทันทีเพราะเธอเคยได้เจอะเจออยู่บ้างเลยพอจะรู้จัก…เว้นก็แต่ผู้ชายอีกคน
นั่นมันคนที่เข้ามาร้านฉันเมื่อเช้าไม่ใช่หรอ? แล้วทำไมเขาถึงมานั่งอยู่ตรงนี้!? อย่าบอกนะว่า…
“จริงสิ…ลืมแนะนำเราเลย นั่นคามิน หลานย่า ห่างกับไมอาสองปี…ส่วนนี่หนูไมอาที่ทำร้านกาแฟอยู่หน้าวังของเรา ทำความรู้จักกันไว้สิอายุไล่เลี่ยกันน่าจะเป็เพื่อนกันได้นะ”
เสียงของหญิงที่นั่งอยู่บนวีลแชร์เอ่ยแนะนำทั้งคู่
“…!!!”
“…”
แต่หลังจากนั้นก็มีเพียงความเงียบที่เกิดขึ้นเพราะทั้งคู่เอาแต่จ้องหน้ากัน ไม่สิ มีแต่ฉันเนี่ยแหละที่มองหน้าเขาเพราะเขาทำตัวปกติแบบไม่ได้ใส่ใจ…นี่เมื่อเช้าฉันเผลอไปว่ากลิ่นตัวของเ้าชายหรอกหรอเนี่ย T.T
“งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวเอาขนมไปฝากไว้กับป้าช่อนะคะ”
พอสติเข้าที่เข้าทางไมอาก็รีบขอปลีกตัวออกจากตรงนี้ทันทีพร้อมกับส่งยิ้มให้กับทุกคนรวมไปถึงเ้าชายคามินนั่นด้วย…
หวังว่ายิ้มของฉันจะดูไม่พิลึกแล้วกันนะ
เมื่อสาวตัวเล็กเ้าของร้านหอมละมุนเดินออกไปทุกคนก็กลับมาสนใจอาหารตรงหน้ากันต่อ แต่ยังมีตาคมอีกคู่ที่คอยลอบสังเกตอาของตนเพราะอาของเขาเอาแต่มองตามร่างแบบบางเดินออกไปทำให้ชายหนุ่มต้องเอี้ยวหัวหันกลับไปแบบเนียนๆ เลยเห็นผู้หญิงที่ชื่อไมอากำลังยืนพูดคุยอย่างสนิทสนมกับป้าช่อและต้นอ้อ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหานนท์แล้วพากันเดินคุยออกไปหน้าวัง…