ถังชิงหรูปิดระบบร้านค้าหลับตาพร่ำบอกกับตัวเอง จะซื้อไม่ได้ ซื้อไม่ได้ หากใช้แต้มจิตพิสัยจนหมด ระบบก็จะเปิดใช้งานไม่ได้อีก แต่ยาบำรุงผิวเอย ยาลดหุ่นเอย ยาเสริมหน้าอกเอย แต่ละอย่างล้วนเป็ของมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งนั้น โอย... ยิ่งคิดก็ยิ่งว้าวุ่น
"เสี่ยวอี นายจงใจล่ะสิ" ถังชิงหรูเอ่ยปากอย่างพาลพาโล "รู้อยู่ว่าฉันไม่ค่อยพอใจกับร่างนี้เท่าไร นายก็เลยเอาของพวกนี้มาหลอกล่อ"
"โธ่ นายหญิง... ผมหวังดีหรอกนะครับ ในฐานะหญิงงามอันดับหนึ่งของจักรวาล รูปโฉมของท่านเวลานี้ไม่น่ามองเอาเสียเลยจริงๆ" เสี่ยวอีพ่นพิษอย่างไม่เกรงใจ "ตอนนี้มีของลดราคามากมายขนาดนั้น ท่านควรฉวยโอกาสปรับปรุงรูปโฉมของตนเองให้ดีๆ ถึงอย่างไรนี่ก็เป็ปราการด่านหน้า นายหญิงไม่คิดบ้างหรือว่าเมื่อก่อนตอนที่ท่านซื้อเครื่องประทินผิวเสริมความงาม แต่ละเดือนหมดเงินตั้งสองสามแสนเหรียญดวงดาวเชียวนะครับ"
ถังชิงหรูกัดฟันเปิดโปรแกรมร้านค้าอีกครั้ง เลือกยาบำรุงผิว ยาเพิ่มสติปัญญา ยาลดสัดส่วน ยาเสริมหน้าอก รวมแล้วจ่ายไปทั้งสิ้นหนึ่งร้อยห้าสิบหกแต้ม สุดท้ายก็เหลือแต้มจิตพิสัยอยู่เพียงเก้าสิบแต้ม
"ขอแสดงความยินดีกับนายหญิงที่ใกล้จะได้เปลี่ยนเป็โฉมงามแล้ว แต่ก็ต้องขอเตือนว่าแต้มจิตพิสัยแพทย์ของท่านเหลืออยู่เพียงเก้าสิบแต้ม ต้องขยันเก็บคะแนนเพิ่มแล้วนะครับ" เสี่ยวอีกล่าวอย่างลำพองใจ
"ฮึ! อย่างมากฉันก็แค่โละนายทิ้ง อาศัยแค่ฝีมือด้านการแพทย์ของตัวเองก็ได้ย่ะ" ถังชิงหรูแค่นเสียงเยาะ
"นายหญิงอย่างแล้งน้ำใจอย่างนี้สิครับ ไม่คิดบ้างหรือว่ามีแค่เสี่ยวอีที่รู้ประวัติของท่าน หากวันหนึ่งผมหายไป ใครจะอยู่เป็เพื่อนคุยถึงความรุ่งโรจน์ของนายหญิงในอดีตเ่าั้เล่า" เสี่ยวอีทักท้วง
ทันใดนั้นเสียงของจิ่นอีก็ดังมาจากนอกห้อง "คุณหนู อาหารค่ำเตรียมเสร็จแล้วเ้าค่ะ คุณหนูจะรับประทานที่โถงใหญ่หรือในห้องเ้าคะ"
ถังชิงหรูลุกขึ้นมานั่ง ตอบกลับไป "ตั้งสำรับที่ห้องโถงแล้วกัน"
"เ้าค่ะ" จิ่นเอ๋อร์รับคำ
ค่ำคืนอันเงียบสงบผ่านไป เช้าวันใหม่มาถึง แสงแรกแห่งอรุโณทัยสาดส่องใต้หล้า นำพาให้ผู้คนเริ่มชีวิตวันในใหม่อย่างขมีขมัน
บนถนนเปลี่ยวเงียบสงัด หนุ่มน้อยหน้ามนยืนอยู่หน้าประตู ถือประทัดไว้พวงหนึ่งก่อนจุดไฟ หลังจากนั้นโยนออกแล้ว ก็เอามืออุดหูไว้ เปรี๊ยะ.. ปุ้งปั้งๆ เสียงประทัดครึกครื้นดังสนั่น ประทัดพวงนั้นยาวมาก จึงส่งเสียงอยู่อีกครู่ใหญ่ ดึงดูดความสนใจของทุกคน หลังเสียงประทัดสิ้นสุดลง ชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้นต่างพากันมุงเข้ามา
หนุ่มน้อยที่อยู่หน้าประตูดึงผ้าแพรสีแดงที่คลุมป้ายหน้าร้านออก แล้วบอกกับทุกคน "ทุกท่าน จำข้าได้หรือไม่ ข้าคือหมอแซ่ถังที่เคยรักษาให้แก่ทุกท่านโดยไม่คิดค่ารักษา ตอนนี้มาเปิดร้านอยู่ที่นี่ ต่อไปพวกท่านมารักษาไม่ต้องตากแดดตากลมอีกแล้ว พวกท่านคงประหลาดใจ ว่าข้าเอาเงินจากไหนมาเปิดร้าน ความจริงไม่มีสิ่งใดซับซ้อน..."
คนที่เข้ามามุงล้อมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอนเริ่มแรกพวกเขายังไม่เข้าใจ แต่พอทราบสถานะของอีกฝ่าย ต่างพากันดีใจ มองถังชิงหรูด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"ก่อนหน้านี้ไม่นาน ข้าช่วยชีวิตผู้สูงศักดิ์ไว้คนหนึ่ง ท่านผู้นั้นเป็คนใจกว้าง มอบร้านค้าแห่งนี้แก่ข้า ข้าใช้เงินของเขามาซื้อสมุนไพรจำนวนมากมาย ต่อไปการตรวจรักษาและจ่ายยาก็จะสะดวกมากขึ้น กฎเกณฑ์ของข้ายังไม่เปลี่ยนแปลง หากเป็คนยากจน ไม่คิดเงินค่ารักษา ส่วนค่ายาก็คำนวณให้จากราคาทุน ไม่เอากำไรจากพวกท่านแม้แต่แดงเดียว หากลูกค้าเป็คนมีอันจะกิน ก็ต้องขออภัยที่ข้าคงต้องเรียกเก็บค่ารักษา หากทุกคนอยากได้รับการรักษา อยากให้โรงหมอสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ก็ต้องมีรายรับที่แน่นอน สมมุติว่าเป็คนมีเงินแต่แกล้งทำเป็ยากจนหลอกรับความไว้เนื้อเชื่อใจของหมอ ต่อไปก็เลิกฝันที่จะให้ข้ารักษาโรคให้ได้เลย"
พวกชาวบ้านต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ ส่วนถังชิงหรู นางกลายเป็คนมีชื่อเสียงของที่นี่ ต่อให้ไม่เคยพบเจอ พอได้ยินสถานะ ก็ย่อมรู้ว่านางคือใคร
"ไม่นึกว่าหมอเทวดาท่านนี้พอเปิดโรงหมอแล้ว ก็ยังคงดีต่อคนยากคนจนถึงเพียงนี้ เขาเป็ผู้ที่พระโพธิสัตว์กวนอิมส่งมาช่วยดับความทุกข์เข็ญให้เหล่าเวไนยสัตว์โดยแท้" แม่เฒ่าคนหนึ่งประนมมือไหว้ปลกๆ พลางเอ่ยวาจา
"โรคเก่าของข้าก็ได้หมอเทวดาท่านนี้นี่แหละรักษาจนหาย ลูกเอ๋ย เ้าก็รู้ว่าบิดาเ้าถูกโรคร้ายรุมเร้ามาสิบกว่าปี บัดนี้ก็สามารถหลับสบายได้เสียที จำหน้าตาเขาไว้ เขานี่แหละคนที่ช่วยชีวิตบิดา" ชายชราคนหนึ่งมองถังชิงหรูด้วยความตื้นตันใจ
ท่ามกลางฝูงชนทั้งหลาย คนไข้ที่เคยได้รับการรักษาต่างพากันกราบไหว้ถังชิงหรูด้วยความเคารพเลื่อมใส ส่วนคนที่ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือ พอได้ยินกิตติศัพท์การรักษาโรคของถังชิงหรู ต่างจดจำเอาไว้ในใจ
สำหรับคนยากจนเช่นพวกเขา ยินดีที่จะป่วยหนักแล้วตายไปเลยดีกว่าที่จะเจ็บไข้เล็กน้อย คนจนไม่อาจล้มป่วย มิเช่นนั้นคงได้โชคร้ายทั้งครอบครัว ด้วยเหตุนี้จึงมีคนไม่รู้เท่าไรที่ต้องะโน้ำฆ่าตัวตายเพราะโรคภัยเบียดเบียน และไม่อยากเป็ภาระให้คนในครอบครัว ตอนนี้มีพระโพธิสัตว์ผู้มีจิตเมตตามาปรากฏตัว ในที่สุดพวกเขาก็พบทางรอดแล้ว
"ท่านหมอ ท่านช่วยดูอาการาเ็ที่ขาของข้าได้หรือไม่" ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกล่าวขึ้น "แผลของข้าเป็มาหลายวันแล้ว เดิมทีอยากมาให้ท่านดูอาการ แต่่นั้นท่านไม่ได้ไปที่แผงลอย ดังนั้นจึงเฝ้ารอตลอดมา ตอนนี้าแเริ่มเป็หนอง ข้าไม่มีเงินซื้อยา ก็เลย... ได้แต่ปล่อยมันไว้อย่างนี้"
ถังชิงหรูประกาศเสร็จเรียบร้อย ได้ยินถ้อยคำของชายวัยกลางคน ก็ถอยไปสองสามก้าว "เชิญท่านเข้ามาเถิด"
หวนเอ๋อร์กับจิ่นเอ๋อร์เห็นคุณหนูผู้อ่อนหวานกลายเป็หนุ่มน้อย ทั้งยังตรวจรักษาคนไข้ ทั้งสองต้องใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่เพื่อทำความเข้าใจกับข่าวสารอันน่าตื่นตระหนกเหล่านี้
"หวนเอ๋อร์ เตรียมมีดกับน้ำร้อน" ถังชิงหรูเอ่ยปากกับสาวใช้ที่ยืนใจลอยอยู่ตรงนั้น
"เ้าค่ะ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้" หวนเอ๋อร์รีบรับคำ
คนไข้อื่นๆ เห็นถังชิงหรูเริ่มการรักษา ก็เริ่มมาต่อแถว จิ่นเอ๋อร์รั้งอยู่ต้อนรับคนไข้เ่าั้
โรงหมอกว้างขวาง ถังชิงหรูจัดพื้นที่สำหรับให้คนไข้นั่งพักผ่อนอยู่ด้านนอกระหว่างรอเข้าตรวจรักษา เพียงแต่ห้ามส่งเสียงดัง นี่คือกฎระเบียบของที่นี่
จิ่นเอ๋อร์จัดการให้พวกเขานั่งลง
ถังชิงหรูถกขากางเกงของชายคนนั้นขึ้น เห็นาแขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือ และเริ่มกลัดหนองเหมือนเช่นที่เขาบอก าแค่อนข้างฉกรรจ์ นางลองเคาะเนื้อบริเวณาแ กล่าวว่า "ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง
"เมื่อหลายวันก่อนยังรู้สึกเจ็บมาก แต่่สองวันมานี้กลับไม่รู้สึกเจ็บแบบนั้นอีกแล้วขอรับ" ชายวัยกลางคนเอ่ยอย่างว้าวุ่นใจ "ท่านหมอถัง ข้าจะกลายเป็คนพิการหรือไม่"
"ตอนนี้ยังหรอก แต่หากมาช้าอีกสองวัน ก็ไม่แน่" ถังชิงหรูหันไปพูดกับเขาด้วยรอยยิ้ม "ดังนั้น โชคชะตาของเ้านับว่าไม่เลว"
"ขอบคุณท่านหมอขอรับ" ชายวัยกลางคนยิ้มกล่าวด้วยความตื้นตันใจ
เด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งเดินมาจับมือของชายวัยกลางคน พลางมองถังชิงหรูอย่างพินิจ เขามองถังชิงหรูเอ่ยว่า "ขอบคุณขอรับ พี่ชาย"
ถังชิงหรูเห็นเด็กคนนั้นน่าเอ็นดู หลังจากทำความสะอาดาแให้ชายวัยกลางคนแล้ว ก็เล่นมายากลเสกอมยิ้มออกมาชิ้นหนึ่งส่งให้เด็กน้อย "เป็เด็กมีมารยาทจริงๆ นี่คือรางวัลสำหรับเ้า"
ั์ตาของเด็กขายทอประกายวิบวับ เขาไม่รับมาทันทีแต่หันไปมองชายวัยกลางคน ชายคนนั้นลูบศีรษะของเด็กน้อยอย่างรักใคร่ เอ่ยว่า "ขอบคุณท่านหมอเทวดา"
"ขอบคุณพี่หมอเทวดา" เด็กชายตัวน้อยพูดพลางยื่นมือออกไปรับ
ถังชิงหรูทอยิ้ม แล้วมอบยาให้ชายวัยกลางคน
ชายผู้นั้นรู้สึกเย็นที่บริเวณาแ ต้นขาที่เริ่มชากลับมามีความรู้สึกอีกครั้ง เขามองการกระทำของถังชิงหรู ก่อนเอ่ยด้วยความวิตกกังวล "ท่านหมอ ข้าค่อยๆ คืนเงินแก่ท่านได้หรือไม่ บ้านข้ามีผู้ใหญ่คือข้าเพียงคนเดียว มารดาของเขาจากไปนานแล้ว ข้าไม่อาจออกไปทำงานไกลๆ มิเช่นนั้นจะไม่มีคนดูแลบุตรชาย ดังนั้นที่บ้านจึงไม่มีเงินจริงๆ ขอรับ"
"ข้าทวงเงินท่านหรือ ไยต้องบอกเื่เหล่านี้กับข้าด้วย" ถังชิงหรูลุกขึ้น เช็ดน้ำยาบนมือของตนเอง "เรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาเปลี่ยนยาใหม่อีกครั้ง"
ชายวัยกลางคนมองนางด้วยสีหน้าตะลึงงัน "ท่านพูดไว้ว่าค่าตรวจไม่คิด แต่ค่ายายังต้องจ่าย ข้าใช้ยาของท่าน ดังนั้นก็สมควรจ่ายค่ายา"
"ใช่ แต่ยาเหล่านี้เป็แค่สมุนไพรทั่วไป ไม่ต้องใช้เงินมากมาย หลังจากาแหายแล้ว เ้ามาส่งถ่านให้ข้าห้ามัดก็พอ" ถังชิงหรูกล่าว "ยาใส่เรียบร้อย เ้าไปนั่งพักสักครู่ รอให้ขาหายเจ็บสักหน่อยค่อยไป ยานี้ให้ผลค่อนข้างดีทีเดียว ไม่ช้าก็เห็นผล"
ชายวัยกลางคนขอบตาแดง กล่าวด้วยเสียงสั่นพร่า" ขอบคุณท่านหมอเทวดา... ขอบคุณมากขอรับ"
คนไข้ที่อยู่ด้านหลังกระซิบบอก "เมื่อวานพี่ชายผู้นี้ไปตรวจที่โรงหมออีกแห่ง พอท่านหมอผู้นั้นได้ยินว่าเขาไม่มีเงิน ก็ให้ผู้คุ้มกันไล่เขาออกมาทันที าแของเขาเดิมทีไม่ได้หนักขนาดนี้ แต่ถูกคนเ่าั้ฟาดด้วยไม้กระบอง กระทบกระเทือนถึงาแก็เลยกลายเป็เช่นนี้"
"ท่านหมอถังคือพระโพธิสัตว์เดินดินช่วยคนยาก คนเป็หมอเหมือนกัน ไฉนจึงแตกต่างขนาดนี้" คนไข้อื่นๆ ได้ยินเื่นี้ แววตาที่มองถังชิงหรูก็ยิ่งเต็มไปด้วยความตื้นตัน
เปิดกิจการวันแรก ถังชิงหรูก็ยุ่งเสียจนไม่มีเวลากินข้าว คนไข้เห็นถังชิงหรูตรวจโรคไปกินซาลาเปาไป ก็นึกตระหนกในใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซาลาเปานี้คือของที่โรงหมอวางเอาไว้ให้สำหรับคนไข้ที่รอต่อแถว เป็ที่รู้กันทั่ว ว่าท่านหมอไม่เก็บเงินพวกเขาแม้แต่แดงเดียว ทั้งยังเจียดสมุนไพรส่วนหนึ่งให้กลับไปอีกด้วย ยามนี้ยังรักษาคนไข้จนไม่สนใจแม้แต่ท้องไส้ของตนเอง ใต้หล้ายังมีหมอแสนประเสริฐเช่นนี้อยู่อีกหรือ?
ชื่อเสียงความดีงามของถังชิงหรูขจรขจายไปทั่ว ทุกคนต่างรู้ว่าที่นี่มีท่านหมอเปี่ยมเมตตาดุจดั่งพระโพธิสัตว์ และจดจำว่าสถานที่แห่งนี้ในนาม 'โรงหมอสุขสำราญ'
แน่นอนว่าชื่อเสียงยิ่งเพิ่มพูนมากเท่าไร ภัยพิบัติก็ย่อมจะตามมา
"หมอถังที่อยู่ในนั้น ออกมาหาข้าเดี๋ยวนี้" ด้านนอกมีชายร่างใหญ่ส่งเสียงะโเข้ามา
ถังชิงหรูซึ่งตรวจคนไข้อยู่ข้างในได้ยินเสียง ก็ตระหนักได้ว่าต่อไปจะต้องมีละครออกโรง ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเื่แบบนี้ย่อมมิอาจหลีกเลี่ยง
พวกชาวบ้านต่างมองถังชิงหรูด้วยความห่วงใย หนึ่งในนั้นวิ่งออกไปดู หลังจากกลับมาก็บอกว่า "ท่านหมอ เขาเป็อันธพาลประจำถิ่นคนหนึ่ง มาที่นี่ต้องไม่ได้มาดีเป็แน่ เขายังพาคนมาด้วยอีกคน ดูเหมือนว่าคนผู้นั้นจะตายแล้ว"
ถังชิงหรูยกมือนวดแขนอย่างเมื่อยล้า กล่าวกับคนไข้ผู้นั้น "ขอบคุณมากที่มาแจ้ง วันนี้อาจจะมีล่าช้าบ้าง เวลาไม่เช้าแล้ว หากผู้ใดไม่รีบร้อน ก็กลับไปก่อนเถิด พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ แต่ถ้าผู้ใดอาการหนัก รบกวนรอข้าก่อน ข้าจะพยายามไล่แมลงวันตัวนั้นไปให้พ้น จะได้ไม่เสียเวลามากนัก"
"ท่านหมอ..." พอเห็นท่านหมอยังคงคำนึงถึงพวกเขาก่อน ทุกคนต่างซาบซึ้งใจยิ่งนัก ขณะเดียวกันก็รู้สึกเป็หวั่นวิตกแทนนาง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้