ขณะที่กานเฉ่ากำลังจะโต้แย้ง ไม่ว่าเื่ใหญ่เพียงใดก็ต้องรอเหล่าไท่ไท่ตื่นเสียก่อน ทว่าจู่ ๆ ประตูด้านหลังก็เปิดออก ทำเอากานเฉ่าใสะดุ้งโหยง
สีหน้ากระวนกระวายใจจนแทบลุกเป็ไฟของหยางมามาพลันเปลี่ยนเป็ยินดี รีบพยุงเหล่าไท่ไท่เข้าห้อง แม้หยางมามาจะอายุมากกว่าเหล่าไท่ไท่สี่ปี แต่เมื่อนางเห็นเหล่าไท่ไท่ยืนคนเดียวก็จะรีบไปพยุงด้วยความเคยชิน
“เหล่าไท่ไท่อย่าเพิ่งร้อนใจไปเ้าค่ะ คุณหนูสามอยู่ที่วัดสุ่ยซังก็สบายดีเ้าค่ะ แต่ที่ข้าต้องกลับมาก่อนเพราะมีเื่จะบอกท่าน” หยางมามาพยุงเหล่าไท่ไท่เข้าห้อง พลางเอ่ยสั่งการ “กานเฉ่า รีบไปจุดตะเกียง เปิดหน้าต่างนอกห้องครึ่งบาน แล้วยกแกงลูกเดือยชิงซินมาให้เหล่าไท่ไท่สักถ้วย ใส่น้ำผึ้งเยอะหน่อย” กานเฉ่ารับคำพลันเร่งจัดการทันที
เหล่าไท่ไท่ยังคงกังวลใจ นางรีบเอ่ยถาม “หงเจียง เ้าคงไม่ล้อข้าเล่นกระมัง? หากคุณหนูอี้สบายดี เหตุใดเ้าจึงไม่กลับพร้อมนางพรุ่งนี้เช้า? เกิดเื่อันใดขึ้น?”
หยางมามาพยุงเหล่าไท่ไท่กลับไปยังตั่งยาว ก่อนเปิดผ้าบางพลางเอ่ยเสียงแ่ “ทำใจดี ๆ ก่อนเ้าค่ะ บ่าวพบคุณหนูสามที่วัดสุ่ยซังแล้ว ตอนนี้นางสบายดี แม่ชีที่นั่นดีกับนางมาก หลังจากคุณหนูสามผ่านเคราะห์ร้ายในครั้งนี้แล้ว นางดูเฉลียวฉลาดกว่าแต่ก่อน พูดจาชัดถ้อยชัดคำ เสมือนผู้ใหญ่ในคราบเด็ก น่าเอ็นดูกว่าเก่าไม่น้อยเ้าค่ะ”
ขณะเอ่ย แม่นางจีก็ยกถ้วยแกงลูกเดือยเคลือบสีแดงมาให้ฮูหยินผู้เฒ่า แล้วยกถ้วยชาพุทราแดงวางบนโต๊ะข้างตั่ง นางเอ่ยเสียงเบา “หยางมามา ถ้วยชายังร้อน วางไว้สักพักค่อยดื่มนะเ้าคะ ข้าสั่งให้กานเฉ่าจุดกล่องรมควันสมุนไพรเพื่อทำให้เท้าเหล่าไท่ไท่อบอุ่น ของที่หยางมามามอบให้ข้าเมื่อครู่ก็นำส่งจิ่วกูเรียบร้อยแล้วเ้าค่ะ”
หยางมามาพยักหน้าเอ่ย “อย่าเพิ่งสนใจเื่นี้ ให้จิ่วกูค่อย ๆ ตรวจสอบ อาจีไปนั่งข้างนอกก่อน รอให้กานเฉ่าจุดกล่องรมควันสมุนไพรเสร็จสิ้นค่อยนำกล่องเข้ามา แล้วบอกให้นางไปนอนก่อนเถิด” จีเหนียงรับคำแล้วจากไป
แม่นางจีเป็สาวใช้ขั้นหนึ่ง รับหน้าที่ดูแลห้องเก็บของในเรือนเหล่าไท่ไท่ ทั้งยังเป็ลูกเลี้ยงของหยางมามา เมื่อนานมาแล้ว ตอนหยางมามายังเป็สาว เหล่าไท่ไท่และนายท่านผู้ล่วงลับเคยหาครอบครัวสามีดี ๆ ให้แก่หยางมามา มีบุรุษหลายคนที่มีคุณสมบัติดีหลายข้อ ทว่าเป็ตายอย่างไรหยางมามาก็ไม่ยอมออกเรือน เหล่าไท่ไท่เอ่ยแนะนำเป็การส่วนตัวว่า บุรุษนั้นจะดีหรือไม่ก็ไม่ต่างกัน ล้วนนอกใจ นอนกรน กินข้าวและคันเนื้อตัวเช่นเดียวกันทุกคน ในฐานะสตรี ไม่ว่าจะแต่งกับใครก็ถือว่าได้ ''ออกเรือน'' แล้ว แต่สิ่งสำคัญที่สุดของการแต่งงานคือ การมีลูกหลานที่พึ่งพาได้ในอนาคต
หยางมามาเก็บคำพูดของเหล่าไท่ไท่ไว้ในใจ ไม่นานก็รับเลี้ยงเด็กชายหญิงสองคนในเวลาไล่เลี่ยกัน นางปักธูปและเผากระดาษสีเหลือง เพื่อบ่งบอกว่ายอมรับพวกเขาทั้งสองเป็บุตรบุญธรรม นางให้สาบานต่อฟ้าดินว่า ตนจะไม่แต่งงานตลอดชีวิต จะดูแลพวกเขาให้เป็ผู้เป็คนอย่างดี หวังว่า์จะเมตตาปกป้องลูกทั้งสองให้เติบโตอย่างกตัญญู มีสติสัมปชัญญะและสามารถเลี้ยงดูนางในยามแก่เฒ่า เหล่าไท่ไท่เห็นนางแน่วแน่เช่นนั้นก็ไม่คิดจะโน้มน้าวอีก เพียงเพิ่มเบี้ยเลี้ยงรายเดือนสิบตำลึงให้แก่นางทุกเดือน
ขณะนั้นแม่นางจียังเป็เด็กทารก ทว่าตอนนี้อายุยี่สิบหกปีแล้ว นางเหมือนแม่เลี้ยงของนางที่อายุมากแต่ก็ยังไม่ออกเรือน แม่นางจีนั้นเฉลียวฉลาด รอบคอบและมีความพยายาม เริ่มจากสาวใช้ขั้นสี่ก้าวขึ้นมาทีละขั้นจนเป็ผู้ดูแลห้องคลังในเรือนเหล่าไท่ไท่ ต่อหน้าผู้อื่นหยางมามาจะให้แม่นางจีเรียกตนว่ามามา เมื่อถึงบ้านจึงจะเรียกว่าแม่ ความสัมพันธ์ของทั้งสองกลมเกลียวยิ่งกว่าแม่ลูกแท้ ๆ พวกนางซาบซึ้งใจที่เหล่าไท่ไท่คอยดูแล ด้วยเหตุนี้จึงอยู่เคียงข้างเหล่าไท่ไท่จวบจนปัจจุบัน
เหล่าไท่ไท่ถือถ้วยแกงแต่กลับไม่ยอมดื่ม ยังคงถามอย่างไม่ยอมแพ้ “ไม่ ต้องมีเื่เกิดขึ้นกับเสี่ยวอี้แน่ ข้ารู้จักเ้าดี ก่อนเ้าจะไป ข้าสั่งให้เ้าดูแลเสี่ยวอี้ หากมีเื่อันใด เ้าก็ไม่สามารถพานางกลับมาด้วยได้ วันนี้ตาขวาของข้ากระตุกั้แ่เย็น เ้ารีบพูดมาว่าเกิดอันใด ”
หยางมามาเอ่ยยืนยัน “ดื่มน้ำแกงก่อนสักสองสามคำค่อยพูดเื่นี้ มิเช่นนั้นท่านคงถือแกงถ้วยนี้ไว้จนเย็นชืดเป็แน่”
เหล่าไท่ไท่พยายามกลืนน้ำแกงพลางจับจ้องหยางมามา หยางมามาจึงเริ่มเอ่ย “วันนี้ตอนค่ำข้าเร่งเดินทางจนถึงวัดสุ่ยซัง คุณหนูสามนั่งอยู่ในห้องพอดี แต่เป็เพราะคัดจมูกจึงนำผ้าคลุมใบหน้าไว้ บ่าวเอ่ยถามคุณหนูสามว่า้าหมอหรือไม่ คุณหนูสามก็บอกว่าหากเชิญหมอในหมู่บ้านมา มิสู้กลับจวนแล้วให้เหล่าไท่ไท่ดูอาการจะดีกว่า บ่าวเห็นคุณหนูสามไม่เพียงปลอดภัย ซ้ำยังได้รับพรจากเทพหนานจี๋เซียนเวิงด้วย ตอนนี้นางมีสง่าราศี ใจกว้างและหน้าตาสดใสกว่าเมื่อก่อน”
“จากนั้นล่ะ? เหตุใดเ้าจึงกลับมาก่อน?” เหล่าไท่ไท่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเื่ราวราบรื่นเพียงนั้น
หยางมามาถอนหายใจ แบฝ่ามือบวมแดงพลางเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ “เหล่าไท่ไท่ ก่อนหน้านี้บ่าวเคยได้ยินเื่ผงคัน ''เตียวซานเย่า'' ผลของมันอันตรายยิ่งนัก แม่เล้ามักนำมาใช้กับหญิงโสเภณีที่ไม่เชื่อฟัง ทว่าชุดและปิ่นปักผมที่เหล่าไท่ไท่กำชับให้มอบแก่คุณหนูสามเป็พิเศษ ขณะข้ามอบให้แก่นางนั้น ก็ไม่คาดคิดว่าในเสื้อผ้าจะมีผงเตียวซานเย่าปะปน ข้าและคุณหนูสามจึงััผงเตียวซานเย่าในเสื้อผ้าเ่าั้ สองมือของพวกเราคันจนหาใดเปรียบมิได้”
เหล่าไท่ไท่เคยได้ยินเื่ผงคันชนิดนี้มาบ้าง จึงเอ่ยถามหยางมามาด้วยความใระคนโมโห “เสื้อผ้าดี ๆ เหตุใดจึงเปื้อนยาเช่นนั้นเล่า เปื้อนจากที่ใดกัน?” เมื่อเห็นฝ่ามือทั้งสองที่หยางมามาดูแลอย่างดีกลับบวมแดง เหล่าไท่ไท่จึงอดอุทานไม่ได้ “เสี่ยวอี้ก็ััผงคันนี้หรือ นางเป็หนักหรือไม่? หงเจียง นอกจากอาการคันแล้วมีอาการใดอีกบ้าง? ไม่มีพิษใช่หรือไม่?”
หยางมามาส่ายศีรษะปฏิเสธ ก่อนถอนหายใจพลางเอ่ย “ท่านพูดถูก ยานี้ไม่มีพิษ เพียงเกิดอาการคันเท่านั้น ต้องคันเช่นนี้อีกสองสามวันจึงจะหายดี หากทนอาการคันทะลวงข้อต่อกระดูกเช่นนี้ไม่ได้ อาจส่งผลให้เผลอเกาอย่างรุนแรง ไม่นานผิวเนื้อก็จะมีาแ แม้จะเกาจนเป็แผลก็ยังคงคันเช่นเดิม ถึงตอนนั้นอยากเกาก็เกาไม่ได้ อยากถูก็ถูไม่ได้เช่นกัน ต้องใช้ชีวิตกับอาการคันถึงสองสามวัน เกรงว่าแม้แต่คนแข็งแรงก็ยังต้องสูญเสียพลังชีวิตมากทีเดียว”
เมื่อเหล่าไท่ไท่ได้ยินก็ใจนเอื้อมมือขวาจับนิ้วกลาง
“คุณหนูสามน่าเวทนายิ่งนัก นางบอกว่านั่นเป็ชุดที่เหล่าไท่ไท่ตั้งใจมอบให้จึงดีใจจนรีบจับทันที ไม่นานมือของนางก็ถูกหนามตำเืออก” หยางมามาจับบริเวณเดียวกับที่เหอตังกุยเืออก เอ่ยด้วยความเสียใจ “บ่าวจึงสะบัดชุดที่นางจับ คิดไม่ถึงว่าในชุดจะมีหนามเล็กแหลม จากลักษณะน่าจะเป็หนามกระบองเพชร ไม่นานคุณหนูสามก็เกาหลังมืออย่างรุนแรง ลามเกาแขนจนถึงไหล่ หากบ่าวไม่ห้าม เกรงว่ามือเรียวเล็กบอบบางนั้นคงต้องเกิดแผลเป็แน่”
เหล่าไท่ไท่โมโหพลันทุบตั่งครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนเอ่ยด้วยความเดือดดาล “ใครกล้าทำกับชุดที่ข้ามอบให้เสี่ยวอี้เช่นนี้ เสี่ยวอี้ไปล่วงเกินผู้ใด นี่ข้ายังไม่ตายก็กล้ารังแกคนต่อหน้าข้าเชียวหรือ ลับหลังไม่รู้ว่าสาปแช่งข้าไปเท่าไรแล้ว มิน่าล่ะ ่นี้ข้าป่วยบ่อยนัก ที่แท้ในจวนก็มีคนใจดำอำมหิต”
หยางมามาตบหลังมือเหล่าไท่ไท่เบา ๆ ให้ใจเย็นลง พลางยกแกงลูกเดือยให้นางพร้อมเอ่ยแนะนำ “คุณหนูใจเย็นเ้าค่ะ ถนอมสุขภาพด้วย ในจวนหลังนี้มีผู้ใดบ้างที่ไม่เคารพคุณหนู แม้จะมีบ่าวรับใช้เ้าเล่ห์หนึ่งหรือสองคนทำเื่ชั่วอย่างลับ ๆ แต่นั่นก็ไม่สำคัญ คุณหนูต้องถนอมร่างกายตนเองนะเ้าคะ อย่าถือสาคนชั่วช้าเ่าั้ หากท่านโกรธจนทำร้ายตัวเอง จวนหลังนี้จะพึ่งผู้ใดได้ล่ะเ้าคะ?”
แม้ตอนนี้เหล่าไท่ไท่จะไม่ใกล้เคียงกับคำว่า ''คุณหนู'' ทว่ายามหยางมามาและเหล่าไท่ไท่อยู่ตามลำพัง ก็มักจะเรียกอีกฝ่ายว่า ''คุณหนู'' เสมอ
“บ่าวเ้าเล่ห์ บ่าวเ้าเล่ห์คนใดกัน?” เหล่าไท่ไท่จับคำสำคัญได้อย่างรวดเร็ว แววตาคู่นั้นจับจ้องใบหน้าของนางไม่กะพริบตา ก่อนเอ่ยถาม “เ้ารู้ว่าผู้ใดลงมือหรือ?”
ขณะนี้หยางมามากำลังจะพูดสิ่งที่อยู่ในใจ นางถอนหายใจพลางกล่าว “แม้คนร้ายจะเป็บ่าวรับใช้เ้าเล่ห์ แต่ท่านลองคิดให้ดี ชุดเ่าั้ล้วนเป็คุณหนูรองส่งให้ฮูหยินใหญ่ ชุดชั้นในก็นำจากคลังส่งให้ฮูหยินใหญ่เช่นเดียวกัน ของเ่าั้ถูกห่ออย่างดีวางไว้ในห้องโถงเรือนฉินเป่า บ่าวรับของแล้วนำไปมอบให้คุณหนูสามด้วยตัวเอง ระหว่างนั้นไม่มีผู้ใดแตะต้องมัน เวลาที่ลงมือได้มีเพียง่ที่วางไว้ในเรือนฉินเป่าเท่านั้น บ่าวจำได้ดี หนามกระบองเพชรแหลมคมเ่าั้มีในเรือนคุณหนูรอง พวกมันเป็ของรักของนาง บ่าวธรรมดาจะกล้าเด็ดหนามพวกนั้นหรือ? ส่วนยาเตียวซานเย่าที่ใช้เฉพาะในหอนางโลม บ่าวคิดว่าของสิ่งนี้หาซื้อได้ในตลาดมืด ทว่าราคาก็ไม่ใช่ถูก ๆ มันเทียบเท่ายาพิษนกกระเรียนแดงหรือถุงน้ำดีนกยูง บ่าวต่ำต้อยจะซื้อได้อย่างไร?”
เหล่าไท่ไท่ขมวดคิ้วเอ่ย “เ้าจะบอกว่าคนที่ลงมือทำคือคนในตระกูลหลัวเช่นนั้นหรือ? เ้าสงสัยสะใภ้รองใช่หรือไม่?”
หยางมามารีบโบกมือปฏิเสธทันที “จะเป็เช่นนั้นได้อย่างไรเ้าคะ ฮูหยินใหญ่ดูแลจวนตระกูลหลัวทั้งวันทั้งคืนไม่ได้พัก ไหนเลยจะมีเวลาว่างโรยผงคันใส่เสื้อผ้าผู้อื่น แม้นางจะไม่ชอบคุณหนูสาม เพียงใช้อำนาจผู้าุโกว่าตักเตือนก็เพียงพอ เหตุใดต้องทำเช่นนั้น? กูไท่ไท่ไม่อยู่บ้านตลอดปี คุณหนูสามไม่มีมารดาให้พึ่งพิง ดังนั้นสะใภ้ใหญ่และสะใภ้รองจึงถือเป็มารดาของนางครึ่งหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้น ของทุกสิ่งล้วนนำมาจากเรือนเป่าฉิน นางจะทำให้ตัวเองถูกตำหนิเพื่ออะไรเ้าคะ? เื่นี้สะใภ้รองจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอนเ้าค่ะ”
“เช่นนั้นเ้าหมายถึงใคร? เ้าของเรือนเป่าฉินคือสะใภ้รอง ในเรือนเป่าฉินก็เป็ห้องนอนนาง คนนอกเข้าได้ด้วยหรือ? หากไม่ใช่นาง อย่างไรก็ไม่มีทางเป็ชวนกู่ เพราะเขาคือลุงของเสี่ยวอี้” เหล่าไท่ไท่คิดออกในทันใด พลันเบิกตามองหยางมามา ก่อนเอ่ยถามด้วยความร้อนใจ “หงเจียง เ้าไม่ได้สงสัยคุณหนูฉยงกับคุณหนูเส่ากระมัง?”
หยางมามาถอนหายใจพลางพยักหน้า “ข้ามิกล้าโกหกเหล่าไท่ไท่ บ่าวแน่ใจ เื่นี้ต้องเป็คุณหนูสี่ลงมือทำแน่นอน คุณหนูรองเรียบร้อยอ่อนหวาน จิตใจดี เื่นี้จึงไม่น่าเกี่ยวข้องกับนางเ้าค่ะ”
เหล่าไท่ไท่โปรดปรานหลัวไป๋เส่าหลานสาวผู้ร่าเริงและน่ารักมาโดยตลอด แม้รู้ว่าหยางมามาไม่มีทางโกหก ทั้งยังไม่เคยให้ร้ายเ้านายตระกูลหลัวแม้แต่ประโยคเดียว ตอนนี้นางกล้าบอกว่ามีหลักฐานยืนยัน แต่เหล่าไท่ไท่ยังคงยากจะเชื่อมโยง ''ยาที่แม่เล้าใช้โดยเฉพาะ'' กับ ''หลานสาวอายุเก้าขวบที่น่ารักของตน''
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้