จากคำร่ำลือ คังเหลียนิคือคุณอาที่ภายนอกดูใจดี แต่ความจริงแล้วเขาเป็คนเ้าแผนการยิ่งนัก
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ค่อยเชื่อใจเขาสักเท่าไร แต่พ่อของคังเหว่ยไม่อยู่แล้ว เซี่ยอวิ๋นแม่ของเขาก็เอาแต่ร้องไห้ ดังนั้นเวลาแบบนี้คงต้องให้คังเหลียนิเป็คนออกหน้าแทนน่ะสิ
ตู้เ้าฮุยก็คิดเช่นเดียวกัน
อย่าว่าแต่คุณอาเลย ขนาดพ่อแท้ๆ อย่างตู้เชิงหรงก็ไม่ได้ดีกับเขาสักเท่าไรด้วยซ้ำ
สำหรับคนฉลาด ทุกเื่ย่อมสามารถประนีประนอมได้ หากเจรจาไม่สำเร็จก็แสดงว่าผลประโยชน์ที่ให้ยังไม่มากพอ ในขณะที่ตู้เ้าฮุยกำลังพิจารณาว่าตนควรให้เงินชดเชยเท่าไรดี คังเหลียนิก็ยืนมองคุณชายจากฮ่องกงอย่างพิจารณา ก่อนจะลากเก้าอี้ไปนั่งข้างเตียงผู้ป่วยโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
“คุณคัง...”
ตู้เ้าฮุยเพิ่งเอ่ยปากก็ถูกคังเหลียนิพูดขัด
“ดูคุณสิ ใส่เสื้อผ้ามียี่ห้อราคาแพง อยู่ห้องพักผู้ป่วยเดี่ยว อีกทั้งด้านนอกยังมีคนคุ้มกันคอยเฝ้ายามอยู่ตลอดเวลา คนขับรถก็เป็ลูกน้องของคุณ แถมคุณยังเป็นักธุรกิจจากฮ่องกง เอาเงินมาลงทุนที่เขตเศรษฐกิจพิเศษจำนวนร้อยล้านหยวน คงคิดว่าไม่มีใครสามารถทำอะไรคุณได้สินะ ทำไมถึงเป็เช่นนี้น่ะหรือ นั่นเป็เพราะคุณเลือกเกิดได้น่ะสิ ถึงได้เกิดมาเป็ลูกชายของเศรษฐีผู้ร่ำรวยจากฮ่องกง อย่าว่าแต่ทำคนาเ็สักคนสองคนเลย ต่อให้ขับรถชนคนตายคาที่ก็คงไม่เป็อะไร อย่างมากก็แค่ใช้เงินปิดปากเท่านั้น!”
คังเหลียนิพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ ไม่มีการประชดประชันใดใดมั้งสิ้น แต่สิ่งที่เขาพูดกลับทำให้ตู้เ้าฮุยรู้สึกหงุดหงิดใจ
ผู้ชายคนนี้จะไปรู้อะไร!
เกิดมาเป็ลูกชายของตู้เชิงหรง ถึงจะไม่ขัดสนเงินทองแต่มันก็เท่านั้น
ไม่ใช่เพราะเขาแซ่ตู้แล้วจะได้สืบทอดกิจการของครอบครัวไปโดยปริยาย นั่นเป็เพราะมีคนมากมายจ้องจะแย่งสมบัติของเขาตาเป็มัน หากฆ่าเขาไม่สำเร็จในครั้งแรกก็ย่อมมีครั้งที่สองที่สามตามมาอีกแน่นอน!
ประโยคที่คนแซ่คังบอกว่าเขาเลือกเกิดได้ ตู้เ้าฮุยอยากเถียงกลับไปเหลือเกิน
แต่เพราะเขาอยู่ใกล้คังเหลียนิมาก ตู้เ้าฮุยจึงพบว่าผู้ชายคนนี้ช่างน่าเกรงขามยิ่งนัก ไม่ใช่ความน่าเกรงขามจากเสื้อผ้าที่สวมใส่หรือทรัพย์สินเงินทองที่มีอยู่ สิ่งเ่าั้คนที่เป็เ้าคนนายคนล้วนมีด้วยกันทั้งสิ้น แต่ความน่าเกรงขามที่คังเหลียนิมีมันแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
สัญชาตญาณของตู้เ้าฮุยบอกว่า คังเหลียนิผู้นี้รับมือยากได้ยากยิ่งนัก
ทันใดนั้นคังเหลียนิก็คลี่ยิ้ม “ที่คุณคิดว่าชีวิตคนไม่มีค่า เพราะความจริงแล้วชีวิตของคุณก็ไม่มีราคาเหมือนกันสินะ ตระกูลตู้ไม่ได้มีคุณเป็ทายาทชายแค่คนเดียว และถ้าคุณเป็อะไรไป ในไม่ช้าก็จะมีคนจากตระกูลตู้คนใหม่มารับ่การลงทุนที่เผิงเฉิงแทน พ่อของคุณอาจจะเสียน้ำตาให้คุณเพียงไม่กี่หยด แต่ขอเพียงให้ค่าชดเชยมากพอ หรือให้อภิสิทธิ์เชิงนโยบายที่ดีกว่าเดิมอีกหน่อยเล่า เขาจะยังติดใจเื่สาเหตุการตายของคุณอีกหรือ?”
ใต้ผ้าห่ม มือของตู้เ้าฮุยกำหมัดแน่น ทุกประโยคของคังเหลียนิทิ่มแทงจิตใจของเขายิ่งนัก เขาไม่อาจปฏิเสธคำพูดเหล่านี้ได้ เพราะสิ่งที่คังเหลียนิพูดล้วนคือความจริงทั้งสิ้น!
“คุณหมายความว่าอย่างไร”
คิดจะข่มขู่ใครกัน จะฆ่าจะฟันก็มาเลยสิ ตู้เ้าฮุยรู้สึกว่าหากเป็เช่นนั้นตนสามารถรับมือได้!
แต่การพูดจาอ้อมค้อมแบบนี้ ตู้เ้าฮุยไม่ชอบ
“ยังไม่เข้าใจอีกหรือ? ผมจะบอกคุณว่าชีวิตของคุณไม่มีค่า เพราะตระกูลตู้ไม่ขาดลูกชาย แต่ชีวิตของคังเหว่ยมีค่ายิ่งนัก เพราะเขาเป็ลูกชายคนเดียวของพี่ชายผม ตอนที่พี่ใหญ่ตายในสนามรบ คังเหว่ยยังไม่ทันได้ลืมตาดูโลกเสียด้วยซ้ำ ผมเห็นเขาั้แ่ยังแบเบาะจนเติบใหญ่ การที่ปล่อยให้เขาใช้ชีวิตตามใจชอบ นั่นก็เป็เพราะตอนที่เขายังไม่ทันเกิดก็ต้องสูญเสียพ่อบังเกิดเกล้าไปแล้ว ผมจึงอยากให้เขามีความสุขให้มากที่สุด... แต่คุณกลับทำให้เขาต้องอยู่ในสภาวะเสี่ยงตาย แค่เพราะความสะเพร่าเพียงชั่ววูบของคุณ อาจจะทำให้พวกเราทั้งตระกูลต้องเผชิญหน้ากับผลกระทบที่ตามมาภายหลัง”
ตระกูลคังคงรับไม่ไหวหากต้องสูญเสียคังเหว่ยไปอีกคน
อย่าว่าแต่คังเหลียนิ ดูเซี่ยอวิ๋นเสียก่อนเถิด ปัจจุบันเธอยังคงไม่สามารถเดินออกจากความโศกเศร้าที่ต้องสูญเสียสามีไปได้ และการสูญเสียพี่ใหญ่สำหรับคังเหลียนิก็คือาแที่ไม่มีวันจางหายของตระกูลคัง
หากคังเหว่ยเป็อะไรไปอีกคน เซี่ยอวิ๋นคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แน่นอน
ไหนจะยังมีสองผู้าุโของตระกูลคังอีก คุณปู่คังอาจจะพอรับมือกับความสูญเสียไหว แต่คุณย่าคังผู้ซึ่งเห็นคังเหว่ยสำคัญดั่งชีวิตของตัวเอง ท่านคงไม่สามารถอยู่ต่อไปได้ไหว!
รถชนคืออุบัติเหตุ คังเหลียนิสามารถยอมรับได้ แต่สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ไม่พูดถึงก็คงเป็ไปไม่ได้ ถ้าขบวนรถของตู้เ้าฮุยไม่เห็นถนนของเผิงเฉิงเป็ถนนส่วนตัวก็คงไม่เกิดเื่เช่นนี้กับคังเหว่ย!
หลังเกิดเหตุ พฤติกรรมของตู้เ้าฮุยทำให้คังเหลียนิรู้สึกคลื่นไส้อย่างยิ่ง
ชายหนุ่มผู้นี้ไม่เห็นคุณค่าชีวิตคนอื่น แม้ปากจะกล่าวขอโทษแต่คำพูดเ่าั้ก็ไม่ได้มาจากใจจริง คังเหลียนิมองปราดเดียวก็รู้ว่าตู้เ้าฮุยเสแสร้งแค่ไหน
ตู้เ้าฮุยอยากตั้งราคาให้คังเหว่ยอย่างนั้นหรือ คิดว่าเขาเป็แค่คุณอา ขอเพียงให้ราคาสูงมากพอ เขาก็จะยอมประนีประนอม แล้วปล่อยให้เื่ของคังเหว่ยจบลงทั้งอย่างนี้รึ?
แน่นอนว่าสิ่งที่ตู้เ้าฮุยคิดนั้นไม่ผิด ไม่ว่าเื่ไหนย่อมสามารถเจรจากันได้ แต่ตู้เ้าฮุยประเมินความสำคัญของคังเหว่ยที่มีต่อตระกูลคังต่ำเกินไป
ค่าชดเชยมากน้อยอะไรกัน คังเหลียนิไม่อยากได้เงินพวกนั้นสักแดงเดียว!
ข้าราชการระดับสูงอย่างเขาไม่ปรารถนาในทรัพย์สินเงินทองมากมายเช่นนั้น เงินเดือนที่เขาได้รับเพียงพอต่อการใช้สอยในชีวิตประจำวันแล้ว บ้านพักที่เขาอาศัยประเทศก็เป็ผู้จัดสรรมาให้ มีรถรับส่งตลอดเวลา อนาคตแม้เกษียณแล้วก็ยังได้รับสวัสดิการที่น่าพึงพอใจ สำหรับข้าราชการในยุค 80 ผู้มีอุดมการณ์ต่อชาติและบ้านเมือง เงินนั้นใช้แล้วย่อมหมดไป แต่หน้าที่การงานของเขาจะส่งผลกระทบกับใครหลายคนอย่างแน่นอน
หากพูดให้ดูดีหน่อยก็คือ สิ่งที่คนอย่างคังเหลียนิ้าคือการ ‘ทิ้งรอยเท้า’ ของตัวเองเอาไว้ในยุคสมัยที่กำลังเกิดการเปลี่ยนผ่าน
ดังนั้นสิ่งที่ตู้เ้าฮุยสามารถให้เขาได้จึงไม่เคยอยู่ในสายตาคังเหลียนิแม้แต่นิดเดียว!
ตอนนี้คังเหลียนิกำลังโกรธจัด หนึ่งเพราะเื่ที่คังเหว่ยาเ็ สองเพราะเื่ที่ตู้เ้าฮุยเห็นชีวิตคนเป็ผักเป็ปลา คังเหว่ยนั้นคือคนที่สำคัญกับตระกูลคังมาก เห็นตู้เ้าฮุยดูแคลนกันเช่นนี้ คิดว่าใช้เงินฟาดหรือให้ผลประโยชน์สักหน่อยก็คงจบเื่... คังเหลียนิเกิดความคิดชั่ววูบขึ้นมาว่าอยากหารถสักคันมาขับชนตู้เ้าฮุยให้รู้แล้วรู้รอดเสียก็คงจะดี
ถึงตอนนั้นเขาก็จะเจรจาเงื่อนไขกับตู้เชิงหรงบ้าง ทำให้ตู้เ้าฮุยได้ััอย่างชัดเจนว่าแท้ที่จริงแล้วชีวิตตัวเองก็ไม่มีค่าอะไรสักนิด
สองมือของตู้เ้าฮุยกำแน่น โตมาจนป่านนี้แล้วยังไม่เคยมีคนนอกที่ไหนกล้าชี้นิ้วด่าเขามาก่อน
แต่ไหนแต่ไรตู้เ้าฮุยคือผู้ที่อยู่เหนือกว่าผู้อื่นเสมอ แค่มีเงินก็สามารถซื้อชีวิตคนได้ อีกทั้งยังมีคนพร้อมสละชีวิตตายแทนตู้เ้าฮุยนับไม่ถ้วน และเซี่ยต้าจวินก็คือหนึ่งในนั้น!
ชีวิตของคังเหว่ยแพงจนเขาซื้อไม่ไหวหรืออย่างไรกัน?
คังเหลียนิลุกขึ้นยืน ก้มมองจากตำแหน่งที่สูงกว่า มองดูสีหน้าของตู้เ้าฮุยอย่างละเอียด
คนหนุ่มมักเก็บสีหน้าไม่เป็ แน่นอนว่าอาจเป็เพราะไม่คิดปิดบัง หรือคงคิดว่าตระกูลตู้ทำธุรกิจอยู่ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ และที่นี่คนปักกิ่งอย่างเขาไม่มีอำนาจคงไม่สามารถทำอะไรตัวเองได้สินะ
“แล้วคุณจะได้เห็นเอง”
จะได้เห็นว่าคังเหว่ยสำคัญกับตระกูลคังมากแค่ไหน
คังเหลียนิเพิ่งพูดจบ เลขาของเขาก็เปิดประตูเข้ามา
“หัวหน้า เขาฟื้นแล้วครับ”
คังเหว่ยฟื้นแล้ว!
คังเหลียนิหันหลังเดินออกจากห้องไปทันที เวลานั้นตู้เ้าฮุยรู้สึกโล่งใจอย่างประหลาด แรงกดดันที่คังเหลียนิมอบให้เมื่อครู่บอกกับตู้เ้าฮุยว่า หากคังเหว่ยยังไม่ฟื้น คังเหลียนิอาจจะฆ่าเขาเพื่อชดใช้ชีวิตของคังเหว่ยก็เป็ได้ เหตุผลอย่างการบอกว่าคนขับรถเป็คนก่อเหตุ คังเหลียนิไม่คิดที่จะฟัง เพราะหากตู้เ้าฮุยไม่อนุญาต คนขับมีหรือจะกล้ามาซิ่งรถบนทางหลวงของเผิงเฉิง?
พอคังเหลียนิออกไป ตู้เ้าฮุยก็ลุกขึ้นจากเตียงทันที คนคุ้มกันนึกว่าคุณชายใหญ่จะไปเยี่ยมคนเจ็บ ทว่าตู้เ้าฮุยกลับหยิบเก้าอี้ข้างเตียงขึ้นมาทุ่มลงพื้นเสียจนระเนระนาด
หลังะเิอารมณ์เสร็จแล้ว ตู้เ้าฮุยก็นวดหน้าข้างที่ฟันหักไปหนึ่งซี่ก่อนจะออกคำสั่ง
“สั่งให้คนไปพาเซี่ยต้าจวินมาที่เผิงเฉิง!”