"รอก่อน ๆ"
เสียงะโมาจากคนที่วิ่งนำอยู่หน้าสุด
คนที่อยู่ละแวกปากทางหมู่บ้านต่างหันมามองกันเป็แถว
"เฮอะ คนบ้านนั้นมากันอีกแล้ว"
ชาวบ้านที่ชอบสอดรู้สอดเห็นพากันออกมาชมความครึกครื้น
"อูต้าฟางคิดจะมาไม้ไหนอีกล่ะ"
"ต้องไม่ใช่มาส่งดีๆ เป็แน่"
"ฮ่าๆ คนบ้านนั้นไหนเลยจะดีใจขนาดนั้น"
ชาวบ้านที่มามุงดูรู้อยู่เต็มอกต่างพากันหัวเราะเหยียดหยัน
อูหลันฮวานั่งอยู่บนรถม้า เดิมทีผิวของนางก็ค่อนข้างคล้ำอยู่แล้ว ยามนี้ยิ่งดำกว่าเดิม
เมื่อคืนนางยังคิดอยู่ว่า ก่อนจากไปจะกลับไปบ้านนั้นทุบตีคนให้หนำใจ เพื่อระบายความคับแค้นที่ตนเองได้รับตลอดหลายปีมานี้ดีหรือไม่
ต่อมาก็หวั่นเกรงว่าจะนำปัญหามาให้ต้าเหนียงจื่อ จึงอดกลั้นไว้
ไม่นึกว่าพวกเขาจะตามมารังควานถึงนี่
อูหลันฮวาลอบกำหมัดแน่น
"อูต้าฟาง พวกเ้ามาทำอะไร" ซีต้าเฉียงย่นหัวคิ้วมองผู้มายืนขวางหน้าเกวียนของตนเอง
"ผู้าุโซี พวกเรามีเื่จะคุยกับหลันฮวา"
ภรรยาอูต้าฟางใช้สายตาข่มขวัญ จดจ้องอาภรณ์ชุดใหม่สีม่วงอ่อนที่นางสวมใส่ด้วยแววตาริษยา
"หลันฮวา เ้าถึงกับจะตามไปกับต้าเหนียงจื่อเชียวหรือ นี่ถ้าไม่มีคนไปบอกป่านนี้ก็พวกเราก็ยังถูกปิดหูปิดตาไม่รู้เื่เลย" อูต้าฟางมองอูหลันฮวาในชุดใหม่ แลดูเปลี่ยนไปั้แ่หัวจรดเท้า ดวงตามีประกายวาบผ่าน
ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วัน จากคนผอมแห้งราวกับไม้ไผ่เริ่มมีเนื้อมีหนัง นังเด็กสมควรตายนี่ ได้ติดตามคนมีฐานะเข้าหน่อยก็พลอยมีกินมีใช้ได้เสพสุข
"แล้วอย่างไร" อูหลันฮวามองคนที่อ้างว่าเป็ญาติตรงหน้าด้วยสีหน้าบึ้งตึง
ภรรยาอูต้าฟางเท้าสะเอวชี้หน้าด่าอูหลันฟาง "นังเด็กเลว เหตุใดถึงพูดจากับผู้าุโแบบนี้ อกตัญญูไม่มีสัมมาคารวะ ไม่เห็นผู้ใหญ่อยู่ในสายตา ไม่กลัวถูกฟ้าผ่าบ้างเลยหรือ ยังไม่รีบขอขมาท่านลุงใหญ่ของเ้าอีก"
เซวียเสี่ยวหรั่นกอดอกนั่งดูละครอยู่บนหลังเกวียน พร่ำบ่นในใจ คนบ้านนี้พูดจากลับไปกลับมา มีลูกไม้ใหม่อะไรอีกล่ะ?
"ข้าไม่มีาุโที่ไหน าุโของข้าล้วนนอนอยู่ในหลุมหมดแล้ว" อูหลันฮวาพูดแดกดันประโยคหนึ่ง
"ข้าว่าพวกเ้าสองคนสองผัวเมียไม่อยากจบมากกว่า หลันฮวาถูกพวกเ้าขายไปแล้ว ตอนขายแม่เฒ่าอูชียังบอกว่า ต่อไปไม่ว่านางจะยากดีมีจน จะเป็หรือตายล้วนไม่เกี่ยวข้องกับพวกเ้า แล้วออกมาเอะอะโวยวายทำไมตอนนี้ เหลียนหลางจวินต้องรีบเดินทาง รีบหลีกทางไปเร็วๆ"
ซีต้าเฉียงเห็นพวกเขาตามตอแยอูหลันฮวา กล่าวหานางซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็โมโหเืขึ้นหน้า
ฝ่ายครอบครัวอูต้าฟางถูกตำหนิเช่นนี้ก็หน้าม้าน หดคอแทบไม่ทัน
"มะ... ไม่ใช่ ผู้าุโซี พวกเรานึกเสียใจภายหลัง วันนั้นเพราะอูหลันฮวาก้าวร้าวทำร้ายผู้ใหญ่ พวกเราก็เลยโมโหเกิดอารมณ์ชั่ววูบขายนางให้แม่เฒ่าอูชีในราคาต่ำเตี้ยเรี่ยดินแบบนั้น แต่ไม่ว่าหลันฮวาจะทำผิดอย่างไร นางก็เป็หลานสาวของพวกเรา"
ภรรยาอูต้าฟางกลอกตาไปมา เริ่มตบเข่าร้องโอดครวญ
"แล้วประเด็นสำคัญคืออะไร หลันฮวาถูกขายในราคาต่ำเกินไป พวกเ้าก็เลยไม่พอใจ?"
ผู้าุโสกุลอูเดินสีหน้าบึ้งตึงฝ่าฝูงชนเดินเข้ามาจากอีกด้าน
"ท่านปู่เก้า" หลันฮวาะโลงจากหลังเกวียน เดินไปหาชายชรา
"หลันฮวา ปู่เก้ามาส่งเ้า" ผู้าุโตบไหล่นางเบาๆ
อูหลันฮวายิ้มกว้าง "ขอบคุณเ้าค่ะท่านปู่เก้า ต่อจากนี้ไปหลันฮวาจะใช้ชีวิตให้ดี"
"หลันฮวา นี่ให้เ้า มารดาข้าทำขนมเปี๊ยะ เ้าเอาไว้กินระหว่างเดินทาง" ชายหนุ่มหน้าตาซื่อๆ รูปร่างกำยำล่ำสันคนหนึ่งยื่นห่อใบตองให้นาง
"ขอบใจนะ อูจวิน" อูหลันฮวาไม่กระมิดกระเมี้ยน ยื่นมือไปรับอย่างผ่าเผย
"เอาล่ะ ขึ้นรถ แล้วรีบเดินทางเถอะ ระหว่างทางก็ระวังตัวด้วย" ผู้าุโมองเหลียนเซวียนที่นั่งหลังตรงอยู่บนรถ แล้วเอ่ยกระซิบ
"เ้าค่ะ ทราบแล้ว ท่านปู่เก้า งั้นพวกเราไปแล้ว" อูหลันฮวาหันมาโบกมือให้พวกเขาก่อนเดินกลับไปขึ้นเกวียน
ซีต้าเฉียงตวัดแส้หมายบังคับรถ
แต่ภรรยาอูต้าฟางกลับดึงสายบังเหียนไม่ปล่อย หลุดปากออกมาว่า "ผู้าุโซี พวกเราจะไถ่ตัวหลันฮวาคืน"
พวกอูต้าฟางไม่พอใจ แม่เฒ่าอูชีขายคนให้ต้าเหนียงจื่อสกุลเหลียนต้องไม่ใช่แค่สี่ตำลึงแน่นอน
พวกเขามาเพื่อขอค่าตัวอูหลันฮวาเพิ่ม
แต่พวกเขาไม่ก็ไม่รู้จะเอาเหตุผลใดมากล่าวอ้าง พอเห็นคนกำลังจะไป ก็ยิ่งร้อนใจคิดออกมาได้วิธีหนึ่ง
"ไถ่ตัวหลันฮวากลับไป?" ซีต้าเฉียงอึ้งงัน หันไปมองเซวียเสี่ยวหรั่น
มุมปากของเซวียเสี่ยวหรั่นผุดรอยยิ้มบางๆ
"คิดจะไถ่ตัวหลันฮวา? ได้สิ"
แค่ถ้อยคำนี้หลุดออกมา อูหลันฮวาก็หน้าเผือดสี แต่ประโยคถัดไป ก็ทำให้นางกลับมาสดใสขึ้นอีกครั้ง
"ข้าซื้อหลันฮวามาแปดตำลึง หากเ้ามีแปดตำลึงมาให้ ก็พาคนไปได้เลย อย่ามาพิรี้พิไรทำพวกข้าเสียเวลา"
เมื่อเธอดูออกว่าพวกเขาไม่มีทางควักกระเป๋า อูหลันฮวาก็ย่อมเข้าใจ
"อะไรนะ? แปดตำลึง" สองผัวเมียอ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อ
"พวกเราขายไปแค่สี่ตำลึงชัดๆ"
"นั่นก็เป็เื่ของพวกเ้า ตอนข้าซื้อนางมาจากแม่เฒ่าอูชีก็จ่ายแปดตำลึง ตกลงจะไถ่ตัวหรือไม่ ถ้าไถ่ก็เอาเงินมา ถ้าไม่ก็หลีกไป หากการเดินทางของพวกเราล่าช้า พวกเ้าจะชดใช้ไหวหรือ"
น้ำเสียงของเซวียเสี่ยวหรั่นเปลี่ยนเป็ดุดัน
"คือว่า... คือ..." ภรรยาอูต้าฟางปล่อยมือจากสายบังเหียนโดยไม่รู้ตัว พวกเขามาเพื่อเอาเงิน ไม่ใช่มาเพื่อมอบเงินให้
"ต้าเหนียงจื่อ ท่านดูสิ หลันฮวาของพวกเราทั้งเฉลียวฉลาดทำงานเก่ง ตอนที่ขายนางไปทีแรก พวกเราก็ขายไปในราคาต่ำมาก บ้านของพวกเราทั้งบ้านต้องประหยัดอดออม กว่าจะเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้โตมาไม่ง่าย ท่านช่วยเพิ่มเงินให้พวกเราอีกสักหน่อยมิได้หรือ"
อูต้าฟางเห็นวิธีการใช้ไม่ได้ผล จึงทำหน้าหนาพูดเป้าหมายที่มาโดยตรง
ผู้คนที่มามุงดูต่างแค่นเสียงพร้อมกันอย่างดูิ่เหยียดหยัน คนหน้าด้านไร้ยางอายเช่นนี้ชวนให้คนต้องทึ่งในความสุดโต่งอย่างแท้จริง
อูหลันฮวาโกรธจนหน้าแดง ลุกขึ้นทันควัน
"นั่งลง" เหลียนเซวียนเอ่ยปาก
อูหลันฮวาเป็คนมีไหวพริบ ย่อมจะนั่งลงแต่โดยดี
ฝ่ายเซวียเสี่ยวหรั่นพอเห็นเหลียนเซวียนเอ่ยปาก ก็ยิ้มแก้มปริไม่พูดอะไรอีก
"พวกเ้าคิดจะทำอะไร จะขู่กรรโชกหรือว่าเล่นงานคนลับหลังกันล่ะ พวกเรากำลังจะเข้าเมืองพอดี มิเช่นนั้นก็ไปศาลาว่าการเสียด้วยกัน จะได้จัดการเื่ให้กระจ่าง"
น้ำเสียงของเข้าทุ้มต่ำดังกังวาน สีหน้าเรียบเฉย หลังตรงดุจด้ามพู่กัน เห็นอยู่ว่านั่งนิ่งอยู่บนหลังเกวียน แต่พลังอำนาจที่กำจายออกมาจากรอบกายผู้ใดก็มิอาจดูแคลน
ผู้คนรอบด้านเงียบกริบในบัดดล
อูต้าฟางเข่าอ่อนทรุดลงกับพื้น ภรรยาของเขากับบุตรชายอีกสองคนที่อยู่ด้านหลังต่างมือสั่นขาสั่น สีหน้าซีดเผือด
เกวียนเริ่มขยับออกไปอย่างช้าๆ เซวียเสี่ยวหรั่นหันมาโบกมือให้พวกซีมู่เซียงกับซีหย่วน
ใบหน้าของทั้งสองอาบรอยยิ้ม โบกมืออำลาพร้อมกัน
เกวียนออกจากปากทางหมู่บ้านไป เลี้ยวเข้าสู่ถนนใหญ่ ไม่ช้าก็หายไปจากสายตาผู้คน
ภรรยาอูต้าฟางกับบุตรชายถึงเข้าไปประคองอูต้าฟางที่แข้งเข่าอ่อนอยู่ที่พื้นขึ้นมา
"ฮึ เอาเปรียบเขาไม่ได้ยังเกือบถูกลากเข้าซังเต คนบางคนก็เหลือเกิน หน้าหนาเสียยิ่งกว่ากำแพง"
"นั่นสิ แบบนี้เรียกว่าขโมยไก่ไม่สำเร็จยังเสียข้าวสารไปหนึ่งกำมือ"
"ฮ่าๆ เห็นผู้อื่นถือศีลกินผักหรือไร ถึงได้กล้าไปทำโอหังเยี่ยงนั้น"
"ต้องขอบคุณผู้อื่นที่รีบเร่งเดินทาง มิเช่นนั้นศาลาว่าการในเมืองคงมีเื่ครึกครื้นไปแล้ว"
พวกชาวบ้านต่างชี้หน้าวิจารณ์พวกเขาสารพัด
พวกอูต้าฟางจากหน้าเขียวคล้ำเปลี่ยนเป็แดง จากแดงกลายเป็ขาวซีด
ผู้าุโถลึงตาใส่พวกเขา พลางทำสีหน้ารังเกียจเดียดฉันท์ ก่อนสะบัดแขนเดินฝ่าผู้คนออกไป
ซีมู่เซียงกับซีหย่วนเห็นเช่นนั้น ก็ส่ายหน้าแล้วกลับบ้านของตนเอง
ครอบครัวของอูต้าฟางจำต้องยุติละครฉากนี้ด้วยความอับอาย
