ค่ำคืนนี้ เจี่ยงหยวนไม่ได้กลับดึก ตอนที่เธอกลับมาถึง เหลียงหานทำกับข้าวรอไว้แล้ว ในจานมีหมั่นโถวกับเค้กข้าวที่ทำมาจากบ้านอวี๋มู่วางอยู่ด้วย
เหลียงหานนึกไม่ถึงว่าเจี่ยงหยวนเองจะกลับมาเร็ว เขาแค่ฟังคำของอวี๋มู่แล้วกลับมา เขาไม่ได้คาดหวังคำพูดของเขาที่แม่ได้ยินในตอนเช้าเท่าไหร่
เขาตั้งโต๊ะกับข้าว ท่าทีอึดอัดใจ “แม่ฮะ กลับมาแล้วก็รีบล้างมือแล้วมาทานข้าวเถอะ”
แล้วเขาก็เดินกลับเข้าครัวหยิบตะเกียบออกมาวางบนโต๊ะ “เค้กข้าวนี่ผมทำมาจากบ้านครูอวี๋ เขาให้ผมเอากลับมา ผมไม่ได้ใส่น้ำตาลเยอะมาก…….”
เหลียงหานหาเื่มาคุยอย่างยากลำบาก เจี่ยงหยวนเพียงแค่ปรายตามองเขา แล้วตอบรับ ถอดเสื้อกันหนาวกับกระเป๋าถือ ล้างมือจนสะอาดแล้วเริ่มนั่งลงก้มหน้าก้มตากิน
เหลียงหานนั่งอยู่อีกฟาก กินไปหลายคำก็ได้ยินเสียงเจี่ยงหยวนพูดคุยกับเขา แต่ไม่ใช่เื่น่าคุยอย่างที่เขาคิด เป็เื่ชายคนนั้น
หญิงสาวพูดขึ้นมาเอง “ฉันรักพี่เฉินมาก เขาไม่เคยรังเกียจฉัน เขาบอกว่าฉันคือคนที่สวยที่สุดั้แ่เขาเคยพบเจอ เป็ผู้หญิงที่จิตใจงดงาม…...”
ใบหน้าเจี่ยงหยวนเผยให้เห็นถึงความหลงใหล เธอม้วนเกลียวผมข้างหู เอ่ยต่อ “เขาบอกว่าตอนนี้ยังไม่มีกำลังมากพอ รอเขาพร้อมเมื่อไหร่ก็จะมาพาฉันไป ไปยังที่ๆ ไม่มีใครรู้จักเรา เริ่มต้นชีวิตใหม่”
ถึงตรงนี้ น้ำเสียงเธอเปลี่ยนไปทันใด พูดเสียงโหดร้าย “ดังนั้น เื่ของฉัน แกไม่ต้องยุ่ง แล้วก็ห้ามเอ่ยเสียๆ หายๆ ถึงพี่เฉินต่อหน้าฉันอีก”
“ไม่ช้าก็เร็วเราต้องไปจากที่นี่ พวกเราจะมีความสุขด้วยกัน แก! อย่าได้คิดจะแยกพวกฉัน”
เธอเหมือนพูดกับตัวเอง พูดเองแล้วก็อารมณ์ขึ้นเสียเอง วางตะเกียบลงเสียงดัง “ไม่มีใครพรากเราสองคนออกจากกันได้!”
หลังจากพูดอย่างไม่มีที่มาที่ไป เจี่ยงหยวนเดินกลับเข้าห้องตัวเอง เหลือไว้เพียงเหลียงหานที่นั่งกินข้าวคนเดียว
หลังเก็บกวาดห้องครัว กลางคืนเขานอนอยู่บนเตียง จู่ๆ เหลียงหานก็หัวเราะขึ้นมา
เขากุมหน้าผาก หัวเราะเยาะตัวเอง
บ้าจริงเชียว นี่เขากำลังคาดหวังอะไรกันนะ
แม่ของเขาเป็โรคประสาท ทั้งยังชิงชังเขา
พวกเขาสองคนไม่มีทางอยู่ร่วมกันอย่างปกติเหมือนแม่ลูกทั่วไปได้
เหลียงหานนอนขดตัว ถือกิ๊บติดผมในมือไว้แนบอก ปล่อยให้ปลายแหลมทิ่มแทงเข้าเนื้อ ให้ความเ็ปดึงสติว่าเขายังมีชีวิตอยู่
เขาเหนื่อยเหลือเกิน
*
คืนวันส่งท้ายปีเก่า เจี่ยงหยวนไม่ได้กลับบ้าน อวี๋มู่ไปลากเหลียงหานออกมาจากบ้านแล้วพาไปบ้านตัวเอง ให้เขาเข้าครัวแสดงฝืมือทำกับข้าวหลายเมนู ทั้งสองกินข้าวมื้อเย็นอย่างอิ่มหนำสำราญ
ทีวีกำลังฉายความครึกครื้นของเทศกาลตรุษจีน ด้านนอกมีเสียงประทัดดังเรื่อยๆ อวี๋มู่นั่งบนโซฟา สูบบุหรี่ เห็นเหลียงหานล้างแอปเปิ้ลจนสะอาดวางไว้บนโต๊ะ เขาตบที่นั่งข้างๆ ตัวเอง แล้วชี้ให้เด็กหนุ่มนั่งลง
“เสี่ยวหาน” เขาล้วงกระเป๋ากางเกงเอาบางอย่างออกมาใส่ในมือเหลียงหาน “เอ้านี่ รับไว้ ยาซุ่ยเฉียน[1]”
สิ่งนั้นคือซองแดงแบบยาว ถึงจะบางมาก แต่กลับทำให้เหลียงหานใจเต้นทันใด
“ครูฮะ ผมไม่…...”
“รับไว้เถอะ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องมาทำกับข้าวให้ฉันอีก มีตัวเลือกให้แค่สองทาง เลือกสิ”
คำพูดนั้นหยุดคำปฏิเสธของเหลียงหานไว้ เด็กน้อยได้แต่น้อมรับยาซุ่ยเฉียนไว้แต่โดยดี
“ขอบคุณฮะครู”
เขาก้มหน้า กลืนน้ำลาย สะอึกเล็กน้อย รีบหยิบแอปเปิ้ลขึ้นมา เพื่อปิดบังความรู้สึก
นี่คือครั้งแรกั้แ่เล็กจนโต ที่เขาได้รับซองอั่งเปายาซุ่ยเฉียน
ตอนเด็กเมื่อได้ยินเด็กคนอื่นพูดถึงซองยาซุ่ยเฉียนแล้วยังเคยได้ยินนิทานเื่เล่าเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดเหนียน[2]
จากความหวังกลายเป็ความสิ้นหวัง หลังจากเติบโตก็เริ่มรับรู้ถึงชีวิตในบ้านเหลียงว่าไม่มีทางได้รับสิ่งดีงามแบบนี้แน่
แต่ตอนนี้ เขาได้รับแล้ว
ในปีนี้ เขาได้รับสิ่งที่เคยคาดหวังมาตลอดครั้งแล้วครั้งเล่าจากครูอวี๋
ตอนนี้เขากลับมีความหวาดกลัว กลัวสูญเสีย ถึงขั้นกลัวว่าสูญเสียแล้วเขาคงต้องตรอมใจตายแน่ๆ
“ฮ่าๆๆๆ…...” เสียงหัวเราะของอวี๋มู่ขัดความคิดของเหลียงหาน เขากำลังดูการแสดงในทีวี หัวเราะร่า บุหรี่ในมือก็สั่นไปด้วย
เหลียงหานอบอุ่นในหัวใจ ความคิดฟุ้งซ่านหยุดลง เขาเขยิบเข้าใกล้อวี๋มู่ แล้วแย่งบุหรี่ในมือชายหนุ่ม ดับในที่เขี่ยบุหรี่ แล้วปอกแอปเปิ้ลชิ้นเล็กๆ ให้เขา
“ครูฮะ สูบให้น้อยๆ หน่อย กินแอปเปิ้ลเยอะๆ ดีกว่าฮะ”
“ได้ๆๆ” อวี๋มู่อ้าปากแล้วงับแอปเปิ้ล แล้วชี้ให้เหลียงหานดูทีวี “รายการปีนี้สนุกดี เธอก็ดูสิ”
“อื้อ” เหลียงหานชักมือเก็บกลับมา จ้องอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจูบลงไปตรงจุดที่อวี๋มู่ััเมื่อสักครู่
หลังจากการกระทำนี้ เหลียงหานรีบดึงสติ เขาหลุบตาลงพลัน ปอกผลแอปเปิ้ลต่อ ใจเต้นตุบๆ
เขาแอบเหลือบไปมองอวี๋มู่ที่กำลังตั้งใจดูทีวี พลันโล่งอกไปเปราะนึง
ดีที่ไม่ถูกเห็นเข้า
แต่หลังจากดีใจ ความรู้สึกที่ตามมาคือความผิดหวังห่อเหี่ยวใจ
นี่เขาต้องฝืนทนอย่างนี้ไปเรื่อยๆ งั้นเหรอ?
แอบรักอยู่ในที่มืด ควบคุมความ้าของตัวเอง ภาวนาไม่ให้ครูอยู่กับคนอื่นก่อนที่เขาจะมีความเข้มแข็งมากกว่านี้
แต่เขารู้ตัวดีว่าตัวเองกำลังโลภมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้จักพอ เขาถึงขั้นที่ไม่ชอบใจเวลาครูอวี๋ยิ้มให้คนอื่น ทนไม่ไหวที่ครูดูแลนักเรียนคนอื่นนอกจากเขา ทนไม่ได้ที่สายตาครูอวี๋ไม่ได้มองแต่เขาผู้เดียว……
ทันใดนั้นก็เริ่มอยากรู้ว่าครูจะมีท่าทีอย่างไรหากรู้ถึงความรู้สึกของเขา รังเกียจหรือใจกว้างรับได้?
ทันใดนั้นมีความหวังแล่นเข้ามาในหัว ความคิดโง่เขลาเื่หนึ่ง
ตอนนั้นที่เกิดเื่ในซอย ตัวเองที่ดุร้าย ครูยังรับได้เลย หากว่าตัวเองเปิดเผยความรู้สึกออกไป ครูก็ต้องยอมรับได้หรือเปล่านะ?
จะได้ไหม?
เป็ไปได้หรือเปล่า?
“ครูฮะ…...” ดวงตาของเหลียงหานกำลังสั่นไหวและเก็บซ่อนอารมณ์ความรู้สึกที่ซับซ้อนไว้ไม่อยู่ เหมือนว่าสมองถูกมนต์สะกดไว้ เขาจับไหล่ครูอวี๋ โน้มตัวไปทับเขาไว้ “ผม อันที่จริงผม…….”
มีดปอกผลไม้อยู่ห่างจากใบหน้าอวี๋มู่ไม่กี่เิเ ปลายแหลมคมกระทบกับแสงสะท้อนวาบขึ้นมา อวี๋มู่กลืนน้ำลาย ดันตัวเหลียงหานออกทันใด แล้วลุกขึ้นยืน “ครูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
เวลานี้อวี๋มู่ดีใจที่ห้องน้ำอยู่ด้านนอก รีบออกไปทางประตู เขาหาจุดที่อยู่ไกลประตูบ้าน ลูบอกตัวเอง แล้วเรียกระบบในจิตสำนึก : เ้าระบบ นายเห็นแล้วใช่ไหม ฉันเกือบจะถูกสารภาพรักแล้ว! ที่สำคัญคือเ้าเด็กนั่นยังถือมีดไว้ด้วย! ปอกผลไม้ก็ปอกไปดีๆ แอบรักก็แอบรักดีๆ อยู่ๆ นึกจะสารภาพก็สารภาพขึ้นมาดื้อๆ เสียอย่างนั้น?
[จึ๊ๆๆ เกือบถูกจัดการแล้วละสิ โฮสต์] ระบบหัวเราะหึๆ [ผมว่านะ โฮสต์ คุณเองก็ควรจะทำใจให้พร้อมนะครับ นี่แค่โลกใบที่หนึ่ง เหลียงหานนั้นเป็เพราะว่าเขามีสถานะแบบนั้น กระทั่งจะสารภาพรักยังต้องคิดแล้วคิดอีกแทบตาย แต่โลกถัดๆ ไป พวกตัวร้ายจะไม่ได้ใสซื่อบริสุทธิ์แบบนี้แล้วนะครับ เื่ที่คุณต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นยังไงก็ต้องเกิดขึ้น ยังไงซะลองหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องศึกษาไว้ จะดีกับตัวเองมากกว่านะครับ]
อวี๋มู่ : ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอะไรกัน?
เขาพึ่งเอ่ยถาม ระบบก็ส่งข้อความวิดีโอคลิปเกย์นับร้อยให้เขาอย่างกระตือรือร้นและมีความสุข
อวี๋มู่ : ……
มารดามันเถอะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------
คำอธิบายเพิ่มเติม
[1]ยาซุ่ยเฉียน 压岁钱 คือเงินที่ผู้ใหญ่จะให้กับเด็กในคืนวันส่งท้ายปีเก่า่เทศกาลตรุษจีน โดยใส่ไว้ในซองสีแดงซึ่งเรียกกันว่าหงเปา หรืออั่งเปาในภาษาไทย มีความหมายหลากหลาย และเื่เล่ามากมาย ทั้งเื่ช่วยกำจัดปีศาจ หรือหมายถึงอายุที่ยืนยาว โดยจะใส่ไว้ใต้หมอนตอนที่นอนข้ามคืนปีใหม่
[2]ตัวเหนียน 年兽 เหนียน เป็สัตว์ประหลาดตัวใหญ่ ในคติความเชื่อของคนจีน ที่มักจะอาละวาดออกมาจับผู้คนกินเป็อาหาร ในคืนวันก่อนวันตรุษจีน ผู้คนจะหวาดกลัวมาก แต่ก็มีผู้เฒ่าผู้หนึ่งอาสาที่จะปราบเหนียน โดยใช้สีแดงและเสียงดัง ปรากฏว่าเหนียนหวาดกลัวมาก และผู้เฒ่าก็สามารถปราบเหนียนให้สงบเชื่องได้ และพาเหนียนไปสู่์ จากความเชื่อตรงนี้ เป็ที่มาของการประดับบ้านเรือนหรือสถานที่ต่าง ๆ ด้วยสีแดง และใช้พลุเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปในวันตรุษจีน