“ชู่!” พอหูซานเห็นเสี้ยวหน้าของเสี่ยวเกาซื่อผ่านแสงจันทร์ก็รีบส่งสัญญาณให้นางเงียบ ซึ่งนางแอบมาหาหูซานที่เรือนหลัง
“พี่ซาน เด็กนั่นอยู่ในห้อง ท่านลงมือเถิดเ้าค่ะ ข้าจะดูต้นทางให้” เสี่ยวเกาซื่อบอกเสียงแ่แล้วเดินย่องไปซ่อนอีกฝั่ง
ห้องนอนของจิ่นเซวียนลงสลักประตูไว้ หูซานเลยเข้าทางประตูไม่ได้ วันนี้อากาศร้อนจิ่นเซวียนจึงมิได้ใส่กลอนหน้าต่าง เขาเลยจะเข้าทางหน้าต่างแทน
คนข้างนอกอาจจะคิดว่าจิ่นเซวียนหลับแล้ว แต่ความจริงนางกำลังนอนคิดเื่ต่างๆ หลังเกิดในร่างใหม่นี้อยู่ ประสาทหูนางดีกว่าคนทั่วไป ต่อให้เสียงเห่าหอนห่างไปไกลหลายร้อยลี้ นางก็ได้ยินอย่างชัดเจน บทสนทนาระหว่างหูซานกับเสี่ยวเกาซื่อเมื่อครู่ ทำให้นางรู้ว่ามีโจรแอบลักลอบเข้ามาทางหลังเรือน
นางรู้สึกคุ้นหูเสียงบุรุษนัก แต่ไม่รู้ว่าคือผู้ใด เพื่อความปลอดภัยของตนเอง นางเลยค่อยๆ ลงจากเตียงไปหยิบกรรไกรกับมีดที่โต๊ะเครื่องแป้งมาใช้ป้องกันตัว
ในห้องมืดสนิทไร้แสง หูซานย่องเบาไปข้างเตียงโดยไม่เห็นว่ามีคนบนเตียงหรือไม่ “เด็กนี่ได้รับความโปรดปรานเสียจริง ผู้เฒ่าซิ่วไฉตายไปแล้วยังเหลือเงินก้นถุงไว้ให้อีก” หูซานคิดว่าจิ่นเซวียนหลับไปแล้วเลยคว้าผ้าห่มเปิดอย่างใจกล้า
ความคิดน่าสะพรึงแวบเข้ามาในหัวจิ่นเซวียน หูซาน เ้าของเสียงคือหูซานแน่ ในที่สุดจิ่นเซวียนก็รู้ว่าเสียงนั้นเป็เสียงของผู้ใด แม่เลี้ยงชั่วร้ายสมคบคิดกับหูซานเพื่อกำจัดนาง
หูซานเป็ชายแก่ตัวคนเดียว ชื่อเสียงกระฉ่อน ไม่คิดเลยว่าเขากับเสี่ยวเกาซื่อเป็สหายเก่ากัน เพราะหากมิใช่สหาย เขาคงไม่กล้ามาทำเื่เลวร้ายในบ้านของนางเช่นนี้
พอคิดถึงตรงนี้จิ่นเซวียนก็ระแวงขึ้น
“ไม่มีคน เด็กนี่หายไปที่ใดแล้ว” หูซานกระชากผ้าห่มพบเตียงว่างเปล่า เลยสบถด่าออกมา
หูซาน เ้าหาเื่เองนะ จิ่นเซวียนตัดสินใจฉวยโอกาสตอนที่หูซานยังไม่หันมา นางกำกรรไกรแทงเข้าท้ายทอยหูซานอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ท้ายทอยมีจุดตายอยู่ อย่าว่าแต่กรรไกรเลย แค่มือทุบก็สลบได้แล้ว
พอหูซานล้มลง จิ่นเซวียนก็กรีดร้องออกมา ดึงความสนใจของเสี่ยวเกาซื่อ
“อ๊ะ เ้าคือใคร มาอยู่ในห้องข้าได้อย่างไร”
“พี่ซานสำเร็จหรือไม่?” เสี่ยวเกาซื่ออยู่นอกประตูได้ยินเสียงจิ่นเซวียนร้องขึ้นมาก็วิ่งกลับมาหน้าห้องนอนของจิ่นเซวียน
นางแนบหูกับประตูเพื่อแอบฟังเสียงภายในห้อง จิ่นเซวียนขยับมาหลังประตูแล้วกระชากเปิดอย่างแรง เสี่ยวเกาซื่อที่แอบฟังอยู่เลยเอนล้มลงมาข้างหน้า พาดทับธรณีประตู
“กรี้ด!” จิ่นเซวียนใช้กรรไกรแทงหลังเสี่ยวเกาซื่ออย่างไม่เกรงกลัว ความเ็ปแผ่ซ่าน ทำให้นางกรีดร้องเสียงดังอื้ออึงจนคนในเรือนใ
“ท่านพ่อ ท่านย่า โจรขึ้นบ้านเ้าค่ะ พวกท่านรีบมาเร็วเข้า!” จิ่นเซวียนหยิบกรรไกรเปื้อนเืวิ่งะโ สักพักซย่าหลี่จวินกับเกาซื่อก็มาถึง
ในมือพวกเขาถือคานประตูพลางถามจิ่นเซวียนอย่างระแวดระวัง “เซวียนเซวียน โจรอยู่ที่ใด?”
“ท่านพ่อ ตอนข้ากำลังจะเข้านอน มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาในห้องของข้า ตามด้วยผู้หญิงอีกหนึ่งคน ข้า ข้ากลัวมากเ้าค่ะ ข้าเลยหยิบกรรไกรแทงพวกเขาาเ็ เวลานี้พวกเขาอยู่ในห้องเ้าค่ะ......”
จิ่นเซวียนเหยียดยิ้มเย้ยหยันท่ามกลางความมืดมิด เสี่ยวเกาซื่อ คืนวันอันแสนสุขของเ้าสิ้นสุดลงเสียแล้ว
เสี่ยวเกาซื่อระงับความเ็ปที่หลังแล้วะโบอกคนนอกประตู “ข้ามิใช่โจร ข้ามาจับโจรต่างหาก”
“อี๋เหนียง เหตุใดท่านถึงเข้าห้องของข้ามาพร้อมโจรเล่า ข้าคิดว่าท่านคือโจรเลยแทงท่านไป”จิ่นเซวียนไม่ให้โอกาสเสี่ยวเกาซื่อแก้ต่าง พูดส่อความนัยทันที
เ้าเด็กนี่พิลึกนัก ทั้งที่มั่นใจว่านางหลับไปแล้วแท้ๆ อีกอย่างนางทำให้หูซานหมดสติในชั่วพริบตาได้อย่างไร
“ลูกเอ๋ย เ้าโจรคือหูซาน” เกาซื่อเข้าห้องไปจุดไฟ จนเห็นว่าคนที่นอนอยู่หน้าเตียงคือหูซาน
“หูซาน เ้าอาจหาญนักที่กล้าเข้าห้องส่วนตัวของเซวียนเซวียน” เกาซื่อ ซย่าหลี่จวินและคนในหมู่บ้านต่างรู้กันทั้งนั้นว่าหูซานเคยตามเกี้ยวเสี่ยวเกาซื่อ
การที่หูซานมาปรากฏตัวในห้องเซวียนเซวียนได้อย่างไร พวกเขาต่างรู้กันดี
“สามี ท่านฟังข้าอธิบายก่อนเ้าค่ะ ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าหัวขโมยคือหูซาน” เสี่ยวเกาซื่อโดนสายตาสามีทิ่มแทงจนนางหวาดผวา นางพาโจรเข้าห้องส่วนตัวของจิ่นเซวียนเช่นนี้ ส่อเจตนาร้ายอย่างชัดเจน
เจินเจิน กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมคืนสนอง เกาซื่อมองเสี่ยวเกาซื่อด้วยสายตาเย็นเยียบ นางผิดหวังกับเสี่ยวเกาซื่อยิ่งนัก
“เจินเจิน ครั้งนี้ข้าช่วยเ้าไม่ได้แล้วจริงๆ เ้าแบกรับความผิดเองเถิด” เกาซื่อผิดหวังกับเสี่ยวเกาซื่อนัก แม้นางจะโลภแต่ก็มีขอบเขต
“ท่านแม่ ท่านกับเซวียนเซวียนไปแจ้งท่านลุงหัวหน้าตระกูล ให้เขาพาคนมาจับสารเลวสองคนนี้ไปจมหมูในอวย[1] เถิดขอรับ” เมื่อซย่าหลี่จวินคิดว่าตนเองโดนสวมหมวกเขียว[2] ก็เกลียดชังเสี่ยวเกาซื่อจนแทบฆ่านางให้ตายไปเสีย
“ไม่ ท่านทำกับข้าเช่นนี้ไม่ได้นะเ้าคะ” เสี่ยวเกาซื่อเสียใจ เสียใจนักที่นางไปหาหูซาน
“ท่านพ่อ วันมะรืนเป็วันออกเรือนของข้า ข้าเสียใจนักที่เกิดเื่เช่นนี้ขึ้น เอาเช่นนี้ดีหรือไม่เ้าคะ พวกเราส่งหูซานให้ทางการ แล้วให้อี๋เหนียงไปขอหย่าร้างต่อศาลเถิดเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนทำเช่นนี้มิใช่เพื่อพ่อเฮงซวยกับเสี่ยวเกาซื่อ แต่เพื่อรักษาชื่อเสียงของท่านปู่
“เซวียนเซวียนคิดได้รอบคอบนัก พวกเราไม่ควรทำลายชื่อเสียงตระกูลซย่าเพราะคนสารเลวพวกนี้” เวลานี้เกาซื่อรู้สึกขอบคุณจิ่นเซวียนนัก นางรู้ว่าจิ่นเซวียนไม่เหมือนแต่ก่อน ตราบใดที่เื่นี้เกี่ยวข้องกับนาง นางจะไม่ปล่อยให้พวกเขาเข้ามายุ่มย่ามแน่
“ท่านแม่ ข้าโดนใส่ร้ายนะเ้าคะ” เสี่ยวเกาซื่อไม่สนใจสิ่งใด นางคุกเข่าอ้อนวอนขอร้องซย่าหลี่จวิน
“ท่านแม่ ท่านทำข้าผิดหวังนัก เหตุใดท่านถึงทำเช่นนี้เล่าเ้าคะ” ซย่าจิ่นอวิ๋นก้าวเข้ามาต่อว่าแม่ของนางทันที นางรู้ว่าตอนนี้ต้องยืนข้างท่านพ่อเท่านั้นถึงจะมีทางรอด
“อวิ๋นเอ๋อร์ เ้าช่วยขอร้องให้แม่ที” เสี่ยวเกาซื่อลุกขึ้นจับมือลูกสาวให้ช่วยขอความเมตตา
“ท่านแม่ ท่านก็รู้ว่าหูซานเป็คนเช่นไร ท่านยังให้เขามาทำให้พี่สาวเสื่อมเสียอีกหรือเ้าคะ ท่านทำให้พวกเราบ้านซย่าขายขี้หน้ายิ่งนัก”
ใจคนยากแท้หยั่งถึง เสี่ยวเกาซื่อไม่เคยคิดเลยว่าแม้แต่ลูกสาวก็หักหลังนาง
“ฮ่าๆ กรรมตามสนองข้าเสียจริง ลูกสาวที่ข้าเลี้ยงมาอย่างยากลำบาก นางเลือกทรยศข้าเพื่อปกป้องตนเอง” เสี่ยวเกาซื่อะเิเสียงหัวเราะออกมาทันที ครึ่งแรกของชีวิตนางคงราบรื่นเกินไป ครึ่งหลังถึงได้ทำพลาดเช่นนี้
นางคิดแก้แค้นจิ่นเซวียนแต่กลับเข้าตนเอง หากส่งหูซานให้ทางการ หูซานคงโยงมาถึงนางแน่
“เซวียนเซวียน พวกเ้าเฝ้าโจรไว้ ข้าจะไปเรียกคนมาจับพวกเขา” ซย่าหลี่จวินไม่ปล่อยเสี่ยวเกาซื่อ เพื่อกำจัดญาติจนๆ อย่างบ้านเกาแล้ว เขาเลยตัดสินใจลงโทษให้หนัก
“ท่านพ่อ ครานี้หูซานกับอี๋เหนียงสมคบคิดกัน หากเื่กระจายออกไปชื่อเสียงของท่านจะเสียหายนะเ้าคะ” จิ่นเซวียนพูดลองเชิงเขาอีกครั้ง พ่อเฮงซวยโดนสวมหมวกเขียวหรือไม่ นางไม่ใส่ใจ ตัวเขายังไม่กลัวนางจะกลัวไปไย
“เซวียนเซวียน เ้ายังเล็กนัก มีหลายเื่ที่ยังไม่รู้ การเมตตาศัตรูจะส่งผลร้ายต่อตนเอง วันนี้เ้าปล่อยนางไป แต่นางจะยอมปล่อยเ้าหรือ”
จิ่นเซวียนยิ้มเยาะในใจ ท่านพ่อตัดสินใจเด็ดขาดฉับไว ดูท่าเขาคงอยากจัดการเสี่ยวเกาซื่อมานานแล้ว และนางเป็แค่คนเปิดโอกาสให้เขาเท่านั้น
“ท่านพ่อ ให้ข้าเรียกคนเองเถิดเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนพูดแล้วะโเรียกครอบครัวจินซื่อจากข้างบ้านมาช่วย สามีภรรยาจินซื่อ รวมถึงลูกชายคนรองซย่าหม่านชางตามมาที่ห้องเอ่อร์ฝาง พอเห็นหูซานนอนหมอบอาบเืที่พื้นก็ใยิ่งนัก
ซย่าหม่านชางคิดว่าซย่าหลี่จวินล้อพวกเขาเล่น เลยถามเคร่งขรึม “พี่หลี่จวิน ท่านแน่ใจหรือว่าจะส่งพี่สะใภ้เจินเจินให้ทางการ?”
เชิงอรรถ
[1] จมหมูในอวย หมายถึง วิธีลงโทษหญิงผิดประเวณีกับชายลักขโมยด้วยการล่ามโซ่และใส่ไว้ในอวยหมูไม้ไผ่ แล้วโยนลงน้ำให้จมน้ำตาย
[2] สวมหมวกเขียว หมายถึง ภรรยามีการคบชู้ หรือภรรยานอกใจ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้