บทที่ 56 าความตาย!
เหล่าผู้ชมถกเถียงกันมากมาย บางคนคิดว่าการต่อสู้เป็ตายเป็ข้อเสนอที่ไม่สมเหตุสมผล แต่ก็มีคนจำนวนมากที่อยากเห็นความตื่นเต้นโห่ร้องปรบมือและะโว่าดี
ต้องบอกว่าในโลกของพลังยุทธ์ ผู้แข็งแกร่งเป็ที่เคารพนับถือมากที่สุด
ถ้าเจอปัญหายากๆ คนส่วนใหญ่ก็จะสนับสนุนให้ใช้กำลังแก้ไข ซึ่งน่าขนลุกเป็ที่สุด
ในสายตาของทุกคน เื่ของสุสานปราณันั้นน่าสับสน ผู้าุโหกไม่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองได้ แต่ฝ่ายของฉู่อวิ๋นนั้นมีมู่หรงซินเป็พยาน
ทว่าเนื่องจากความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ชัดเจน ผู้าุโหกผู้ทรยศจึงจับจุดนี้แล้วนำมาสร้างปัญหา ทำให้มู่หรงซินขาดความน่าเชื่อถือและคำให้การไร้ผล
ในเมื่อทั้งสองฝ่ายต่างยืนกรานในความคิดของตนเองและโต้เถียงกันไม่รู้จบ ทางออกที่ดีที่สุดคือการต่อสู้เป็ตายดังที่ผู้าุโหกกล่าว
“ไม่ได้แน่นอน! ก่อนที่จะรู้ความจริง ข้าคิดว่าเราไม่ควรทำอะไรบุ่มบ่าม! ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าฉู่เจิ้นหยวนจะต่อสู้ในขั้นขอบเขตควบแน่นพลังปราณ แต่เขาก็ฝึกฝนทักษะยุทธ์มาหลายปีแล้ว ประสบการณ์ยาวนาน นี่เท่ากับการส่งฉู่อวิ๋นไปตายเลยนะ!?” หลี่ซานลุกขึ้นจากเก้าอี้และะโใส่ผู้นำตระกูลคนอื่นๆ ด้วยความโมโห
“เชอะ! ผู้นำหลี่ โปรดอย่าลืมว่าหลี่เจ๋อลูกชายของเ้าก็พ่ายแพ้ให้ฉู่อวิ๋นนะ มันยุติธรรมแล้วหรือที่เ้าจะช่วยเขาแบบนี้!” หลินหู่ยกยิ้มเยาะ
“ไร้สาระ! ในการประลองย่อมมีแพ้ชนะ หมายความว่าถ้าเ้าแพ้ เ้าก็จะใช้ความรุนแรงแก้แค้นผู้อื่นด้วยความอยุติธรรมอย่างนั้นหรือ?” หลี่ซานโต้กลับโดยถามหลี่เจ๋อที่ยืนอยู่ข้างๆ ซึ่งยืดอกด้วยความภูมิใจ แม้ว่าเขาจะแพ้ให้กับฉู่อวิ๋น แต่เขาก็มั่นใจว่าเขาแพ้อย่างใสสะอาด
หากไม่สามารถยอมรับความล้มเหลวในการประลองได้ เช่นนั้นจะเอาชนะความยากลำบากทั้งปวงและไปถึงจุดสูงสุดได้อย่างไร?
หลินหู่ผู้นี้เป็คนใจแคบ เห็นได้ชัดว่าเป็เพราะทวารรับแสงทางิญญาของหลินหล่างถูกฉู่อวิ๋นทำลายสิ้น เขาจึงเคียดแค้น ไร้เหตุผลและก้าวร้าว
นอกจากนี้ นี่ก็เป็ความผิดของหลินหล่างเอง ถ้าเขาไม่ยั่วยุฉู่อวิ๋นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาจะลงเอยแบบนี้ได้อย่างไร?
“ผู้นำหลี่ แม้ว่าสิ่งที่เ้าพูดจะไม่สมเหตุสมผลนัก แต่เื่ของสุสานตระกูลฉู่ในตอนนี้ซับซ้อนและเต็มไปด้วยความน่าฉงน คงจะดีถ้าสามารถแก้ไขได้ด้วยการต่อสู้เป็ตายดังว่า!” ผู้นำตระกูลซือหม่าหรี่ตาลงและพูด
“เ้าพูดได้ถูกต้อง! แม้จะเป็เื่ของตระกูลฉู่เรา แต่ผู้าุโหกพูดอย่างเปิดเผยและให้ทุกคนแสดงความคิดเห็น นั่นไม่ใช่สัญญาณของความจริงใจหรอกหรือ? การต่อสู้เป็ตายเป็สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว!” ผู้าุโสามเข้าร่วมวงสนทนา การวิเคราะห์ดูเหมือนจะสมเหตุสมผล
ความจริงแล้ว สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือผู้าุโหกใช้หัวข้อนี้เป็ข้ออ้างในการยึดกระบี่ชื่อยวนเล่มนั้น เขาจึงเป็ตั้งตัวตัวตีในเื่นี้
กระบี่ที่ถูกสงสัยว่าเป็สมบัติลับในสุสาน ผู้าุโหกจะไม่ปล่อยให้มันตกไปอยู่ในมือของตระกูลอื่นอย่างแน่นอน
สักพัก ผู้นำตระกูลทั้งหมดก็แสดงความคิดเห็น ผลที่ตามมาช่างน่าะเืใจ เพราะส่วนใหญ่สนับสนุนให้ต่อสู้เป็ตาย
“ท่านพ่อ! อย่าปล่อยให้ฉู่อวิ๋นต้องสู้กับคนร้ายกาจคนนั้นนะเ้าคะ ท่านไม่เชื่อลูกหรือ? สิ่งที่ลูกพูดเป็ความจริงอย่างแน่นอน! ฉู่อวิ๋นเป็ผู้บริสุทธิ์เ้าค่ะ!”
ดวงตาของมู่หรงซินนองไปด้วยน้ำตา เสียงของนางละล่ำละลัก ดึงแขนเสื้อของมู่หรงเจี๋ยไว้ไม่ปล่อย ท่าทีที่ละเอียดอ่อนและหยิ่งผยองของนางก็หายไปจนเหมือนเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่ทำอะไรไม่ถูกและเสียใจเป็อย่างยิ่ง
นี่คือทั้งหมดที่นางสามารถทำได้แล้ว
“เฮ้อ ลูกสาวคนดีของข้า ตอนนี้สถานการณ์อยู่นอกเหนือการควบคุมของข้าในฐานะเ้าเมืองแล้ว ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อเ้า แต่เสียงเรียกร้องให้ต่อสู้เป็ตายนั้นดังเหลือเกิน ดูที่ลานประลองสิ เกือบทุกคนล้วนสนับสนุนการต่อสู้นี้ แม้ว่าข้าจะมีใจแต่ก็ไร้แรง” มู่หรงเจี๋ยถอนหายใจอย่างสิ้นหวัง
ดวงตางามของมู่หรงซินเป็ประกายด้วยน้ำตา นางมองไปที่ลานประลองขนาดใหญ่ เห็นทุกคนมีสีหน้าแดงก่ำ ส่งเสียงคำรามโห่ร้องอย่างสุดกำลังราวกับสัตว์ร้ายกลุ่มหนึ่งที่ะโและหอนอย่างดุเดือด
พวกเขา้าเห็นการต่อสู้ที่เด็ดขาด พวกเขา้าเห็นเืที่หลั่งไหลในสนามรบ
ความจริงเล่า อยู่แห่งหนใด?
ขาของมู่หรงซินอ่อนแรง นางทรุดตัวลงกับพื้นอย่างช่วยไม่ได้ สีหน้าดูหมองคล้ำและไร้ชีวิตชีวา
ถัดจากเวทีประลอง ผู้เฒ่าเฟิงมองไปยังลานประลองที่บ้าคลั่งและสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ดูเหมือนว่าเื่ในวันนี้จะจบลงด้วยความตายอย่างแน่นอน
ในที่สุด มู่หรงเจี๋ยก็หายใจเข้าลึกๆ และประกาศอย่างไม่เต็มใจว่า การต่อสู้เป็ตายได้ถูกกำหนดแล้ว ไม่ว่าฉู่อวิ๋นหรือผู้าุโหก วันนี้ต้องมีคนตายหนึ่งคน!
ทั่วทั้งลานประลองเดือดพล่านไปด้วยความตื่นเต้น ทุกคนต่างะโโห่ร้อง ลงขันประชันเสียงกันอย่างแข็งขัน
บนเวทีประลอง เหลือเพียงฉู่อวิ๋นและผู้าุโที่หก ทั้งสองฝ่ายได้ตัดสินใจเกี่ยวกับสถานการณ์ความเป็ความตายนี้และเตรียมพร้อมที่จะเริ่มการต่อสู้ให้ตายกันไปข้างหนึ่ง
“เชอะ ไอ้สารเลวใจหมาป่า[1] เ้าฆ่าลูกชายของข้าและทำลายสุสานของตระกูล เ้าก่ออาชญากรรมร้ายแรงแล้ว! แต่วันนี้ข้าจะแสดงความเมตตาอันยิ่งใหญ่ จะต่อสู้กับเ้าอย่างถึงที่สุดในระดับเก้าของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ ข้าจะทำให้เ้าตายอย่างมีศักดิ์ศรีมากขึ้นเอง!” แม้ว่าผู้าุโหกจะดูซีดเซียว เขาดูเศร้าและโกรธแค้น แต่ก็มีแววตาที่ภาคภูมิใจอย่างชัดเจน
เขาจ้องมองไปที่กระบี่ชื่อยวนของฉู่อวิ๋น ความโลภของเขาฉายชัดมากขึ้นเรื่อยๆ
ขอแค่ฉู่อวิ๋นถูกฆ่า เขาก็สามารถรับกระบี่นี้มาครองได้ ซึ่งสมเหตุสมผลนัก
"ฮะ...ฮ่าๆๆ!!!"
ฉู่อวิ๋นเงยหน้าขึ้นมองฟ้าและหัวเราะดังลั่น เสียงของเขาโหยหวนทรมาน
ใบหน้าที่มืดมนของเขาเปลี่ยนไปในทันที ั์ตาแดงก่ำ เจือไปด้วยความเกลียดชัง! ความโกรธพลุ่งพล่านในร่างกาย เืร้อนเดือดพล่าน และาแที่หายดีทั้งหมดก็เปิดออก โลหิตในร่างเร่าร้อนราวกับเปลวไฟที่ไหลออกมาจนทั้งตัวกลายเป็สีแดง
ราวกับเทพซิวหลัวที่เปล่งประกายอันน่าสะพรึงกลัวออกมา
“เ้าเป็คนเสแสร้ง ไร้ยางอาย และน่ารังเกียจยิ่งนัก! ช่างเลวทรามและร้ายกาจเหลือเกิน!” ฉู่อวิ๋นพ่นคำพูดออกมาอย่างเ็า จ้องมองไปที่ผู้าุโหกด้วยดวงตาสีแดงก่ำเืคู่หนึ่ง
เขารู้ว่าผู้าุโหกคนนี้บิดเบือนข้อเท็จจริงและใช้คำพูดที่ชาญฉลาดเปลี่ยนกระแสมวลชนเพื่อสนับสนุนการต่อสู้ตัดสินชะตานี้
ฉู่อวิ๋นไม่ใช่คนโง่ ด้วยความแข็งแกร่งและการกระทำอันชาญฉลาดของผู้าุโหก แม้ว่าเขาจะระงับการฝึกฝนลงจนถึงระดับเก้าของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ แต่ความสำเร็จและประสบการณ์การต่อสู้ของเขาย่อมดีกว่าแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น ฉู่อวิ๋นเพิ่งต่อสู้นองเืกับฉู่เฟย เขาหมดทั้งแรงและพลังไปนานแล้ว
ในเวลานี้ หากทุกคนต่างบอกให้เขาเข้าต่อสู้เป็ตาย นั่นหมายถึงการผลักเขาลงนรกอย่างไม่ต้องสงสัย
“ข้า ฉู่อวิ๋น กระทำอย่างเปิดเผยมาตลอด ข้าไม่ฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ นับประสาอะไรกับการดูถูกการาเ็และกลั่นแกล้งผู้อ่อนแอ! ข้าจะไม่มีวันยกโทษให้ตระกูลหลักนี้!”
"แต่ข้าไม่เคยคิดหวังมาก่อนว่า ตอนนี้ พวกเ้าจะเห็นด้วยกับการต่อสู้เป็ตายที่ไม่ยุติธรรมโดยแท้จริงนี้ โดยฟังแต่คำพูดของคนที่ร้ายกาจคนนี้ นี่เท่ากับเป็การผลักข้าไปตาย!"
ฉู่อวิ๋นยืนอยู่คนเดียว ะโด้วยความโกรธไปทุกทิศทาง เส้นเืปูดโปนบนหน้าผาก เขาเต็มไปด้วยความโกรธ ความเกลียดชัง ความคับข้องใจ และความสับสน
ทว่าไม่มีใครตอบเขา และแม้แต่เสียงของมู่หรงซินก็ถูกปิดกั้นไว้อย่างดี
ทุกคนกระตือรือร้นที่จะฆ่า ทุกคน้าเห็นเืหลั่งลงบนพื้นโดยไม่สนใจว่าใครถูกใครผิด
โลกแห่งพลังยุทธ์ เหี้ยมโหดนัก
“เฮ เฮ เฮ-”
เสียงเดือดพล่านราวกับคลื่นั์ที่โเี้ดังมาจากทั่วทุกมุมของลานประลอง และตกลงสู่เวทีประลองเล็กๆ จนเกือบจะทำให้แก้วหูของฉู่อวิ๋นฉีกขาด เสียงดังหึ่งๆก้องอยู่ในหู
ทุกคนต่างตั้งตารอคอยมันอย่างใจจดใจจ่อ เืของพวกเขาพลุ่งพล่าน พลังของพวกเขากำลังพุ่งทะยาน รอให้การต่อสู้เป็ตายนี้เริ่มต้นขึ้น
เมื่อมองดูลานประลองอันปั่นป่วนนี้ ฉู่อวิ๋นก็รู้สึกว่าหัวใจของเขาวูบโหวง กระดูกและเนื้อของเขาแข็งตัว เขาเปิดตาสีแดงมองไปรอบๆ ก่อนจะพบว่าคนส่วนใหญ่ยืนขึ้นอย่างตื่นเต้น ส่งเสียงโห่ร้อง หรือะโ หรือร้องคำรามราวกับหมาป่า
บางคนที่ยังมีเจตนาดีและจิตใจบริสุทธิ์ก็ทำได้แค่จมอยู่ในนั้น ทำอะไรไม่ถูก ส่ายหัวและถอนหายใจ
การต่อสู้สามารถกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนได้ เืสามารถทำลายหัวใจของผู้คนได้ เกราะทองม้าเหล็ก แสงดาบเงากระบี่ล้วนสามารถทำลายเหตุผลและมโนธรรมได้
"ฮ่าๆ...ฮ่าๆๆ"
ตอนนี้ ความคิดของฉู่อวิ๋นเปลี่ยนแปลงไปจนไม่อาจคืนเดิมได้แล้ว!
“หลักการ? กฎเกณฑ์? ความจริง? ฮ่าๆๆ ไร้ประโยชน์ทั้งเพ...ไร้ประโยชน์ทั้งเพ!!!”
กระบี่ชื่อยวนถูกปลดออกจากฝัก แสงอันมืดมิดส่องสว่างน่าสะพรึงกลัว ราวกับดวงอาทิตย์ที่กำลังตกดินส่องแสงเจิดจ้าเป็ครั้งสุดท้าย ย้อมท้องนภาด้วยเืของตนเอง
“มีเพียงความแข็งแกร่งเท่านั้น...ความแข็งแกร่งที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น! เพียงความแข็งแกร่งที่ไม่มีใครเทียบได้เท่านั้น มีเพียงต้องโผบินขึ้น์และดำดิ่งลงสู่นรก จึงจะสามารถพูดถึงอิสรภาพได้ พูดถึงความยุติธรรมได้!”
ฉู่อวิ๋นหัวเราะลั่น แลดูบ้าคลั่ง และพูดกับตัวเองด้วยความเกลียดชังอย่างท่วมท้น
“ท่านพ่อ ลูกอกตัญญู! วันนี้อาจจะตายด้วยน้ำมือของศัตรู แต่ลูกไม่กลัว!”
“ถ้ากระบี่ของข้าหัก ข้าจะใช้หมัดต่อย!”
“ถ้ามือของข้าขาด ข้าจะใช้เท้าเตะถีบ!”
“ถ้าเท้าของข้าด้วน ข้าจะให้ฟันกัด!”
“ถ้ากระดูกของข้าหักทั้งหมด ข้าจะใช้ตาจ้องมอง!”
"ถ้าข้ากำลังจะตาย ข้าก็จะสาปแช่ง! แม้ว่าข้าจะตกนรก ข้าก็จะกลายเป็เทพซิวหลัวกลับมาจองล้างจองผลาญ จะไม่ปล่อยให้ศัตรูโฉดช้าอยู่อย่างสงบสุข! ข้าสาบานว่าจะตกตายไปพร้อมกับมัน!"
แม้ว่าคำพูดที่รุนแรงและหนักหน่วงจะดูเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับเสียงที่ทรงพลัง แต่ก็เต็มไปด้วยความเกลียดชังและคมกริบอย่างยิ่ง ทำให้ผู้าุโหกที่ร้ายกาจและมีไหวพริบประหลาดใจ
“เชอะ... เ้าคนทรยศตัวน้อย หากเ้ามอบกระบี่ในมือมาอย่างเชื่อฟัง ข้าจะปล่อยให้เ้าตายอย่างมีความสุข ไม่ถูกข้าทรมาน!” ผู้าุโหกดุด่าอย่างโกรธเคือง แต่สายตาของเขาจับจ้องไปที่กระบี่ชื่อยวนสีแดงเข้ม ดวงตาปรากฏให้เห็นความโลภ
“ไร้สาระ! วันนี้ข้าต้องสู้ตายกับคนสารเลวเช่นเ้า และจะไม่หยุดจนกว่าจะรู้ผลเป็ตาย! เหตุใดข้าฉู่อวิ๋นต้องกลัวด้วย?!”
“แม้ว่าข้าจะไม่ได้คาดหวังว่าเทพเซียนท่านจะใจร้าย ปล่อยให้การต่อสู้ครั้งนี้เกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ แต่การที่เ้าร่วมมือกับคนนอกปล้นฆ่าพ่อของข้านั้นเป็เื่ที่อภัยให้ไม่ได้! แม้ว่าข้าจะตาย ข้าก็จะทิ้งรอยฟันเอาไว้บนตัวเ้า!"
ฉู่อวิ๋นะโ ชี้กระบี่ไปที่ผู้าุโหก พลังปราณของเขาเพิ่มขึ้น และพลังของเขาก็พุ่งสูงขึ้น!
“ดี! ในเมื่อเ้าไม่รู้จักแยกแยะดีชั่ว เช่นนั้นก็อย่าโทษที่ข้าโเี้!” ผู้าุโหกดึงกรงเล็บอันแหลมคมออกมาแล้ววางลงบนหมัดของเขา แสงเย็นเยียบของซี่เล็บแหลมสะท้อนออกมาจนน่ากลัว ใบหน้าที่น่ากลัวแต่เดิมของเขายิ่งลุ่มลึกลงไปอีก
"ตึง!"
ผู้เฒ่าเฟิงตีกลองรบอย่างเสียไม่ได้ การต่อสู้เป็ตายก็เริ่มขึ้น ลานประลองเดือดพล่านถึงขีดสุด ราวกับว่าพญามารมาเยือน ราวกับว่าโลกกำลังจะล่มสลาย!
"ฟุ่บ!!!"
ในเวลานี้ เมื่อเ้าเมืองขึ้นนั่งบนที่นั่ง จู่ๆ มู่หรงซินก็สะดุ้ง ดวงหน้างดงามซีดลง นาง้าออกไปจากตรงนี้ ไปช่วยฉู่อวิ๋น แต่ถูกมู่หรงเจี๋ยดึงกลับและปรามไว้ ไม่สามารถเข้าร่วมต่อสู้ได้
วันนี้ หนึ่งในสอง ไม่ฉู่อวิ๋นก็ผู้าุโหกต้องตาย!
นี่คือาความตาย!
“แม้ว่าข้าจะระงับการฝึกฝนให้อยู่ในขอบเขตควบแน่นพลังปราณแล้ว แต่เ้าก็คงไม่รอดไปจากกระบวนท่าทั้งสิบของข้าได้!” ผู้าุโหกแสดงรอยยิ้มที่ดุร้ายและเป็คนเริ่มบุก ย่างก้าวของเขารวดเร็วมากอย่างน่าประหลาดใจ เร็วกว่าฉู่เฟยด้วยซ้ำ
เมื่อครู่ฉู่อวิ่นยังพอเห็นภาพติดตาของฉู่เฟยบ้าง แต่ตอนนี้ แม้แต่จะแตะเงาของผู้าุโหกก็ยังไม่สามารถทำได้!
"ฟิ้ว!"
ซี่เล็บทั้งหกนั้นเหมือนกับหมาป่าที่หิวโหยตะครุบอาหาร แสงกระทบดึงดูดความสนใจของผู้คน กลายเป็เงาหลายดวงที่ไหลผ่านท้องฟ้า โจมตีฉู่อวิ๋น
สำหรับผู้าุโหก ระยะทางไปยังเวทีประลองนั้นสั้นมากจนสามารถไปถึงได้ในพริบตา
"ควั่บ!"
กระบี่ชื่อยวนถูกฟันในแนวนอน ฉุ่อวิ๋นใช้ปฏิกิริยาที่เร็วที่สุดในการปล่อยกระบวนท่าดวงดาราแปรผัน ดวงดาวที่เปล่งประกายก็กระจายออกไปและพยายามล้อมรอบเขา
แต่ก่อนที่ปราณจะถูกห่อหุ้มจนหมด แสงกรงเล็บหลายอันก็โจมตีมาอย่างรวดเร็ว ว่องไวราวฟ้าร้อง พร้อมด้วยเจตนาฆ่า!
"ฉึก--"
----------
[1] สารเลวใจหมาป่า หมายถึง เนรคุณ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้