บทที่ 7 แต้มทะลุหมื่น
พวกเขามุ่งหน้ามายังหอคุณูปการบนยอดเขาชิงจู๋ ทั่วทั้งตัวของฉินชูกับไป๋อวี้ยังเต็มไปด้วยคราบเืเกรอะกรัง เสื้อผ้าขาดวิ่น ด้านหลังสะพายกระเป๋าเอาไว้
ลูกศิษย์สำนักชิงหยุนที่อยู่ในหอคุณูปการต่างหลีกทางให้พวกเขา ไม่มีใครอยากเข้าใกล้คนเนื้อตัวสกปรกทั้งสองคนนี้
ฉินชูมาที่กระดานภารกิจก่อน และเอื้อมมือเลือกใบภารกิจ ครั้งนี้เขาใส่ใจเลือกเป็พิเศษ เพราะมีสิ่งของบางอย่างที่เป็ที่้าของภารกิจนั้นๆ เลือกไปเลือกมาก็มีไม่น้อยเลยทีเดียว
“ไป๋อวี้ในกระเป๋าเ้าไม่มีบ้างหรือ” เมื่อเลือกของตัวเองเสร็จ ฉินชูก็มองไปทางไป๋อวี้
“เวลาข้าเจอของดีก็เก็บๆ มา จำไม่ได้แล้วว่ามีอะไร พวกเราแลกแต้มกันก่อน แล้วที่เหลือลูกพี่ค่อยช่วยข้าดูอีกทีแล้วกัน” ไป๋อวี้พูดเสียงแ่ เพราะเขารู้สึกว่าของที่ตัวเองเก็บมาสู้ของฉินชูไม่ได้สักนิด
ฉินชูพยักหน้า “ได้ อีกเดี๋ยวข้าจะช่วยเ้าเลือก”
“ไม่ตำหนิข้าหรือ” ไป๋อวี้สงสัย เขาคุ้นชินกับการถูกฉินชูตำหนิหลังจากทำเื่โง่ๆ ไปแล้ว
ฉินชูคลี่ยิ้ม “ถ้าพวกเราอยู่สองต่อสองมันก็อีกเื่ แต่เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น พวกเราต้องปรองดอง ลองมีใครกล้าตำหนิเ้าดูสิ”
ขณะพูดฉินชูก็กวาดมองพวกลูกศิษย์ตัวจริงที่อยู่รอบๆ เป็เชิงบอกว่า พวกเ้าลองตำหนิพวกเราดูสิ
ตึง
ฉินชูวางกระเป๋าของตัวเองลงบนโต๊ะ ควักบัตรสะสมแต้มคุณูปการออกมาพร้อมกับใบภารกิจ
“พวกเ้าช่วยรักษาความสะอาดหน่อยไม่ได้หรือยังไง มีลูกศิษย์ของสำนักชิงหยุนคนไหนบ้างที่เนื้อตัวมอมแมมเช่นนี้” ผู้ดูแลมองฉินชูกับไป๋อวี้พลางส่ายหน้า
“มันช่วยไม่ได้ ก็พวกเราเป็แค่ศิษย์รับใช้ แต่หลังจากนี้พวกข้าจะใส่ใจกว่านี้ก็แล้วกัน แต่ตอนนี้ท่านช่วยจัดการเื่ภารกิจให้ข้าก่อนดีกว่า” ขณะที่พูด ฉินชูก็ยื่นใบภารกิจกับของที่เก็บมาได้ไปให้ผู้ดูแล
พวกเขาไม่พูดคุยอะไรอีก ผู้ดูแลก็เริ่มลงบันทึกแต้มคุณูปการให้ฉินชู ไม่ว่าจะเป็ศิษย์ประเภทไหน เมื่อทำภารกิจก็จะได้รับแต้มคุณูปการหมด นี่เป็กฎของหอคุณูปการ
ในตอนสุดท้าย ฉินชูได้ยื่นใบภารกิจออกไปหนึ่งใบ ซึ่งเป็ใบที่เขาเพิ่งหยิบมาเมื่อครู่ ภารกิจนั้นก็คือภารกิจเก็บผลึกพลังขั้นที่สี่ เขายื่นผลึกพลังของหมีป่าออกไปพลางพูดกับผู้ดูแล “แบ่งแต้มคุณูปการของภารกิจนี้ให้เ้าหมอนี่หนึ่งพันแต้ม”
“พวกเ้าฆ่าหมีป่า สัตว์อสูรขั้นที่สี่งั้นหรือ” ผู้ดูแลมองผลึกพลังด้านหน้าอย่างตกตะลึง เพราะเขาเชี่ยวชาญการจำแนกผลึกพลังของสัตว์อสูร สัตว์อสูรขั้นที่สี่จัดว่าเอาชนะได้ยากยิ่งนัก ต่อให้เป็ลูกศิษย์นอกสำนักของสำนักชิงหยุนก็ยังไม่กล้าแตะต้องพวกมัน ขนาดลูกศิษย์ในสำนักยังไม่กล้าแม้แต่จะเข้าใกล้
ภายในสำนักชิงหยุน หลังจากลูกศิษย์หน้าใหม่ฝึกตนได้ถึงลำดับขั้นที่สอง เขาจะกลายเป็ศิษย์สายนอก เมื่อฝึกจนถึงลำดับขั้นที่สามถึงจะมีคุณสมบัติขึ้นเป็ศิษย์สายใน ดังนั้นในสายตาของศิษย์สายนอกและศิษย์สายในต่างมองว่าสัตว์อสูรขั้นที่สี่เป็ศัตรูตัวฉกาจที่ไม่มีทางเอาชนะได้
“พวกเราจะฆ่ามันได้อย่างไร ตอนที่พวกเราเจอหมีป่าตัวนี้ มันป่วยใกล้ตายพอดี พวกเราจึงลงมือฆ่ามันได้สำเร็จ” ฉินชูคิดว่าทำตัวโอ้อวดไปก็เท่านั้น ครั้นแล้วจึงแสร้งทำเป็ถ่อมตัว
“นี่แหนะ” ผู้ดูแลเอื้อมมือออกไปเคาะกะโหลกฉินชูหนึ่งที “เ้าคิดว่าข้าโง่นักหรือไง พลังชีวิตและไอเืเนื้อของผลึกพลังก้อนนี้เปี่ยมล้นขนาดนี้ แค่ดูก็รู้แล้วว่ามันเป็หมีป่าในสภาพสมบูรณ์ แม้จะเพิ่งบรรลุขั้นที่สี่ แต่พลังกลับอัดแน่นอยู่เต็มเปี่ยม ทีหลังอย่ามาพูดจามั่วซั่วต่อหน้าข้าอีก”
ฉินชูนิ่งเงียบ ในเมื่ออีกฝ่ายเป็มืออาชีพ เขาจึงทำได้แต่ยอมรับ
ครั้งนี้เขารับภารกิจไปทำค่อนข้างเยอะ ทำให้ฉินชูได้รับแต้มคุณูปการไปทั้งหมดเจ็ดพันกว่าแต้ม ซึ่งรวมกับที่เหลืออยู่ก่อนหน้านี้ก็ทุละหมื่นแต้มเข้าไปแล้ว
เมื่อจัดการธุระของตัวเองเสร็จ ฉินชูก็ช่วยไป๋อวี้ส่งมอบภารกิจ
ไป๋อวี้ได้รับแต้มคุณูปการทั้งหมดสามพันแต้ม หลักๆ เป็เพราะเขาไม่รอบรู้เท่าฉินชูที่ไม่ว่าจะเป็สมุนไพรแบบไหนก็หาเจอหมด ความสามารถช่างต่างกันราวกับฟ้ากับเหว
“ผู้ดูแลหาน ภารกิจผลึกพลังขั้นที่สี่เป็อย่างไรบ้าง ข้ามอบภารกิจนี้ให้ก็เพื่อให้โอกาสพวกลูกศิษย์ที่อยู่ที่นี่ ถ้ายังไม่มีใครทำอีก ข้าจะยกเลิก” ผู้เฒ่าชุดคลุมเขียวคนหนึ่งเดินเข้ามาในหอคุณูปการ
“ท่านปรมาจารย์โอสถถางมาพอดีเลย เพิ่งมีคนทำภารกิจนี้สำเร็จไป” ผู้ดูแลหานที่ว่าก็คือผู้ดูแลหอคุณูปการ เขายืนขึ้นและยื่นผลึกพลังหมีป่าให้ปรมาจารย์โอสถถาง
ปรมาจารย์โอสถถางในชุดคลุมสีเขียวรับผลึกพลังที่ฉินชูเพิ่งมอบให้มาพินิจดู “นี่เป็ผลึกพลังหมีป่าที่เพิ่งบรรลุตบะขั้นที่สี่ ไม่เลวเลย ขอข้าได้พบกับศิษย์ที่ทำภารกิจนี้ได้หรือไม่”
“เป็เ้าเด็กสองคนนี้ขอรับ” ผู้ดูแลหานพูดขึ้นพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ฉินชูกับไป๋อวี้อย่างเก้ๆ กังๆ เพราะคนที่มาคือปรมาจารย์โอสถแห่งสำนักชิงหยุนที่อาศัยอยู่บนยอดเขาหลัก ‘ปรมาจารย์โอสถถาง’ แล้วต้องมาพบเจอฉินชูกับไป๋อวี้ในสภาพมอมแมมเช่นนี้ มันช่างหน้าอายยิ่งนัก
“เป็ศิษย์รับใช้? ไม่เลวเลยจริงๆ ฆ่าสัตว์อสูรขั้นที่สี่ได้ด้วย หลังจากพวกเ้าฆ่าหมีป่าเสร็จ คงเก็บตับกับหัวใจหมีป่ามาด้วยใช่หรือไม่ ขอให้ข้าที ข้าให้ชิ้นละสามพันแต้ม” ปรมาจารย์ถางไม่เหมือนคนอื่นๆ ในสำนักที่ดูถูกฉินชูกับไป๋อวี้
“ลูกพี่ ท่านปรมาจารย์ผู้นี้จะเอาตับกับหัวใจหมีด้วย” ไป๋อวี้ดีใจเป็ที่สุด เพราะเขาจะได้แต้มคุณูปการเพิ่ม
แต่ฉินชูกลับนิ่งเงียบ จากนั้นก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา “เฮ้อ! ข้ามอบตับหมีให้ท่านได้ แล้วท่านก็เอาแต้มคุณูปการให้เขา แต่ข้าคงมอบหัวใจหมีให้ไม่ได้”
อันที่จริงฉินชูคิดจะเก็บตับกับหัวใจหมีไว้ใช้เอง เพราะในระหว่างทำภารกิจ เขาก็เก็บรวบรวมวัตถุดิบสำหรับปรุงน้ำโอสถให้ตัวเองด้วย เขา้าจะแช่น้ำโอสถเหมือนที่ท่านผู้เฒ่าเคยปรุงให้เขาแช่มาก่อน และเครื่องในกับหัวใจของสัตว์อสูรก็เป็หนึ่งในวัตถุดิบที่ต้องใช้ โดยเฉพาะหัวใจที่ถือว่าเป็วัตถุดิบหลัก
ปรมาจารย์โอสถถางมองพินิจฉินชู “พละกำลังทางร่างกายจัดอยู่ขั้นสามแล้วสินะ แล้วเ้าคิดจะใช้หัวใจหมีอย่างไร”
“ต้องขออภัยเป็อย่างยิ่ง นี่ตับหมีขอรับ” ฉินชูไม่อยากตอบ มีเื่บางเื่ที่เขาเองก็ไม่อยากให้ใครล่วงรู้
ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ปรมาจารย์โอสถถางจึงไม่ไล่ถามต่อ เขายื่นบัตรคุณูปการให้ผู้ดูแลหานหักออกไปสามพันแต้ม ก่อนจะรับตับหมีป่ามาและจากไป
“ลูกพี่ ข้าขอแค่หนึ่งพันแต้มก็พอ ถ้าลูกพี่ไม่้าแบบนี้ เช่นนั้นพวกเราคงต้องแยกกันไปทางใครทางมัน คนอย่างไป๋อวี้ไม่้าพึ่งพาใคร ข้าพูดจริงนะลูกพี่” ขณะที่ผู้ดูแลหานกำลังจะแบ่งแต้มคุณูปการ ไป๋อวี้ก็ชิงเอ่ยปากพูดก่อน
“ได้ แต้มคุณูปการหากจะบอกว่ามันสำคัญก็สำคัญ จะบอกว่าไม่สำคัญก็พอเข้าใจได้ เอาไว้พวกเราค่อยทำภารกิจกันใหม่ งั้นรอบนี้ข้าจะรับแต้มอีกสองพันที่เหลือเอาไว้เอง” ฉินชูตบไหล่ไป๋อวี้ และยื่นบัตรสะสมแต้มคุณูปการให้ผู้ดูแลหาน
ขณะที่ฉินชูกับไป๋อวี้กำลังจะจากไป ผู้ดูแลหานก็ะโเรียกให้พวกเขาหยุด “สภาพของพวกเ้าทั้งสองโทรมจนดูไม่ได้ แบบนี้มันค่อนข้างทำลายภาพลักษณ์ของสำนักชิงหยุน อะนี่! รับไปซะ นี่คือเข็มขัดเก็บของ เอาไว้พกติดตัว แล้วจงจำเอาไว้ว่าข้าเป็คนให้พวกเ้ายืม”
ฉินชูรับเข็มขัดมาด้วยความไม่เข้าใจ แต่ยังไม่ทันได้ถามก็ถูกไป๋อวี้ลากออกมาจากหอคุณูปการแล้ว
หลังจากออกมา ไป๋อวี้ก็อธิบายให้ฟังว่าเข็มขัดเก็บของเส้นนี้ภายในเป็ช่องว่างมิติที่สามารถบรรจุสิ่งของได้ หลังจากนี้จะได้ไม่ต้องหอบกระเป๋าใบเล็กใบใหญ่ให้พะรุงพะรังแล้ว
ตอนนี้บรรดาลูกศิษย์ตัวจริงที่อยู่ภายในหอคุณูปการก็เริ่มพากันซุบซิบกันอีกระลอก
“จงเงียบ พวกเ้ายังมีหน้ามาซุบซิบนินทาคนอื่นอยู่อีกหรือ ในบรรดายอดเขาทั้งเจ็ดแห่งสำนักชิงหยุน เดิมทียอดเขาชิงจู๋ของพวกเราก็จัดเป็อันดับท้ายอยู่แล้ว การที่ปรมาจารย์โอสถถางและเหล่าปรมาจารย์าุโระดับสูงท่านอื่นมอบภารกิจให้พวกเราที่นี่ก็เป็เพราะว่าเห็นแก่หน้าตาของหัวหน้าาุโผู้ดูแลแต่ละยอดเขาและผู้าุโท่านอื่นๆ อย่างเช่นปรมาจารย์โอสถถางที่มาเยือนวันนี้ ถ้าภารกิจนั้นไม่มีคนทำสำเร็จ เขาก็จะยกเลิกภารกิจไปโดยปริยาย แล้วหลังจากนั้นก็จะไม่มอบภารกิจระดับสูงให้ทางยอดเขาชิงจู๋อีก หรือว่าต้องให้ศิษย์รับใช้เป็คนกู้หน้าตาให้ยอดเขาชิงจู๋กัน? หึ อย่างน้อยในสายตาของผู้ดูแลอย่างข้า ข้าเห็นว่ามันเป็เช่นนั้นไปแล้ว” สีหน้าของผู้ดูแลหานย่ำแย่ยิ่งนักขณะเอ่ยปาก
บรรดาลูกศิษย์ภายในห้องโถงของยอดเขาชิงจู๋ก็ถูกด่าจนหน้าสลดไปตามๆ กัน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้